ไทยซัมซุง ร่วมสนับสนุนอุปกรณ์สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตให้กับภาควิชาเภสัชเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มั่นใจเทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยพัฒนาการค้นคว้าวิจัยและผลิตยาให้มีประสิทธิภาพ รวดเร็วและมีความสะดวกมากขึ้น
บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ได้ร่วมสนับสนุนอุปกรณ์สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตให้กับภาควิชาเภสัชเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ในโครงการ “เปลี่ยนกระบวนการวิเคราะห์ยาให้ทันสมัยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล: การพัฒนาวิธีไทเทรชันโดยใช้สมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์อ่านค่าสีอาร์จีบีและคำนวนผลการวิเคราะห์แบบเบ็ดเสร็จ” โดยการวิจัยพัฒนายาใหม่นั้นมีความซับซ้อน ต้องผ่านกระบวนการศึกษาและทดสอบมากมาย ยาบางตัวใช้เวลากว่า 10 ปีในการพัฒนาและจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก นอกจากนี้ในขั้นตอนการผลิตยาต้องมีการตรวจวิเคราะห์ยาว่ามีตัวยาสำคัญถูกต้องทั้งชนิดและปริมาณหรือไม่ ก่อนที่จะนำใช้กับผู้ป่วย ซึ่งการทดสอบตัวยาส่วนมากมีวิธีการที่ยุ่งยาก และใช้เครื่องมือวิเคราะห์ซึ่งมีราคาแพง อาศัยความชำนาญในการใช้งาน และยังต้องนำเข้าจากต่างประเทศ นอกจากนี้บางครั้งการวิเคราะห์ยายังทำในสเกลขนาดใหญ่ ทำให้ต้องใช้สารเคมีและก่อให้เกิดของเสียขึ้นในปริมาณมาก ในขณะที่บางเทคนิค เช่น ไทเทรชัน (เทคนิคการวิเคราะห์ยาประเภทหนึ่งผ่านสี) ยังต้องใช้การตัดสินจุดที่สารทำปฏิกิริยากันพอดีโดยวิธีสังเกตสีด้วยตาเปล่า ซึ่งอาจมีความคลาดเคลื่อนเนื่องมาจากสายตาของแต่ละบุคคล อุปสรรคและปัญหาเหล่านี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ภาควิชาเภสัชเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้ศึกษาวิจัยเพื่อปรับเปลี่ยนวิธีการวิเคราะห์ยาให้ทำได้ง่าย รวดเร็ว ถูกต้องแม่นยำ มีค่าใช้จ่ายน้อยลง และทันสมัยมากขึ้น โดยการนำเอาสมาร์ทโฟนซึ่งนับว่าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใกล้ตัวมาใช้แทนเครื่องมือวิเคราะห์ราคาแพงดังที่กล่าวมาข้างต้น
ต้นแบบการวิเคราะห์ยาด้วยสมาร์ทโฟน
โครงการวิจัย “ปรับเปลี่ยนการวิเคราะห์ยาให้ทันสมัยโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล” ที่เกิดขึ้นนี้ คณะผู้วิจัยนำโดย รศ.ดร.ธีรศักดิ์ โรจนราธา ได้นำจุดเด่นของสมาร์ทโฟนที่มีความสามารถในการทำงานที่หลากหลายและความสะดวกในการใช้งานมาประยุกต์ใช้ในขั้นตอนการวิเคราะห์ยา โดยการถ่ายภาพเพื่อบันทึกสีของตัวอย่างยาที่ทำการวิเคราะห์หลังจากทำปฏิกิริยาเคมี รวมถึงใช้ประมวลผลความเข้มของสีที่บันทึกได้ออกมาเป็นค่าตัวเลขซึ่งสามารถบ่งบอกได้ถึงปริมาณยาที่แท้จริงในผลิตภัณฑ์
รศ.ดร.ธีรศักดิ์ โรจนราธา หัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวว่า “เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ซัมซุงเข้ามาเป็นส่วนสำคัญของโครงการวิจัยนี้ เพราะเราเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาคนให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องในยุคดิจิทัล เรามีการปรับปรุงวิธีวิเคราะห์ยาหลายเทคนิค และหนึ่งในนั้นคือวิธีไทเทรชัน
โดยนำเอาสมาร์ทโฟนเข้ามาช่วยในการถ่ายภาพสารละลาย วัดสัญญาณของการวิเคราะห์ในรูปค่าสี Red-Green-Blue (RGB) และการคำนวณผลการวิเคราะห์อย่างถูกต้องแม่นยำ สะดวก รวดเร็ว และประหยัด ซึ่งสุดท้ายแล้วจะได้มาซึ่งวิธีใหม่สำหรับวิเคราะห์หาปริมาณยาในเภสัชภัณฑ์โดยใช้สมาร์ทโฟน และเป็นต้นแบบในการนำไปปรับใช้กับการวิเคราะห์ยาชนิดอื่นๆ ได้ในอนาคต”


ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine


