เปิดวิสัยทัศน์ เอเดรียน เมซซินาวเออร์ ซีอีโอคนใหม่ SCB Julius Baer กับชีวิตที่อุทิศให้การบริหารความมั่งคั่ง - Forbes Thailand

เปิดวิสัยทัศน์ เอเดรียน เมซซินาวเออร์ ซีอีโอคนใหม่ SCB Julius Baer กับชีวิตที่อุทิศให้การบริหารความมั่งคั่ง

    หากถามคนส่วนใหญ่ว่าเมื่อนึกถึง "สวิตเซอร์แลนด์" ภาพจำที่มักจะปรากฏเป็นลำดับต้นๆ ในมโนภาพของคุณมักจะเป็นเรื่องใด? ไม่มากก็น้อยน่าจะให้คำตอบที่คล้ายคลึงกัน "แหล่งผลิตเรือนเวลาชั้นสูงที่เปี่ยมไปด้วยกลไกซับซ้อน"

    "โรงงานช็อกโกแลตแสนอร่อยของโลกที่หลายคนหลงใหล" และแน่นอน "ความเป็นเลิศทางเสถียรภาพศูนย์กลางการเงินโลกที่มั่นคง Private Banking และการบริหารจัดการดูแลความมั่นคั่งระดับโลกที่สืบทอดกันมายาวนาน"


​เอเดรียน เมซซินาวเออร์ (Adrian Mazenauer) 
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด (SCB Julius Baer)

​    ไม่ต่างกับ เอเดรียน เมซซินาวเออร์ (Adrian Mazenauer) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด (SCB Julius Baer) และ "นายแบงก์เชื้อสายสวิส" ที่หยอดมุกแกมหยอกใส่กองบรรณาธิการ Forbes ถึงที่มาของตัวเองว่า ในฐานะที่ตนเป็นชาวสวิสโดยกำเนิด เขาก็นึกออกอยู่แค่ 3 สิ่งข้างต้นนี้

    ก่อนที่สุดท้ายกราฟชีวิตจะมาบรรจบลงที่อาชีพในเส้นทางการบริหารความมั่งคั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายงาน Private Banker ที่เขาผ่านประสบการณ์โชกโชนยาวนานกว่า 20 ปีเต็ม ก่อนจะมาเข้าร่วมกับ SCB Julius Baer ในฐานะผู้บริหารฝ่ายการบริหารความมั่งคั่งเมื่อช่วงปี 2019 ณ วันที่บริษัทเริ่มก่อตั้ง

    ข้อเท็จจริงประการหนึ่งก็คือ เอเดรียนไม่ได้ก้าวขึ้นมาเป็นนายแบงก์เพียงเพราะเชื้อชาติของเขาตามที่เขาเกริ่นใส่เราเท่านั้น เพราะในความเป็นจริง ครอบครัวเมซซินาวเออร์ทุกคนล้วนทำงานในอุตสาหกรรมการเงินแทบทั้งสิ้น ไล่ตั้งแต่คุณปู่ คุณตา คุณพ่อ จนมาถึงรุ่นของเขา เรียกได้ว่าทั้ง DNA เลือดที่ไหลเวียนอยู่ในตัวผู้บริหาร SCB Julius Baer ผู้นี้ ตลอดจนประวัติศาสตร์ที่ยาวนานจากการบริหารการเงิน Private Banking ตามธรรมเนียมปฏิบัติแบบชาวสวิส ล้วนส่งผลให้ตัวเขาเกาะเกี่ยวผูกพันกับโลกการเงินและการบริหารความมั่งคั่งมั่นคงให้ลูกค้าจนแทบจะถอดแยกออกจากกันไม่ได้ด้วยซ้ำ ไม่แปลกที่เขาจะมีใจรักหรือ Passion ต่อการบริหารความมั่งคั่งไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าใคร และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายงานการดูแลลูกค้าผู้มีความมั่งคั่งระดับสูง ที่เอเดรียนเองมีประสบการณ์และคลุกคลีมากกว่าครึ่งค่อนชีวิตของตัวเขาไปกับการดูแลลูกค้าระดับสูงในฐานะ Relationship Manager หรือ RM

    บทสัมภาษณ์ที่คุณกำลังจะได้อ่านนี้ น่าจะเป็นบทสัมภาษณ์แรกๆ ของเอเดรียน หลังก้าวขึ้นมารับตำแหน่งซีอีโอ SCB Julius Baer อย่างเป็นทางการ เมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้คุณได้รู้จักตัวตน มุมมอง และวิสัยทัศน์ของเขาในมิติที่ลุ่มลึกกว่าภาพที่ปรากฏตามสื่อทั่วไปแน่นอน


    "ตื่นเต้น" ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในวันรับตำแหน่งซีอีโอที่ถูกฉาบเคลือบด้วย "การไม่หยุดพัฒนาตัวเอง"

    เราถามเอเดรียนว่า ในวันที่เขาทราบว่าตนเองต้องก้าวขึ้นมารับตำแหน่งซีอีโอ SCB Julius Baer ลึกๆ แล้วเขารู้สึกอย่างไรกันแน่? แม้คำตอบของเอเดรียนจะชวนให้เลิกคิ้วในทีแรก แต่เมื่อพิจารณาคำตอบของเขาอย่างถี่ถ้วน เรากลับพบว่า คำตอบของแม่ทัพ SCB Julius Baer ผู้นี้ "จริงใจ" และสะท้อนถึงภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำที่มีความเป็นมนุษย์ของเขาซึ่งใช้หัวใจในการบริหารทีมและทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าที่มีอยู่อย่างหลากหลายได้เป็นอย่างดี

    "เอาเข้าจริงๆ ผมรู้สึกตื่นเต้น จนอาจจะประหม่าอยู่บ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่ผมยึดถือและปฏิบัติมาตลอดก็คือ หลักปรัชญาของการเป็น 'แขกผู้มาเยือน' เพราะในช่วงตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมาที่ผมโลดแล่นในงานสาย Wealth Management ในเอเชีย ผมมีโอกาสได้ดูแลลูกค้าที่มีความหลากหลายเป็นอย่างมาก โดยที่ลูกค้าทุกท่านล้วนแล้วแต่สอนให้ผมได้เข้าใจ เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ใหม่ๆ อยู่เสมอ ขณะเดียวกัน ผมก็ยังคงถ่อมตนเสมอ ปฏิบัติตนราวกับเป็นแขกที่รู้สึกขอบคุณและประทับใจในทุกการต้อนรับที่ผมได้รับ ซึ่งผมได้ตอบแทนสิ่งเหล่านี้ด้วยการที่ผมเป็นพาร์ทเนอร์และ Private Banker ที่พวกเขาสามารถเชื่อมั่นและไว้วางใจได้อย่างสนิทใจ

    "ในแง่หนึ่ง ลูกค้าทุกท่านของผม และเส้นทางการเติบโตในสายอาชีพการบริหารความมั่งคั่ง ล้วนแล้วแต่มีส่วนสำคัญที่นำทางผมมาสู่ความท้าทายครั้งใหม่ในตำแหน่งซีอีโอ SCB Julius Baer ซึ่งถูกสร้างบนพื้นฐานที่แข็งแกร่งบนความเชื่อที่ว่า ผมอยู่ที่ SCB Julius Baer มาตั้งแต่เริ่มต้น ตั้งแต่วันที่เราเดินเข้าไปหาลูกค้ารายแรกตั้งแต่ออฟฟิศของเรายังอยู่ที่รัชโยธิน กระทั่งย้ายมายังสุขุมวิท 45 แห่งนี้ ผมรู้จักพนักงานและลูกค้าของเราทุกท่านเป็นอย่างดี เข้าใจว่าพวกเขาชอบอะไร หรือต้องการอะไรที่สุด

    "การเข้าใจลูกค้าอย่างถ่องแท้และลึกซึ้ง รวมถึงการสร้างผลงานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้นถือเป็นความก้าวหน้าอย่างหนึ่ง แต่ทุกๆ วันที่ผ่านไปล้วนแล้วแต่มาพร้อมกับความท้าทาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความท้าทายใหม่ๆ ที่หลากหลายที่ผมได้เผชิญในฐานะการเป็นซีอีโอ ผมมักจะบอกกับพนักงานทุกคนที่ SCB Julius Baer อยู่เสมอว่า พวกคุณต้องทำให้ทุกปัญหาของตัวเองเป็นเหมือนปัญหาของผมด้วย เพื่อที่ผมจะอยู่เคียงข้างกับพวกเขาในทุกๆ สถานการณ์ เพราะงานของผมคือการช่วยแก้ปัญหาและความท้าทายให้กับพนักงานของเรา ลูกค้า ตลอดจนบอร์ดบริหาร ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพทีมงาน การถอดรหัสภาพรวม ทิศทางตลาดให้ลูกค้าของเราได้เห็นภาพ รวมถึงการขับเคลื่อนการเติบโตให้กับองค์กร นี่คือความท้าทายทั้งเล็กและใหญ่ที่เกิดขึ้น

    "แต่ผมไม่สามารถทำทั้งหมดนี้ได้ด้วยตัวเองเพียงลำพัง ในทางกลับกัน คุณต้องกล้าที่จะยอมรับว่าคุณไม่ถนัดในเรื่องอะไร แล้วใช้ใจฟังพวกเขา เชื่อมั่นคนทำงานหรือทีมที่เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ แล้วคอยผลักดันพวกเขาอย่างสุดกำลัง ตัวอย่างเช่น ผมอาจจะไม่ถนัดในเรื่องรายละเอียดเชิงเทคนิคของ Subscription Process เพื่อการลงทุนในหลักทรัพย์นอกตลาด (Private equity) สิ่งที่ผมทำคือ ผมจะรับฟังข้อเสนอแนะของพวกเขา ถ้าผมมีโจทย์ว่าผมต้องการปรับปรุงหรือพัฒนาให้ดีขึ้น เมื่อทีมเสนอโซลูชันและวิธีการมา ผมก็พร้อมจะ Empower พวกเขาอย่างเต็มที่ทันที ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ลูกค้าของเราได้รับประสบการณ์ที่ดีและคล่องตัวมากที่สุด

    "ผมกล้าพูดเลยว่า คนทำงานที่ SCB Julius Baer ทุกคนล้วนมีความถนัดเฉพาะทางและเก่งในด้านที่ไม่ซ้ำกันเลย ถ้าพวกเขาไม่มีศักยภาพพวกเขาคงไม่ได้มาอยู่ที่นี่จริงไหมละครับ สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ ผลักดันและดึงศักยภาพของพวกเขาออกมาใช้ให้ตรงกับงานที่แตกต่างกันออกไป คอยพัฒนาพวกเขาผ่านการสนับสนุนอย่างสุดกำลัง ที่นี่เราทำงานกันเป็นทีม ทุกคนล้วนแล้วแต่มีจุดแข็งของตัวเอง ดังนั้นพวกเขาจึงได้รับโอกาสในการช่วยกันเพิ่มมูลค่าให้กับงานและสิ่งที่เราส่งมอบให้กับลูกค้าทุกท่าน"



    การบริหารความมั่งคั่งก็เหมือนการตัดเย็บสูท ไม่เพียงแต่ออกแบบพอดีตัวด้วยเครื่องมือคุณภาพสูง แต่ต้องติดกระดุมให้ถูกตั้งแต่เม็ดแรก

    ความได้เปรียบของ SCB Julius Baer ในฐานะการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผู้ให้บริการธุรกิจบริหารความมั่งคั่งระดับสูงโดยเฉพาะ (Pure Play Private Bank) กับกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูงของไทย (UHNWIs และ HNWIs) ซึ่งมีมูลค่าสินทรัพย์หมุนเวียนขั้นต่ำ (AUM) ระดับ 100 ล้านบาทขึ้นไปก็คือการโคจรมาพบกันระหว่างธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ในฐานะผู้ให้บริการทางการเงินในประเทศไทยที่มีทั้งเสถียรภาพความมั่นคง พร้อมสรรพไปด้วยความน่าเชื่อถือ รวมถึงความเข้าใจในบริบทและวัฒนธรรมไทยอย่างลึกซึ้ง ผนวกเข้ากับจูเลียส แบร์ (Julius Baer) ในฐานะธนาคารสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ที่เชี่ยวชาญด้าน Wealth Management อันยาวนานและการลงทุนในต่างประเทศ (Offshore)

    ทั้งหมดจึงเกิดกลายเป็นศักยภาพที่ทำให้เราสามารถสร้างสรรค์พอร์ตการลงทุนที่สามารถเข้าถึงสินทรัพย์และโซลูชันที่มีความหลากหลายจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งปัจจุบัน SCB Julius Baer เป็น Private Banking จากสวิตเซอร์แลนด์เพียงแห่งเดียวที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นไปที่การอำนวยความสะดวกลูกค้าคนไทยให้สามารถลงทุนระหว่างประเทศด้วยการให้คำแนะนำแบบองค์รวม โดยให้ความสำคัญกับ "คำแนะนำแบบเฉพาะเจาะจง" เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าเป็นหลัก

    "ผมมองว่าจุดตัดความแตกต่างระหว่าง SCB Julius Baer กับ Private Bank แห่งอื่นๆ คือเราพยายามจะเข้าใจให้ได้อย่างถ่องแท้และจริงใจว่า ความต้องการของลูกค้าและแรงจูงใจกับเงินลงทุนของพวกเขาคืออะไรกันแน่เป็นอันดับแรกๆ แทนที่จะเป็นการพยายามเสนอขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือหน่วยลงทุนให้กับพวกเขาในครั้งแรกที่เจอกันทันที

    "บ่อยครั้งที่ลูกค้ามักจะบอกกับเราว่า 'ไม่ต้องมาถามเขาว่าต้องการอะไร แค่บอกมาเลยว่าเขาต้องลงทุนในสินทรัพย์ประเภทไหน หรืออะไรกันแน่ แค่ให้เขาได้ลงทุนแล้วได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดเป็นพอ' ผมก็มักจะตอบกลับลูกค้าทุกท่านเสมอว่า ด้วยความสัตย์จริงครับ ขอให้เราได้ทำความเข้าใจในวัตถุประสงค์ของการลงทุนของลูกค้าก่อน เพื่อที่เราจะได้วางแนวทางการให้คำปรึกษาสำหรับการลงทุนกับทุกท่านได้อย่างเหมาะสม ซึ่งคำแนะนำและความเหมาะสมที่ว่านี้ย่อมต้องมาก่อนการเลือกซื้อสินทรัพย์หรือการจิ้มซื้อหลักทรัพย์พุ่งแรงยอดนิยมในแต่ละวันอยู่แล้ว คุณค่าของวัฏจักรการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้ากับการลงทุนเหล่านี้ต่างหากคือสิ่งที่ผมและ SCB Julius Baer ยึดมั่นไม่ว่าจะเป็น การทำความเข้าใจ การให้คำแนะนำ การทำให้เกิดผลสำเร็จ และการรีวิวผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

    "ลองนึกดูสิว่า ลูกค้าที่มาหาเราหลายๆ ท่านทำงานอย่างหนัก เอาเงินที่ได้จากการตรากตรำมาด้วยความเพียรพยายามตลอดกว่า 25 ปี แลกมาด้วยหงาดเหงื่อและความทุ่มเททั้งชีวิต บางท่านได้มาจากมรดกที่บรรพบุรุษฟูมฟักให้ลูกหลานมาเป็นอย่างดี พวกเขาคงไม่อยากจะเสียมันไปโดยสูญเปล่า แค่เพียงเพราะมาเจอใครสักคนที่พยายามจะเสนอขายสินทรัพย์แก่พวกเขามากกว่าการตั้งใจรับฟังความต้องการของพวกเขาเป็นลำดับแรก ถึงแม้ว่าแพลตฟอร์มของ SCB Julius Baer จะมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกลงทุนมากกว่า 49,000 ผลิตภัณฑ์ก็ตาม แต่นั่นไม่ใช่วิถีที่เราทำกันครับ

    "ผมอยากยกตัวอย่างให้เห็นภาพมากขึ้นอีกสักนิด สมมติว่าผมแค่บอกกับลูกค้าว่า 'เชื่อใจผมนะครับ' ผมมีประสบการณ์มากว่า 30 ปี นี่จะเป็นการลงทุนที่ยอดเยี่ยมมากๆ ลูกค้าหลายๆ ท่านอาจจะไม่ถามข้อมูลเพิ่มเติมต่ออีกเลย ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วละก็ ผมกล้าพูดเลยว่านี่ไม่ใช่วิธีที่ Private Banker ที่ดีทำกัน Private Banker ที่ดีต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้าและให้ข้อมูลลูกค้าก่อนการลงทุนอย่างรอบด้านมากที่สุด เพราะหากวันใดวันหนึ่งข้างหน้า สินทรัพย์หรือหน่วยลงทุนนั้นๆ เกิดเผชิญวิกฤตจากตลาดที่ผันผวน ราคาดิ่งลงรุนแรง และเมื่อคุณลองเปิดดูพอร์ตของตัวเองแล้วพบว่า มูลค่าโดยรวมมันลดหายไปประมาณ 10% แน่นอนว่าคุณอาจจะรู้สึกไม่ดีอยู่แล้วแหละ แต่หากคุณเข้าใจจุดประสงค์ ความมุ่งมั่นของตัวเองในการลงทุน คุณจะเข้าใจได้ทันทีถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เข้าใจสิ่งที่จำเป็นจะต้องทำและไม่ต้องทำ และแน่นอน เข้าใจพอร์ตการลงทุนของตัวเองอย่างถ่องแท้

    "ประกอบกับ RM ของเราที่จะสามารถต่อสายตรงถึงคุณทันทีเพื่อแจ้งกับคุณด้วยตัวเองเพื่อให้มั่นใจได้ว่า พอร์ตของคุณจะสามารถฝ่าวิกฤตดังกล่าวได้อย่างแน่นอน ไม่ใช่เพราะว่าเรามองบวกหรือปลอบใจลูกค้านะครับ แต่เป็นเพราะเราเชื่อมั่นในเป้าหมายระยะยาว และแผนการลงทุน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละท่านโดยเฉพาะที่ถูก Tailor made ขึ้นมาตั้งแต่วันแรกที่ลูกค้าเข้ามาหาเรานั่นเอง"

    เรื่องตลกอย่างหนึ่งที่เอเดรียนเล่าให้เราฟังก็คือ ทุกครั้งที่เขาเจอทีม RM ของ SCB Julius Baer เขามักจะสุ่มยิงคำถามเชิงทดสอบให้พนักงานทุกคนสามารถตอบกลับมาได้ภายใน 90 วินาที ไม่มากไปกว่านี้ เพื่อเตรียมความพร้อมให้พนักงานทุกคนพร้อมตอบคำถามลูกค้าตัวเองเสมอ เพราะคุณไม่มีวันรู้เลยว่าคุณจะไปบังเอิญเดินเจอลูกค้าคุณที่ไหน แต่คุณจะต้องพร้อมและสามารถอธิบายทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ภายในเวลา 90 วินาที ตัวอย่างเช่น การเล่าภาพรวมของข้อเสนอ Hedge Fund หรือสถานการณ์ตลาดโลกที่เกิดขึ้น เป็นต้น

    "วันดีคืนดี RM ของ SCB Julius Baer ของเราอาจจะบังเอิญเจอลูกค้าที่ห้างสรรพสินค้า และถ้าลูกค้าเดินเข้ามาถามว่า 'สภาพตลาดตอนนี้เป็นอย่างไร?' คุณคงไม่มีวันมานั่งเปิดสไลด์แล้วใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้กับพวกเขาได้ เช่นเดียวกัน คุณคงไม่สามารถตอบแค่ว่า "โอเค อย่ากังวลอะไรครับ" คำตอบของคุณใน 90 วินาทีนั้นคือ ความเข้าใจที่คุณมีต่อพอร์ตของลูกค้าคนนั้นๆ และสถานการณ์โลกที่เกิดขึ้นอยู่ นี่ต่างหากคือสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ผมใส่ใจและรู้สึกภูมิใจเป็นพิเศษที่ RM ของเราเข้าใจลูกค้าทุกท่าน เข้าใจภาพรวมตลาด และผลิตภัณฑ์การลงทุน มีความสามารถในการอธิบายทุกเรื่องราวให้เข้าใจได้อย่างง่าย โดยที่พวกเขารู้ว่ากำลังพูดถึงอะไรอยู่อย่างแท้จริง เพราะหากคุณไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ คุณก็ไม่ใช่ RM ที่น่าเชื่อถือ และไม่ได้ช่วยเพิ่มมูลค่าใดๆ ให้กับลูกค้าของคุณ"

​เอเดรียน เมซซินาวเออร์ (Adrian Mazenauer)
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด (SCB Julius Baer)

    "จริงใจและซื่อสัตย์" สองมรดกสุดล้ำค่าที่สวิตเซอร์แลนด์และตระกูลเมซซินาวเออร์ส่งไม้ต่อถึงมือเอเดรียน

    สิ่งที่เราได้สัมผัสตลอดบทสนทนาที่เกิดขึ้นเกือบ 60 นาทีเต็มระหว่างเราและเอเดรียนก็คือ ความจริงใจและการซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตนเอง เขายอมรับกับเราถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นในวันที่ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งหัวเรือใหญ่ของ SCB Julius Baer อย่างไม่ลังเล

    ไม่เพียงเท่านั้น เอเดรียนยังตอบเราอย่างตรงไปตรงมาว่า ในฐานะของการเป็น Pure Play Private Bank และ Wealth Management การบริหารความสัมพันธ์ของลูกค้าในครอบครัวเดียวกันที่ย่อมมีเป้าหมาย และความต้องการต่อเงินลงทุนที่แตกต่างกันออกไปอย่างสุดขั้วนั้นแม้จะเป็นเรื่องที่ยากมากๆ แต่ก็ไม่ได้ไกลเกินกว่าศักยภาพและทักษะของทีมงาน SCB Julius Baer ในการสร้างสภาวะสมดุลที่มีต่อการบริหารความมั่งคั่งให้เกิดขึ้นแต่อย่างใด

    "ทักษะสำคัญที่ผมได้ตลอดระยะเวลา 20 ปีของการดูแลลูกค้าของผมทุกท่านโดยตรงตลอดช่วงชีวิตการเป็น Private Banker คือ 'ความจริงใจ' และความซื่อสัตย์ที่คุณต้องยึดถือและมีต่อลูกค้าของตัวเองอย่างแน่วแน่ พวกเขาไว้ใจและรับฟังคำแนะนำจากเรา ถ้าผมแกล้งทำเป็นบอกว่า 'ทุกอย่างโอเค' ผมย่อมรู้ดีว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาคาดหวังจะได้ยินจากเรา

    "ลูกค้าหลายๆ ท่านในปัจจุบันล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์ผ่านการลงทุนที่หลากหลายเป็นอย่างมาก โดยที่พวกเขาสามารถแยกแยะความแตกต่างของ Private Banker แต่ละรายได้เป็นอย่างดี พวกเขาย่อมรู้ดีว่า คำตอบของคุณจริงใจหรือเป็นประโยชน์ต่อสินทรัพย์ความมั่งคั่งของพวกเขาแค่ไหน แม้พวกเขาอาจจะรักษามารยาทด้วยการไม่หักหน้าคุณตรงๆ แต่เชื่อผมเถอะว่า พวกเขาจะไม่เชื่อมั่นในตัวคุณและจะไม่มีวันทำธุรกรรมกับคุณอีกเลย"

    เอเดรียนบอกกับเราว่า คุณลักษณะนิสัยแบบชาวสวิสฯ (Swiss Traits) ที่หล่อหลอมตัวเขาในการทำงานประกอบไปด้วย ความมั่นคง ความน่าไว้วางใจ และความเชื่อถือได้ ซึ่งคุณสมบัติทั้งสามประการนี้ล้วนแล้วแต่สร้างอิมแพกต์ให้กับตัวเขา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการดูแลลูกค้าของ SCB Julius Baer แทบทั้งสิ้น

    "ถ้าผมบอกลูกค้าของผมว่า ผมจะติดต่อไปหาพวกเขาในเวลา 15.30 น. ของวันศุกร์ ผมจะติดต่อไปหาพวกเขา ณ เวลานั้น ไม่มีเลทหรือข้อแม้ใดๆ หรือหากผมบอกพวกเขาว่าผมจะเดินทางไปหาด้วยตัวเอง ผมก็จะเดินทางไปหาพวกเขาตามที่ได้ให้คำมั่นสัญญาเอาไว้แน่นอน ความน่าเชื่อถือคือสิ่งที่ผมยึดถือเป็นอย่างมาก

    "ผมและ ทีม SCB Julius Baer เราอยากให้ลูกค้าทุกท่านเชื่อมั่นในการให้คำแนะนำ คำปรึกษาด้านการลงทุนที่จริงใจของพวกเรา เราจำเป็นต้องมีความน่าเชื่อถือให้กับทุกคำแนะนำของเรา และเช่นเดียวกันผมอยากสร้างภาพจำให้ลูกค้าทุกท่านนึกถึง SCB Julius Baer ในฐานะของการเป็นที่ปรึกษาทางการบริหารความมั่งคั่งที่มั่นคง เด็ดเดี่ยว และน่าเชื่อถือ ซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วแต่ถูกออกแบบมาให้ตรงตามความต้องการ และเป้าหมายด้านความมั่งคั่งที่แตกต่างกันไปของลูกค้าแต่ละท่านโดยเฉพาะ สิ่งเหล่านี้เท่านั้นที่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับคุณผ่านลูกค้าจากรุ่นสู่รุ่น"

​    แม้จะยังเร็วไปในการคาดการณ์ล่วงหน้าว่า SCB Julius Baer ภายใต้การนำทัพของ เอเดรียน เมซซินาวเออร์ จะเกิดผลลัพธ์ในทิศทางใด แต่สิ่งหนึ่งที่เรามั่นใจได้ 100% คือความมั่นคง ความน่าเชื่อถือ และความไว้วางใจได้ตามแบบฉบับ Swiss Traits ว่า ในระยะยาว เอเดรียนและทีม SCB Julius Baer ย่อมเดินหน้าสร้างผลลัพธ์ที่โดดเด่นผ่านการผสมผสานด้วยทุกองค์ประกอบที่ลงตัวและคุณค่าที่ถูกต้องให้กับลูกค้าที่พวกเขาบริหารความมั่งคั่งให้ได้สำเร็จได้อย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน


TAGGED ON