ไทยพาณิชย์ เผยครึ่งปีแรก 68 รุกประกันสะสมทรัพย์ ขายผ่านแบงก์โต 71.6% ล่าสุดเปิดตัว “ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย” - Forbes Thailand

ไทยพาณิชย์ เผยครึ่งปีแรก 68 รุกประกันสะสมทรัพย์ ขายผ่านแบงก์โต 71.6% ล่าสุดเปิดตัว “ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย”

ธนาคารไทยพาณิชย์ เร่งเครื่องช่องทางการขายประกันผ่านแบงก์ เผยครึ่งปีแรก 2568 ยอดขายโต 71.6% ชูกลยุทธ์เจาะใจลูกค้าเฉพาะบุคคล (Hyper-Personalization) เปิดตัว “ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย” ประกันสะสมทรัพย์ที่รวบรวมจาก 88 อินไซต์ทางการเงินของคนไทยในทุกช่วงอายุ เป็นประกันชีวิตฉบับเดียว จุดเด่นจ่ายเบี้ย 9 ปี คุ้มครองถึงอายุ 88 ปี


    นายศรชัย สุเนต์ตา รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Wealth & Investment Product ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ในครึ่งปีแรกการขายประกันผ่านช่องทางธนาคาร ของธนาคารไทยพาณิชย์ (Bancassurance) มียอดขายประกันรายใหม่ในกลุ่มประกันสะสมทรัพย์ (Endowment) รวม 3,460 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 71.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เหตุจากจุดแข็งของธนาคารที่เข้าใจความต้องการของตลาดในประเทศไทย ที่มีความต้องการในผลิตภัณฑ์ประกันสะสมทรัพย์เพิ่มสูงขึ้นทุกปี เพราะจุดเด่นของประกันสะสมทรัพย์ที่การันตีผลตอบแทนในระยะยาว และมีความคุ้มครองชีวิต

    ทั้งนี้ ธนาคารฯ เร่งพัฒนาตามเทรนด์ตลาดประกันชีวิตที่ได้เข้าสู่ยุครู้ใจลูกค้าเฉพาะบุคคล (Hyper-Personalization) โดยล่าสุดธนาคารได้เปิดตัวประกันสะสมทรัพย์ใหม่ชื่อ “ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย” ที่รับประกันภัยโดย บมจ. เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต ที่พัฒนาจากความต้องการของลูกค้าใน 88 อินไซต์ทางการเงินของคน 88 วัย

    แบบประกันดังกล่าวสามารถสะสมความมั่งคั่ง และมีความคุ้มครองชีวิตที่ครอบคลุมถึงอายุ 88 ปี และได้รับเงินคืนเป็นประจำทุกปี พร้อมด้วยความคุ้มครองอุบัติเหตุ และค่ารักษาพยาบาลกรณีอุบัติเหตุระหว่างชำระค่าเบี้ยประกันภัย และมีเงินก้อนคืนใช้ยามเกษียณ หรือเป็นมรดกให้คนข้างหลัง โดยให้ความคุ้มครองตั้งแต่อายุ 1 วัน - 88 ปี ชำระค่าเบี้ยประกันภัยเพียง 9 ปี ให้ความคุ้มครองชีวิตถึงอายุ 88 ปี ในกรณีที่ผู้ปกครองสามารถสมัครให้ลูกที่อายุไม่เกิน 20 ปี และยังได้รับความคุ้มครองชีวิตแก่ผู้ชำระค่าเบี้ยประกันภัย อีกด้วย


    ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย รวบรวมทุกความต้องการทางการเงินจากบุคคลที่ต้องการวางแผนทางการเงินผ่านการสมัครประกันสะสมทรัพย์ที่มาพร้อมกับความคุ้มครองที่ครอบคลุมและตรงใจ เชื่อมความต้องการของคนในทุกเจเนอเรชัน และเป็นการตอกย้ำถึงการนำบริการทางการเงินจากพลังแห่งเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการโดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง มาสร้างแบบประกันที่รู้จักรู้ใจลูกค้าเป็นรายบุคคล (Hyper-personalization) ผสานพลังของมืออาชีพทางการเงินของช่องทาง Bancassurance ที่ดูแลลูกค้าอย่างจริงใจ และใส่ใจ สอดคล้องกับเป้าหมายของธนาคารที่เป็นดิจิทัลแบงก์ที่เข้าถึงใจ เข้าถึงคุณ

    “จากการทำความเข้าใจกับความต้องการทั้ง 88 อินไซต์ทางการเงิน ที่ครอบคลุมทุกเจเนอเรชัน ธนาคารฯ ได้เห็นถึงความต้องการที่แตกต่าง อาทิ คน Gen Alpha & Gen Z ที่คุณพ่อคุณแม่ อยากให้ลูกมีเงินเก็บตั้งแต่วัยเยาว์ ในขณะที่ Gen Y เป็นช่วงทำงาน เริ่มเก็บเงิน สร้างความมั่นคงให้ชีวิต ส่วน Gen X ให้ความสำคัญกับการวางแผนการเงินพร้อมทั้งลดหย่อนภาษี และ Gen Baby Boomer เป็นวัยหลังเกษียณ ไม่ต้องการความเสี่ยง เน้นเงินอยู่ครบและงอกเงย เตรียมไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน” นายศรชัย กล่าว



ภาพ: SCB



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : คนไทยเข้าไม่ถึงสินเชื่อ! ยิ่งต้องมีแอปกู้ออนไลน์ MONIX ตั้งเป้าปี 68 สินเชื่อรวมแตะ 57,000 ล้านบาท

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine