<h2>บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ประกาศแต่งตั้ง บริษัท ดุสิตฮอสปิตัลลิตี้ เซอร์วิสเซส จำกัด (DHSC) ในเครือดุสิตธานี เป็นผู้บริหารจัดการอาคารนิติบุคคลโครงการ ‘Mulberry Grove The Forestias Condominiums’ คอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ที่ตั้งอยู่ภายใน The Forestias</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ชาคริต หัสสรังสี ผู้อำนวยการอาวุโสงานพัฒนาโครงการ MQDC กล่าวว่า โครงการ Mulberry Grove The Forestias Condominiums ได้มอบหมายให้บริษัท ดุสิตฮอสปิตัลลิตี้ เซอร์วิสเซส จำกัด (DHSC) ในเครือดุสิตธานี เป็นผู้บริหารจัดการอาคารนิติบุคคลและพื้นที่ส่วนกลาง เนื่องจาก DHSC นั้นมีประสบการณ์ดูแลและให้บริการโรงแรมระดับ 5 ดาว และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รวมทั้งยังได้เลือกสรรบริการพิเศษสำหรับลูกบ้านโดยเฉพาะ ได้แก่ Concierge Service เปรียบเสมือนผู้ช่วยเหลือในการประสานงานต่างๆ เพื่อความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน และผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ ที่จะสามารถแนะนำความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคนในครอบครัว​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/04/Yw7zQebw6tcLquGW5ZLX.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Yw7zQebw6tcLquGW5ZLX.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"><figcaption><div>ชาคริต หัสสรังสี ผู้อำนวยการอาวุโสงานพัฒนาโครงการ MQDC</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เราต้องการให้การอยู่อาศัยในโครงการ Mulberry Grove The Forestias Condominiums สมบูรณ์แบบที่สุดในทุกมิติ ไม่ใช่แค่การมีบ้านที่สวยงาม แต่ลูกบ้านจะได้รับประสบการณ์การใช้ชีวิตสุดพิเศษ เราเชื่อมั่นว่าการร่วมงานกับ DHSC ที่มีความเชี่ยวชาญการบริหารจัดการนิติบุคคลในครั้งนี้ จะช่วยยกระดับมาตรฐานการอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบ และมอบการบริการที่ผสานความอบอุ่นแบบไทยเข้ากับมาตรฐานระดับโลก และตอกย้ำความมุ่งมั่นของ MQDC ในการสร้างสรรค์โครงการที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุด” ชาคริต กล่าว​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/04/yM7nAJL6GWnzVZaF4HXz.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="yM7nAJL6GWnzVZaF4HXz.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้าน ศุภกิจ ติยะวัชรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดุสิตฮอสปิตัลลิตี้ เซอร์วิสเซส จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจให้บริหารโครงการ Mulberry Grove The Forestias Condominiums เรามุ่งมั่นที่จะยกระดับประสบการณ์การอยู่อาศัยของลูกบ้าน ให้ได้รับทั้งความสะดวกสบาย บริการที่เป็นเลิศ และมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ด้วยแนวคิด ‘Hotel-Inspired Living’ ที่ให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียด ตั้งแต่การบริหารจัดการพื้นที่ส่วนกลาง การดูแลความปลอดภัย ไปจนถึงการสร้างสรรค์บริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านในทุกช่วงวัย เพื่อเติมเต็มความสุขและความรื่นรมย์ในทุกวันของการอยู่อาศัย ซึ่งหมายรวมถึงการผสานความร่วมมือกับลูกบ้านและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อสร้างชุมชนคุณภาพที่น่าอยู่และยั่งยืนต่อไป&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ บริษัท ดุสิตฮอสปิตัลลิตี้ เซอร์วิสเซส จำกัด ในเครือดุสิตธานี ดำเนินธุรกิจรับงานบริหารโครงการที่พักอาศัยระดับบนคุณภาพสูง ทั้งการดูแลบริหารอาคารและทรัพย์สินส่วนกลางของโครงการฯ ตามมาตรฐานของกลุ่มดุสิตธานี ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยปัจจุบันบริษัทฯ ให้บริการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวก (Facility Management service) ใน 3 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนงานบริการดูแลและบริหารจัดการอาคาร ซึ่งมุ่งเน้นลูกค้าในกลุ่มตลาดที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่ ส่วนงานให้คำปรึกษาและอบรมสำหรับผู้ประกอบการโครงการที่พักอาศัยที่ต้องการบริการระดับโรงแรม 5 ดาว และส่วนงานบริการแม่บ้าน ดุสิต ออน ดีมานด์ (Dusit On Demand)​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/04/Bes97qLoUv88RjndwqDf.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Bes97qLoUv88RjndwqDf.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับโครงการ Mulberry Grove The Forestias Condominiums ตั้งอยู่บนพื้นที่โครงการฯ ประมาณ 16 ไร่ มีทั้งหมด 6 อาคาร ความสูง 7-8 ชั้น รวม 269 ยูนิต ห้องพักเริ่มต้นที่ขนาด 63.33 -69.15 ตร.ม. สำหรับ 1 ห้องนอน ขนาด 99-100.77 ตร.ม. สำหรับ 2 ห้องนอน และขนาด 151.23-223.79 ตร.ม.สำหรับ 3 ห้องนอน ห้องแบบดูเพล็กซ์เริ่มต้นที่ขนาด 140.31- 438.17 ตร.ม. และเพนต์เฮาส์ขนาด 705-1,027 ตร.ม. ภาพ: MQDC เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/property/mqdc-raises-paid-up-capital" alt="MQDC ประกาศเพิ่มทุน 2.5 พันล้าน เพื่อใช้ในการพัฒนาอสังหาฯ ตามแผน">MQDC ประกาศเพิ่มทุน 2.5 พันล้าน เพื่อใช้ในการพัฒนาอสังหาฯ ตามแผน</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

MQDC แต่งตั้ง ‘เครือดุสิต’ เป็นผู้บริหารจัดการอาคารนิติบุคคลโครงการ Mulberry Grove คอนโดซูเปอร์ลักชัวรี่ใน The Forestias

<h2>หลังประกาศเปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุดระดับระดับอัลตร้าลักชัวรี่ “ดุสิต อจารา หัวหิน” มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท บนทำเลที่มีศัยภาพด้านที่อยู่อาศัย ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และพื้นที่แห่งประวัติศาสตร์และความทรงจำ “หัวหิน” กลุ่มบริษัท ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล พร้อมเปิดพรีเซลส์ แบบเอ็กซ์คลูซีฟลูกค้าระดับ VVIP ในเดือนเม.ย-พ.ค. นี้</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า พร้อมเดินหน้าโครงการใหม่สู่ตลาดที่อยู่อาศัยระดับอัลตร้าลักชัวรี่ต่อเนื่อง ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการ “ดุสิต อจารา หัวหิน” (Dusit Ajara Hua Hin) มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นโครงการที่ตอบโจทย์ความสุขของ Multi- generational Living แห่งการอยู่อาศัยทุกช่วงวัยด้วยคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ด้วยความหรูหราและคุณค่าในเอกสิทธิ์ที่เหนือกว่าและไม่เหมือนใคร ภายใต้กลยุทธ์เพิ่มการพัฒนาศักยภาพสินทรัพย์และธุรกิจในเครือให้มีขีดความสามารถแข่งขันในตลาดประเทศไทยและตลาดโลกได้ โครงการ “ดุสิต อจารา หัวหิน” ที่สะท้อนความมุ่งมั่นของกลุ่มดุสิตธานีในการขยายตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี ในรูปแบบ Branded Residences​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/03/QtyeRG413K2yaXS3g5me.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="QtyeRG413K2yaXS3g5me.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โครงการ “ดุสิต อจารา หัวหิน” ผสมผสานความเชี่ยวชาญของกลุ่มดุสิตธานี ทั้งด้านการบริหารโรงแรม (Hotel Management) การบริการ (Hospitality Services Management) โดยต่อยอดความสำเร็จจาก โครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ที่กำลังจะเสร็จสมบูรณ์ สะท้อนศักยภาพด้านโอกาสในการสร้างรายได้ของกลุ่มดุสิตธานี ด้วยการใช้ประโยชน์จากที่ดินรอการพัฒนา (Land Bank) นำมาพัฒนาเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ 3 ประการของกลุ่มดุสิตธานี ได้แก่ สร้างสมดุล สร้างการเติบโต และกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ และการส่งเสริมการลงทุนจากภาครัฐภายใต้นโยบายของการพัฒนาให้เป็น Smart City ซึ่งมั่นใจว่า การพัฒนาโครงการแรกของแบรนด์คุณภาพ “อจารา” (Ajara) กับ โครงการ ดุสิต อจารา หัวหิน (Dusit Ajara Hua Hin) จะประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ และพร้อมเปิดพรีเซลส์ ครั้งแรก สำหรับกลุ่มลูกค้าระดับ VVIP ในเดือน เม.ย.-พ.ค. นี้เป็นต้นไป จากนั้นจะเปิดจองสำหรับระดับ VIP สำหรับลูกค้าที่สนใจและแจ้งความจำนง และเปิดจองสำหรับลูกค้าทั่วไปในเดือน ก.ค. เป็นต้นไป&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ณัฐภาณุ์ ศรียุกต์สิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดุสิต เอสเตท จำกัด เปิดเผยว่าได้วางแผนพัฒนาพื้นที่ด้านหน้าของโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ขนาด 20 ไร่ โดยวางแผนพัฒนาที่พักอาศัยเป็นแบบ ‘Low Rise, Low Density’ ที่นำเสนอความเป็น ‘Multi-generational Living’ โดยเป็นโครงการแบบ Leasehold หรือการเช่าแบบระยะยาว 30 + 30 ปี​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/03/kMTEes9snLB8tdzpnJTL.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="kMTEes9snLB8tdzpnJTL.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ประกอบด้วย 7 อาคาร แบ่งเป็นอาคาร 3 ชั้น จำนวน 4 อาคาร และอาคาร 6 ชั้น จำนวน 3 อาคาร รวมทั้งสิ้น 96 ยูนิต โดยยูนิตจะมีขนาดตั้งแต่ 1 ห้องนอน ขนาด 70 - 90 ตารางเมตร 2 ห้องนอน ขนาด 120 - 180 ตารางเมตร 3 ห้องนอนขนาด 250 ตารางเมตร และเพนต์เฮ้าส์ ทุกอาคารออกแบบให้บริเวณยูนิตชั้น 1 มีพื้นที่สวนสีเขียวส่วนตัว ขนาด 25 - 35 ตารางเมตร พร้อมพื้นที่จอดรถติดกับที่พักอาศัย เริ่มก่อสร้างปี 2026 แล้วเสร็จปี 2028 ภาพ: ดุสิต เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/news/travel/centara-to-open-9-new-hotels-in-2025" alt="‘เซ็นทารา’ กางแผนปี 68 เปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อัปเกรด ‘เซ็นทารา แกรนด์ฯ กระบี่’ สู่แบรนด์ ‘รีเซิร์ฟ’">‘เซ็นทารา’ กางแผนปี 68 เปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อัปเกรด ‘เซ็นทารา แกรนด์ฯ กระบี่’ สู่แบรนด์ ‘รีเซิร์ฟ’</a><a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

“ดุสิต อจารา หัวหิน” เปิดพรีเซลส์ ระดับ VVIP เม.ย.-พ.ค. นี้

<h2>กลุ่มดุสิตธานี ย้ำพร้อมเปิดให้บริการ ‘โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ’ หลังปรับปรุงโฉมใหม่ในวันที่ 27 กันยายน 2567 มั่นใจโรงแรมระดับตำนานแห่งนี้จะกลับมาสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ได้อีกครั้งอย่างแน่นอน </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เผยว่า กลุ่มดุสิตธานี มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับการต้อนรับการกลับมาให้บริการของ “โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ” ที่พร้อมจะเปิดให้บริการกับลูกค้าชาวไทยและลูกค้าจากทั่วทุกมุมโลกในวันที่ 27 กันยายน 2567 ซึ่งการกลับมาของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ เป็นอีกหนึ่งความท้าทายของกลุ่มดุสิตธานี กับโจทย์ที่ต้องผสมผสานระหว่างความต้องการใหม่ๆ ของลูกค้าภายใต้บริบทที่เปลี่ยนแปลงไป กับการรักษาจิตวิญญาณและความเป็นตัวตนของกลุ่มดุสิตธานี ที่เคยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าตลอดระยะเวลากว่า 75 ปีที่ผ่านมา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ภายใต้ความท้าทายที่เป็นโจทย์ตั้งต้นในวันนั้น วันนี้โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ จะปรากฏโฉมให้โลกได้เห็นถึงการเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ที่เป็น Iconic เป็นตำนานของโรงแรม และทำให้เห็นว่า อะไรที่ทำให้ ‘ดุสิตธานี’ สามารถยืนหยัดอยู่ได้และครองใจผู้ใช้บริการมาได้อย่างยาวนาน นั่นเพราะเราใส่ใจและเก็บทุกรายละเอียดของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งเดิม เพื่อนำมาผสมผสานอย่างกลมกลืนกับโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งใหม่ ไม่ใช่เฉพาะรูปลักษณ์ การออกแบบ แต่ยังหมายถึงการต้อนรับอย่างอบอุ่น และการให้บริการด้วยมาตรฐานดุสิตธานี ซึ่งเป็นแบรนด์ไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก เรามุ่งมั่นที่จะรักษาไว้ซึ่งเจตนารมณ์ของท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ก่อตั้ง และคุณชนินทธ์ โทณวณิก ที่ต้องการนำเสนอความเป็นไทย ทั้งศิลปะ วัฒนธรรมและเสน่ห์แบบไทย ที่สอดคล้องกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก และความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า พร้อมกับการตอบโจทย์ความยั่งยืนทางธุรกิจของกลุ่มดุสิตธานี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานีกล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้าน ณัฐภาณุ์ ศรียุกต์สิริ กรรมการผู้จัดการ ดุสิต เอสเตท และรองประธานฝ่ายกลยุทธ์การออกแบบและงานครีเอทีฟ บมจ.ดุสิตธานี กล่าวว่า ความท้าทายในการออกแบบโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ อยู่ที่การรักษาแบรนด์ และความเป็นตัวตนของดุสิตธานี ที่ต้องมาพร้อมกับรูปโฉมใหม่ ขณะเดียวกัน ลูกค้าต้องสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น ความจริงใจ ซึ่งไม่ได้จำกัดเฉพาะการให้บริการ แต่ยังหมายถึงก้าวแรกที่ลูกค้าสามารถสัมผัสได้ทันทีเมื่อก้าวเข้ามาในโรงแรม ทำให้การออกแบบต้องใส่ใจทุกๆ รายละเอียด ทั้งการเก็บชิ้นงานเก่า และการสร้างสรรค์ชิ้นงานใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากชิ้นงานเก่า เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าทุกคนของดุสิตธานี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ความลงตัวของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งใหม่ในวันนี้ เริ่มจากโจทย์ที่เราได้รับ ทำให้เราต้องมองโรงแรมดุสิตธานีแบบเดิม ผ่านมุมมองใหม่ เป็นโมเดิร์น เลนส์ จากนั้นเราตัดสินใจเลือกที่จะเก็บบางชิ้นงานจากโรงแรมเก่า ขณะที่บางชิ้นงาน เราเลือกที่จะศึกษารูปแบบหรือแพทเทิร์นของเดิมแล้วสร้างสรรค์งานใหม่ขึ้นมา หรือบางชิ้นงาน เราใช้งานชิ้นนั้นเป็นแรงบันดาลใจเพื่อที่จะออกแบบงานชิ้นใหม่ ที่จะตอบโจทย์ให้อดีตกลายเป็นปัจจุบัน และให้ปัจจุบันเชื่อมโยงกับอดีต เป็นความกลมกลืนของช่วงเวลาที่เชื่อว่า ทุกคนจะสามารถสัมผัสได้ในทุกพื้นที่ของโรงแรมแห่งใหม่” ณัฐภาณุ์กล่าว <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/07/UdayDcQd8ZYFgQy3jXZE.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="UdayDcQd8ZYFgQy3jXZE.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div>​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ โฉมใหม่ในความสูง 39 ชั้น ยังคงอัตลักษณ์ความเป็น “ดุสิตธานี” ซึ่งแฝงความโดดเด่นจากอดีตผ่านหลายองค์ประกอบ ทั้งการประดับ ‘ยอดแหลมสีทอง’ บนอาคารที่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล การนำเสนองานจิตรกรรมบนเสาหลักสองต้นและบนกำแพงความยาวกว่า 4 เมตร จากผลงานของ ‘ท่านกูฎ’ ไพบูลย์ สุวรรณกูฎ งานแกะฉลุไม้และตกแต่งผนังด้วยไม้สักทองที่ถูกถอดและนำมาประกอบใหม่เพื่อนำเสนออีกครั้งในโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ รวมถึงการตกแต่งด้วยลวดลายและเส้นสายแบบไทยร่วมสมัยในส่วนของห้องนภาลัย แกรนด์บอลรูม ห้องประชุมต่างๆ ห้องพัก การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ชิ้นพิเศษตามแรงบันดาลใจแบบไทย ที่พร้อมให้ลูกค้าได้มีโอกาสสัมผัสและซึมซับความเป็นดุสิตธานีอย่างเต็มที่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ยังพร้อมต้อนรับแขกผู้เข้าพักด้วยห้องพักและห้องสวีท 257 ห้อง จากการออกแบบของ Andre Fu Studio สตูดิโอออกแบบตกแต่งภายในชั้นนำของเอเชีย ที่ได้รับการยกย่องในระดับสากล และสตูดิโอออกแบบภายในชั้นนำของไทย ที่โด่งดังระดับแถวหน้าในเอเชียอย่าง P49DEESIGN AND ASSOCIATES มาช่วยดูแลชั้นพิเศษที่เรียกว่า Heritage Floor ให้อีกด้วย ขณะที่โครงสร้างต่างๆ ภายในโรงแรม ได้รับการออกแบบโดยสองบริษัทสถาปนิกชั้นนำ ได้แก่ บริษัทสถาปนิก 49 (A49) หนึ่งในบริษัทสถาปนิกที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดของประเทศไทยและ OMA Asia Hong Kong Limited สาขาของบริษัทสถาปนิกชั้นนำระดับโลก OMA (Office for Metropolitan Architecture) ที่โด่งดังในการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมและการวางผังเมือง <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/07/j41cz8nAcZFBB6ENF5ry.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="j41cz8nAcZFBB6ENF5ry.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับขนาดของห้องพักที่กว้างขวางจะเริ่มต้นที่ 50 ตร.ม. ที่พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าที่เข้าพัก&nbsp; ด้วยการออกแบบกรอบหน้าต่างกระจกเต็มชิ้นขนาดใหญ่สีทองในทุกห้องพัก เพื่อให้แขกสามารถรับชมทัศนียภาพอันงดงามของสวนลุมพินี เส้นขอบฟ้า และสีสันของกรุงเทพฯ ให้ความรู้สึกราวกับกรอบความทรงจำอันล้ำค่า หรือ Golden Frames of Memories รวมทั้งยังมี ห้องคลับ ที่มอบความผ่อนคลายด้วยบริการพิเศษเพิ่มเติม พร้อมอาหารเครื่องดื่มจาก คลับ เลาจน์ บนชั้น 39&nbsp; และ รูฟท็อป บาร์ รวมถึงห้องอาหารและบาร์หลากหลายรูปแบบ พร้อมทีมเชฟและพาร์ทเนอร์ด้านอาหารและเครื่องดื่มชื่อดังระดับสากล ห้องประชุมและจัดเลี้ยงในพื้นที่ทั้งหมดกว่า 5,000 ตร. ม. รวมถึงรูฟ พาร์ค (Roof Park) โอเอซิสสีเขียวขนาดใหญ่ในรูปแบบสวนสาธารณะลอยฟ้าขนาด 7 ไร่ ที่สามารถตอบสนองรูปแบบการใช้ชีวิตของคนเมืองที่ต้องการใกล้ชิดกับธรรมชาติ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/07/E64iHSThFUvPATcwaoqQ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="720px,480px" data-align="center" data-file-name="E64iHSThFUvPATcwaoqQ.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,480" data-origin="720px,480px" style="width: 720px; height: 480px;" data-index="2"></figure></div>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/07/62gDc1xczYqkAAD6Zu8T.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="62gDc1xczYqkAAD6Zu8T.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="3"></figure></div> ​ ​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ&nbsp;:&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/other/news/property/ananda-shows-potential-repay-2024-bonds-100-in-both-rounds-worth-7057-million-baht" alt="อนันดาฯ โชว์ศักยภาพชำระคืนหุ้นกู้ปี 67 เต็มจำนวน 100% ทั้ง 2 รอบ มูลค่า 7,057 ล้านบาท">อนันดาฯ โชว์ศักยภาพชำระคืนหุ้นกู้ปี 67 เต็มจำนวน 100% ทั้ง 2 รอบ มูลค่า 7,057 ล้านบาท</a>​ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

 ‘โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ’ ย้ำ พร้อมเปิดให้บริการหลังปรับโฉมใหม่ 27 กันยายน 2567

<h2>ดุสิตธานีเดินหน้าเปิดร้านอาหารเพื่อสุขภาพแบรนด์ “คาวาอิ” แบบสแตนด์ อะโลน เป็นครั้งแรก ย่านอโศก หวังตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มรักสุขภาพ พร้อมเดินหน้าวิจัยพัฒนาสร้างนวัตกรรมอาหาร ปรับสูตรให้ถูกปากคนไทย หวังสร้างความยั่งยืนด้านอาหารเพื่อสุขภาพในอนาคต</h2>
<img class="alignnone size-full wp-image-46711" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/06/คาวาอิ_004.jpg" alt="" width="600" height="399" />

ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่ดุสิตธานีได้ผนึกความร่วมมือกับ KAUAI (คาวาอิ) ซึ่งเป็นแบรนด์ร้านอาหารสุขภาพยอดนิยมจากประเทศแอฟริกาใต้ เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย โดยในช่วงแรกได้ร่วมมือกับเวอร์จิน แอคทีฟ ฟิตเนส คลับ 101 เพื่อเปิดให้บริการร้าน “คาวาอิ” ในโครงการทรู ดิจิทัล พาร์ค 101 ก่อนจะขยายไปในอีก 3 สาขาของเวอร์จิน แอคทีฟ

ล่าสุด กลุ่มดุสิตธานีได้ตัดสินใจนำร้านอาหารเพื่อสุขภาพแห่งนี้เปิดเป็นแบบร้านเดี่ยวหรือสแตนด์ อะโลน เป็นแห่งแรกในประเทศไทย ที่อาคารอโศก ทาวเวอร์ เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับพนักงานออฟฟิศ รวมถึงนักเรียนนักศึกษาในย่านใจกลางกรุงเทพมหานคร

“เวอร์จิน แอคทีฟ เป็นพันธมิตรที่ดีมากสำหรับเรา การผนึกความร่วมมือกับเวอร์จิน แอคทีฟ ในช่วงแรก ทำให้เราได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากคนรักสุขภาพที่นิยมการออกกำลังกายในฟิตเนส อย่างไรก็ตาม กลุ่มดุสิตธานีมีความมุ่งมั่นจะส่งต่ออาหารเพื่อสุขภาพแบรนด์ “คาวาอิ” ให้กับคนรักสุขภาพในวงกว้าง ที่ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในสถานออกกำลังกายเท่านั้น

เราจึงตัดสินใจเปิดร้านสแตนด์ อะโลน เป็นแห่งแรก เพื่อเติมเต็มช่องทางการเข้าถึงแบรนด์ และเป็นศูนย์กลางสำหรับการให้บริการ ฟู้ด ดีลิเวอรี่ ที่ตอบโจทย์การสั่งอาหารของผู้บริโภคในพื้นที่บริเวณกรุงเทพชั้นในให้ครอบคลุมกว้างขวางมากขึ้น

<img class="alignnone size-full wp-image-46713" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/06/คาวาอิ_006.jpg" alt="" width="450" height="650" />

นอกจากนี้ยังมีบริการเสริมในรูปแบบของการให้บริการจัดเลี้ยงอาหารเพื่อสุขภาพแบบ on-site หรือ on-demand ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมเวิร์คชอปแนะนำวิธีการเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพตามความต้องการของลูกค้าอีกด้วย

ซึ่งเรามั่นใจว่า จะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี นอกจากจะอยู่ที่รสชาติอร่อย เรายังเลือกใช้วัตถุดิบที่ให้สารอาหารเป็นพลังงานดี และเป็นเฮลตี้ ฟาสต์ฟู้ด ที่แตกต่างจากฟาสต์ฟู้ดทั่วไป” ศุภจีกล่าว

ขณะเดียวกัน การตัดสินใจเปิดร้านแบบสแตนด์ อะโลน ยังสะท้อนการปรับตัวของกลุ่มดุสิตธานี ภายใต้ความท้าทายใหม่ของธุรกิจอาหาร ที่ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะทำให้เทรนด์ของอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับคนรักสุขภาพเติบโตยิ่งขึ้นในอนาคต และร้าน “คา-วา-อิ” ก็เป็นร้านอันดับต้นๆ ที่ผู้บริโภคนึกถึง

<img class="alignnone size-full wp-image-46712" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/06/คาวาอิ_005.jpg" alt="" width="450" height="675" />

ด้าน มณิศา มิตรไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการของคาวาอิ ประเทศไทย ซึ่งเป็นธุรกิจในกลุ่มดุสิตธานี กล่าวว่า จุดเด่นของคาวาอิ คือ การเสิร์ฟอาหารเพื่อสุขภาพที่เน้นความเป็นธรรมชาติโดยนำรสชาติแท้ๆ ของวัตถุดิบทั้งผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ที่เปี่ยมด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์สูงต่อร่างกายมาประกอบอาหาร

ด้วยกรรมวิธีที่ผ่านการปรุงแต่งน้อยที่สุดเพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากอาหารสูงสุด และได้รับรู้รสชาติที่อร่อยจากธรรรมชาติของอาหารนั้นๆ จากสูตรลับที่ผ่านการทดลองให้ได้รสชาติอร่อยลงตัวที่สุด ทำให้การรับประทานอาหารสุขภาพเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน

ทั้งนี้ ส่วนผสมในอาหารของคาวาอิ เน้นที่วัตถุดิบธรรมชาติที่คัดมาอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็นไก่และไข่ไก่จากฟาร์มที่เลี้ยงแบบปล่อยอิสระตามธรรมชาติ (Free-range chicken) เนื้อจากวัวที่เลี้ยงแบบให้กินหญ้าเป็นอาหาร (grass-fed beef) และผักและผลไม้ปลอดสาร ที่สำคัญคืออาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดใช้ความหวานจากธรรมชาติของวัตถุดิบ ไม่มีการเติมน้ำตาล ไร้สารเติมแต่ง สารกันบูด สารแต่งสี หรือสารแต่งกลิ่นรส เรียกได้ว่าเป็นอาหาร ที่ส่งเสริมการกินดีเพื่อสุขภาพจริงๆ

สำหรับเมนูอาหารของคาวาอิ ที่ได้รับความนิยมจากลูกค้า มีอาทิ ปริ้นเซสแร็ป เมนูซิกเนเจอร์ของคาวาอิ ที่มีส่วนผสมของเนื้อไก่ที่เลี้ยงแบบธรรมชาติ อะโวคาโด เฟต้าชีส มะเขือเทศ แครอท ผักสลัด เสริมรสด้วยมายองเนสรสหัวหอมและขึ้นฉ่ายฝรั่ง, แร็ป (ไม่มันไก่) ที่นำรสชาติความอร่อยของข้าวมันไก่มาดัดแปลงเป็นเวอร์ชั่นสำหรับสายเฮลธ์ตี้ นำด้วยเนื้ออกไก่ที่เลี้ยงแบบธรรมชาติ ราดซอสน้ำจิ้มข้าวมันไก่รสชาติออริจินอลเข้มข้นถึงใจ พร้อมสลัดผักสดหวานกรอบเสริมรสชาติ

ทั้งนี้ คาวาอิ ก่อตั้งขึ้นโดย ดีน โควัลสกี้ ที่ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อ 25 ปีที่ผ่านมา โดยชื่อแบรนด์ตั้งขึ้นตามชื่อเกาะคาวาอิในหมู่เกาะฮาวายที่ดีนได้ไปพักผ่อนและประทับใจกับรสชาติของอาหารที่คงความเป็นธรรมชาติของที่นี่ และเป็นแรงบันดาลใจในการริเริ่มธุรกิจ

ปัจจุบัน คาวาอิ เปิดให้บริการกว่า 160 สาขาทั่วประเทศแอฟริกาใต้ ยุโรป และเอเชีย ซึ่งในประเทศไทย คาวาอิจับมือกับเวอร์จิน แอคทีฟ (ไทยแลนด์) เปิดร้านอาหารแห่งแรกที่ เวอร์จิน แอคทีฟ 101 ภายในโครงการ ทรู ดิจิทัล พาร์ค 101 และบริการ Grab-and-Go ในคลับของเวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ที่สยามดิสคัฟเวอรี่ เอ็มไพร์ ทาวเวอร์   และเอ็มควอเทียร์ นอกจากนี้ยังมีบริการเดลิเวอรี่

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/other/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%B9-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7-%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1.html">“บ้านปู” เปิดตัว “บอร์ดเกม” ธีมความยั่งยืนด้านพลังงานในรูปแบบออนไลน์</a>

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a> 

 

&nbsp;

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events