ออริจิ้นฯ ปิดดีลขายหุ้น 51% โรงแรมอินเตอร์คอนฯ สุขุมวิท ให้บริษัทญี่ปุ่น Ci:z Technologies - Forbes Thailand

ออริจิ้นฯ ปิดดีลขายหุ้น 51% โรงแรมอินเตอร์คอนฯ สุขุมวิท ให้บริษัทญี่ปุ่น Ci:z Technologies

FORBES THAILAND / ADMIN
18 Aug 2025 | 02:24 PM
READ 441

ORI โชว์ไตรมาส 2 ปี’68 รายได้รวมทะลุ 3,270 ล้านบาท กำไร 319 ล้านบาท ล่าสุดกลุ่มโรงแรม ปิดดีลขายหุ้นโรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล แบงค็อก สุขุมวิท ทั้งหมดที่ถืออยู่ 51% ให้กับ Ci:z Technologies มีกระแสเงินสดรับสุทธิ (Extra Cash) เพิ่มขึ้นกว่า 800 ล้านบาท


    พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2568 บริษัทฯ มีรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการที่อยู่อาศัยทุกกลุ่ม (รวมโครงการ JV) ทั้งสิ้นกว่า 3,610 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการที่บริษัทฯ พัฒนา (Non-JV) 2,190 ล้านบาท และโครงการร่วมทุน (JV) 1,420 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 2568 จำนวน 319 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ)

    ทั้งนี้บริษัทฯ มียอดขาย (Presale) ครึ่งปีแรก กว่า 14,049 ล้านบาท คิดเป็น 47% ของเป้าทั้งปี แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ ORIGIN VERTICAL ประมาณ 81% จำนวน 11,434 ล้านบาท และยอดขายจากโครงการบ้านจัดสรรภายใต้แบรนด์ BRITANIA ประมาณ 19% จำนวน 2,615 ล้านบาท ซึ่งยอดขายดังกล่าวมาจากกลุ่มโครงการพร้อมอยู่ (Ready to move) ประมาณ 57% และยอดขายจากกลุ่มโครงการที่เปิดขายใหม่ (New Launch) และอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง (Ongoing) รวมกันประมาณ 43%


    โดยในไตรมาส 2 ปี 2568 บริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการ ประกอบด้วย GRAND BRITANIA กรุงเทพกรีฑา-สุวรรณภูมิ, BRITANIA บางแสน อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ ใช้กลยุทธ์ในการหาช่องทาง/กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเพิ่มขึ้น เช่น

    (1.) ตลาดต่างชาติเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ ที่ต้องการที่อยู่อาศัยในประเทศไทยเป็น second home
    (2.) Big lot สำหรับกลุ่ม Corporate / นักลงทุน
    (3.) กลุ่มนักลงทุน ที่มีความสนใจคอนโดฯเพื่อการลงทุน
    (4.) กลุ่มลูกค้าที่ต้องการคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้

    โดยในไตรมาส 2 ปี 2568 บริษัทฯ ได้โอนกรรมสิทธิ์บิ๊กล็อต โครงการ “Origin Plug & Play E22 Station” ให้กับ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA กว่า 278 ยูนิต นับเป็นความสำเร็จที่สะท้อนถึงความไว้วางใจจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง DELTA และสะท้อนถึงโอกาสของตลาดที่อยู่อาศัยติดรถไฟฟ้าใกล้แหล่งงาน ที่ตอบโจทย์ตลาดแบบ B2B

โครงการ “Origin Plug & Play E22 Station”


    นอกจากนี้บริษัทฯ สามารถปิดดีลขายพื้นที่รีเทล โซน 10th Avenue แบบเหมาชั้น มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ในโครงการ “ออริจิ้น ทองหล่อ เวิลด์” ให้ Andre Koo มหาเศรษฐีแห่งไต้หวัน เจ้าของ Chailease Group ธุรกิจลีสซิ่งยักษ์ใหญ่แห่งภูมิภาคเอเชียที่ขยายธุรกิจมายังอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย การขายบิ๊กล็อตในครั้งนี้เป็นการเสริมความแข็งแกร่งโครงการ ออริจิ้น ทองหล่อ เวิลด์ โครงการอสังหาฯ ในรูปแบบ Freehold Mixed-Use มูลค่าโครงการรวมกว่า 14,000 ล้านบาท ที่พร้อมปั้นโซนรีเทล 10th Avenue ให้เป็นศูนย์รวมร้านอาหารระดับโลกบนทำเลใจกลางทองหล่อ

โซน 10th Avenue


    ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 บริษัทมี Backlog รวมทั้งสิ้นกว่า 43,336 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง 5 ปี และมีโครงการคอนโดฯ ที่เสร็จใหม่และเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ ในช่วงไตรมาส 3/2568 อีก 4 โครงการ คือ ดิ ออริจิ้น เพลส บางนา, ดิ ออริจิ้น บางแค, ดิ ออริจิ้น พหล57, เดอะ แฮมป์ตัน สวีท ระยอง โดยมี Backlog ในส่วนของคอนโดฯ 4 โครงการ ดังกล่าวแล้วกว่า 4,000 ล้านบาท

    สำหรับธุรกิจโรงแรม ปัจจุบันมีธุรกิจโรงแรมที่เปิดดำเนินการแล้ว 9 แห่ง และอีก 3 แห่งจะเปิดใหม่ในปี 2568 นี้ โดย 2 แห่งเป็นการ Re-opening โรงแรมที่ acquire มาเมื่อปี 2566 ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวหลักอย่างภูเก็ตและเชียงใหม่ และอีก 1 แห่ง ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ กลุ่มบริษัทฯ สามารถยกระดับผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจโรงแรมได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน รวมถึงสามารถดำเนินกลยุทธ์ในการขายโรงแรมในราคาที่สอดคล้องกับศักยภาพของทรัพย์สินได้ตามแผนธุรกิจ

    ซึ่งล่าสุดกลุ่มบริษัทฯ ได้ปิดดีลขายหุ้นโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล แบงค็อก สุขุมวิท ทั้งหมดที่ถืออยู่ 51% ให้กับ Ci:z Technologies บริษัทที่ประกอบธุรกิจด้าน Nursing Home การพัฒนาซอฟต์แวร์ด้านเทคโนโลยี เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพยาบาลและสวัสดิการ และอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งธุรกิจให้คําปรึกษาและธุรกิจเสริมอื่นๆ ในเครือ Ci:z Holdings Co., Ltd. ยักษ์ใหญ่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดรับสุทธิ (Extra Cash) เพิ่มขึ้นกว่า 800 ล้านบาท และสามารถรับรู้กำไรได้ในรอบไตรมาส 3 ปี 2568

    ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ มุ่งเน้นการพัฒนาและยกระดับศักยภาพการดำเนินงานของธุรกิจโรงแรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนกลยุทธ์การบริหารพอร์ตสินทรัพย์ระยะยาวได้อย่างเหมาะสม ตามแผนธุรกิจของบริษัทร่วมทุน

    ส่วนธุรกิจคลังสินค้า (Warehouse) ปัจจุบันมี 9 โลเคชั่นในทำเลยุทธ์ศาสตร์สำคัญ ได้แก่ ทำเลรังสิต, บางนา กม.22, บางนา กม.19, บางนา กม.23, แหลมฉบัง, พานทอง และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รวมพื้นที่กว่า 410,744 ตารางเมตร ซึ่ง ณ ไตรมาส 2/2568 มีพื้นที่เปิดดำเนินการแล้วกว่า 311,850 ตารางเมตร มีอัตราการเช่า 95% ตั้งเป้าขยายเพิ่มเป็น 1 ล้านตารางเมตร ตามแผนการดำเนินธุรกิจ



ภาพ: ออริจิ้นฯ



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ส่อง '5 ทำเลทอง' ซื้อ-ขายอสังหาฯ ยิ่งติดรถไฟฟ้า BTS-MRT ยิ่งฮอต! ผู้บริโภคต้องการสูง!

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine