PR9 ตั้งเป้าปี 67 รายได้ทะลุ 4.7 พันล้านบาท โชว์ผลงานปี 66 ทุบสถิติ All Time High 4.2 พันล้านบาท

PR9 ตั้งเป้าปี 67 รายได้ทะลุ 4.7 พันล้านบาท โชว์ผลงานปี 66 ทุบสถิติ All Time High 4.2 พันล้านบาท

PR9 เตรียมแผนขยายวอร์ด รุกตลาดผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น ตั้งเป้ารายได้ปี 2567 โต 12% ทะลุ 4,700 ล้านบาท พร้อมโชว์ผลงานปี 66 รายได้รวมทุบสถิติ All Time High 4,253 ล้านบาท กำไรสุทธิ 558 ล้านบาท


    นพ.เสถียร ภู่ประเสริฐ รองประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9 เผยถึงแผนการดำเนินงานปี 2567 ว่า บริษัทปักธงขับเคลื่อนรายได้รวมเติบโต 12% ทะลุ 4,700 ล้านบาท ภายใต้การเดินหน้ากลยุทธ์ด้านการพัฒนาความเชี่ยวชาญการรักษาโรคยากซับซ้อน เพื่อยกระดับศักยภาพการแข่งขัน ขับเคลื่อนการเติบโตต่อเนื่องแบบยั่งยืน ควบคู่ไปกับการขยายวอร์ดเพิ่มเติม รองรับผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รวมถึงการทำการตลาดเชิงรุกขยายฐานผู้ป่วย ทั้งชาวไทยและต่างชาติ อาทิ กัมพูชา, พม่า, สปป.ลาว และจีน รวมถึงผู้ป่วยชาวอาหรับ ที่ขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกในการเข้าใช้บริการเพิ่มเป็นจำนวนมาก

    “ปัจจุบันโรงพยาบาลพระรามเก้ามีแบรนด์ที่แข็งแกร่งเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ทั้งในกลุ่มผู้ป่วยไทยและผู้ป่วยต่างชาติ ที่เกิดจากความตั้งใจของทีมงานที่มุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพทางการแพทย์ ใช้เครื่องมือที่ทันสมัย รวมถึงพัฒนาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคยากซับซ้อน ส่งผลให้ผู้ป่วยมอบความไว้ใจให้กับโรงพยาบาลและเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นในทุกๆปี และจากแผนการดำเนินงานปี 2567 ที่วางไว้ ประกอบกับลมส่งจากการเพิ่มขึ้นของชาวต่างชาติที่เข้ามาไทยในปีนี้ มั่นใจภาพรวมทั้งปี จะสามารถผลักดันรายได้เติบโต 12% แตะ 4,700 ล้านบาท” นพ.เสถียร กล่าว

    สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2566 นพ.เสถียร ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า รายได้รวมทุบสถิติ All Time High 4,253 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิ 558 ล้านบาท หากไม่รวมรายการวัคซีนที่ลูกค้าไม่มาใช้บริการ กำไรสำหรับปี 2566 จะสูงกว่า กำไรสำหรับปี 2565 คิดเป็น 3.8% อานิสงค์ช่วงโค้งสุดท้ายไตรมาส 4/66 เติบโตโดดเด่น จากแบรนด์ที่แข็งแกร่งเป็นที่รู้จักและยอมรับในกลุ่มผู้ป่วยทั้งในและต่างชาติ และเข้าสู่ช่วงไฮซีชั่นของธุรกิจโรงพยาบาล ซึ่งมีผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก จากการเข้ามาใช้บริการตรวจสุขภาพประจำปี, การผ่าตัดทั่วไป รวมถึงการทำเลสิค 

    โดยภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 4/66 บริษัทมีกำไรสุทธิ 188 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49 ล้านบาท เติบโต  36% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หากไม่รวมรายการวัคซีนที่ลูกค้าไม่มาใช้บริการบริษัทจะมีกำไรสุทธิ 139 ล้านบาท โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,191 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75 ล้านบาท เติบโต 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่รายได้รวม 1,086 ล้านบาท “รายได้ทั้งปี 2566 เติบโตโดดเด่นทำ All Time High อานิสงส์จากการขยายตัวของทั้งผู้ป่วย OPD และ IPD ที่เข้ามารักษาโรคทั่วไปและโรคยากซับซ้อน โดยเฉพาะความเชี่ยวชาญในการรักษากลุ่มผู้ป่วยโรคไต ส่งผลให้จำนวนเคสเปลี่ยนไตของปีนี้พุ่งทำนิวไฮ ที่ 103 เคส นับเป็นการเติบโต 20% จากปีที่แล้วที่ทำไว้ 86 เคส” นพ.เสถียร กล่าวทิ้งท้าย



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : JAS โชว์ผลงานปี 2566 กำไรสุทธิ 19,837 ล้านบาท

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine

TAGGED ON