<h2><span style="font-size: 20px;">เค.อี.กรุ๊ป เปิดแลนด์แบงก์เก่าพัฒนาบ้านเดี่ยวซูเปอร์ลักชัวรี 60-300 ล้านบาทบนถนนประดิษฐ์มนูธรรม ดึงทายาทร่วมบริหารวางเป้าโหมลงทุนปีละ 5 พันล้านบาท ตั้งกองรีทรวมคอมมูนิตี้ มอลล์กรุงเทพฯ มูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท</span></h2>
<strong>ศุภานวิต เอี่ยมสกุลรัตน์</strong> ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เครือบริษัท <strong>เค.อี.กรุ๊ป</strong> ผู้พัฒนาและบริหารพื้นที่รีเทลแบรนด์ เดอะ คริสตัล เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดขายโครงการบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี <strong>“คริสตัล โซลานา” </strong>บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม มูลค่าโครงการ 4 พันล้านบาท ในเดือนสิงหาคมนี้

โดยคริสตัล โซลานา เป็นโครงการบ้านเดี่ยวบนเนื้อที่ 31 ไร่ แบ่งแปลงที่ดินจำนวน 51 แปลงขนาด 123-800 ตารางวา แบบบ้านมีตั้งแต่สูง 2 ชั้น 3 ชั้น และ 4 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 490-1,010 ตารางเมตร ในสไตล์ลักชัวรี คอนเทมโพรารี กลิ่นอายตะวันตก เปิดขายราคา 60-300 ล้านบาทต่อแปลง

<figure><img style="width: 638px; height: 333px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/8dcd04da25a53de3770ceef081b4428c.jpg" alt="" width="638" height="333" /><figcaption> ภาพจำลองด้านหน้าโครงการคริสตัล โซลานา</figcaption></figure>

ศุภานวิตกล่าวต่อว่า โครงการนี้นับเป็นโครงการที่ 4 ของบริษัทในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ซึ่งเค.อี.กรุ๊ปได้กลับมาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยอีกครั้งหลังจากที่โครงการสุดท้ายปิดการขายมานาน และหลังจากนี้จะมุ่งพัฒนาโครงการบ้านหรูอย่างต่อเนื่อง

ด้าน <strong>กวินทร์ เอี่ยมสกุลรัตน์ </strong>รองกรรมการผู้จัดการ เค.อี.กรุ๊ป ลูกชายคนโตวัย 24 ปี ได้เริ่มเข้ามาร่วมบริหารธุรกิจของครอบครัว กวินทร์กล่าวว่า โครงการนี้เน้นเจาะกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง (HNWIs : High Net Worth Individuals) หรือผู้ที่มีทรัพย์สินมากกว่า 200 ล้านบาทของไทย ซึ่ง<span style="color: #ff0000;">ข้อมูลปี 2560 พบว่ามีประมาณ 9 หมื่นคน โดยที่ความมั่งคั่งของกลุ่ม HNWIs รวมกันมีการเติบโตถึง 13% ในปีที่ผ่านมา อีกทั้งเป็นช่วงที่กลุ่มทายาทผู้มีความมั่งคั่งสูงจะเริ่มแยกครอบครัว ทำให้ดีมานด์ในตลาดบ้านหรูราคามากกว่าหลังละ 50 ล้านบาทมีสูง</span>

<figure><img style="width: 638px; height: 383px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/21d0a3a8811e6d723f434a3f43d45f8b.jpg" alt="" width="638" height="383" /><figcaption> บริเวณ Nook หรือหน้ามุขสำหรับนั่งเล่นจิบน้ำชาของบ้านสไตล์ Emeralda ในโครงการ</figcaption></figure>

ทั้งนี้ โครงการคริสตัล โซลานามียอดขายไปแล้ว 20% แม้ยังไม่เปิดตัวเป็นทางการ และอยู่ระหว่างก่อสร้างบ้านตัวอย่าง เชื่อว่าจะสามารถปิดยอดขายทั้งหมดได้ราวต้นปี 2563

&nbsp;
<h2><span style="font-size: 20px;">เก็บที่ดินเพิ่ม เตรียมใส่เกียร์บุกตลาดบ้าน</span></h2>
กวินทร์กล่าวต่อว่า ในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะพัฒนาอสังหาฯ เพื่อขายอย่างสม่ำเสมอขึ้น ภายใน 2-3 ปีจะเริ่มพัฒนาโครงการเฉลี่ยปีละ 5 พันล้านบาท โดยเน้นเฉพาะกลุ่มบ้านซูเปอร์ลักชัวรีราคา 30 ล้านบาทขึ้นไป

บริษัทจึงอยู่ระหว่างมองหาแลนด์แบงก์เพิ่มเติม จากปัจจุบันที่ครอบครัวมีแลนด์แบงก์ที่ดินอยู่แล้วประมาณ 300 ไร่ซึ่งส่วนใหญ่อยู่บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม โดยที่ดินที่มองหาจะเป็นทำเลใจกลางเมือง เช่น สุขุมวิทซอย 30-50 สาทร-เย็นอากาศ และรอยต่อสู่ใจกลางเมือง เช่น ประดิษฐ์มนูธรรม พัฒนาการ บางนา

&nbsp;
<h2>กองรีทรวมคอมมูนิตี้ มอลล์ แปลงโฉมพื้นที่ให้ “เกิด” ในตลาด</h2>
บริษัทยังมีแผนระยะใกล้คือการร่วมเป็นพันธมิตรกับ <strong>ธนาคารกรุงเทพ </strong>จัดตั้งกองรีท หรือ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ด้วย<span style="color: #ff0000;">คอนเซปท์การรวมอสังหาฯ ประเภทคอมมูนิตี้ มอลล์เป็นกองแรกของไทย ตั้งเป้ารวมกองรีทมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท พื้นที่เช่า 2 แสนตารางเมตร เพื่อเข้าขายให้กับนักลงทุนราวไตรมาส 3 ปี 2562</span>

“เราได้ไอเดียนี้มาจากสหรัฐฯ ซึ่งมีกองรีทที่รวมเฉพาะคอมมูนิตี้ มอลล์ ซึ่งตอนนี้ในไทย คอมมูนิตี้ มอลล์อาจจะมากเกินไป <span style="color: #ff0000;">การที่เรานำเข้ามาในกองรีทโดยมีเราเป็นผู้บริหารปรับปรุง น่าจะทำให้ตลาดแข็งแรงขึ้น” </span><strong>ศุภานวิต</strong> กล่าวถึงแนวคิดกองรีท “จุดสำคัญของคอมมูนิตี้ มอลล์ คือทำเล การออกแบบ และร้านค้าภายในต้องถูกต้องทั้งหมด การจอดรถต้องสะดวก และพื้นที่ต้องปรับมาขายประสบการณ์เพื่อให้คนมาเดิน ซึ่งเชื่อว่าเราจะช่วยพัฒนาให้ดีกว่าเดิมได้”

<figure><img style="width: 638px; height: 425px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/30e5d01d4cb067e8d34ca7f4437a2b1c.jpg" alt="" width="638" height="425" /><figcaption> กวินทร์ เอี่ยมสกุลรัตน์ และ ศุภานวิต เอี่ยมสกุลรัตน์</figcaption></figure>

ซีอีโอหญิงกล่าวต่อว่า กองรีทดังกล่าวจะเริ่มจากการแปลงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ <strong>CRYSTAL</strong> ซึ่งประกอบด้วยเดอะ คริสตัล เอกมัย-รามอินทรา และบางส่วนของคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ มูลค่า 4-5 พันล้านบาทเป็นกองรีท และเพิ่มเดอะ คริสตัล ราชพฤกษ์ กับ เดอะ คริสตัล ชัยพฤกษ์ เข้าไปในกอง ทำให้กองรีทนี้ขยายเป็นมูลค่าประมาณ 7.5 พันล้านบาท พื้นที่ราว 9 หมื่นตารางเมตร

<strong>กวินทร์ </strong>อธิบายเพิ่มเติมว่า นอกจากธุรกิจของครอบครัวแล้ว กำลังชักชวนเจ้าของคอมมูนิตี้ มอลล์อื่นๆ เพื่อทำสัญญาเช่าให้กองรีทนี้เป็นผู้จัดการบริหารและรับผลตอบแทนตามสัญญา ซึ่งจะทำให้ได้สินทรัพย์เข้ามาในกองรีทเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยคอมมูนิตี้ มอลล์ที่สนใจจะต้องมีพื้นที่เช่า 5 พันตารางเมตรขึ้นไป และมีผู้เช่าที่ดึงดูดตลาด

ศุภานวิตกล่าวด้วยว่า โครงการมิกซ์ยูสบนที่ดิน 80 ไร่บริเวณหัวมุมแยกถนนประดิษฐ์มนูธรรมตัดถนนเกษตรนวมินทร์ มูลค่าโครงการ 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะรวมทั้งสำนักงาน โรงแรม ศูนย์จัดแสดงนิทรรศการ คอนโดมิเนียม ไว้ในแห่งเดียวนั้น ยังคงอยู่ในแผนพัฒนาของเค.อี.กรุ๊ป แต่จะเกิดขึ้นได้ขอรอความชัดเจนของการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเทา (วัชรพล-ทองหล่อ) ซึ่งจะทำให้ย่านเกิดความเหมาะสมที่จะพัฒนาโครงการลักษณะนี้

&nbsp;

<strong>Forbes Facts</strong>
<ul>
 	<li>เค.อี.กรุ๊ป ในปัจจุบันมีแหล่งรายได้หลักจากพื้นที่เช่าของเดอะ คริสตัล ทั้ง 4 สาขา คิดเป็น 60-70% ของรายได้รวม ส่วนอีก 30-40% มาจากธุรกิจเทรดดิ้งสุขภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน และธุรกิจฮอสพิทาลิตี้ เช่น ร้านอาหาร</li>
 	<li>กวินทร์เรียนจบปริญญาตรี จากคณะเศรษฐศาสตร์ Columbia University in the City of New York และ ปริญญาโท จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ด้านเรียลเอสเตท GSAPP หลังฝึกงานกับบริษัท PWC เขากลับมาทำธุรกิจของครอบครัวด้วยความมุ่งหวังจะพัฒนาให้บริษัทเติบโตขึ้น</li>
</ul>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events