ถอดสูตรความสำเร็จหาดทิพย์ “สังคมอยู่ได้ ธุรกิจก็อยู่ได้” ในแบบพลตรี พัชร รัตตกุล

ถอดสูตรความสำเร็จหาดทิพย์ “สังคมอยู่ได้ ธุรกิจก็อยู่ได้” ในแบบพลตรี พัชร รัตตกุล

    ย้อนกลับไปเมื่อ 50 ปีที่แล้ว แนวคิดเรื่องความยั่งยืนอาจยังไม่ใช่เป้าหมายที่ทุกองค์กรให้ความสำคัญ แต่สำหรับบริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในเครือ โคคา-โคลา ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ กลับมีวิสัยทัศน์ที่แน่วแน่ว่า “ธุรกิจจะเติบโตได้อย่างแท้จริงเมื่อชุมชนรอบข้างเติบโตไปด้วยกัน” จนกลายเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้หาดทิพย์เติบโตเคียงคู่ภาคใต้อย่างสง่างามในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมเครื่องดื่มในภาคใต้ และยังพร้อมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับชุมชนและสังคม

พลตรี พัชร รัตตกุล
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน)

    ในโลกธุรกิจที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง หาดทิพย์มีแนวคิดในการบริหารความสมดุลระหว่างการเติบโตของธุรกิจกับชุมชนและสังคมอย่างไร ไปหาคำตอบสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก พลตรี พัชร รัตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) 

    พลตรี พัชร เริ่มต้นด้วยการฉายภาพให้เห็นความมุ่งมั่นของหาดทิพย์ในการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืนว่า ในทุกการเติบโตของหาดทิพย์ ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ธุรกิจเติบโตหรือเผชิญกับความท้าทายจะคำนึงถึงชุมชนและสังคมที่บริษัทตั้งอยู่เสมอ จนกลายเป็นที่มาของแนวคิด “หาดทิพย์ เคียงข้าง ผูกพัน” ในการทำงานเพื่อชุมชนและลดผลกระทบเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง

เราแบ่งกรอบการทำงานเป็น 2 เสาหลัก

1. เพื่อบ้านของเรา จะเน้นโครงการและกิจกรรมที่สนับสนุนคุณภาพชีวิตในพื้นที่ภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาอาชีพ การศึกษา รวมถึงการบรรเทาและฟื้นฟูชุมชนจากสาธารณภัย

2. เพื่อโลกของเรา เรามองว่าสิ่งที่เราทำไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ภาคใต้หรือประเทศไทยเท่านั้น เราจึงมุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การบริหารจัดการน้ำ และการใช้บรรจุภัณฑ์อย่างรับผิดชอบ”   


    อย่างไรก็ตามบนเส้นทางแห่งความยั่งยืนนี้ หนึ่งในภารกิจที่โดดเด่นของหาดทิพย์คือ การจัดการบรรจุภัณฑ์ ซึ่งถือเป็นประเด็นใหญ่ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มทุกวันนี้ พลตรี พัชร ชวนคิดอย่างน่าสนใจว่า บรรจุภัณฑ์ที่ดีในมุมของหาดทิพย์คือ ไม่เพียงสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ สะอาด และได้มาตรฐานสู่มือลูกค้าอย่างปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จะเห็นว่าที่ผ่านมาหาดทิพย์ไม่เพียงนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนาการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ยังสร้างระบบการเก็บกลับบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้ว เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างครบวงจร   

    เริ่มจากการบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์ ตั้งแต่ปี 2567 หาดทิพย์ลงทุนงบกว่า 800 ล้านบาท สร้างไลน์การผลิตใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีบรรจุขวดแก้วที่ทันสมัยที่สุด ด้วยการสั่งผลิตขวดแก้วขนาดบรรจุ 300 มล.ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะกับช่องทางการขายในร้านอาหารหรือโรงแรม และลังบรรจุใหม่ทั้งหมด อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนจากการสกรีนบนขวดมาเป็นการใช้ฉลากกระดาษย่อยสลายได้ ซึ่งจะเปลี่ยนใหม่ทุกครั้งที่ขวดหมุนเวียนกลับมา



    “เราเชื่อมั่นในธุรกิจขวดแก้วซึ่งมีประวัติศาสตร์ยืนยาวร่วมมากับแบรนด์โคคา-โคลา กว่า 100 ปี และเป็นบรรจุภัณฑ์ที่คู่แข่งรายสำคัญของเราไม่มี แม้ปัจจุบันขวดแก้วจะเป็นสัดส่วนที่ไม่มาก แต่ถ้าเราเพิ่มสัดส่วนได้ นอกจากจะช่วยลดการพึ่งพาบรรจุภัณฑ์พลาสติก ยังเป็นการสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจอีกด้วย”

    สำหรับกระป๋องอลูมิเนียม หาดทิพย์ทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์และสนับสนุนโครงการ Aluminium Loop ที่มุ่งเพิ่มการจัดเก็บกระป๋องอลูมิเนียมมารีไซเคิล ในส่วนของบรรจุภัณฑ์พลาสติก เป็นโจทย์ที่หาดทิพย์ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะด้วยความที่ธุรกิจตั้งอยู่ในพื้นที่ชุมชนในภาคใต้ที่ล้อมรอบด้วยทะเลและเกาะแก่งที่สวยงาม ที่ผ่านมาหาดทิพย์มีการลดปริมาณการใช้พลาสติกสำหรับการผลิตบรรจุภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้ร่วมกับ SCG Chemicals ลดน้ำหนักฝาขวดน้ำอัดลมพลาสติก โดยที่ยังคงความแข็งแรงในการปิดฝาขวดน้ำและรักษาคุณภาพของน้ำอัดลมได้ตามมาตรฐานระดับสากลของโคคา-โคลา



    นอกจากจะลงมือในฐานะ “ต้นทาง” ของกระบวนการผลิตแล้ว หาดทิพย์ยังได้ริเริ่ม “โครงการพันธมิตรเพื่อการรีไซเคิลในภาคใต้” ในการจัดเก็บและคัดแยกบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วอย่างมีระบบ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของวงการเครื่องดื่มในการขับเคลื่อนระบบโลจิสติกส์ย้อนกลับ (Reverse Logistics) โดยหาดทิพย์ ถือเป็นบริษัทเครื่องดื่มรายแรกในไทยที่ได้สร้างเครือข่ายพันธมิตรขึ้น



    ความน่าสนใจของโครงการนี้คือ เป็นความร่วมมือแบบไตรภาคีที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์พลาสติก PET จากขวดสู่ขวด โดยอ๊อกซิเทคจะทำหน้าที่เก็บรวบรวมขวดพลาสติก PET ที่ใช้แล้วจากชุมชนมาคัดแยกและทำความสะอาด พร้อมบดเป็นเกล็ดพลาสติก PET (PET Flake) ตามคำสั่งซื้อและข้อกำหนดจากหาดทิพย์ จากนั้น หาดทิพย์จะขนส่งเกล็ดพลาสติก PET ไปผลิตเป็นเม็ดพลาสติก rPET ที่โรงงานของรอยซ์ ยูนิเวอร์แซล ในจังหวัดนครปฐม ซึ่งได้คุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัยทั้งของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และ โคคา-โคลา จากนั้นหาดทิพย์จะนำเม็ดพลาสติก rPET กลับมาผลิตเป็นขวดเครื่องดื่มใหม่ ณ โรงงานพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่สดชื่นและปลอดภัยถึงมือผู้บริโภค   


    “ข้อดีของการนำจุดแข็งของทั้ง 3 พันธมิตรมารวมกันคือ เราสามารถควบคุมกระบวนการได้ตั้งแต่ต้นน้ำ ทำให้มั่นใจได้ว่าขวดที่เก็บกลับมาจะถูกนำกลับมาเป็นขวดใหม่จริงๆ และในอนาคตเรายังมีแผนร่วมกันกับพันธมิตรเพื่อขยายและพัฒนาโอกาสใหม่ๆ ในการจัดเก็บและรีไซเคิลวัสดุอื่นๆ”

    มาถึงวันนี้ถามว่า อะไรคือรางวัลแห่งความภูมิใจของหาดทิพย์ พลตรี พัชร ตอบพร้อมรอยยิ้มว่า บทพิสูจน์ที่ชัดเจนที่สุดคือ “ความไว้วางใจจากชุมชน เราทำธุรกิจมานานกว่า 50 ปี ถ้าเรามุ่งมั่นทำแต่เครื่องดื่ม แต่ไม่เคยคิดถึงหรือสนับสนุนชุมชนเลย ผมคิดว่าเราคงไม่เป็นที่ยอมรับจากพี่น้องภาคใต้อย่างเช่นทุกวันนี้”

    สำหรับเป้าหมายในอนาคต พลตรี พัชร ยังคงมุ่งมั่นที่จะพาหาดทิพย์โลดแล่นไปบนวิถีแห่งความยั่งยืน สร้างการเติบโตทั้งทางด้านผลกำไรและความยั่งยืนร่วมกับชุมชนและสิ่งแวดล้อม

    “ถึงแม้ทุกวันนี้เราจะมีส่วนแบ่งในผลิตภัณฑ์น้ำอัดลมภาคใต้มากถึง 80% แล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะเพิ่มสัดส่วนนี้ไม่ได้ เพราะถ้าพูดถึงตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ทั้งหมด เรามีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 20% ซึ่งนั่นหมายความว่า เรายังเติบโตได้อีกมาก ส่วนเรื่องความยั่งยืนนั้นยิ่งเราเติบโตมากขึ้น เรายิ่งต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น” พลตรี พัชรกล่าวทิ้งท้าย