กลุ่มบริษัทซีวี ทุ่มกว่า 5 หมื่นล้านบาท สร้าง “Synthetic Ark Phuket” โครงการมิกซ์ยูสระดับเมกะโปรเจกต์แห่งใหม่ เผยแนวคิด 15 นาทีเดินถึง ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน สวนขนาดใหญ่ ศูนย์สุขภาพ ครบจบในที่เดียว บนพื้นที่เปี่ยมศักยภาพ ใจกลางภูเก็ต 491 ไร่ พร้อมปักธงจุดหมายปลายทางแห่งความ Global
จันทร์ทิพย์ วานิช กรรมการผู้จัดการและผู้บริหาร กลุ่มบริษัทซีวี เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสระดับเมกะโปรเจกต์แห่งใหม่ของภูเก็ตภายใต้ชื่อ “Synthetic Ark Phuket” ซึ่งริเริ่มโดย อภิรักษ์ วานิช ประธานกรรมกลุ่มบริษัทซีวี สำหรับพื้นที่ตั้งเดิมเคยเป็นเหมืองแร่ดีบุกเก่าที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และเต็มไปด้วยเรื่องราวอันทรงความหมายของตระกูล ตั้งแต่ปี 2490 ก่อนจะพัฒนาเป็นสวนปาล์มน้ำมันในปี 2530 และกำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในปัจจุบัน
จันทร์ทิพย์ เผยว่าโครงการ Synthetic Ark Phuket มีมูลค่าการลงทุนกว่า 5 หมื่นล้านบาท บนพื้นที่รวม 491 ไร่ ตั้งอยู่ใจกลางเกาะภูเก็ต ย่านเกาะแก้ว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตสูง มีโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รายล้อมด้วยศูนย์ไลฟ์สไตล์ เช่น Boat Lagoon, Royal Phuket Marina และโรงเรียนนานาชาติ BIS

โดยจากราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นกว่า 100% ในช่วงสามปีที่ผ่านมา กล่าวได้ว่าย่านเกาะแก้ว เป็นย่านที่การเติบโตทางเศรษฐกิจก้าวกระโดด และน่าจับตามองมากที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต
“จังหวัดภูเก็ตได้เปลี่ยนแปลงจากการท่องเที่ยวตามฤดูกาล ไปสู่ศูนย์กลางการพักผ่อน และการใช้ชีวิตระดับโลก เราเล็งเห็นความต้องการใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น ตัวเลขสถิติชี้ให้เห็นว่า อัตราการกลับมาของนักท่องเที่ยวอยู่ในระดับสูง ที่สำคัญเรากำลังมี Digital Nomad และผู้ย้ายถิ่นฐานระดับ Ultra Luxury Network เข้ามาอยู่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ” จันทร์ทิพย์ กล่าว
จันทร์ทิพย์ เผยว่า นอกจากนี้ บริบทของภูเก็ตกำลังก้าวเข้าสู่ Global destination การพัฒนาโครงการ Synthetic Ark Phuket ได้นำแนวคิด Eco-Spectrum Living มาใช้ เพื่อการยกระดับที่อยู่อาศัย ผสมผสานการใช้ชีวิต การทำงาน ไลฟ์สไตล์ และธรรมชาติให้อย่างลงตัว
ยึด 3 เสาหลักช่วยขับเคลื่อน - ไฮไลต์ เดิน 15 นาที เข้าถึงทุกที่
สำหรับโครงการ Synthetic Ark Phuket ภายในโครงการประกอบด้วย คอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร และวิลล่าหรู อาคารสำนักงาน โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ สถานศึกษา ศูนย์สุขภาพและความงาม และศูนย์การค้าระดับโลก โดยมีกำหนดเริ่มก่อสร้างในปี 2568 โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 2575
จันทร์ทิพย์ กล่าวถึง 3 หลักการสำคัญที่ใช้ขับเคลื่อนโครงการ ได้แก่ 1.Sustainable การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน และเคารพธรรมชาติ โดยจัดสรรพื้นที่สีเขียว และทะเลสาบมากกว่า 20% ของพื้นที่โครงการทั้งหมด 2.Walkable ทุกสิ่งอยู่ในระยะเดินถึงกันภายใน 15 นาที และ 3.Self-Sufficient สร้างชุมชนที่พึ่งพาตนเองได้ครบทุกมิติของการใช้ชีวิต

โครงการ Synthetic Ark Phuket ไม่ได้มองแค่การสร้างอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้าง แต่มองไปถึงการวางรากฐานระบบนิเวศ การใช้ชีวิตแบบใหม่ใน 15 นาที หรือที่เรียกว่า “15 Minutes Neighborhood” เป้าหมายคือ การออกแบบ “Master Plan” เพื่อให้มั่นใจว่าผู้อยู่อาศัยสามารถเข้าถึงความต้องการ ตั้งแต่ที่อยู่อาศัยระดับพรีเมียม พื้นที่ทำงาน แหล่งช้อปปิ้ง สถานศึกษา จนถึงกิจกรรมสันทนาการต่างๆ ภายในรัศมี 15 นาทีของการเดิน โดยแนวคิดนี้จะช่วยลดภาระการเดินทาง ลดความเครียด และเพิ่มเวลาคุณภาพชีวิต

ออกแบบจนได้รับรางวัลระดับโลก
ผู้บริหารโครงการเปิดเผยอีกว่า ในด้านการออกแบบได้นำบริบทเดิมของพื้นที่ดังกล่าวมาใช้วางแผน เช่น การรักษาต้นปาล์ม และพันธุ์ไม้เดิมที่มีอยู่ในพื้นที่ให้มากที่สุดเพื่อให้ผู้คนสามารถเชื่อมโยงเรื่องราวกับธรรมชาติได้อย่างแท้จริง รวมถึงการใช้ประโยชน์ทะเลสาบ ที่เป็นขุมเหมืองเดิม โดยใช้เป็นพื้นที่รับน้ำ และปรับภูมิทัศน์ให้กลมกลืนกับการใช้ในแนวใหม่
นอกจากนี้ เธอยังมุ่งมั่นที่จะสร้างโอกาสครั้งนี้ ให้เป็นเมืองยั่งยืนอัจฉริยะด้วยการนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาใช้ เช่น ระบบการจัดการพลังงาน การออกแบบเมืองนี้ให้เหมือน Urban Oasis ด้วยการสร้างสวนขนาดเล็กจำนวนมาก ทางสัญจรที่เดินทางได้ด้วยจักรยาน รวมถึงการออกกำลังกายกลางแจ้ง

การออกแบบในโครงการสุดยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากบริษัทระดับโลกทั้งในและต่างประเทศ เช่น RSP Architects , P Landscape และ Stonehenge ที่เคยรับผิดชอบในโครงการใหญ่ระดับนานาชาติมาแล้ว ทั้งนี้ Synthetic Ark Phuket ได้รับรางวัลด้านการออกแบบจากเวทีระดับโลก Asia Architecture and Design Award 2025 ในสาขา Asia’s Best Master Planning ณ เกาหลีใต้ ซึ่งสะท้อนวิสัยทัศน์การออกแบบที่โดดเด่นและยังคงอยู่ในกรอบมาตรฐานระดับโลก
เจาะลึก 3 เฟส แห่ง Synthetic Ark Phuket คาดเปิดใช้ปี 71
จันทร์ทิพย์ กล่าวว่าการพัฒนาพื้นที่ Synthetic Ark Phuket แบ่งออกเป็น 3 เฟสหลัก ได้แก่
NEXUS ถือเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการ ตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพสูง ติดถนนเทพกระษัตรี (ทางหลวงหมายเลข 402) ด้วยมูลค่าการลงทุนประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท โดยมีกำหนดเปิดให้บริการบางส่วนภายในปี 2571 ประกอบด้วย 4 ส่วน คือ อาคารสำนักงาน 5 ชั้น พื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร, โรงแรมพรีเมียม มีขนาด 70 ห้อง รวมถึงการร่วมทุนกับกิจการโรงแรมเพิ่มเติมอีก 1 แห่ง, อาคาร Retail & Lifestyle เช่น ร้านค้า ร้านอาหาร และอาคาร Wellness & Aesthetic ศูนย์รวมบริการสุขภาพและความงามครบวงจร

นอกจากนี้ ในพื้นที่ของเฟสแรก ยังรวมถึงศูนย์การค้าไทยที่มีชื่อเสียงในระดับโลก ด้วยพื้นที่กว่า 40 ไร่ ซึ่งจะช่วยดึงดูดผู้คนและยกระดับย่านเกาะแก้ว
ทั้งนี้ จันทร์ทิพย์ เผยไว้ว่าหลังจากเฟสหนึ่งเสร็จสิ้นและเปิดตัวอย่างเป็นทางการ การพัฒนาเฟสสองและเฟสสามจะตามมา โดยเฟสสองจะมีพื้นที่รวม 120 ไร่ ส่วนเฟสสามจะมีพื้นที่ 160 ไร่ ประกอบด้วย คอนโดมิเนียม วิลล่า โรงเรียนนานาชาติ และบ้านจัดสรร

ภูเก็ตโตสวนทางสภาพเศรษฐกิจไทย
จันทร์ทิพย์ อธิบายภาพรวมของภูเก็ตว่าสวนทางสภาพเศรษฐกิจโดยสิ้นเชิงด้วยปริมาณความต้องการของอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ได้อยู่ขึ้นอยู่กับแค่คนไทยเท่านั้น แต่เป็น Global ไปยังกลุ่มลูกค้าชาวรัสเซีย จีน เกาหลี รวมถึงอินเดียด้วย
อย่างไรก็ตาม จันทร์ทิพย์ กล่าวทิ้งท้ายด้วยการเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ภาครัฐต้องเข้ามาร่วมแก้ไขปัญหา เพื่อให้ภูเก็ตสามารถเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ
โดยมีข้อเรียกร้องที่สำคัญคือ รัฐบาลควรตอบรับและดำเนินการตามข้อเสนอที่ทางจังหวัดภูเก็ตยื่นไปให้รวดเร็วกว่าเดิม พร้อมยกตัวอย่างประเด็นสำคัญที่ล่าช้ามาหลายปี เช่น การแก้ไขปัญหาถนนและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมักถูกเลื่อนออกไปเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
นอกจากนี้ ยังรวมถึงการจัดสรรรายได้โดยเธอระบุว่า แม้ว่าจังหวัดภูเก็ตจะสร้างเม็ดเงินมหาศาล และเป็นแหล่งรายได้สำคัญของประเทศ แต่ภาษีส่วนใหญ่กลับเข้าสู่ส่วนกลางที่กรุงเทพมหานครทั้งหมด ทำให้ปัญหาที่สั่งสมมาในภูเก็ต เช่น การจัดการขยะ และปัญหาการจราจร ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ
ภาพ Synthetic Ark Phuket
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ปีนี้อสังหาฯ ไทยหนักกว่าช่วงโควิด! ยอดโอนต่ำสุดในรอบ 7 ปี KKP ชี้ปี 69 ฟื้นตัวช้า ตลาดคอนโดและบ้านหรูยังน่าห่วง
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine

