บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI) จัดพิธีเปิดการกลับเข้ามาทำการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกครั้งในวันที่ 4 สิงหาคม 2568 หลังจากประสบความสำเร็จจากการฟื้นฟูกิจการ โดยมีราคาเปิดอยู่ที่ 10.50 บาท
ถือเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ครั้งสำคัญของ 'การบินไทย' พร้อมต่อยอดสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ด้วยการยกระดับคุณภาพการให้บริการ ควบคู่กับการบริหารงานภายใต้หลักธรรมาภิบาลสูงสุด และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย เพื่อก้าวสู่การเป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนชั้นนำที่มีคุณภาพของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ ราคาของการเปิดเทรดในวันแรกอยู่ที่ 10.50 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 134.4 % จากราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนที่ 4.48 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเกือบ 3 แสนล้านบาท โดยหลังเปิดทำการซื้อ-ขายไปในช่วงครึ่งวันเช้า หุ้นมีราคาปิดตลาดอยู่ที่ 9.50 บาท ซึ่งระหว่างที่มีการซื้อ-ขาย ราคาหุ้นปรับตัวดีดขึ้นไปสูงสุดอยู่ที่ 11 บาท (เพิ่มขึ้นถึง 216% เทียบจากราคาปิดครั้งสุดท้ายที่มีการเปิดซื้อ-ขายไปในครั้งก่อนหน้านี้) และลงมาต่ำสุดที่ 8.55 บาท จากมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดในช่วงเช้าที่ราวๆ 3,500 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ภายในงาน ลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ยังได้ให้ข้อมูลถึงแผนการจัดหาเครื่องบินของการบินไทยว่า ไม่มีเกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมืองหรือภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกาแต่อย่างใด เพราะมีการตกลงราคาซื้อขายไว้เรียบร้อยก่อนแล้ว โดยเป็นการสั่งซื้อเครื่องบินแบบโบอิ้ง 45 ลำ และในระยะถัดไปจะมีการจัดหาอีก 35 ลำ ซึ่งอาจจะเป็นเครื่องบินแบบโบอิ้งเช่นกัน แต่ในปีนี้ยังไม่สามารถรับมอบเครื่องบินได้ เนื่องจากผลิตไม่ทัน คาดว่าน่าจะเป็นช่วงต้นปี 2571 จากเดิมที่คาดว่าจะเป็นกลางปี 2570
ซึ่งแม้ว่า ณ ปัจจุบัน การบินไทยจะไม่ได้คงสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจแล้วก็ตาม แต่เหล่าบรรดานักลงทุนและนักวิเคราะห์หุ้นต่างจับตามองว่า โครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทที่ทาง 'กระทรวงการคลัง' ยังคงถือหุ้นในสัดส่วนสูงถึง 38.90% อาจจะมีผลกระทบต่อธุรกิจจากการแทรกแซงทางการเมืองเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีตอีกหรือไม่?
ขณะเดียวกัน ชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นับตั้งแต่ปลายปี 2566 จนถึงปัจจุบันทางการบินไทยไม่มีแรงกดดันจากภายนอก หรือการแทรกแซงทางการเมืองที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเครื่องบินแน่นอน เพราะการสั่งซื้อดังกล่าวมาจากพื้นฐานของการดำเนินธุรกิจให้แข็งแกร่งขึ้นจริงๆ อีกทั้งเรื่องการเจรจาภาษีของทรัมป์ก็มาทีหลังจากแผนที่กำหนดไว้
สำหรับเรื่องเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในปี 2568 นี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ยังเผยด้วยว่า หากบริษัทสามารถดำเนินธุรกิจและทำกำไรสุทธิให้เป็นบวกได้อย่างน้อย 25% ก็สามารถจ่ายเงินปันผลได้อย่างแน่นอน
ภาพ : การบินไทย
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : "การบินไทย" โชว์แกร่ง! ฟื้นฟูกิจการสำเร็จใน 4 ปี เตรียมกลับเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ 4 สิงหานี้
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine
