รักในที่สิ่งที่ทำ และทำในสิ่งที่รัก คือบันไดสู่ความสำเร็จ แต่ในชีวิตจริงหลายคนไม่ได้เริ่มต้นจากสิ่งที่รัก แต่เริ่มรักในสิ่งที่ทำเพราะเห็นโอกาสและอนาคต เช่นเดียวกับ “มิ้งค์ สระบุรี” นักสนุกเกอร์หญิงไทยมือ 1 ของโลก
เกมกีฬาสนุกเกอร์มีคนชื่นชอบเฉพาะกลุ่ม ไม่แพร่หลายระดับแมสเหมือนฟุตบอลหรือมวย และไม่ได้มีโพสิชั่นระดับหรูอย่างกีฬากอล์ฟ แต่สนุกเกอร์ก็เป็นอีกกีฬาที่มีแฟนคลับ มีการแข่งขันระดับโลก โดยนักกีฬาส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย นักกีฬาหญิงมีไม่มากนัก แต่ก็น่าภูมิใจที่นักสนุกเกอร์หญิงชาวไทยรั้งตำแหน่งมือ 1 ของโลกมาได้ โดยคว้ารางวัลชนะเลิศระดับโลกมาประดับวงการกีฬาไทยเมื่อปี 2565 ด้วยฝีมือของนักกีฬาหญิงเจน Z “มิ้งค์ สระบุรี” หรือ ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย นักสนุกเกอร์หญิงชาวไทยที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก เป็นนักกีฬาอายุน้อยจากสระบุรี คว้าแชมป์โลกสนุกเกอร์หญิงได้ในวัย 23 ปี
เด็กน้อยจากโต๊ะสนุกเกอร์
ย้อนกลับไปวัยเด็ก “มิ้งค์” เป็นบุตรสาวของพนักงานการเงินที่โต๊ะสนุกเกอร์แห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี ทุกวันหลังเลิกเรียนเธอต้องมารอมารดาซึ่งทำงานเป็นแคชเชียร์ที่โต๊ะสนุกเกอร์แห่งนี้ ทำให้คุ้นเคยกับกีฬาสนุกเกอร์ ได้เห็นและสัมผัสการเล่น เมื่อเจ้าของสถานที่ถามเธอว่า อยากลองเล่นดูไหม ด้วยความเป็นเด็กจึงลองเล่นตามคำชวนของผู้ใหญ่ ทำให้เธอคุ้นกับไม้คิวสนุกเกอร์ตั้งแต่ยังอยู่ชั้นประถมศึกษา
“เริ่มเล่นตั้งแต่อายุ 10 ขวบ อันที่จริงก็ไม่ได้สนใจขนาดนั้น แต่ไปที่โต๊ะสนุกเกอร์ทุกวัน เห็นทุกวันก็ลองเล่นดู แล้วพอเล่นไปเรื่อยๆ คุณพ่อก็พาไปแข่ง เริ่มรู้สึกสนุกขึ้นแต่ก็ยังไม่ได้ชอบมาก” มิ้งค์ย้อนอดีตความคิดวัยเด็กให้ฟังว่าจริงๆ เธอไม่ได้มีความฝันเรื่องการเป็นนักกีฬาสนุกเกอร์เลย แค่ลองเล่นดูเพราะมีเวลาว่างและมีโอกาสเท่านั้น แต่พอได้ลองเล่นแล้วก็รู้สึกว่าสนุก จึงเล่นต่อเนื่องมาเรื่อยๆ กระทั่งมีโอกาสได้เข้าแข่งขัน
บิดาของเธอคือคนเปิดเส้นทางอาชีพนักกีฬาสนุกเกอร์ให้มิ้งค์ เขาพาเธอไปแข่งขันเวทีแรกรายการเล็กๆ หลังจากเล่นมาได้ประมาณ 1 ปี เมื่อเห็นแววความเป็นไปได้บิดาของเธอจึงวางแผนจัดตารางฝึกซ้อมและโปรแกรมการแข่งขันให้มิ้งค์อย่างต่อเนื่อง
“เป็นคุณพ่อเลยค่ะที่พาเข้าวงการ พาไปแข่งและกำหนดตารางการฝึกซ้อม คอยเตือนให้ต้องฝึก และคอยพาไปแข่งขันรายการต่างๆ เรียกว่าเป็นผู้จัดการก็ว่าได้” มิ้งค์เล่าประสบการณ์เริ่มต้นบนเส้นทางนักสนุกเกอร์ซึ่งเธอใช้เวลามากกว่า 15 ปีบนถนนสายนี้
เหรียญทองเยาวชนแห่งชาติ
เล่นและแข่งขันมาเรื่อยๆ ได้เข้ารายการแข่งขันที่ใหญ่ขึ้นก็ทำให้เห็นโอกาสและเริ่มสนุกกับมัน “พอมีการแข่งขัน มีเงินรางวัล และมีเพื่อนในแวดวงกีฬาด้วยกัน มิ้งค์ก็รู้สึกสนุกกับมันมากขึ้น และเริ่มรักกีฬานี้ขึ้นมา ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไป” เธอเล่าว่า รายการแข่งขันที่ดูจริงจังเป็นทางการที่แรกน่าจะเป็นการแข่งขันสนุกเกอร์เยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทย รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ตอนที่เข้าแข่งขันมิ้งค์อายุราว 11-12 ปี รายการที่สร้างชื่อก็คือ สนุกเกอร์เยาวชนแห่งชาติที่เธอได้เหรียญทอง มิ้งค์เล่าว่า ตอนนั้นแข่งเป็นทีม 3 คน ร่วมกับนักกีฬาผู้ชาย
“พอได้เงินรางวัล ได้รู้สึกว่ามันเป็นกีฬาก็รู้สึกว่ามันสนุก หลังจากนั้นก็มีอาจารย์หลายคนต้องการปั้นให้เป็นนักกีฬาเต็มตัว”
จากจุดเริ่มต้นสมัยเรียนชั้นประถม 5-6 มิ้งค์เริ่มเล่นสนุกเกอร์ตามคำชวนของผู้ใหญ่ หลังจากนั้นก็เริ่มแข่งขัน และต่อมาช่วงที่เรียนจบมัธยมต้นเธอสอบเข้าโรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่งไม่ผ่าน เป็นจุดพลิกผันสู่วงการกีฬาเต็มตัว “คุณพ่อเสนอว่าลองพักเรียนสักปีมาเล่นสนุกเกอร์เต็มตัวดูไหมว่าจะไปได้แค่ไหน ถ้าไม่คืบหน้าหรือไม่ดีขึ้นก็กลับมาเรียนต่อ” นั่นคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้มิ้งค์มีเวลาให้การฝึกซ้อมและเดินสายแข่งขันได้มากขึ้น ในช่วงที่พักการเรียนกีฬาก็ดีขึ้น แต่การเรียนเธอก็ไม่ได้ทิ้ง เพียงแต่ให้เวลาในการฝึกซ้อมและแข่งขันอย่างเต็มที่มากขึ้น
ระหว่างเส้นทางการแข่งขันมิ้งค์ยังคงให้ความสำคัญกับการเรียนควบคู่กันไป เธอเดินสายแข่งขันหลายรายการต่อปี แต่การเรียนก็ยังคงเดินหน้าจนสำเร็จระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต ในขณะที่เส้นทางของสนุกเกอร์มิ้งค์ก็เดินมาไกลถึงระดับนักกีฬาอาชีพ และมีโอกาสได้แข่งขันรายการใหญ่ๆ หลายเวที การแข่งขันเข้มข้นขึ้น ในปี 2016 มิ้งค์ได้รางวัลเหรียญทองเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 32 ประเภททีม อายุ 16 ปี และในปี 2017 เธอได้รางวัลเหรียญทองเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 32 ตอนนั้นเธออายุ 18 ปี
แชมป์สนุกเกอร์หญิงประเทศไทย
หลังจากนั้นมิ้งค์ก็เดินสายแข่งขันระดับชาติและระดับนานาชาติเรื่อยมา ในปี 2019 เธอคว้าแชมป์นักสนุกเกอร์หญิงแห่งประเทศไทยได้ตอนอายุ 20 ปี และเดินสายแข่งขันมาเรื่อยๆ จากระดับประเทศก้าวสู่ระดับโลก แข่งขันหลากหลายรายการ ได้แชมป์มาหลายรายการ เช่น IBSF World Women’s Under-21 ในปี 2016 IBSF World Women’s Under-18 ในปี 2017 รายการ IBSF World Women’s Under-21 ในปี 2017 รายการ Asian Indoor and Martial Arts Games: 6-Red Snooker ในปี 2017
รายการ World Women’s Under-21 Championship รายการ UK Women’s Championship (Under-21s) ในปี 2018 รายการ Australian Women’s Open Championship ปี 2019 รายการ IBSF World Women’s 6 Reds Championship ปี 2020 รายการ Women’s British Open ปี 2022 และในปีเดียวกันนี้เองมิ้งค์คว้าแชมป์โลกในรายการ World Women’s Snooker Championship มาได้โดยชนะ Wendy Jans ด้วยคะแนน 6-5 และยังคงแข่งขันเรื่อยมาในรายการ WWS Eden Women’s Masters ในปี 2022 รายการ WWS Belgian Women’s Open ปี 2023
แชมป์โลกสนุกเกอร์หญิง
ผลงานที่สร้างชื่อและเกียรติประวัติที่สำคัญของมิ้งค์คือ การแข่งขันสนุกเกอร์หญิงชิงแชมป์โลก (World Women’s Snooker Championship) เธอคว้าแชมป์โลกสนุกเกอร์หญิงในปี 2022 สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักสนุกเกอร์หญิงไทยคนแรกที่ทำได้ และยังเป็นอดีตนักสนุกเกอร์หญิงมือวางอันดับ 1 ของโลก โดยมิ้งค์เคยขึ้นเป็นมือวางอันดับ 1 ของโลกในประเภทสนุกเกอร์หญิงมาตั้งแต่ปี 2022
นอกจากนี้ ยังเป็นแชมป์โลกเยาวชนหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี เธอเคยคว้าแชมป์รายการนี้หลายสมัย และยังเป็นแชมป์ World Mixed Doubles ปี 2022 จับคู่กับ Neil Robertson นักสนุกเกอร์ชายชื่อดัง และทำ maximum break 147 แต้ม โดยเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับการบันทึกว่าทำคะแนนสูงสุด 147 แต้มในการแข่งขันซ้อม กระทั่งเป็นที่รู้จักในฉายา “Maximum Mink” และยังได้เหรียญทองกีฬา Asian Indoor and Martial Arts Games 2017 และแชมป์สนุกเกอร์ 6 แดงชิงแชมป์โลกสมัครเล่น 2 สมัย
แต่ทว่าเส้นทางสู่ความเป็นแชมป์โลกก็ไม่ได้สวยงามเพียงอย่างเดียว เพราะกว่าจะมีวันนี้มิ้งค์ต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก แม้จะมีสปอนเซอร์คอยสนับสนุนแต่ตัวเงินไม่สูงมากนัก อีกทั้งเงินรางวัลรายการแข่งขันสนุกเกอร์ชายกับสนุกเกอร์หญิงก็ต่างกันหลายเท่าตัว เงินรางวัลที่เธอได้นั้นไม่มากเลย “รายการแข่งขันของสนุกเกอร์ชายแชมป์โลกได้รางวัล 20 ล้านบาท แต่แชมป์โลกสนุกเกอร์หญิงได้เพียง 500,000 บาทเท่านั้น” มิ้งค์เผยเรื่องตัวเลขเงินรางวัลที่ช่างแตกต่างหลายเท่ากับสนุกเกอร์ชาย
เดินสายแข่งระดับอาชีพ
ถึงกระนั้นมิ้งค์ก็ไม่ย่อท้อ เธอยืนหยัดอยู่บนถนนสายอาชีพในฐานะนักสนุกเกอร์หญิงระดับโลกซึ่งอาจฟังดูสวยหรู แต่ในความเป็นจริงเธอต้องเช่าอะพาร์ตเมนต์อยู่ที่ London คนเดียว เพราะต้องเดินสายแข่งขันหลายประเทศในยุโรป
“ปีนี้มิ้งค์มีเวลากลับมาเมืองไทยแค่ 2 สัปดาห์ เพราะคิวการแข่งขันค่อนข้างแน่นรวมทั้งต้องซ้อมให้เต็มที่ และบางรายการแข่งขันมิ้งค์ต้องไปคนเดียว สมัครเอง เดินทางไปแข่งเอง”
จุดเปลี่ยนอีกจังหวะของชีวิตคือ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งมีรายการชิงแชมป์โลกปี 2019 เป็นปีที่มิ้งค์ได้ตำแหน่งรองแชมป์โลก ซึ่งเวทีนี้เป็นการเข้าชิงแชมป์โลกครั้งแรกของเธอซึ่งทำได้เกินคาดคือ ได้รองแชมป์ และหลังจากนั้นก็เปิดฤดูกาลใหม่ เธอแข่งขันเรื่อยมาจนกระทั่งสามารถคว้าแชมป์โลกสนุกเกอร์หญิงมาได้ในปี 2022
หลังจากนั้นก็มีโอกาสได้ร่วมแข่งขันกับนักกีฬาสนุกเกอร์ชาย เพราะแชมป์โลกสนุกเกอร์หญิงจะได้ตั๋วเข้าร่วมการแข่งขันรายการใหญ่ๆ กับนักสนุกเกอร์ชายเพื่อเสริมสร้างทักษะและเรียนรู้เกมการเล่นแบบนักกีฬาชาย “คงเป็นเพราะนักสนุกเกอร์หญิงมีน้อย เขาจึงจัดให้แข่งกับผู้ชายร่วมในเกมเดียวกัน เพื่อให้ผู้ชมรับรู้ว่ามีนักสนุกเกอร์หญิงจะได้ให้การสนับสนุน”
เทอมการแข่งขันกีฬาสนุกเกอร์ 1 ฤดูกาลใช้เวลา 2 ปี เหมือนกันทั้งหญิงและชาย แต่ความยากนั้นเกมการแข่งขันของนักกีฬาชายจะยากกว่า อาจด้วยสรีระและความแม่นยำ การได้แข่งขันร่วมกับผู้ชายก็ทำให้ฝึกทักษะได้มากขึ้น ทำให้ต้องปรับตัวเข้ากับเกมแรงแบบผู้ชาย ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี
เกมการแข่งขันส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของมาตรฐานการเล่น ต้องทำแต้มให้ได้มากที่สุดถึงจะชนะ มันเป็นเรื่องของเกมและวางแผนการเล่น นอกเหนือจากข้อได้เปรียบเรื่องมวลกล้ามเนื้อ ศักยภาพของกล้ามเนื้อผู้ชายเวลาออกแรงสามารถใช้ได้ดีกว่า แต่จากประสบการณ์ของมิ้งค์ที่เคยเล่นชนะผู้ชายมาได้เธอเล่าว่า “มันไม่ได้ยากขนาดนั้น แต่ผู้ชายที่เราไปเจอในระดับโลกทุกคนเล่นได้มาตรฐานโลก เราสู้ด้วยการวางแผนเล่นให้ดี”
มิ้งค์บอกว่า เธอต้องวางโปรแกรมแข่งขันเพื่อเก็บคะแนน ซึ่งสนุกเกอร์หญิงแต่ละปีมีรายการแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนประมาณ 7-8 รายการ จากนั้นก็เข้าแข่งขันชิงแชมป์โลกซึ่งเป็นรายการใหญ่ที่สุด จะมีขึ้นปีละครั้ง แต่มิ้งค์ยังมีรายการที่แข่งร่วมกับผู้ชายด้วยทำให้มีการแข่งขันต่อเนื่อง
“เรื่องมือ 1 ของโลกหนูอยากจะรักษามันไว้ให้นานที่สุด เก็บแต้มด้วยการไปแข่งรายการ ranking ต่างๆ ทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด” เธอเผยความมุ่งหวังที่ตั้งไว้ เมื่อได้สัมผัสตำแหน่งแชมป์โลกสนุกเกอร์หญิงมาแล้ว และตำแหน่งมือ 1 ของโลกเธอรักษามาแล้ว 2 ปี อยากทำให้ได้นานที่สุด แต่มันก็ต้องแลกมากับการเดินทางและเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิต
“ทีแรกเราคิดว่าไปแข่งต่างประเทศอาจไม่ได้ใช้ชีวิตในต่างประเทศเยอะเท่าไร คงบินไปกลับไทยบ่อยๆ แต่พอได้เป็นจริงกลายเป็นว่าชีวิตส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศหมดเลย ได้กลับไทยมาแค่ 2 อาทิตย์” ส่วนใหญ่ต้อง standby อยู่ที่อังกฤษ เพราะต้องบินไปแข่งที่ยุโรปและอเมริกา
“พอเราได้อยู่กับมันจริงๆ 2 ปี 3 ปี มันรู้สึกเหนื่อยในเรื่องของการเดินทาง เพราะตารางการแข่งขันเยอะมากๆ เช่น 1 เดือนจะต้องมีไปสนามบินแน่ๆ ต้องบินบ่อยๆ เลยเริ่มเบื่อ” แม้จะบ่นว่าเบื่อแต่มิ้งค์ก็ยังคงมีเป้าหมายที่รักษาความเป็นมือ 1 ของโลกไว้ให้ได้นานที่สุด ดังนั้น การแข่งขันจึงจำเป็น ไม่เฉพาะแข่งรายการอาชีพ แต่งานรับใช้ชาติในฐานะนักกีฬาสนุกเกอร์ทีมชาติไทยมิ้งค์ก็ยังคงทำต่อเนื่อง เพียงแต่การเก็บตัวซ้อมเพื่อแข่งบางครั้งอาจใช้การซ้อมปกติที่อังกฤษแทนการมาเก็บตัวแบบเต็มที่กับทีมไทย แต่เลือกจะเดินทางมาใกล้ๆ วันแข่งแทน
ปัจจุบันมิ้งค์เล่นสนุกเกอร์แบบมืออาชีพซึ่งมีทั้งข้อดีและไม่ดี “ข้อดีของอาชีพนี้ แน่นอนเป็นกีฬามันก็ช่วยฝึกเราส่วนหนึ่ง และการแข่งขันทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น แต่ก็ต้องสู้ด้วยตัวเองจริงๆ” คำว่าสู้ด้วยตัวเองเธอขยายความว่า มันคือการเอาตัวรอด เช่น การเดินทางไปแข่งคนเดียว ต้องเอาตัวรอดในการใช้ชีวิตต่างประเทศ และพร้อมที่จะดูแลตัวเอง เดินทางเหนื่อยก็ต้องดูแลตัวเองเป็นการฝึกตัวเองที่ดี ข้อดีอีกอย่างคือ ทำให้ได้เห็นโลก ได้เดินทางไปหลายประเทศ แต่ข้อเสียคือ ห่างบ้าน การจะกลับบ้านค่อนข้างยาก
ฝันของมิ้งค์ในเส้นทางนักสนุกเกอร์มืออาชีพเธออยากเห็นสังคมไทยยอมรับว่าสนุกเกอร์เป็นกีฬาจริงๆ ไม่ใช่แหล่งมั่วสุมของวัยรุ่น เพราะคนส่วนใหญ่มองภาพโต๊ะสนุกเกอร์เป็นแบบนั้น แต่เธอที่โตมากับโต๊ะสนุกเกอร์โดยเล่นเป็นกีฬาจนได้รับแชมป์ระดับโลก เธอมองว่า สนุกเกอร์เป็นกีฬาจริงๆ ที่ต้องฝึกฝน และที่สำคัญเป็นกีฬาที่ใช้สมองและสมาธิ ไม่ได้เล่นไปเรื่อยๆ ตามเกม ไม่ได้ใช้พลังมากแต่ก็ใช้เวลาค่อนข้างนาน ต้องมีการคิดวางแผนเพื่อปิดเกมให้ได้ และการได้มาเล่นเป็นอาชีพก็ทำให้เธอและครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มันเป็นทั้งกีฬาและเป็นอาชีพได้พร้อมๆ กัน
ภาพ: วรัชญ์ แพทยานันท์ และ มิ้งค์ สระบุรี
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : อลิสา พันธุศักดิ์ คุนผลิน “ทิฟฟานี่” ผลึกสีสันจรัสโลก
