วันนี้ (11 เม.ย. 67) ดัชนีหุ้นไทย หรือ SET ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 1,400 จุด หลังจากผ่านระดับ 1,400 จุดมาได้ 2 วัน แม้ช่วงที่ผ่านมารัฐบาลจะประกาศความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งภาคอสังหาริมทรัพย์ และ Digital wallet โดยนักวิเคราะห์ต่างมองว่าปัจจัยลบหลักมาจาก ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด จึงทำให้มีความไม่แน่นอนเรื่องระยะเวลาในการลดดอกเบี้ยนโยบายซึ่งเป็นปัจจัยที่กดดันการลงทุน
ด้าน มงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยที่ระดับ 1,400 จุด ถือว่าสูงเพราะช่วงที่ผ่านมาดัชนีหุ้นไทยขยับขึ้นมาหลายสิบจุด จากนักลงทุนที่เข้ามาซื้อหุ้นกลุ่มที่ถูกขายออกไปเยอะในช่วงที่ผ่านมา
ดังนั้น มองว่าหากดัชนีหุ้นไทยอยู่เหนือกว่า 1,400 จุด ถือว่าดีแล้ว เพราะในระยะต่อไปยังมีหลายตัวแปรด้านลบ และความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนต่างๆ เช่น อัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางหลัก สถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยในเดือน เม.ย.- มิ.ย. 2567 นี้ คาดว่าดัชนีหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,380-1,480 จุด แม้ในเดือน พ.ค. นี้ปัจจัยลบบางส่วนจะคลี่คลายลงบ้าง แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เช่น สถานการณ์สงครามยังเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยาก
ทั้งนี้ คาดว่าช่วงสิ้นปี 2567 ดัชนีหุ้นไทยอาจเคลื่อนไหวโดยมีกรอบสูงสุดที่ 1,500 จุด เพราะปัจจัยสนับสนุนยังมีไม่มากนัก อาทิ โครงการ Digital wallet แม้จะมีความชัดเจนยิ่งขึ้นแต่มองว่าจะส่งผลดีกับ ค้าปลีก เป็นหลัก ขณะที่ผลกระทบจากการดึงงบประมาณส่วนอื่นๆ มาไม่ได้ทำให้เม็ดเงินในระบบเพิ่มขึ้นมากนัก อีกทั้งหากการแจกเงินเป็น Token อาจไม่ได้สร้าง Multiplier effect ตามทฤษฎีแบบเดิมที่เงินจะหมุนในระบบเศรษฐกิจได้หลายรอบ ขณะเดียวกันผลกระทบจากโครงการ Digital wallet อาจส่งผลต่อค่าเงินบาท (อาจอ่อนค่าลง) อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน การลงทุนในตลาดหุ้นปี 2567 นี้ยังคงแนะนำในกลุ่มหุ้นที่ผลประกอบการดี ได้แก่ 1) กลุ่มโรงพยาบาล 2) กลุ่มธนาคาร และ 3) กลุ่มท่องเที่ยว ขณะที่ธีมหุ้นกลุ่มที่เริ่มพลิกกลับ มองว่าต้องรอดูทิศทางและความชัดเจนต่งๆ อีกครั้ง หลังครั้งปีแรกจบลงเพราะปัจจุบันสถานการณ์ยังเปลี่ยนแปลงได้มาก (เช่น กลุ่มปิโตรเคมี, กลุ่มก่อสร้าง, กลุ่มค้าปลีก)
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : กรุงไทยเชื่อ ‘Digital wallet’ ช่วยดึงรายย่อยเข้าระบบภาษี ช่วยลดเศรษฐกิจนอกระบบที่ไทยครองอันดับ 14 ของโลก
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine