เกาะสมุยไม่แผ่ว! C9 Hotelworks เผยแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แม้ท่องเที่ยวไทยผันผวน เนื่องจากความสะดวกในการเดินทาง ทางอากาศและเรือสำราญ รวมถึงเทรนด์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หนุนจำนวนนักท่องเที่ยวโตต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 ถึง 9%
ตลาดโรงแรมและการท่องเที่ยวของเกาะสมุยเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 ขับเคลื่อนด้วยจำนวนผู้โดยสารทางอากาศและเรือสำราญที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากตัวชี้วัดด้านผลประกอบการโรงแรมที่คงที่ และนักเดินทางจากยุโรปที่เดินทางเข้ามายังเกาะสมุย
ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายน 2568 สนามบินนานาชาติสมุยมีจำนวนผู้โดยสารขาเข้ารวมทั้งสิ้น 1,127,832 คน เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 โดยตัวเลขนี้ยังต่อเนื่องจากแนวโน้มเชิงบวกของปี 2567 ซึ่งมีจำนวนผู้โดยสารทางอากาศรวมตลอดปีสูงถึง 2.78 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 21% และมากกว่าระดับก่อนการเกิดโรคระบาดในปี 2562 ตามรายงาน Samui Hotel & Tourism Market Review 2568 ล่าสุดจาก C9 Hotelworks
ด้านการท่องเที่ยวทางเรือสำราญก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโตโดยรวม โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 นี้ เกาะสมุยได้ต้อนรับเรือสำราญจำนวน 35 ลำ และผู้โดยสารรวม 65,792 คน เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบปีต่อปี สำหรับปี 2567 ที่ผ่านมา สมุยรองรับเรือสำราญจำนวน 50 ลำ ซึ่งเกือบเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปีก่อนหน้า

Bill Barnett กรรมการผู้จัดการของ C9 Hotelworks กล่าวว่า “เกาะสมุยกำลังกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวสายสุขภาพมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่กำลังเปลี่ยนโฉมภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวบนเกาะ รีสอร์ตอย่าง Kamalaya ยังคงเป็นผู้นำในการเจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ซึ่งมีลักษณะเด่นคือมีนักเดินทาง เดินทางตลอดทั้งปีและมีระยะเวลาเข้าพักเฉลี่ยที่ยาวนานกว่า นักท่องเที่ยวสายสุขภาพกำลังเป็นกระแสที่เติบโตทั่วโลก ซึ่งประเทศไทยโดยเฉพาะเกาะสมุย กำลังได้รับประโยชน์อย่างชัดเจนจากแนวโน้มนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและมีมูลค่าสูงในภาคธุรกิจการบริการ”
ภาคธุรกิจโรงแรมยังคงแสดงศักยภาพที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราการเข้าพักพุ่งสูงสุดในเดือนมกราคม 2568 เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าจะมีการชะลอตัวเล็กน้อยในไตรมาสแรกซึ่งตรงกับช่วงตรุษจีน แต่อัตราการเข้าพักตลอดปี 2567 ยังคงเพิ่มขึ้นถึง 12% เมื่อเทียบกับปี 2566 ค่าเฉลี่ยรายได้ต่อห้องพักต่อวัน (Average Daily Rate – ADR) ยังคงขยับสูงขึ้น โดยในปี 2567 เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบรายปี และในเดือนเมษายน 2568 มีอัตราการเติบโตโดดเด่นถึง 21% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

Jesper Palmqvist ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ STR กล่าวว่า “ผลประกอบการของโรงแรมในเกาะสมุยช่วงต้นปี 2568 สะท้อนถึงแนวโน้มที่มั่นคงและน่าพอใจ เราเห็นการเติบโตที่มีนัยสำคัญทั้งในด้านอัตราการเข้าพักและค่าเฉลี่ยรายได้ต่อห้องพักต่อวัน ซึ่งบ่งชี้ถึงความต้องการที่ต่อเนื่องจากตลาดและสภาพแวดล้อมด้านราคาที่เป็นบวก ตลาดโรงแรมไม่ได้แค่ฟื้นตัวเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงเชิงโครงสร้างที่เริ่มเกิดขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักคือการเติบโตของโรงแรม และการเชื่อมต่อกับตลาดต่างประเทศที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย”
ยุโรปยังคงเป็นภูมิภาคต้นทางหลักของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยคิดเป็นสัดส่วนถึง 56% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดในปี 2567 นักเดินทางจากเยอรมนี สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศสมีบทบาทสำคัญในกลุ่มนี้ โดยการเติบโตของตลาดยุโรปได้รับแรงหนุนจากข้อตกลงโค้ดแชร์ (Codeshare agreement) ที่ขยายตัวระหว่างสายการบินบางกอกแอร์เวย์สและสายการบินระหว่างประเทศกว่า 30 สาย
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มการเดินทางทางอากาศคือบริการของสายการบิน Scoot (ภายใต้เครือ Singapore Airlines) ซึ่งนอกจากจะเชื่อมต่อผู้โดยสารในภูมิภาคแล้ว ยังเปิดโอกาสให้นักเดินทางระยะไกลสามารถต่อเครื่องได้สะดวกผ่าน SQ’s Lion City hub ฮับหลักของ Singapore Airlines ที่สิงคโปร์
Remko Kroesen ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคของบันยันทรี สมุย และบันยันทรี กระบี่ กล่าวว่า “ตลาดการเดินทางระยะไกลทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในปีนี้ ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่เรามุ่งเน้น และเราดีใจมากที่เห็นความพยายามของเรา ส่งผลลัพธ์ที่ชัดเจน”
แนวโน้มการพัฒนาโรงแรมในเกาะสมุยสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ยังคงต่อเนื่อง ปัจจุบัน เกาะสมุยมีผู้ประกอบการที่พักจดทะเบียนทั้งหมด 634 แห่ง รวมจำนวนห้องพักทั้งสิ้น 24,188 ห้อง แม้ว่าอุปทานโดยรวมจะคงที่ โดยมีอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสม (CAGR) ในช่วง 5 ปีอยู่ที่ 1% แต่ก็มีโรงแรมแบรนด์ระดับสากลหลายแห่งเตรียมเปิดให้บริการในอนาคตอันใกล้ ได้แก่ Nivata Koh Samui (ภายใต้แบรนด์ Tapestry Collection by Hilton ซึ่งมีกำหนดเปิดไตรมาส 4 ปี 2568) และ SO/ by Sofitel รวมถึง Fivelements Samui ซึ่งคาดว่าจะเปิดในปี 2569
Thansita Sirapastuwanon ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด โรงแรม Centara Reserve Samui กล่าวว่า “วิกฤตการแพร่ระบาดทำให้เราต้องนิยามคำว่าหรูหราใหม่ ผ่านมุมมองด้านความปลอดภัย ความยั่งยืน และนวัตกรรม เมื่อการเดินทางกลับมาฟื้นตัว เราเห็นความต้องการจากทั้งตลาดดั้งเดิมและตลาดเกิดใหม่ที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้เกาะสมุยในฐานะจุดหมายปลายทางระดับชั้นนำและหรูหรา”
เมื่อกล่าวถึงแนวโน้มตลอดช่วงที่เหลือของปี Bill Barnett จาก C9 Hotelworks แสดงความเชื่อมั่นเชิงบวกว่า “หากไม่มีปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบ ความต้องการเดินทางที่ยังคงแข็งแกร่งจากทั้งตลาดยุโรปและเอเชีย ผนวกกับจำนวนโรงแรมใหม่ที่ยังมีจำกัด และการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้จำนวนนักท่องเที่ยว อัตราการเข้าพัก และราคาห้องพักในเกาะสมุยเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้”
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ‘พัทยา’ ยังฮอต! อันดับ 1 จุดหมายยอดนิยม 5 เดือนแรกปี 68 สำหรับการท่องเที่ยวระยะสั้น
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine