ช.การช่าง - One.Six Development และ Indorama Ventures สร้างธุรกิจด้วยไฟฝัน - Forbes Thailand

ช.การช่าง - One.Six Development และ Indorama Ventures สร้างธุรกิจด้วยไฟฝัน

นิตยสาร Forbes Thailand จัดงานเสวนาเวที Forbes Thailand 5th Anniversary Forum 2018: The Next Tycoons สำหรับการเสวนาช่วงที่สองดำเนินรายการในหัวข้อ "Living the Passion" ได้รับเกียรติจาก 3 ตระกูลธุรกิจแนวหน้าของประเทศ ได้แก่ สุภามาส ตรีวิศวเวทย์ ประธานฯ แห่ง ช.การช่าง, ธัญทิพ เจียรวนนท์ ผู้ก่อตั้งและ CEO บริษัท One.Six Development และ Yashovardhan Lohia รองประธานกรรมการบริหาร Indorama Ventures

โดยทั้งสามคนยอมรับว่าเมื่อเวลาแห่งการสร้างอาณาจักรธุรกิจของตนเองมาถึง สิ่งที่สำคัญที่ทำให้ได้รับการยอมรับทั้งการผู้บริหารรุ่นก่อน ได้รับการยอมรับจากครอบครัว หรือผู้บริหารระดับสูงคือ ผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ที่เกิดขึ้นในยุคที่พวกเขาบริหาร สุภามาส ตรีวิศวเวทย์ ประธานฯ แห่ง ช.การช่าง สร้างอาณาจักรธุรกิจด้วยความมุ่งมั่น สุภามาส ตรีวิศวเวทย์ เริ่นต้นการเสวนาช่วงที่สองโดยเผยว่าหลังจากเรียนจบจากอเมริกาสิ่งที่เธอต้องการคือการทำงานอะไรก็ได้ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงอันดีให้กับสังคมวงกว้าง โดยมีทางเลือกอยู่สองทางคือการเลือกอยู่ในสหรัฐฯ ที่อาจจะได้โอกาสอันดีในการสร้างสิ่งดีขึ้นให้กับสังคมหรือกลับมาประเทศไทยเพื่อช่วยเหลือธุรกิจของครอบครัว สุภามาสแบ่งปั่นให้เราฟังถึงเหตุผลสำคัญในการเลือกกลับมาสานต่อที่บริษัท เพราะเธอได้รับรู้ว่าบริษัทในกลุ่ม ช.การช่าง ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคมได้เช่น ธุรกิจการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจการก่อสร้างและบริหารรถไฟฟ้า รวมไปถึงธุรกิจด้านพลังงาน จนกระทั่งได้รับความไว้วางใจจาก ปลิว ตรีวิศวเวศ บิดาให้นั่งเก้าอี้ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ช.การช่าง “ช่วงแรกของการรับตำแหน่งประธานบริษัทความท้าทายแรกคือการถูกเปรียบเทียบ ปลิว ตรีวิศวเวทย์ ผู้เป็นพ่อ ความท้าทายต่อไปคือความท้าทายในฐานะเป็นผู้นำหญิง ซึ่งตั้งแต่รับตำแหน่งจนกระทั่งปัจจุบันความท้าทายไม่มีสิ้นสุด ทุกๆ วันยังคงถือเป็นการเรียนรู้” สุภามาส กล่าว ธัญญาทิพย์ เจียรวนนท์ ผู้ก่อตั้งและ CEO บริษัท One.Six Development ด้าน ธัญทิพ เจียรวนนท์ ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง และ ซีอีโอ ของ One.Six Development ได้เผยถึงความท้าทายสำคัญในการเข้ามาจับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คือการยอมรับจากผู้บริโภค ซึ่งการเป็นหน้าใหม่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีการแข่งขันสูงโดยเฉพาะกลุ่มโครงการคอนโดมิเนียมหรู ทำให้เธอต้องลงไปดูรายละเอียดแทบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นทำเล การออกแบบเพื่อให้ได้โครงการที่ตอบโจทย์ลูกค้าอย่างแท้จริง “แน่นอนว่าการเป็นทายาทของตระกูลเจียรวนนท์ สิ่งที่ถูกถามอยู่บ่อยๆ คือเราได้เรียนรู้อะไรจากคุณปู่ (ธนินท์) สิ่งที่เราเรียนรู้คือหัวใจของการทำธุรกิจหัวใจของการเป็นผู้ประกอบการ” ธัญทิพ กล่าวและเสริมว่า ด้วยแรงบันดาลใจการทำงานดังกล่าวจึงเกิดโครงการคอนโดมิเนียมหรูอย่าง The Strand Thonglor ด้าน Yashovardhan Lohia รองประธาน Indorama Ventures ด้าน Yashovardhan Lohia รองประธาน Indorama Ventures เขาเริ่มต้นเรียนรู้ธุรกิจของกลุ่มอินโดราม่าที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยลงคลุกคลีและเรียนรู้การทำงานต้องกระบวนการผลิตเม็ดพลาสติก การทำงานในโรงงาน ในฐานะทายาทธุรกิจผู้ร่วมบรรยายทั้งสามได้สะท้อนสิ่งสำคัญในการสานต่อธุรกิจคือผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ สำหรับมุมมองของ Yashovardhan Lohia เขามีเป้าหมายสำคัญคือการนำบริษัทติดในรายชื่อ Dow Jone Index sunsibility “ผลิตภัณฑ์ของเราคือเม็ดพลาสติก ในยุคสมัยของผมเราตั้งใจพาบริษัทไปให้ถึง Dow Jones Sustainability Index เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าเราซึ่งเป็นธุรกิจทางด้านพลาสติกสู่ความยั่งยืนและการใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ" สำหรับ ธัญทิพ แล้วนั้น การรุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นการทำธุรกิจที่ฉีกจากรูปแบบเดิมๆ ของตระกูล สิ่งที่เธอเน้นย้ำในการเข้าสู่ธุรกิจที่ฉีกไปจากธุรกิจเดิมๆ สิ่งสำคัญคือการทำงานอย่างจริงจัง มีความนอบน้อมและพร้อมที่จะเรียนรู้จากคนรอบข้าง ด้าน สุภามาส เปิดเผยว่าในยุคสมัยของเธอคือการต่อยอดธุรกิจดั่งเดิมให้แข็งแกร่งทั้งในแง่การบริหาร ผลประกอบการ และ สร้างธุรกิจอย่างยั่งยืน เธอยกตัวอย่างว่า “คุณพ่อพูดเสมอว่าถ้าเราทำธุรกิจเพื่อหวังแต่ผลกำไร เราจะสูญเสียเพื่อน การทำธุรกิจต้องแบ่งปั่นผลกำไรให้กับเพื่อนร่วมธุรกิจบ้าง และอยากให้คำนึงว่าเราได้ทำสิ่งดีๆ ให้กับผู้คน ทำสิ่งดีๆ ให้กับสิ่งแวดล้อม แล้วธุรกิจเราจะยั่งยืน นี่คือปลายทางของความสำเร็จของเรา” นอกจากนี้ยังเผยว่าในยุคสมัยของเธอ สิ่งที่อยากเห็นคือการเปลี่ยนบริษัทให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น มีความยั่งยืนมากขึ้น