อินไซต์ Trip.Best ของ Trip.Com ปีนี้คนไทยเลิฟ ‘เที่ยวจีน’ มาก! ‘เซี่ยงไฮ้’ จุดหมายปลายทางอันดับ 1 ส่วน ‘ฉงชิ่ง’ มาแรง เติบโตเร็วสุด

อินไซต์ Trip.Best ของ Trip.Com ปีนี้คนไทยเลิฟ ‘เที่ยวจีน’ มาก! ‘เซี่ยงไฮ้’ จุดหมายปลายทางอันดับ 1 ส่วน ‘ฉงชิ่ง’ มาแรง เติบโตเร็วสุด

นับตั้งแต่นโยบายฟรีวีซ่าระหว่างประเทศไทยและจีน ก็ดูเหมือนว่ากระแส ‘เที่ยวจีน’ ของคนไทยจะคึกคักอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดข้อมูลจาก Trip.Best ของ Trip.com ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก ระบุว่าคนไทยสนใจเที่ยว ‘เมืองรอง’ ของจีนมากขึ้น โดยแม้ว่าเซี่ยงไฮ้จะเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวชาวไทยในปีนี้ แต่ ‘ฉงชิ่ง’ กลับเป็นเมืองที่มีการเติบโตเร็วที่สุด


    Edmund Ong ผู้อำนวยการอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และผู้จัดการทั่วไป Trip.com ประเทศสิงคโปร์ กล่าวในงาน ในงาน Trip.Best Roadshow: Southeast Asia Travel Trends Unpacked ซึ่งจัดขึ้นว่า ปัจจุบัน Trip.com เรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มท่องเที่ยวครบวงจร ที่ให้บริการหลากหลายในสิ่งที่นักเดินทางต้องการสำหรับการเดินทางแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็น การจองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน รถไฟ เช่ารถยนต์ สถานที่ท่องเที่ยวและทัวร์

    “Trip.com Group มุ่งให้บริการระดับพรีเมียมแก่ลูกค้า พร้อมศูนย์บริการลูกค้าทั่วโลก มี Customer Support 24 ชั่วโมง ให้บริการหลายภาษา นอกจากนี้แพลตฟอร์มของเรายังให้บริการถึง 24 ภาษา ครอบคลุม 39 ประเทศและภูมิภาค และรองรับ 35 สกุลเงินท้องถิ่น ทั้งยังมีข้อมูลที่พักกว่า 1.5 ล้านรายการ ครอบคลุมสายการบินกว่า 640 สายการบิน และสนามบินกว่า 3,400 แห่งในกว่า 220 ประเทศและภูมิภาค”

Edmund Ong


    Edmund ยังกล่าวอีกว่า “นักท่องเที่ยวไทยกำลังให้คำนิยามใหม่สำหรับการท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากการเที่ยวชมสถานที่แบบเดิมๆ มาสู่การดื่มด่ำและมีส่วนร่วมกับวัฒนธรรมมากขึ้น โดยข้อมูลจาก Trip.Best พบว่า ผู้ใช้งานชาวไทยใช้เวลาเฉลี่ย 6 วัน ในการค้นคว้าข้อมูลก่อนตัดสินใจจองการเดินทาง สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการประสบการณ์ที่วางแผนมาอย่างดี เมื่อเทียบกับผู้ใช้งานจากประเทศอื่นๆ”

    ทั้งนี้ จากข้อมูลของ Trip.Best ในปี 2568 พบว่า ‘ฉงชิ่ง’ กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่เติบโตเร็วที่สุดในหมู่นักท่องเที่ยวไทย โดยยอดการเข้าชมบน Trip.Best เพิ่มขึ้นถึง 395% เมื่อเทียบกับปีก่อน และยอดจองพุ่งสูงถึง 828%

    เนื่องจากเมืองบนภูเขาแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องอาหารรสจัดคล้ายอาหารไทย พร้อมสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ จึงกลายเป็นปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวไทยที่กำลังมองหาประสบการณ์อย่างแท้จริง นอกเหนือจากจุดหมายปลายทางแบบดั้งเดิม

    ขณะที่ข้อค้นพบสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวไทยในปี 2568 มีดังต่อไปนี้

    • เสน่ห์ของจีนที่เข้มข้นขึ้น: เซี่ยงไฮ้ครองอันดับ 1 จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวไทย ด้วยการเติบโต 334% YoY ตามด้วยฮ่องกง (เติบโต 52%) โตเกียว (เติบโต 71%) และโอซาก้า (เติบโต 132%)

    • ประสบการณ์สำคัญกว่าการชมสถานที่: การค้นหา “กิจกรรม” เติบโต 808% YoY โดย "สถานที่หลบร้อน (Cool Escape Attractions)" พุ่งสูงถึง 1,941%

    • การท่องเที่ยวในประเทศเติบโตต่อเนื่อง: การท่องเที่ยวภายในประเทศของไทยเติบโต 25% YoY โดยมีกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต เป็นเมืองยอดนิยม

    • ไทยเป็นจุดหมายปลายทางดึงดูดคนญี่ปุ่น: ข้อมูลจาก Trip.Best ยังพบอีกว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนไทยมากสุดในปีนี้ ได้แก่ ญี่ปุ่น รองลงมาคือ ฮ่องกง, จีน, ไต้หวัน, มาเลเซีย, เกาหลีใต้, สิงคโปร์, เวียดนาม, กัมพูชา และอินโดนีเซีย

    ท่ามกลางสถานการณ์การท่องเที่ยวไทยที่ปีนี้ไม่ดีเท่าปีที่แล้วในแง่ของจำนวนนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงซึ่งเป็นผลจากกระแสข่าวต่างๆ ที่กระทบความเชื่อมั่น แต่ Edmund มองว่าประเทศไทยยังมีโอกาส เพราะถ้าเทียบใน 6 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ Trip.com เข้าไปดำเนินตลาด ไทยยังคงเป็นประเทศที่มีผลประกอบการดีที่สุด

    “ข้อมูลจาก Trip.Best ยังแสดงให้เห็นว่าไทยเป็น trend setter ไม่ใช่ follower เราเชื่อมั่นในไทย และมองว่าไทยใกล้เป็นฮับของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของจริง” Edmund กล่าว ก่อนจะเสริมว่าสิ่งที่ประเทศไทยอาจต้องทำเพิ่มเติมคือการโปรโมทการท่องเที่ยวในจังหวัดเมืองรองมากขึ้น เพื่อเปิดเส้นทางใหม่ๆ เช่น กระบี่ หาดใหญ่ หัวหิน เป็นต้น


KOL มีผล ช่วยกำหนดการตัดสินใจท่องเที่ยวของคนไทย

    สอดคล้องกับระบบนิเวศดิจิทัลของไทยที่ผู้บริโภคกว่า 95% ค้นหาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ผ่านคำแนะนำของอินฟลูเอนเซอร์ โดยจากข้อมูล Trip.Best พบว่า:

    • 47% ของผู้ใช้งานแบบครอบครัวเลือกติดตามอินฟลูเอนเซอร์ท่องเที่ยวที่แชร์ประสบการณ์จริง

    • 45% ของนักท่องเที่ยวที่สำรวจในปี 2568 ค้นหาไอเดียทริปล่าสุดจากโพสต์โซเชียลมีเดียของ KOL ไทย เพิ่มขึ้นจาก 28% ในปี 2567

    • ยอดสั่งซื้อโดยตรงผ่านรหัสโปรโมชั่นของ KOL เพิ่มขึ้นสูงถึง 120%


คนไทยถูกใจ Trip.Best เพิ่มขึ้น

    สำหรับ Trip.Best เป็นแพลตฟอร์มรายการจัดอันดับบน Trip.com ที่คัดสรรโรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร และจุดหมายปลายทางชั้นนำทั่วโลก โดยใช้อัลกอริทึม AI และการคัดสรรโดยผู้เชี่ยวชาญ ด้วยข้อมูลจากรีวิวและการจองของนักท่องเที่ยวหลายล้านรายการ

    โดย Trip.Best นำเสนอรายการที่น่าเชื่อถือ ช่วยให้นักท่องเที่ยวค้นพบว่าจะไปไหนและสัมผัสประสบการณ์อะไรต่อไป แพลตฟอร์มมีการจัดอันดับที่ครอบคลุมกว่า 14,000 เมืองทั่วโลก และครอบคลุมหมวดหมู่ตั้งแต่โรงแรมหรูที่ดีที่สุด ร้านอาหารระดับไฟน์ไดนิ่งที่ดีที่สุด ไปจนถึงสถานที่ท่องเที่ยวเหมาะสำหรับครอบครัวที่ดีที่สุด และกิจกรรมตามฤดูกาล

    ซึ่งแต่ละรายการได้รับการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอตามเกณฑ์ต่างๆ รวมถึงชื่อเสียง คุณภาพ ความนิยม ธีม และคุณลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อให้มั่นใจว่านักท่องเที่ยวจะค้นพบประสบการณ์ชั้นนำที่ตรงกับความสนใจและสไตล์การท่องเที่ยวของตนได้อย่างมั่นใจ

    ทั้งนี้ แพลตฟอร์ม Trip.Best ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมในไทย โดยคะแนนความพึงพอใจสุทธิ (NPS) โดยรวมเพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับปีก่อน ผู้ใช้งานชาวไทยให้ความสำคัญต่อความน่าเชื่อถือและการคัดสรรอย่างมืออาชีพของแพลตฟอร์มมากเป็นพิเศษ

Sunny Sun


    “นักท่องเที่ยวไทยแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมการวางแผนท่องเที่ยวที่ละเอียดและซับซ้อน โดยให้ความสำคัญกับประสบการณ์ที่สมดุลระหว่างการผจญภัยและความสะดวกสบาย” Sunny Sun รองประธาน Trip.com Group กล่าว “ระบบแนะนำด้วย AI และข้อมูลเรียลไทม์ของ Trip.Best ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของนักเดินทางยุคใหม่โดยเฉพาะ”



ภาพ: Trip.com และ Jeslyn Xie on Unsplash



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : OTA ครบไลน์ “Trip.com” เสริม AI ผู้ช่วยนักเดินทาง

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine