'ชนินทธ์ โทณวณิก' ท้อบ่อยมากแต่ไม่ถอย! ยึดมั่นแนวทางแม่บริหาร 'ดุสิต ธานี' ใ่ห้มีอิสระ ทรงคุณค่า

หลังเปิดให้สื่อมวลชนได้สัมภาษณ์แบบ Exclusive Group Interview เมื่อไม่นานที่ผ่านมา เพื่ออัปเดตผลการดำเนินงานของ Dusit Thani Bangkok โรงแรมแบรนด์ไทย ที่อยู่คู่คนไทยมานานถึง 55 ปี และยังคงสร้างชื่อให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลจากการปิดปรับปรุง renovate โฉมใหม่ ซึ่งหลังจากปิดปรับปรุงและเปิดให้บริการเพียงได้มานาน ล่าสุดทางโรงแรมยังได้มีรายชื่อติดอันดับ 60 จาก 100 โรงแรมที่ยอดเยี่ยมที่สุดของโลกอีกด้วย

    ชนินทธ์ โทณวณิก รักษาการประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT บอกว่า การบริหารโรงแรมในอดีตที่ผ่านมาจะมีแม่ทัพหญิงคนเก่งอย่าง 'แต๋ม ศุภจี สุธรรมพันธุ์' คอยเป็นหัวเรือหลักคอยขับเคลื่อนองค์กร โดยล่าสุดเธอได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลของายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล 

    ซึ่งทางชนินทร์เองก็ยอมรับว่า ยังรอให้ 'แต๋ม ศุภจี' หมดวาระหน้าที่ทางการเมืองแล้วหวนกลับมาเป็นแม่ทัพหญิงของ ดุสิต ธานี ในอนาคตอีกครั้งหลัง โดยทางชนินทร์เองในฐานะบุตรชายคนโตของท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ก่อตั้งโรงแรมนั้น หลังจากต้องมารับตำแหน่งในการขับเคลื่อนโรงแรมก็ยังต้องปรับตัวและปัดฝุ่นดูแลเรื่องการบริหารจัดการภายในองค์กรเป็นอย่างมากจนทำให้บางครั้งก็รู้สึกท้อ...แต่ไม่เคยถอย !!!

    "ผมเคยท้อบ่อยมาก...แต่ไม่กล้าบอกใคร ไม่กล้าบอกแม้กระทั่งทีมงานของคุณศุภจีหรือทีมงานของคุณละเอียด ซึ่งเวลาที่ท้อแท้มากๆ ผมก็จะนึกถึงคุณแม่ในวันที่ท่านมีความแน่วแน่ในการเลือกสร้างโรงแรมดุสิตให้กลายมาเป็นโรงแรมระดับตำนานของไทยตั้งแต่เมื่อ 55 ปีก่อน แทนที่จะตัดสินใจทำการก่อสร้างห้องแถวที่แลดูไม่ต้องลงทุนเยอะเท่ากับโรงแรมและยังหาเงินได้ง่ายกว่า ผมยึดแนวทางของแม่ที่ต้องการสร้างโรงแรมไทยให้มีคุณค่า มีอิสระในการบริหารจัดการ และจะไม่ยอมลดทอนคุณค่าตัวเองในการหาเงินมาแบบง่ายๆ เพราะต้องการสร้างอะไรที่มันมีความหมายและยิ่งใหญ่มากกว่านั้น"

    อย่างไรก็ตาม เรื่องการบริหารทรัพยากรบุคคล ทางโรงแรมดุสิต ธานี ได้ให้ความสำคัญในการดูแลพนักงานในบริษัทมาโดยตลอดนับจากอดีตถึงปัจจุบัน "จะเห็นได้เลยว่ามีพนักงานที่ทำงานกับดุสิตธานีมายาวนานและเยอะมากๆ ไม่ตำ่กว่า 20-30 ปี โดยเฉพาะพนักงานในส่วนจัดเลี้ยง และเราจะเห็นคนไทยโดยทั่วไปมีอยู่ 2 อย่าง คือถ้าคุณมีฐานะ ที่บ้านก็จะมีคนใช้ หรือถ้าคุณไม่มีฐานะ คุณก็ยังมีลูกหลานคอยปรนนิบัติ ดังนั้นเวลาคุณไปโรงแรม ก็อาจจะรู้สึกคาดหวังให้คนดูแลเป็นอย่างดีมากกว่าคนชาติอื่นๆ ซึ่งพนักงานของเรามีความใส่ใจรายละเอียดในทุกๆ details จึงทำให้ลูกค้าระดับ luxury ที่มีอายุตั้งแต่วัยกลางคนขึ้นไปรู้สึกประทับใจกับเหล่าพนักงานรุ่นเก๋า ยกตัวอย่างเช่น มหาเศรษฐีชาวยุโรปบางคนถูกใจกับการบริการจากพนักงานคนเก่าแก่ของเราก็มีการเชื้อเชิญให้ไปเป็นผู้จัดการดูแลส่วนต่างๆ ของครอบครัวเขาหลังจากมีอายุงานกับเรามานานหลายสิบปี" ชนินทธ์ กล่าวทิ้งท้าย

ภาพ : Dusit Thani Bangkok

​​​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ศาสตร์แห่งดีไซน์ร่วมสมัย ความภูมิใจของ 'ดุสิตธานี กรุงเทพ' อันดับ 60 โรงแรมยอดเยี่ยมที่สุดของโลก​

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine