WHAID บริษัทผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมของประเทศไทย ตกลงขายที่ดินในจังหวัดระยองให้บริษัทยักษ์ใหญ่จากจีน 'Beijing Haoyang' สร้าง Data Center ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน มูลค่า 72,670 ล้านบาท ตอกย้ำถึงศักยภาพประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางดิจิทัลระดับภูมิภาค คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ภายในปี 2569
บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAID ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมของประเทศไทย ประกาศตกลงการขายที่ดินให้กับบริษัท ฮ่าวหยาง ดาต้า เซ็นเตอร์ 1 (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของบริษัท Beijing Haoyang Cloud & Data Technology Co., Ltd. ผู้ให้บริการ Data Center ชั้นนำจากประเทศจีน โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยราว 72,670 ล้านบาท เพื่อสร้าง Data Center ระดับไฮเปอร์สเกล ขนาดกำลังไฟฟ้า 300 เมกะวัตต์ ภายในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์น ซีบอร์ด 4 (WHA ESIE 4) จ.ระยอง ซึ่งคาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ภายในปี 2569 และมีการวางแผนการใช้พลังงานหมุนเวียนใน Data Center แห่งนี้อีกด้วย

ทั้งนี้ การลงนามในข้อตกลงดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมดาต้าเซนเตอร์ทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยมีแรงผลักดันจากความต้องการด้านระบบประมวลผล AI ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อเรื่องของ เอดจ์คอมพิวติ้ง (Edge Computing) หรือ เทคโนโลยีการประมวลผลข้อมูลจากศูนย์กลางให้กลายมาเป็นเทรนด์สำคัญ เพราะการประมวลผลข้อมูลใกล้กับจุดใช้งานข้อมูลจะช่วยลดความหน่วงเวลา ประหยัดแบนด์วิดท์ และเพิ่มความน่าเชื่อถือ เหมาะกับแอปพลิเคชันที่ต้องการตอบสนองแบบเรียลไทม์ เช่น ยานยนต์อัตโนมัติ โรงงานอัจฉริยะ และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ เป็นต้น
Mr. Lai Ning Ning ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮ่าวหยาง ดาต้า เซ็นเตอร์ 1 (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “บริษัท ฮ่าวหยาง ดาต้า มีความยินดีที่จะนำประสบการณ์จากจีนเข้าสู่ประเทศไทย การลงทุนเชิงกลยุทธ์ในศูนย์ข้อมูลระดับไฮเปอร์สเกลขนาด 300 เมกะวัตต์ที่จังหวัดระยองครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของพวกเราในการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่กำลังเติบโตของไทย เราเชื่อว่า นอกจากจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์องค์กรสู่ระดับโลกแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนการพัฒนาให้ประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางดิจิทัลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และส่งเสริมให้ธุรกิจจีนขยายสู่ต่างประเทศมากยิ่งขึ้น”
ในส่วนของ บริษัท ฮ่าวหยาง ดาต้า เซ็นเตอร์ 1 (ประเทศไทย) จำกัด ถือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลของจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันบริษัทดำเนินการศูนย์ข้อมูลหลัก 5 แห่งในเมืองเศรษฐกิจสำคัญของจีน ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว มาเก๊าและเซินเจิ้น ดังนั้นการเลือกประเทศไทยเป็นตลาดต่างประเทศแห่งแรกจึงสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานของและศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางดิจิทัลระดับภูมิภาค
ปจงวิช พงษ์ศิวาภัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAID กล่าวว่า “WHAID ตระหนักถึงความท้าทายในการพัฒนาและลงทุนศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ เราได้พัฒนาเทคโนโลยีและศักยภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อมอบโซลูชันแบบครบวงจรที่ทันสมัย โดยมุ่งเน้นการให้บริการโครงสร้างพื้นฐานที่มีความน่าเชื่อถือสูง พร้อมรองรับการดำเนินงานของศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ในทุกมิติ”

สำหรับความร่วมมือระหว่าง WHAID และ Haoyang Data ในระยะยาว จะสะท้อนถึงความพร้อมของประเทศไทยในการก้าวสู่อนาคตของเทคโนโลยีและการลงทุนด้าน AI ด้วยความมุ่งมั่นในด้านความยั่งยืน ทำเลที่ตั้งยุทธศาสตร์ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และนโยบายภาครัฐที่เอื้อต่อการลงทุนเพื่อให้ประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางดิจิทัลของภูมิภาค

ภาพ : WHAID
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เครือบี.กริม จับมือบริษัทสิงคโปร์ เปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์ในไทย รองรับไฮเปอร์สเกลและ AI มูลค่าโครงการ 24,520 ล้านบาท
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine