บสย.ลุย SMEs เข้มแข็ง สร้างทีมแกร่งองค์กรเร็ว - Forbes Thailand

บสย.ลุย SMEs เข้มแข็ง สร้างทีมแกร่งองค์กรเร็ว

SMEs เป็นเศรษฐกิจพื้นฐานที่มีบทบาทสำคัญของระบบเศรษฐกิจประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบเศรษฐกิจของชุมชนที่เป็นฐานรากการพัฒนาท้องที่ ด้วยเหตุนี้หลายหน่วยงานจึงให้ความสำคัญกับ SMEs ในการขยายโอกาสทางธุรกิจเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ


    เนื่องจากเห็นความสำคัญของเศรษฐกิจท้องถิ่น เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จึงได้จัดกิจกรรมบสย.พบสื่ออุดรฯ และได้นำทีมสื่อจากส่วนกลางร่วมงานดังกล่าว พร้อมเปิดตัวแคมเปญ “อุดร พร้อมค้ำ บสย. SMEs เข้มแข็ง” 50,000 ล้านบาท

    สิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ประกาศผนเชิงรุกด้วยการมอบนโยบาย “อุดร พร้อมค้ำ” ในโครงการ “บสย. SMEs เข้มแข็ง” 50,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ SMEs ด้วยการเติมทุนหนุนค้ำประกันสินเชื่อ รองรับเศรษฐกิจอีสานมีแนวโน้มขยับตัวคึกคัก และเป็นการเสริมสภาพคล่องวิสาหกิจชุมชนและรายย่อย วงเงินค้ำประกัน 50,000 ล้านบาทสำหรับเอสเอ็มอี

    กรรมการและผู้จัดการทั่วไปบสย. กล่าวว่า โครงการค้ำประกันสินเชื่อ “บสย. SMEs เข้มแข็ง“ (PGS 10) เป็นการดำเนินนโยบายเชิงรุก “อุดร พร้อมค้ำ” โดยใช้โอกาสในการเยี่ยมชมสำนักงานเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จังหวัดอุดรธานี เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEsเข้าถึงแหล่งทุน ได้สินเชื่อมากขึ้นและง่ายขึ้น โดยใช้กลไกค้ำประกันสินเชื่อ บสย.ภายใต้วิสัยทัศน์ “เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงเงินทุนและโอกาสให้แก่ SMEs เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน (SMEs’ Gateway)” และนโยบายขับเคลื่อนองค์กรก้าวทะยานไปข้างหน้า

    พร้อมเดินยุทธศาสตร์การดำเนินงาน ปี 2566-2570 ขับเคลื่อนองค์กรด้วยกลยุทธ์ 3Ns คือ New Culture ก้าวสู่วัฒนธรรมองค์กรใหม่ “บสย. Fast & First รวดเร็ว รอบคอบ ที่หนึ่งในใจ SMEs” รวดเร็วเหมือน Fintech Company และรอบคอบเหมือนสถาบันการเงิน New Engine การพัฒนาผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อเฉพาะกลุ่ม และ New Business Model ด้วย Digital Platform พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน Digital Gateway เชื่อมโยงธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ระบบต่างๆ ร่วมกับสถาบันการเงิน

    โครงการ “บสย. SMEs เข้มแข็ง” พร้อมสนับสนุน ผู้ประกอบการ SMEs กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และรายย่อย เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน โดยสำนักงานเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จังหวัดอุดรธานี ครอบคลุมผู้ประกอบการ SMEs รวม 10 จังหวัด ภาคอีสานตอนบน ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี จังหวัดขอนแก่น จังหวัดสกลนคร จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดนครพนม จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดหนองคาย และจังหวัดเลย ร่วมกับสถาบันการเงินที่ร่วมโครงการ พร้อมการให้ความรู้ทางการเงินร่วมกับพันธมิตรหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรม คลังจังหวัด โดยมี ศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs หรือ บสย. F.A. Center ที่มีผู้เชี่ยวชาญทางการเงินพร้อมให้คำปรึกษาฟรี


พัฒนาทีมงานแกร่ง


    นอกจากนโยบายที่เดินหน้าสู่ภูมิภาคแล้ว สิทธิกร เผยว่าสิ่งหนึ่งที่เขาทำให้รอบปีที่ผ่านมา หลังจากพัฒนาเรื่องระบบและความรวดเร็วในการให้บริการ Fast & First แล้วสิ่งที่กำลังจะทำต่อไปคือการสร้างทีมงานให้แข็งแรง มีวัฒนธรรมในการทำงานที่เป็นหนึ่งเดียว “ทีมงานบสย. 300 คน ไม่มากหรือน้อยเกินไป ผมคิดว่าเป็นองค์กรขนาดกลางที่เราพัฒนา culture ไปในทิศทางเดียวกันได้” สิทธิกร ย้ำและว่า วัฒนธรรมที่เขาหมายถึงวัฒนธรรมในการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในความรู้สึกมีส่วนร่วมและความเป็นเจ้าของ ทำให้บสย.พร้อมให้บริการด้วยใจ

    โดยเมื่อทีมงานมีความคิดเห็นในทิศทางเดียวกัน มีวัฒนธรรมองค์กรเดียวกัน เขาเชื่อว่าจะผลักดันให้บริการรุดหน้าได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากขึ้น มองภารกิจในองค์กรทุกอย่างเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องร่วมด้วยช่วยกัน “เรื่องความเร็วเราทำได้แล้ว การเข้าถึงลูกค้าก็ทำได้ สิ่งสำคัญจากนี้ไปคือ เรื่องคน ต้องทำให้คนบสย. รู้สึกว่าเป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน ทุกหน่วยงานทุกแผนกก้าวเดินไปด้วยกัน”

    จากแนวคิดลงสู่การปฏิบัติ สิทธิกร จะเน้นการให้ความเป็นกันเองกับทีมงาน กิจกรรมเยี่ยมชมสาขาและพบปะสื่อมวลชนเป็นการสร้างรีเลชั่นที่ดีระหว่างทีมบริหาร และทีมงานในสาขา ลดช่องว่างการทำงานที่ห่างไกลผูกพันธ์กันด้วยความใกล้ชิดและเป็นกันเอง เป็นสไตล์การบริหารของแม่ทัพบสย.วัย 46 ผู้มีทั้งความสดใหม่ และพลังแบบคนหนุ่มสาวที่พร้อมขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมายโดยเร็วเท่าทันเทคโนโลยี และโลกที่กำลังเปลี่ยนไป เหมือนกันที่เขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า บสย.ต้องการเป็นหน่วยงานที่เป็นเสมือนฟินเทคให้กับกระทรวงการคลัง ระยะเวลา 1 ปีเศษในตำแหน่ง กรรมการและผู้จัดการทั่วไป เขาสร้างการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้ให้กับบสย.ค่อนข้างชัดเจน


อ่านเพิ่มเติม: ยูโอบี เปิดตัวแคมเปญบัตรเครดิตใหม่ ผนึกพันธมิตรแบรนด์ชั้นนำระดับโลก


ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine