การล่มสลาย ครั้งสำคัญในชีวิตของ Ray Dalio - Forbes Thailand

การล่มสลาย ครั้งสำคัญในชีวิตของ Ray Dalio

FORBES THAILAND / ADMIN
04 Aug 2022 | 02:10 AM
READ 6993

เคยไหมครับ เมื่อคุณลงทุนพลาด หรือตัดสินใจผิด จะทำให้คุณเกิดความกลัวในตลาดหุ้น หรือกลัวการลงทุนไปเลย ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องแปลกครับ แต่รู้หรือไม่ครับว่า แม้แต่นักลงทุนที่เก่งระดับโลก ก็ยังเคยลงทุนพลาด จนหมดตัวมาแล้ว

สำหรับ Passive Way Story ตอนสุดท้ายนี้ จะพาคุณไปสำรวจเรื่องราวความผิดพลาดครั้งใหญ่ของผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ขั้นเทพ ที่จะทำให้คุณได้เห็น และเข้าใจว่า “แม้แต่นักลงทุนที่เก่งมาก ก็ยังเคยตัดสินใจผิดพลาดจนหมดตัวมาก่อน แต่ความผิดพลาดนั้นได้กลายมาเป็นบทเรียนที่ดีที่สุดในชีวิตเขา” นักลงทุนคนนี้มีชื่อว่า Ray Dalio ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารกองทุนในบริษัท Bridgewater Associates ซึ่งเป็น ‘เฮดจ์ฟันด์’ หรือ ‘กองทุนเชิงรุก’ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก การผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดของ Ray Dalio จะเป็นอย่างไร เขาตัดสินใจลงทุนอะไรไป และมันเปลี่ยนชีวิตตัวเขามากขนาดไหน จนนำมาสู่ความสำเร็จทุกวันนี้ได้ เชิญติดตามกันได้ครับ  

“การล่มสลาย ครั้งสำคัญในชีวิตของ Ray Dalio”

หากคุณอยู่ในแวดวงการลงทุน หรือติดตามเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผมคิดว่าคุณคงเคยได้ยินชื่อของ Ray Dalio มาบ้างอย่างแน่นอนครับ Dalio เกิดในปี 2492 ชีวิตในวัยเด็กของเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลงทุนเลย พ่อของ Dalio เป็นนักดนตรีแจ๊ส ตามประสาเด็กอเมริกัน Dalio มักมีงานเสริมหลายอย่าง แต่จุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาเริ่มสนใจในตลาดหุ้น เกิดขึ้นหลังจากที่เขาได้รับคำแนะนำจากนักกอล์ฟที่เขาแคดดี้ให้ที่ Links Golf Club ตอนอายุ 12 ขวบครับ หลังจากที่ได้รับคำแนะนำ Dalio เริ่มซื้อหุ้นตัวแรกเมื่ออายุ 12 ด้วยเงิน 300 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหุ้นสายการบิน Northeast Airlines และหลังจากนั้นราคาหุ้นก็พุ่งไป 3 เด้ง ทำให้ Dalio เริ่มมีความสนใจในตลาดหุ้นมากขึ้นนับแต่นั้นเป็นต้นมา หลังจากนั้น Dalio ได้ลองผิดลองถูกมากมาย กับการลงทุนในตลาดหุ้น จนเมื่อเขาจบการศึกษาจากมัธยมปลาย เขาสามารถรวบรวมพอร์ตลงทุนมูลค่าหลายพันเหรียญฯ ซึ่งเป็นเงินที่เยอะมากในช่วงเวลานั้น หลังจากที่ Dalio เรียนจบการศึกษาปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจจาก Harvard Business School ได้ 2 ปี ในปี 2518 Dalio ได้เปิดบริษัท Bridgewater Associates จากอะพาร์ตเมนต์ 2 ห้องนอนในเมืองนิวยอร์ก ปัจจุบัน Bridgewater Associates ได้กลายเป็นบริษัทเฮดจ์ฟันด์ที่มีมูลค่า AUM หรือ มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการสูงกว่า 235,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก กลยุทธ์การลงทุนของ Bridgewater Associates ของ Dalio มีหลากหลายรูปแบบ แต่ที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ กองทุน All Weather Hedge Fund เป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ใช้กลยุทธ์กระจายความเสี่ยง จนสามารถรับความผันผวนที่เกิดขึ้นได้แทบทุกรูปแบบ จนได้เป็นกลยุทธ์การลงทุนที่โด่งดังของทั้ง Bridgewater และ Dalio เอง ปัจจุบันนี้ Dalio เป็นหนึ่งในผู้จัดการกองทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก และยังเป็นบุคคลที่ร่ำรวยมากที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 70 อีกด้วย จัดโดย Forbes นอกจากการบริหารจัดการกองทุนแล้ว Dalio ยังเป็นนักเขียนหนังสือชื่อดัง ซีรีส์หนังสือที่โด่งดังของเขา คือ ‘Principle’ หรือที่แปลเป็นไทยได้ว่า ‘วิธีการ’ สิ่งที่น่าสนใจในหนังสือ Principle คือ เนื้อหาในเล่มนี้ ไม่ได้จำกัดเฉพาะแค่แนวทาง หรือวิธีการลงทุนเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการใช้ชีวิต การทำงาน และเส้นทางสู่ความสำเร็จด้วย สิ่งที่เป็นเครื่องการันตีว่า Principle ของ Dalio ดีจริง คือ มันเป็นทั้ง หนังสือขายดีของนิวยอร์กไทม์ และได้รับรางวัล ‘หนังสือธุรกิจแห่งปีของ Amazon’ อีกด้วยครับ มาถึงตรงนี้ คุณอาจคิดว่าเส้นทางชีวิตของ Dalio เรียบง่าย เปรียบเสมือนก้าวขึ้นจรวดสู่ความสำเร็จโดยตรง แต่ต้องบอกว่า มันไม่ใช่แบบนั้นเลยครับ ถึงแม้ว่า Dalio จะเป็นคนฉลาด รอบคอบ มีความสามารถด้านการลงทุน แต่เขาก็เคยตัดสินใจผิดพลาดจนเกือบหมดตัวมาแล้ว ซึ่ง Dalio ได้บอกเอาไว้เองว่า ‘ยิ่งคุณตั้งเป้าเอาไว้สูงมากขนาดไหน ความล้มเหลวอาจทำให้คุณตกลงมาแรงมากแค่นั้น’ ครับ ความผิดพลาดครั้งใหญ่ของ Ray Dalio เกิดขึ้นในปี 2525 หลังจากที่เขาก่อตั้งบริษัท Bridgewater Associates ขึ้นมาได้ไม่นานนัก ซึ่งในช่วงนั้นตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีความผันผวนอย่างรุนแรง ด้วยความมั่นใจ Dalio ได้ทำนายว่า โลกกำลังเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ และจะฉุดเศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่วิกฤตด้วยเช่นกัน Dalio ได้เสี่ยงเดิมพันหมดหน้าตักว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะล้มลง ซึ่งหากมันล้มลงจริง จะทำให้เขาได้รับผลตอบแทนอย่างงามจากการเดิมพันในครั้งนี้ ในจุดนี้เป็นไปได้ว่า Dalio ได้ทำการ ‘Short Sell ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ’ เอาไว้ครับ Short Sell คือ การลงทุนจากการลดลงของราคาหุ้น ดัชนีตลาดหุ้น หรือตราสารอนุพันธ์ ซึ่งเป็นกลยุทธ์การลงทุนขั้นสูง ที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์เท่านั้น ไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่เท่าไรครับ อย่างไรก็ตามการ Short Sell จะทำให้คุณได้กำไรจากราคาหุ้นที่ลดลง แต่ถ้าหากราคาหุ้นเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้คุณขาดทุนได้ด้วยเช่นเดียวกันครับ โดยกลยุทธ์การลงทุนแบบ Short Sell เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ใช้กระจายความเสี่ยงในเฮดจ์ฟันด์ครับ และถ้าหากคุณอยากเข้าใจเกี่ยวกับการ Short Sell มากกว่านี้ แนะนำให้ไปดูหนังเรื่อง ‘The Big Short’ จะทำให้คุณเข้าใจแบบทะลุปรุโปร่งเลยครับ กลับมาที่ Dalio ผลปรากฏว่าการเดิมพันครั้งนี้ เขาคิดผิดอย่างร้ายแรง ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรง จนเข้าสู่ภาวะกระทิงครั้งใหญ่ และเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งติดต่อกันเป็นระยะเวลา 18 ปี เต็ม Dalio ได้บรรยายถึงการสูญเสียในครั้งนี้ ของเขาเอาไว้ว่า “การสูญเสียจากการเดิมพันครั้งนี้ มันเหมือนกับผมถูกตีหัวด้วยไม้เบสบอลอย่างรุนแรง ผมคิดผิดมหันต์ ผมถังแตกและต้องไปยืมเงิน 4,000 เหรียญฯ จากพ่อของผมเพื่อมาจ่ายบิล” การสูญเสียในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้ Dalio หมดตัวเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบไปถึง Bridgewater Associates ที่เขาสร้างขึ้น จนเปรียบเสมือน ‘การล่มสลายครั้งสำคัญของ Bridgewater Associates เลยก็ว่าได้ครับ’ เพราะ Dalio จำใจต้องปลดพนักงานที่เขารักและเคารพใน Bridgewater Associates ออกไปทีละคน ทีละคน จนเหลือเพียงแค่คนเดียวที่ยังอยู่ในบริษัทนี้ นั่นก็คือตัวเขาเอง “การผิดพลาดในครั้งนี้ส่งผลไปถึง Bridgewater Associates ด้วย ผมสูญเสียไปเกือบทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมได้สร้างขึ้นในองค์กร” และไม่ว่าใครก็ตามที่พบเจอกับความล้มเหลวครั้งใหญ่แบบนี้ คงทำใจลำบากอย่างแน่นอน และอาจจะยอมแพ้ในทุกสิ่งทุกอย่างเลยก็ได้ แม้แต่ตัว Dalio เองยังแอบมีความคิดขึ้นมาว่า ‘เราจะยอมแพ้ในความฝันที่จะทำงานให้กับตัวเอง และผันตัวไปเป็นพนักงานบริษัท ที่ทำงานให้กับคนอื่นดีไหม?’ แต่โชคดีที่ Dalio ไม่ยอมแพ้ เขาลุกกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง และพร้อมก้าวเดินเพื่อเป้าหมายของตัวเองต่อไป Dalio ได้บรรยายถึงความล้มเหลวครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาว่า มันได้กลายมาเป็น ‘บทเรียนที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา’ ด้วยเช่นกันครับ Dalio ได้บอกว่าบทเรียนที่เขาได้รับจากความล้มเหลวในครั้งนั้น กลายเป็นบทเรียนที่ดีที่สุดในชีวิตเขา เพราะมันทำให้เขามีความถ่อมตัวมากยิ่งขึ้น และก่อนที่เขาจะคิดว่า ‘ฉันคิดถูก’ เขาจะถามตัวเองก่อนเสมอว่า ‘ฉันรู้ได้ยังไง ว่าฉันคิดถูก’ ซึ่งทำให้การกระทำและการตัดสินใจของเขา มีความรอบคอบมากยิ่งขึ้น และช่วยจัดการความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี ภายหลัง Dalio ได้จำแนก 5 วิธีการง่ายๆ ที่จะพาคุณก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างมั่นคง และเป็นสิ่งที่ Dalio คอยบอกกับทุกคนอยู่เสมอ และผมได้นำ ‘วิธีการ 5 ข้อนี้’ มายกตัวอย่างเพื่อปรับใช้มันกับการลงทุนด้วยเช่นกันครับ ข้อที่ 1 มีเป้าหมาย และเส้นทางที่ชัดเจน หากคุณตั้งเป้าหมายว่าจะลงทุนในระยะยาว 10 ปี 20 ปี หรือ 30 ปี คุณไม่ควรเปลี่ยนเป้าหมายนั้นบ่อยๆ ตามอารมณ์ของคุณ คุณควรกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน รวมไปถึงเข้าใจตัวคุณเองว่าการลงทุนแบบใดที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด ซึ่งควรเป็นเป้าหมายที่สูงและเป็นไปได้ เพื่อท้าทายความสามารถ และจะช่วยให้คุณพัฒนาตัวเองขึ้นได้อย่างดี และแน่นอนว่า คุณต้องมีแผนการลงทุนที่เปรียบเสมือนเส้นทางไปสู่เป้าหมายของคุณด้วยเช่นกัน การมีเป้าหมายและเส้นทางที่ชัดเจน จะทำให้คุณมีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากขึ้นครับ ข้อที่ 2 “เผชิญหน้ากับอุปสรรค ที่คอยขัดขวางคุณอยู่เสมอ” สิ่งหนึ่งที่ Dalio บอกเอาไว้คือ ‘ทุกคนต้องเจอกับอุปสรรคแน่นอน ไม่มีใครที่ไม่พบเจอกับอุปสรรค’ เส้นทางของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน และไม่ได้ราบรื่น ระหว่างทางมักจะมีอุปสรรคที่เข้ามาขัด และสร้างความเจ็บปวดให้คุณอยู่เสมอ และหากคุณไม่สามารถรับมือกับมัน มันอาจเป็นหายนะสำหรับคุณ ที่คุณควรทำ คือ รู้ว่าอุปสรรคคืออะไร และอย่าปล่อยให้มันค้างคา เช่น ‘พอร์ตลงทุนของคุณไม่โตขึ้นหรือติดลบอย่างหนัก อะไรคือปัญหาที่ทำให้พอร์ตลงทุนของคุณหยุดนิ่ง หรือ ติดลบ?’ ข้อที่ 3 “วิเคราะห์อุปสรรค เพื่อแก้ที่ต้นเหตุ” อย่าแก้อุปสรรคเร็วจนเกินไป ลองวิเคราะห์ถึงต้นเหตุของอุปสรรคนั้นก่อน เช่น
  • ทำไมพอร์ตลงทุนของคุณติดลบ เพราะหุ้นที่คุณลงทุนมีแนวโน้มแย่ลง
  • ทำไมคุณถึงลงทุนในหุ้นแย่ๆ เพราะคุณลงทุนโดยไม่ได้วิเคราะห์พื้นฐานบริษัทนี้
  • ทำไมคุณถึงตัดสินใจลงทุน โดยที่ไม่วิเคราะห์ธุรกิจ เพราะคุณยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับการลงทุน จนทำให้คุณวิเคราะห์หุ้นไม่เป็น
เท่านี้คุณน่าจะรู้ถึงต้นเหตุแล้วว่า ทำไมพอร์ตลงทุนของคุณถึงติดลบ และควรแก้ที่จุดไหนครับ ข้อที่ 4 “วางแผนเพื่อกำจัดอุปสรรค” เมื่อคุณทราบถึงต้นเหตุของอุปสรรคแล้ว ในลำดับต่อไป คุณต้องวางแผนเพื่อกำจัดอุปสรรค และตัดสินใจเลือกแผนที่มีประสิทธิภาพที่สุดครับ ต้นเหตุของอุปสรรค คือ คุณไม่มีความรู้เรื่องการลงทุนมากนัก คุณจึงวางแผนว่า จะเพิ่มความรู้เรื่องการลงทุนก่อนจะกลับไปลงทุนอีกครั้ง เช่น
  • ฟังพอดคาสต์การลงทุนต่างๆ อย่าง Passive Way Story หรือ
  • อ่านหนังสือการเงินการลงทุน เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมกับตัวเอง หรือ
  • ลงทุนใน Passive Fund ที่ลงทุนหุ้นหลากหลาย มีดัชนีอ้างอิง หรือ
  • ลงทุนในกองทุนส่วนบุคคล ที่คุณไม่ต้องมีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับการลงทุนมากนัก
สุดท้ายตัวคุณต้องเป็นคนตัดสินใจว่า วิธีการไหนที่คุณคิดว่าดีที่สุด ก่อนจะไปสู่ข้อที่ 5 ครับ ข้อที่ 5 “ทำตามแผนที่คุณเลือก” ข้อสุดท้าย คือ คุณเพียงต้องทำตามแผนนั้น และก้าวเดินต่อไปสู่เป้าหมายที่คุณได้กำหนดเอาไว้ในข้อที่ 1 อีกครั้ง Dalio ได้บอกว่า ระหว่างทางสู่เป้าหมาย คุณจะพบเจอกับข้อ 1-5 นี้ ซ้ำไปซ้ำมาในชีวิต แต่หากคุณทำมันจนคุ้นเคย จะทำให้คุณมีความเชี่ยวชาญ และมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ซึ่งทั้ง 5 ข้อนี้ สามารถนำไปใช้กับอะไรได้หลายๆ อย่างในชีวิตคุณ รวมไปถึงช่วยให้การลงทุนของคุณดีขึ้นด้วย เช่นกันครับ อย่างไรก็ตาม Dalio ได้ย้ำว่า ทุกคนจะมี ‘จุดแข็ง’ และ ‘จุดอ่อน’ ที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้คุณอาจจะไม่ถนัดในการทำตามข้อใดข้อนึงใน 5 ข้อนี้ เช่น คุณอาจไม่ถนัดในการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน หรือ คุณอาจไม่ถนัดในการวางแผนเพื่อกำจัดอุปสรรค ซึ่งคุณจำเป็นต้องยอมรับจุดอ่อนของคุณให้ได้ ไม่เช่นนั้นแล้ว โอกาสล้มเหลวจะยิ่งมากขึ้นกว่าเดิม และอาจทำให้คุณล้มลงอย่างแรงเหมือนอย่างที่ Dalio ได้เจอมาครับ Dalio ได้บอกเอาไว้ว่า ในบางครั้ง สิ่งที่เลวร้ายจะเกิดขึ้นกับทุกคน คุณอาจสูญเสียบางสิ่งที่คุณคิดว่า ขาดไม่ได้ คุณอาจเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บสาหัส หรือการงานที่มั่นคงของคุณจะพังทลายต่อหน้าต่อตาคุณ “สิ่งเลวร้ายเหล่านี้อาจจะทำลายคุณไปเลย หรืออาจจะช่วยให้คุณพัฒนาได้อย่างแข็งแกร่ง ขึ้นอยู่ว่าคุณรับมือกับมันอย่างไร” เพราะฉะนั้นแล้ว การยอมรับจุดอ่อนของคุณเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมันจะช่วยให้คุณเปิดใจมากยิ่งขึ้น และได้พบเจอกับเพื่อนร่วมทางที่มีเป้าหมายเดียวกัน หรือคล้ายกับคุณ Dalio ได้บอกว่า ‘คุณไม่จำเป็นต้องเดินทางไปสู่เป้าหมายคนเดียว การมีเพื่อนร่วมทาง จะช่วยให้คุณก้าวสู่เป้าหมายได้เร็วยิ่งขึ้น และเพื่อนร่วมทางเหล่านั้นอาจจะมีจุดแข็งที่คุณไม่มี และมีจุดอ่อนที่เป็นจุดแข็งของคุณ’ ในบางครั้งเมื่อคุณรู้ว่า จุดอ่อนของคุณคือ อารมณ์ที่อ่อนไหวง่ายต่อความผันผวนของตลาดหุ้น การมีเพื่อนที่มีจุดแข็งในการควบคุมอารมณ์ และคอยเตือนสติคุณ จะส่งผลดีต่อคุณอย่างแน่นอน แต่คุณจำเป็นต้องเปิดใจรับฟังความเห็นของผู้อื่น คุณไม่จำเป็นต้อง ‘คนที่คิดถูกเสมอ’ ในบางครั้งคุณต้องยอมรับว่า ‘ตัวฉันคิดผิด’ และมองถึงความเป็นจริง การทำแบบนี้จะทำให้การตัดสินใจของคุณ ในเรื่องต่างๆ ดีขึ้นกว่าเดิม รวมไปถึงการลงทุนด้วยเช่นกันครับ และมันอาจนำคุณก้าวสู่เป้าหมายที่ท้าทาย และยิ่งใหญ่กว่าเดิมก็เป็นได้ ซึ่งนั่น คือ ข้อดีของการยอมรับในจุดอ่อนของตัวเอง การเปิดใจ และการมีเพื่อนร่วมทางที่ก้าวไปสู่เป้าหมายเหมือนกับคุณ และแน่นอนว่าตัวผม และทีมงาน Passive Way ได้รวบรวมองค์ความรู้ต่างๆ ที่เราได้พัฒนาขึ้นมา และเผยแพร่หลักการลงทุนสไตล์ Passive เพื่อสร้างความมั่งคั่งระยะยาวให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นความรู้ผ่านบทความในเว็บไซต์และพอดคาสต์ที่คุณติดตามได้ที่นี่ https://jitta.co/3OC8olD ก่อนจากกันไปผมขอฝากประโยคของ Ray Dalio ที่เขามักพูดบ่อยๆ ซึ่งมันมีความหมายที่ลึกซึ้ง นั่นก็คือ “ความเจ็บปวด + การคิดทบทวน = ความก้าวหน้า”   การล่มสลาย ครั้งสำคัญในชีวิตของ Ray Dalio บทความโดย ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO Jitta Wealth
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine