10 อันดับประเทศที่มี "มหาเศรษฐี" มากที่สุดในโลก ประจำปี 2020 - Forbes Thailand

10 อันดับประเทศที่มี "มหาเศรษฐี" มากที่สุดในโลก ประจำปี 2020

เกือบครึ่งหนึ่งของ มหาเศรษฐี 2,095 คนในโลกนี้ เป็นพลเมืองของสหรัฐอเมริกาและจีน ขณะที่ประเทศอื่นๆ ส่วนใหญ่ในปีนี้มีมหาเศรษฐีน้อยกว่าปีที่แล้ว

แม้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะไถลลงอย่างไม่เป็นท่า แต่ 2 ประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลก กลับมีจำนวน มหาเศรษฐี มากกว่าปีที่แล้ว ขณะที่จำนวนผู้ติดอันดับมหาเศรษฐีโลก ประจำปี 2020 โดย Forbes ลดลงจาก 2,153 สู่ 2,095 คนในปีนี้ และเกือบครึ่งหนึ่งเป็นพลเมืองของสหรัฐฯ และจีน

สหรัฐอเมริกานำมาด้วยจำนวนมหาเศรษฐีทั้งหมด 614 คน ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้น 7 คนจากปีก่อน แม้ความมั่งคั่งรวมของมหาเศรษฐีเหล่านี้จะลดลงจาก 3.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว สู่ 2.9 ล้านล้านเหรียญในการจัดอันดับครั้งนี้ (Forbes คำนวณความมั่งคั่งสุทธิตามราคาหุ้นและอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อวันที่ 18 มีนาคม)

Jeff Bezos แห่งอาณาจักร Amazon ยังเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่ทรัพย์สินของเขาก็ลดลงจากปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการหย่าร้างกับภรรยา MacKenzie Bezos นั่นเอง

ประเทศจีนตามมาเป็นอันดับที่สองด้วยจำนวนมหาเศรษฐี 389 คน ครองสถิติมหาเศรษฐีมากที่สุดในเอเชีย โดยพวกเขาครองความมั่งคั่งรวม 1.2 ล้านล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจาก 9.81 แสนล้านเหรียญ หรือเพิ่มขึ้น 22% จากปีก่อนหน้า ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ใน 10 ประเทศที่มีจำนวนมหาเศรษฐีมากที่สุดในโลก จีนเป็นประเทศเดียวที่เห็นความมั่งคั่งรวมของมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ จำนวนมหาเศรษฐีชาวจีน 389 รายนั้นไม่รวมกับสมาชิกมหาเศรษฐีจากฮ่องกง (มีมหาเศรษฐี 66 คน) และมาเก๊า (1 คน) ซึ่ง Forbes จัดอันดับแยกออกไป

นอกสหรัฐอเมริกาและจีน สินทรัพย์ของมหาเศรษฐีในประเทศอื่นๆ ก็ลดน้อยถอยลง โดย 7 ใน 10 จากประเทศที่มีจำนวนมหาเศรษฐีมากที่สุด มีจำนวนมหาเศรษฐีน้อยลงกว่าปีก่อน เช่น เยอรมนี, อินเดีย, บราซิล และฝรั่งเศส

แต่ถ้าหากดูตามภูมิภาคแล้ว เอเชียแปซิฟิกมีมหาเศรษฐีทั้งหมด 778 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ 768 คน โดยในปีนี้พวกเขามีทรัพย์สินรวมกัน 2.5 ล้านล้านเหรียญ โดยเกือบครึ่งหนึ่งของมหาเศรษฐีในภูมิภาคนี้สร้างความมั่งคั่งจากเทคโนโลยี, อุตสาหกรรมการผลิต หรืออสังหาริมทรัพย์

ขณะที่แคนาดาและละตินอเมริกามีมหาเศรษฐีรวมกัน 120 คน ความมั่งคั่งรวมอยู่ที่ 4.27 แสนล้านเหรียญ โดยจำนวนมหาเศรษฐีลดลงจาก 149 คน และความมั่งคั่งก็ลดลงจาก 5.5 แสนล้านเหรียญในปีก่อน

Forbes ยังพบว่ามหาเศรษฐีในตะวันออกกลางและแอฟริการวมกันมีจำนวน 72 คน สินทรัพย์รวม 1.77 แสนล้านเหรียญ ลดลงจากปีก่อนที่มีมหาเศรษฐี 86 คน และความมั่งคั่งรวม 2.22 แสนล้านเหรียญ

และนี่คือ 10 ประเทศ/เขตการปกครอง ที่มีจำนวนมหาเศรษฐีมากที่สุดในโลกประจำปีนี้ โดยคำนวณความมั่งคั่งสุทธิตามราคาหุ้นและอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2563

 

#1 สหรัฐอเมริกา | 614 คน

ทรัพย์สินรวม : 2.9 ล้านล้านเหรียญ (ลดลง 1.64 แสนล้านเหรียญจากปี 2019)

บุคคลที่ร่ำรวยที่สุด : Jeff Bezos, 1.13 แสนล้านเหรียญ

 

#2 จีน | 389 คน

ทรัพย์สินรวม : 1.2 ล้านล้านเหรียญ (เพิ่มขึ้น 2.2 แสนล้าน เหรียญ)

บุคคลที่ร่ำรวยที่สุด : Jack Ma, 4.8 หมื่นล้านเหรียญ

 

#3 เยอรมนี | 107 คน

ทรัพย์สินรวม : 4.47 แสนล้านเหรียญ (ลดลง 5.4 หมื่นล้านเหรียญ)

บุคคลที่ร่ำรวยที่สุด : Beate Heister และ Albrecht Jr., 3.3 หมื่นล้านเหรียญ

 

#4 อินเดีย | 102 คน

ทรัพย์สินรวม : 3.13 แสนล้านเหรียญ (ลดลง 9.3 หมื่นล้านเหรียญ)

บุคคลที่ร่ำรวยที่สุด : Mukesh Ambani, 3.68 หมื่นล้านเหรียญ

 

#5 รัสเซีย | 99 คน

ทรัพย์สินรวม : 3.85 แสนล้านเหรียญ (ลดลง 3.6 หมื่นล้านเหรียญ)

บุคคลที่ร่ำรวยที่สุด : Vladimir Potanin, 1.97 หมื่นล้านเหรียญ

 

#6 ฮ่องกง | 66 คน

ทรัพย์สินรวม : 3 แสนล้านเหรียญ (ลดลง 2 หมื่นล้านเหรียญ)

บุคคลที่ร่ำรวยที่สุด : Shau Kee Lee, 2.81 หมื่นล้านเหรียญ

 

#7 (ร่วม) บราซิล | 45 คน

ทรัพย์สินรวม : 1.27 แสนล้านเหรียญ (ลดลง 5.3 หมื่นล้านเหรียญ)

บุคคลที่ร่ำรวยที่สุด : Joseph Safra, 1.99 หมื่นล้านเหรียญ

 

#7 (ร่วม) สหราชอาณาจักร | 45 คน

ทรัพย์สินรวม : 1.53 แสนล้านเหรียญ (ลดลง 2.9 หมื่นล้านเหรียญ)

บุคคลที่ร่ำรวยที่สุด : Len Blavatnik, 1.7 หมื่นล้านเหรียญ

 

#9 แคนาดา | 44 คน

ทรัพย์สินรวม : 1.43 แสนล้านเหรียญ (ลดลง 1 หมื่นล้านเหรียญ)

บุคคลที่ร่ำรวยที่สุด : David Thomson และครอบครัว, 3.16 หมื่นล้านเหรียญ

 

#10 ฝรั่งเศส | 39 คน

ทรัพย์สินรวม : 3.04 แสนล้านเหรียญ (ลดลง 2.6 หมื่นล้านเหรียญ)

บุคคลที่ร่ำรวยที่สุด : Bernard Arnault และครอบครัว, 7.6 หมื่นล้านเหรียญ

    แปลและเรียบเรียงจาก The Countries With The Most Billionaires
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine