จากผู้ผลิตอิสระสู่กรุงเทพฯ เมืองที่ร่วมกำหนดทิศทางใหม่แห่งวงการนาฬิกาหรูโลก

    ในโลกแห่งนาฬิกาชั้นสูงที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ผู้ผลิตนาฬิกาแบรนด์อิสระได้เข้ามาเติมเต็มมิติใหม่ของความคิดสร้างสรรค์และอัตลักษณ์เฉพาะตัว ให้แก่อุตสาหกรรมที่ขึ้นชื่อในเรื่องความประณีตและประวัติศาสตร์อันยาวนาน กลุ่มผู้ผลิตอิสระเหล่านี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหมู่นักสะสมทั่วโลก สร้างสีสันและความหลากหลายให้วงการเคียงข้างแบรนด์ระดับตำนาน แม้แบรนด์เก่าแก่จะยังคงเป็นเสาหลักของวงการ แต่ผู้ผลิตอิสระกำลังนำเสนอศิลปะ ตัวตน และเรื่องราวที่สะท้อนรสนิยมของนักสะสมรุ่นใหม่อย่างชัดเจน

    การเติบโตของแบรนด์อิสระสะท้อนการเปลี่ยนผ่านของคำว่า “หรู” ซึ่งไม่ใช่เพียงเครื่องหมายแสดงสถานะอีกต่อไป แต่เป็นการยกย่องในความจริงแท้ ความคิดสร้างสรรค์ และงานฝีมือ นาฬิกาแต่ละเรือนเปรียบดั่งงานศิลปะที่บอกเล่าเรื่องราวส่วนตัวของผู้สวมใส่ ผสานนวัตกรรมเข้ากับขนบดั้งเดิม และถ่ายทอดจิตวิญญาณของนักสะสมยุคใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

​

​การพลิกโฉมวงการโดยผู้ผลิตนาฬิกาแบรนด์อิสระ

    แม้การผลิตนาฬิกาโดยแบรนด์อิสระจะไม่ใช่ปรากฏการณ์ใหม่ แต่วันนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ คุณออง บัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเซียร์ ไฟน์ วอทช์ จำกัด ผู้นำด้านนาฬิกาหรูรายเก่าแก่ที่สุดของสิงคโปร์ ชี้ให้เห็นว่า ผู้ผลิตอิสระกลุ่มแรกเริ่มปรากฏตัวตั้งแต่ทศวรรษ 1990 โดยซินเซียร์ กรุ๊ปเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกที่นำแบรนด์อย่าง Franck Muller เข้าสู่ตลาดภูมิภาคในปี 1992 และตามด้วย F.P. Journe ในปี 1999 สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันคือวิวัฒนาการสำคัญ ที่ทั้งนักสะสมและวงการนาฬิกาทั่วโลกหันมารับรู้และให้คุณค่าต่อผลงานของเหล่าผู้สร้างสรรค์อิสระเหล่านี้

    ปัจจัยสำคัญเบื้องหลังความนิยมของนาฬิกาแบรนด์อิสระมาจากความต้องการของนักสะสมที่ปรารถนาจะแสดงตัวตนผ่านเรือนเวลา “สิ่งที่เราเห็นในวันนี้คือวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ และเปิดโอกาสให้นักสะสมได้เลือกสรรนาฬิกาที่สะท้อนรสนิยมและความเป็นตัวเองในระดับที่ลึกขึ้น” คุณออง บัน กล่าว นาฬิกาจากผู้ผลิตอิสระจึงไม่ใช่เพียงเครื่องบอกเวลา แต่คืองานศิลปะที่แสดงถึงฝีมือ วิสัยทัศน์ และความแตกต่าง ซึ่งสื่อสารคุณค่าที่มากไปกว่าโลโก้ที่คุ้นตา

​กรุงเทพฯ จุดหมายใหม่แห่งโลกนาฬิกาหรู

    ในอดีต การซื้อนาฬิกาหรูอาจหมายถึงการเดินทางไปยังเจนีวา สิงคโปร์ หรือฮ่องกง แต่ภาพเหล่านั้นกำลังเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนในปัจจุบัน กรุงเทพฯ กำลังก้าวขึ้นเป็นจุดหมายสำคัญสำหรับนักสะสมและผู้หลงใหลในเรือนเวลาจากทั่วโลก

    คุณออง บัน ชี้ให้เห็นว่าชื่อเสียงของกรุงเทพฯ ในฐานะศูนย์กลางนาฬิกาหรู เกิดจากความร่วมมือของทั้งแบรนด์และผู้ค้าปลีก ในการส่งเสริมความเข้าใจและคุณค่าของศิลปะการผลิตนาฬิกา “การจัดกิจกรรมและนิทรรศการต่าง ๆ ทำให้กรุงเทพฯ สร้างกลุ่มผู้ชื่นชอบที่มีรสนิยมลุ่มลึกและเข้าใจคุณค่าของศิลปะแห่งเรือนเวลาอย่างแท้จริง  พร้อมก้าวสู่เวทีโลกได้อย่างสง่างาม” เขากล่าว

​

ผู้ค้าปลีกนาฬิกาหรูอย่าง SHH Pendulum ได้ยกระดับประสบการณ์นี้ขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการสร้างพื้นที่เสมือน “สำนัก” สำหรับผู้ผลิตนาฬิกาอิสระ สถานที่ที่นักสะสมสามารถพบปะ แลกเปลี่ยนความคิด และพูดคุยกับช่างทำนาฬิกาและผู้บริหารแบรนด์โดยตรง ผ่านเวิร์กช็อป งานแสดงสินค้า และกิจกรรมพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ประสบการณ์เหล่านี้ช่วยสร้างความผูกพันส่วนตัวระหว่างนักสะสมกับแบรนด์ นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กรุงเทพฯ โดดเด่นและกลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักสะสมทั่วโลก

พัฒนาการของนักสะสมชาวไทย จากสัญลักษณ์สถานะ สู่การแสดงออกทางศิลปะ

    ความคาดหวังของนักสะสมชาวไทยต่อเรือนเวลาหรูได้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา คุณออง บัน สังเกตเห็นว่าผู้บริโภคชาวไทยในปัจจุบันให้คุณค่ากับนาฬิกาไม่เพียงในฐานะเครื่องบอกเวลา แต่ในฐานะงานศิลปะที่สะท้อนทั้งฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ “นักสะสมยุคใหม่ให้ความสำคัญกับความคิดสร้างสรรค์ ความประณีตเฉพาะตัว และความผูกพันที่นาฬิกาสามารถถ่ายทอดได้”

    การเปลี่ยนแปลงนี้ได้ปูทางให้ผู้ผลิตนาฬิกาแบรนด์อิสระเติบโตอย่างมั่นคง ความเป็นเอกลักษณ์และนวัตกรรมของผู้ผลิตอิสระสอดคล้องกับความต้องการของนักสะสมรุ่นใหม่ในไทยที่มองหาความเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร และสนใจเรื่องราว ศิลปะ และคุณค่าของงานฝีมืออย่างแท้จริง ผลที่ได้คือ ภูมิทัศน์การสะสมนาฬิกาของไทยที่หลากหลายและเต็มไปด้วยคุณค่าอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

บทบาทของเพนดูลัมในการเชื่อมโยงสู่โลกของผู้ผลิตนาฬิกาแบรนด์อิสระ

    เพนดูลัม ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกาชั้นนำ ไม่ได้จำกัดบทบาทเพียงการค้าปลีก แต่ยังทำหน้าที่คัดสรรและสร้างแบรนด์ต่าง ๆ เพื่อเชื่อมโยงศิลปะของผู้ผลิตอิสระสู่กลุ่มนักสะสมชาวไทยผู้มีรสนิยมลึกซึ้ง

    การคัดสรรแบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอของเพนดูลัมเป็นไปอย่างพิถีพิถัน คุณออง บัน เล่าว่า ความร่วมมือในแต่ละครั้งไม่ได้ประเมินเพียงเรื่องประวัติศาสตร์และความมั่นคงทางการเงิน แต่ยังคำนึงถึงมาตรฐานสูงสุดของบริการหลังการขายและความมุ่งมั่นในการดูแลลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนาฬิกาที่มีความซับซ้อนสูง

    เพนดูลัมให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่โดดเด่นด้วยฝีมือและนวัตกรรมอันล้ำหน้า เพื่อให้แต่ละแบรนด์ผสมผสานอย่างลงตัวกับพอร์ตโฟลิโอ ส่งผลให้สามารถนำเสนอแบรนด์ชั้นนำ เช่น

• Bovet ที่เลื่องชื่อด้านศิลปะการตกแต่งและความเชี่ยวชาญในการวาดภาพจิ๋ว
• Sartory Billard แบรนด์ที่เน้นงานสั่งทำพิเศษและการสร้างสรรค์งานศิลปะผ่านวัสดุแปลกใหม่
• Lederer ผู้เชี่ยวชาญร่วมสมัยด้านกลไกเอสเคปเม้นท์ ที่ดึงดูดนักสะสมเข้าสู่โลกแห่งกลไกอันน่าหลงใหล

​

    นอกจากการคัดสรรแบรนด์แล้ว เพนดูลัมยังสร้างโอกาสในการเชื่อมสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งผ่านการเยี่ยมชมโรงงานแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ออกแบบเฉพาะสำหรับนักสะสมชาวไทย โดยเปิดโอกาสให้ได้สัมผัสศิลปะและความเชี่ยวชาญอันประณีตของแบรนด์สวิสอิสระอย่างใกล้ชิด

    ประสบการณ์เหล่านี้สะท้อนจิตวิญญาณของผู้ผลิตนาฬิกาแบรนด์อิสระ พร้อมสร้างสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างนักสะสมไทยและผู้สร้างสรรค์ที่อยู่เบื้องหลังแต่ละเรือนเวลา

มุมมองระดับนานาชาติและทิศทางในอนาคต

    “หลายแบรนด์แสดงความสนใจเข้ามามีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง” เขากล่าว พร้อมเล่าถึงการเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 30 งานต่อปี สิ่งนี้สะท้อนทั้งความกระตือรือร้นและความเข้าใจอันลึกซึ้งในรสนิยมของนักสะสมไทย ตลอดจนความตั้งใจจริงของผู้ผลิตนาฬิกาแบรนด์อิสระในการสร้างสายสัมพันธ์อันมีคุณค่า

    เพื่อวางตำแหน่งกรุงเทพฯ และประเทศไทยให้เป็นจุดหมายสำคัญระดับโลกด้านนาฬิกาชั้นสูง คุณออง บัน แนะนำให้สร้างโอกาสแบบ immersive สำหรับทั้งสาธารณชนและนักสะสม ในการมีส่วนร่วมกับแบรนด์โดยตรง เขายังเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือกับแบรนด์ระดับตำนาน ในการสร้างลิมิเต็ดเอดิชันสำหรับไทยโดยเฉพาะ ดังเช่น ที่ SHH เคยนำเสนอ กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยสะท้อนความเข้าใจรสนิยมและความประณีตของนักสะสมไทย พร้อมดึงความสนใจจากนานาชาติมายังตลาดไทย

เปิดบทใหม่แห่งอนาคต

    นับตั้งแต่ปี 1992 เพนดูลัมยืนอยู่แถวหน้าของการส่งเสริมนาฬิกาชั้นสูงในภูมิภาค และในอนาคต ภารกิจของเพนดูลัมยังคงมุ่งเน้นที่การคัดสรรนาฬิกาชั้นเยี่ยม พร้อมสร้างประสบการณ์ที่เสริมความเข้าใจและความชื่นชมในนวัตกรรมและงานฝีมือ

    การเติบโตของผู้ผลิตนาฬิกาแบรนด์อิสระควบคู่ไปกับการก้าวขึ้นมาของกรุงเทพฯ ในฐานะศูนย์กลางใหม่แห่งความหรูหรา คือนิยามแห่งแนวโน้มที่เสริมกำลังซึ่งกันและกัน นักสะสมไทยผู้มีความรู้และเปิดรับสิ่งใหม่ ยังคงดึงดูดความสนใจจากแบรนด์ระดับโลก ขณะที่ผู้ค้าปลีกอย่างเพนดูลัมก็มีบทบาทสำคัญในการสร้างการรับรู้แบรนด์ ถ่ายทอดความเชี่ยวชาญ และยกระดับความเข้าใจในศิลปะของการผลิตนาฬิกาชั้นสูง

    อนาคตของอุตสาหกรรมนาฬิกาหรูกำลังถูกกำหนดด้วยความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมของผู้ผลิตนาฬิกา ควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างมีพลังของวงการนาฬิกาในกรุงเทพฯ

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ https://pendulum.co.th/th/​