เมื่อพูดถึงแบรนด์ถุงน่องในประเทศไทย ไม่มีใครไม่รู้จัก “Cherilon” แบรนด์ที่ทรงอิทธิพลบนเรียวขาที่ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 6 ทศวรรษ วันนี้ Cherilon ก้าวสู่ยุคที่ 3 นำทัพโดย พิภพ โชควัฒนา ที่กำลังทรานส์ฟอร์มองค์กรด้วยนวัตกรรมและแพลตฟอร์มออนไลน์สื่อสารในโลกคนรุ่นใหม่
บริษัท นิวซิตี้ (กรุงเทพฯ) จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งโดย บุญปกรณ์ โชควัฒนา บุตรชายคนที่ 2 ของ ดร.เทียม โชควัฒนา ผู้สร้างและวางรากฐานให้สหพัฒน์ การบริหารธุรกิจสไตล์สหกรุ๊ป "โตแล้วแตก แตกแล้วโต" สร้างแบรนด์ "Cherilon" (เชอรีล่อน) ขึ้นเป็นผู้นำตลาดถุงน่องในยุคนั้น
แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป พิภพ โชควัฒนา วัย 48 ปี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท นิวซิตี้ (กรุงเทพฯ) จำกัด (มหาชน) หัวเรือใหญ่นิวซิตี้ ผู้ผ่านวิกฤตหลายระลอก ทั้งวิกฤตธุรกิจ วิกฤตโรคระบาด และโลกเปลี่ยนผ่านยุคดิจิทัลบอกว่า การทรานส์ฟอร์มเป็นคำตอบและทางรอดธุรกิจ
แม้นิวซิตี้จะผ่านพ้นมาแล้วทุกวิกฤตและยังแข็งแกร่งเพราะไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาแต่ด้วยอายุองค์กรที่ยาวนาน 60 ปี ขึ้นปีที่ 61 ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง กลยุทธ์ทุกช่องทางจึงต้องนำออกมาใช้
"องค์กรจำเป็นต้องคิดใหม่ทำใหม่ ต้อง transform ปรับ mindset และ reset องค์กรใหม่ และให้เริ่มนับ 1 ใหม่ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป" พิภพกล่าวกับ Forbes Thailand
"ในช่วง 60 ปีแรกคือผลงานของผู้ก่อตั้งและพนักงานรุ่นก่อนหน้า การที่เราก้าวเข้าสู่ปีที่ 61 เราต้องนับ 1 ใหม่เป็นนิวซิตี้เวอร์ชันใหม่จากจุดเริ่มธุรกิจถุงน่องขยายสู่ธุรกิจชุด ชั้นใน เสื้อผ้าบุรุษและสตรี ในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงเราต้องตั้งวิสัยทัศน์ พันธกิจและ direction จะก้าวไปสู่แนวทางใดในปีที่องค์กรมีอายุ 61 ปีเป็นโจทย์ที่ท้าทายคนรุ่นผมและพนักงานทุกคน ซึ่งตั้งเป้าหมายชัดเจนว่าเรามุ่งมั่นก้าวเป็นองค์กร ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และต้องสร้างแบรนด์ Cherion สู่ระดับสากล"
"นวัตกรรม" ขับเคลื่อน
พิภพเล่าถึงเส้นทางธุรกิจที่ผ่านมาว่าช่วยบิดามา 23 ปี เริ่มงานที่นิวซิตี้มาตั้งแต่ปี 2545 ใช้องค์ความรู้ในสาขา Management Information Systems (MIS) จาก University of Florida ประเทศสหรัฐอเมริกาและประสบการณ์ทำงานที่สหรัฐอเมริกามาใช้ที่นิวซิตี้ พัฒนาระบบบัญชี และเรียนรู้งานอื่นๆ อีกหลายสายก่อนขึ้นนั่งตำแหน่งระดับผู้บริหาร
"สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากคุณพ่อและทีมงาน คือ นิวซิตี้เติบโตได้เพราะขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ยุคคุณพ่อซึ่งไปเรียนที่อังกฤษ พอกลับมาเมืองไทยก็ตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดนิวซิตี้ แล้วริเริ่มนำเข้าถุงน่องมาขายในประเทศไทยซึ่งเป็นเรื่องใหม่มากๆ สำหรับเมืองไทยเมื่อ 60 ปีก่อน
"ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน ใครจะใส่ถุงน่อง แต่คุณพ่อเป็นคนเห็นโอกาสในการทำตลาด ปลูกฝังทัศนคติวัฒนธรรมการใส่ถุงน่องให้คนไทย เสริมบุคลิกภาพและภาพลักษณ์ที่ดีจนกลายเป็นความเคยชิน พนักงานของนิวซิตี้ทุกคนคุณพ่อให้ใส่ถุงน่องหมดจนถึงทุกวันนี้"
หลังจากนำเข้าถุงน่อง 8 ปี ตัดสินใจเปิดไลน์การผลิต เปลี่ยนจากผู้นำเข้ามาเป็นผู้ผลิต ตั้งโรงงานผลิตถุงน่องแห่งแรกของเมืองไทยในปี 2515 ชื่อ ยูเนี่ยน พลัส นิตติ้ง ปัจจุบันคือ บริษัท นิวพลัสนิตติ้ง จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเช่นเดียวกัน พร้อมกับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าถุงน่องที่ผลิตในประเทศไทยภายใต้ชื่อ "Cherilon"
"จากความสำเร็จในการทำตลาดถุงน่อง คุณพ่อได้ขยายสายการผลิต ต่อยอด และขยาย product line สู่สินค้าอื่น ๆ อาทิ innerwear, bodywear, activewear, lingerie, nightwear, personal care และกลุ่มเครื่องสำอาง ภายใต้บริษัทใหม่ บริษัท บูติค นิวซิตี้ จำกัด (มหาชน) เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้หญิง"
ตลอดการทำงาน 20 ปีของการบริหารงานที่นิวซิตี้พิภพผ่านมาทุกซีชั่นทุกการเปลี่ยนแปลง ทั้งคู่แข่งทางการค้าของสินค้าจากจีนและอาเซียน สินค้าที่ขายผ่านออนไลน์ราคาถูกสร้างผลกระทบทางธุรกิจ แต่เขาบอกว่า จริงๆ แล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การต้องสร้างแบรนด์ตัวเองให้ดี ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพให้สมกับความไว้วางใจและความเชื่อถือ (trust) ของลูกค้า ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจ
"เราให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพของสินค้า สร้างความน่าเชื่อถือในตัวของสินค้าและแบรนด์เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าเราเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในใจ การที่เราผลิตเองทำให้เราสามารถผลิตสินค้าที่เหมาะกับขนาดตัวของคนไทยและสอดคล้องกับความต้องการของคนไทย นอกจากกับคนไทยแล้วเรายังพัฒนาและผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์คนอาเซียนและทั่วโลกได้ เพราะเรามีการวิจัยและพัฒนา รวมไปถึงการผลิตของเรายังควบคุมคุณภาพในทุกขันตอนการผลิต
"มีคำถามเกิดขึ้นกับผมบ่อยๆ ว่า เป็นผู้ชายจะเข้าใจสินค้าผู้หญิงได้อย่างไร แรกๆ ผมว่ามันก็ยากนะ อย่างยุคแรกต้องเลือกผ้าลูกไม้มีมาให้เลือก 2 ผืน ทีมงานบอกอันนี้สวย อันนี้ไม่สวย ผมก็ถามทีมงานว่ามันต่างกันยังไง เขาก็อธิบายว่า ที่สวยเพราะลายดอกบนผ้าลูกไม้ ซึ่งตอนนั้นผมไม่เข้าใจ แต่พอทำมาได้ระยะหนึ่งผมก็เริ่มเข้าใจ คือเป็นเรื่องที่เราต้องค่อยๆ ทำความเข้าใจ อย่างถุงน่องดีอย่างไร ผู้บริหารทุกคนต้องได้ลองใส่ ถ้าไม่ลองใส่ก็จะไม่รู้มันเป็นยังไง สุดท้ายแล้วผมอาจจะไม่ได้เข้าใจผู้หญิงทั้งหมด แต่เรามีทีมงาน มีการวิจัย และมีการพัฒนา ซึ่งตรงนี้ทำให้ผมเรียนรู้และเข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่ผู้หญิงที่เป็นลูกค้าต้องการ หลักๆ คือต้องเรียนรู้"
กลยุทธ์ที่แตกต่าง
กลยุทธ์เชิงรุกยุคใหม่ของนิวซิตี้คือ สร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ มีแบรนด์แข็งแกร่งแข่งขันได้ ซึ่งนิวซิตี้ครองตลาดด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากกว่า 10 แบรนด์ อาทิ CARA, MISASA, SanRemo, Cherilon Dansmate, Cherilon Intimate, Cherlon Danz ที่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ทั้งผู้หญิง ผู้ขาย เด็ก และ LGBTQ ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตน่าสนใจ
“2 ปีก่อนเราเปิดตัวถุงน่อง Pride ที่ออกแบบลวดลายและสีสันตอบโจทย์ความต้องการลูกค้ากลุ่ม LGBTQ ทั้งเรื่องการดีไซน์ การออกแบบ และขนาด และพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมใหม่ๆ"
ทุกผลิตภัณฑ์มีการคิดค้น พัฒนา และต่อยอดด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ กลยุทธ์การคิดค้นนวัตกรรมมาจากงานวิจัย ซึ่งล่าสุดได้นำเสนอผลงานนวัตกรรมปี 2568 ออกสูตลาดจากงานวิจัยพัฒนาถุงน่องที่เรียกว่า "Deep Care Collagen" พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ในงานสหกรุ๊ปแฟร์ & เฟส ครั้งที่ 29 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เป็นนวัตกรรมเส้นใยระดับนาโนผสานสารสกัดคอลลาเจนคุณภาพสูงจากปลาทะเลน้ำลึก ผสมเส้นใยไนลอนผ่านกระบวนการฉีดขึ้นรูป masterbatch เพื่อให้ได้เส้นใยคอลลาเจนที่มีคุณสมบัติถาวรแม้ผ่านการซัก และกรรมวิธีการผลิตทอด้วยเทคนิค seamless เพื่อความเนียนนุ่ม ต่อยอดการพัฒนาสินค้าภายใต้แนวคิด "Become the Real You” ครอบคลุม 6 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ถุงน่อง ถุงเท้า ปลอกแขน บราครอป สายเดี่ยว และกางเกงใน
"ถ้าเราคุ้นเคยกับถุงน่องจะรู้สึกได้ทันทีว่าผลิตภัณฑ์นี้ไม่เหมือนกับถุงน่องแบรนด์อื่นๆ เนื่องจากกระบวนการผลิตเส้นด้าย มีการผสมคอลลาเจนลงในตัวเส้นด้ายแน่นอนว่าเราไม่ได้เป็นผู้ผลิตเส้นด้าย แต่เราเลือกซื้อวัสดุจากโรงงานที่ได้รับการรับรองจากศูนย์วิจัย และเป็นสินค้าที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อ โจทย์หนึ่งที่ผมจะได้ยินเยอะมาก คือบอกว่าส้นเท้าแตก ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ช่วยเรื่องของความชุ่มชื้น เพราะมีคอลลาเจนอยู่ในเส้นใย รวมทั้งกันแดดได้ เรียกว่าเป็นการพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาให้กับ ผู้บริโภคซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาสินค้าของเรา"
แพลตฟอร์ม...เกมเปลี่ยนโลก
พิภพเคยให้สัมภาษณ์ Forbes Thailand เมื่อ 6 ปีที่แล้ว "ถ้าเป็นเมื่อ 6 ปีก่อนที่ Forbes ถามผมเรื่องของเทคโนโลยี ผมบอกว่าไม่ต้องรีบ เพราะอุตสาหกรรมเราไม่จำเป็นต้องเป็นคนแรกที่ต้องรีบใช้เทคโนโลยี เพราะยิ่งรีบยิ่งเสียเงินเยอะ แต่มาวันนี้ผมบอกเลยว่าต้องรีบ ถ้าไม่รีบใช้ตกขบวนแน่"
โดยเฉพาะเทคโนโลยี AI เขาบอกว่า ต้องทำทันที ต้องทันเทคโนโลยี โดยเฉพาะการต่อยอดในการใช้ AI ให้เป็นประโยชน์กับธุรกิจ เพราะเทคโนโลยีนี้เข้าถึงง่าย แต่ที่ยากคือต้องรู้ว่าจะนำไปใช้อย่างไรในการต่อยอดธุรกิจ ซึ่งเขาศึกษาและนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน แม้ว่าขณะนี้ที่โรงงานยังไม่ถึงขั้นใช้ Gen Al แต่ก็มีการใช้ระบบที่รวมศูนย์การผลิตเข้ามาร่วมกัน เป็นระบบของยุโรป ระบบนี้พอนำมาใช้ทำให้รู้เรื่องของการทำงาน มีการใช้ระบบเซนเซอร์เพื่อให้สามารถคาดการณ์สิ่งที่เกิดขึ้นได้ ช่วยเรื่องการลดต้นทุน ลดการใช้พลังงาน
บริษัทมีการพัฒนาสินค้าและแบรนด์ใหม่ไปพร้อมกัน นอกจาก Cherilon แล้ว ก็มี Cherllon Intimate มีสินค้าแฟชั่นที่มีความเซ็กซี่เพื่อมาเปิดตลาดใหม่ เพิ่มสายการผลิตสินค้าครอบคลุมตั้งแต่ผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก ไปจนถึง LGBTQ
"จนกระทั่งมาเจอศึกหนักที่ส่งผลกระทบต่อทุกคนบนโลกอย่างการแพร่ระบาดของโควิด-19 เหตุการณ์นี้ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจที่ทำให้เราต้องปรับกระบวนการทำงานภายในเพื่อรองรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าเราไม่เปลี่ยนก็จะไม่ทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป"
ช่วงโควิด-19 นิวซิตี้ต้องปรับกระบวนทัศน์ใหม่เหมือนหลายๆ องค์กร โดยหันไปพึ่งแพลตฟอร์มออนไลน์ช่องทางใหม่ของนักการตลาด จำหน่ายสินค้าและทำการตลาด ตั้งแต่ออนไลน์ไปจนถึงตลาดออฟไลน์
ในปีถัดมานิวซิตี้ก็ยังมุ่งพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยไม่ได้ต้องการขายสินค้าแค่ผ่านช่องทางของแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์อย่างเดียว แต่ต้องการสร้างแพลตฟอร์มของตัวเองจนในที่สุดก็สำเร็จ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ให้กับนิวซิตี้และสหกรุ๊ป ปัจจุบันรายได้จากการขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์มีอัตราการเติบโต double digits ซึ่งถือว่าดี
"จนถึงปีนี้ 2568 เรามีการปรับโครงสร้างภายในเพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะถ้าเราไม่ปรับเราก็จะตกขบวน การที่บริษัทประสบความสำเร็จ แข็งแรง และยั่งยืนตลอด 6 ทศวรรษ โดย 60 ปีที่ผ่านมา ผมถือเป็นผลงานของคนรุ่นก่อน และต้องขอบคุณปีที่ 61 เรานับ 1 ใหม่
“ฉะนั้นปีนี้เป็นปีแรกที่เป็นผลงานของคนยุคใหม่ โดยสิ่งที่นิวซิตี้กำลังเปลี่ยนผ่านคือการปรับเปลี่ยนมุมมองพนักงานซึ่งมีทั้งคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ ปรับเปลี่ยนระบบบัญชีระบบรวบรวมฐานข้อมูลทางการตลาด และจริงจังกับการบริหารจัดการและโครงสร้างองค์กร แต่การเปลี่ยนแปลงนี้เพิ่งเริ่มต้น แต่ได้วาดภาพในอนาคตของนิวซิตี้ไว้แล้วว่าจะเป็นองค์กรที่เป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรม ที่พร้อมนำแบรนด์ไทยไปสู่ตลาดต่างประเทศ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเราหยุดเรื่องของต่างประเทศไปพอสมควร แต่ next stage ถ้าทุกคนพร้อมเราต้องเอาแบรนด์ไทยของเรา Cherilon ไปสู่ระดับ global”
ซื่อสัตย์ & ยั่งยืน
นอกจากเทคโนโลยีและนวัตกรรม หัวใจสำคัญในการบริหารองค์กรของนิวซิตี้จากอดีตถึงปัจจุบันคือ การดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์
"ตั้งแต่รุ่นของคุณปู่ (ดร.เทียม โชค-วัฒนา) ที่ท่านให้ความสำคัญกับเรื่องความ ซื่อสัตย์เป็นอันดับ 1 เป็นสิ่งที่ผู้บริหารและพนักงานทุกคนในสหกรุ๊ปจำขึ้นใจและปลูกฝังมายังคนรุ่นผมคือ Good People, Good Products, Good Society" พิภพกล่าวและเน้นย้ำว่า "ความซื่อสัตย์เริ่มตั้งแต่การผลิตสินค้าที่มีคุณภาพตอบโจทย์กับลูกค้า คือเราซื่อสัตย์กับลูกค้า เราไม่ผลิตสินค้าที่ด้อยคุณภาพ เราผลิตสินค้าโดยคำนึงถึงคุณภาพ ซื่อสัตย์และจริงใจกับลูกค้าเพื่อให้เกิดความไว้วางใจหรือ trust ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทำกันมาตลอด"
และวิสัยทัศน์ที่สำคัญในการทำธุรกิจของสหกรุ๊ปและนิวซิตี้คือ การติดตามการเปลี่ยนแปลงและสิ่งที่จะเกิดขึ้น รวมถึงแนวโน้มหรือเทรนด์เพื่อที่จะได้พัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า เป็นสิ่งที่อยู่ในดีเอ็นเอของคนสหกรุ๊ปทุกคน
"ผมว่าสิ่งที่เป็นดีเอ็นเอของสหกรุ๊ปคือการเป็นผู้นำเทรนด์ที่เริ่มตั้งแต่ยุคคุณปู่ ผู้ก่อตั้งบริษัทตั้งแต่ปี 2485 ที่วางวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่การนำเข้าสินค้าจนถึงการผลิตสินค้าเอง ก็เลือกที่จะนำเข้าและผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ในเวลาที่คนไม่ได้คุยเรื่องของการสร้างแบรนด์ คุณปู่ท่านก็ให้ความสำคัญกับเรื่องของแบรนด์ ในเวลาที่ไม่มีใครพูดถึงการทำโฆษณา ท่านทำโฆษณา ในเวลาที่ไม่มีใครพูดถึงการทำประโยชน์เพื่อสังคม ท่านก็ทำประโยชน์เพื่อสังคมมาอย่างยาวนาน
"ต้องบอกว่าตั้งแต่รุ่นคุณปู่ตกทอดมาถึงรุ่นคุณพ่อ การดำเนินธุรกิจของเครือสหกรุ๊ปยึดหลักการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน คืนกำไรสู่สังคม มีความชื่อสัตย์ ธรรมาภิบาล ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ESG (Environment, Social, Governance) เรื่องความยั่งยืนมาตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ ก่อนที่จะมีการพูดกันในปัจจุบันและเป็นสิ่งที่สหกรุ๊ปและบริษัทในเครือทำมาโดยตลอด"
นิวซิตี้ก็เช่นกัน เมื่อพูดถึงการพัฒนาสินค้าจะไม่ได้พูดเฉพาะเรื่องสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่จะมีโจทย์ในการทำงานคือ ด้านความยั่งยืน (sustainable) ทุกครั้ง ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจของสหกรุ๊ปและนิวซิตี้ตั้งแต่เริ่ม เช่น ในกระบวนการผลิตนิวซิตี้มีการปรับปรุงกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันโรงงานผลิตสามารถลดการใช้พลังงานได้มากกว่าครึ่งจากการปรับปรุงกระบวนการผลิต ไม่นับรวมถึงการที่นำระบบโซลาร์เซลล์หรือพลังงานทางเลือกเข้ามาใช้ในโรงงาน รวมถึงการเลือกใช้วัสดุในกระบวนการผลิต ยกตัวอย่าง ในกระบวนการย้อมสีจะไม่มีการปล่อยน้ำทิ้งลงไปในพื้นที่สาธารณะ
สู่ความเป็นหนึ่งเดียวกัน
จากวิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจที่ให้ความสำคัญเรื่องของความซื่อสัตย์ที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น พิภพในฐานะทายาทรุ่น 3 ที่เข้ามาสืบทอดธุรกิจของตระกูลโชควัฒนาบอกว่า เป้าหมายของเขานอกจากการสานต่อธุรกิจของครอบครัวแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือความเป็นหนึ่งเดียวของสหกรุ๊ป
“งานสหกรุ๊ป แฟร์ & เฟส ครั้งที่ 29 ไม่ใช่แค่งานที่เราเชิญลูกค้ามาซื้อสินค้าของเรา หรือมารู้ว่าเรามีนวัตกรรมหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อะไรเท่านั้น แต่เป็นงานที่ทำให้ทุกบริษัทในเครือสหกรุ๊ป ผู้บริหารและพนักงานทุกคนได้มาพบปะแลกเปลี่ยนและพูดคุยกันเพื่อที่จะได้รู้ว่าทั้งเครือของเราทำอะไร และพวกเรามารวมตัวกันให้เป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น คือเป็นโจทย์เดียวที่เราต้องทำ เพราะเรายิ่งเติบโต มีกิจการในเครือเยอะ เรายิ่งต้องมาเจอกัน ต้องมีความเป็นหนึ่งเดียวกันในการทำงาน ในการสร้างสหกรุ๊ป"
จากแนวคิดในการขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อสร้างความยั่งยืนในการเจริญเติบโตให้กับ บริษัท นิวซิตี้ (กรุงเทพฯ) จำกัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลางของกลุ่มสหกรุ๊ปที่มีขนาดทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้ว 149.51 ล้านบาทและรายได้รวม 512.56 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567 และมีรายได้รวม 133.36 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2568 ของพิภพ โชควัฒนา ทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูล ผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนองค์กรให้สามารถพื้นตัวจากการฝ่ามรสุมเศรษฐกิจ ต้มยำกุ้ง การแพร่ระบาดของโควิด-19 มาจนถึงแรงกระแทกจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี (digital disruption) และยืนหยัดเข้าสู่ปีที่ 61 จึงน่าติดตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป้าหมายที่จะสร้างแบรนด์ไทยไปในระดับอินเตอร์
ภาพ: วรัชญ์ แพทยานันท์ และ บมจ.นิวซิตี้
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 'วิจักษ์ พงษ์เภตรา' ขยายอาณาจักร Southern Group
