<h2>แม็คโคร เติมเลือดใหม่ “ถิรายุ ทรงเวชเกษม” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร – กลุ่มธุรกิจสยามแม็คโคร สายงานดิจิทัล พร้อมก้าวสู่ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกไทยในยุคดิจิทัล เพื่อผลักดันองค์กรเติบโตก้าวกระโดด</h2>
บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) มีเป้าหมายชัดเจนในการทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ดิจิทัล พร้อมเปิดกว้างรับคนรุ่นใหม่ ที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลเข้ามาร่วมงาน เพื่อเชื่อมต่อความเชี่ยวชาญในธุรกิจค้าส่งค้าปลีกในประเทศไทยกว่า 32 ปีเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่โดยมี <strong>ถิรายุ ทรงเวชเกษม</strong> รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร – กลุ่มธุรกิจสยามแม็คโคร สายงานดิจิทัล ผู้บริหารรุ่นใหม่ที่เข้ามาสานต่อพันธมิตรในการนำแม็คโครไปสู่เป้าหมาย

<strong>ถิรายุ </strong>กล่าวว่า ได้เข้าร่วมงานกับแม็คโคร ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงที่สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 รุนแรง และเร่งให้ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกต้องปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลเร็วขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ แม็คโครได้วางยุทธศาสตร์การทรานส์ฟอร์มองค์กรไปสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบในอีก 2 ปีข้างหน้า จึงได้เข้ามาสานต่อวิสัยทัศน์และผลักดันพันธกิจขององค์กรให้ก้าวสู่เป้าหมาย

<span style="color: #993300;">“ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจแม็คโคร มองเห็นเทรนด์ของธุรกิจค้าส่งค้าปลีกที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างรุนแรงและรวดเร็ว จากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคและเทคโนโลยีใหม่ๆ ยิ่งกว่าการระบาดของโควิดที่เกิดขึ้น ผมจึงเห็นเป็นโอกาสที่จะการนำประสบการณ์ที่มีมาช่วยนำพาองค์กรไปสู่การดำเนินธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”</span>

ก่อนหน้าที่จะร่วมงานกับแม็คโคร <strong>ถิรายุ</strong> มีประสบการณ์การทำงานโดยเป็น Partner ให้กับธุรกิจค้าปลีกระดับโลก อย่าง Amazon และ eBay ในสหรัฐอเมริกามากว่า 10 ปี ซึ่งขณะนั้นเป็นยุคเริ่มต้นของธุรกิจอีคอมเมิร์ช โดยการสร้าง Ecosystem เริ่มตั้งแต่การทำเว็บไซต์ วางระบบซัพพลายเชน ระบบขนส่ง ระบบชำระเงิน ซึ่งปัจจุบัน แม็คโคร พยายามสร้าง Ecosystem ของระบบค้าส่งค้าปลีกให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคดิจิทัล
<h3><img class="alignnone size-full wp-image-63900" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/ถิรายุ-ทรงเวชเกษม_แม็คโคร_0601.jpg" alt="" width="650" height="453" /></h3>
<h3>จากค้าส่งค้าปลีกสู่ Omni-Channel</h3>
ถิรายุ กล่าวว่า ในช่วงโควิดที่ผ่านมา แม็คโคร มีการนำเทคโนโลยีมาช่วยทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงการซื้อสินค้าได้ง่ายและสะดวก ผ่านเว็บไซต์ และ แอปพลิเคชั่น MakroClick รวมทั้งให้บริการแบบ Omni-Channel ที่เพิ่มทางเลือกในการซื้อสินค้าทั้งรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ และล่าสุดได้พัฒนา maknet แพลตฟอร์มค้าส่งออนไลน์สำหรับผู้ประกอบการที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นช่องทางให้ผู้ประกอบการเลือกซื้อสินค้าและบริการครบจบในที่เดียว กำหนดวันจัดส่งสินค้าได้ พร้อมนำเสนอเทคโนโลยีและช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย

<span style="color: #993300;">“ยุทธศาสตร์ในการทรานส์ฟอร์มองค์กรไปสู่ดิจิทัลของแม็คโคร ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ลูกค้าในการเข้าถึงสินค้าที่หลากหลาย มีประสิทธิภาพ และให้บริการครบจบในที่เดียว แต่ยังทำให้แม็คโครสามารถขยายธุรกิจไปได้มากกว่าการเป็นธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ซึ่งจะเป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของกลุ่มธุรกิจแม็คโครในอนาคต”</span> ถิรายุกล่าว

<img class="alignnone size-full wp-image-63901" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/ถิรายุ-ทรงเวชเกษม_แม็คโคร_0602.jpg" alt="" width="650" height="433" />
<h3>สร้างคนดิจิทัลยกระดับองค์กร<strong> </strong></h3>
นอกจากนี้ ถิรายุ ยังได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญอีกด้านหนึ่ง คือการพัฒนาคนไปสู่ดิจิทัล ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการทรานส์ฟอร์มครั้งนี้ ซึ่งแม็คโคร เป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร และเปิดรับทีมงานคนรุ่นใหม่ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลเข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ทำงานร่วมกับทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจค้าส่งค้าปลีกที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 32 ปี

“โจทย์แรกที่ผมได้รับ หลังเข้าร่วมงานกับแม็คโคร คือการสร้างคนดิจิทัล ทั้งปรับวิธีการทำงาน หาทาเลนต์ หาคนเก่งๆ เข้ามาร่วมงาน โดยผู้บริหารของแม็คโครเปิดกว้างในการดึงคนรุ่นใหม่ทั้งในประเทศ และระดับโลกเข้ามาร่วมขับเคลื่อนองค์กร ซึ่งการหาดิจิทัล ทาเลนต์ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่แม็คโครพร้อมที่จะปรับเปลี่ยน ทั้งการวางกลยุทธ์องค์กร การสร้างภาพลักษณ์ เพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาร่วมงาน”

ถิรายุ กล่าวว่า สิ่งที่คาดหวังจากการเปลี่ยนแปลงองค์กรไปสู่ดิจิทัลที่เรากำลังทำทั้งหมดนี้ จะถูกขับเคลื่อนด้วยการผสมผสานระหว่างความเชี่ยวชาญด้านค้าส่งค้าปลีกของคนรุ่นก่อนกับความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลของพนักงานยุคใหม่ และในอนาคตอันใกล้นี้ เรามีความมุ่งหวังว่าคนรุ่นใหม่จะมองแม็คโครเป็นองค์กรที่น่าทำงานด้วย มีความทันสมัย และเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลเทคโนโลยี

ปัจจุบันภารกิจของ ถิรายุ ในการทรานส์ฟอร์มองค์กรยังคงดำเนินต่อไป ทั้งในส่วนของการสร้างทีมงานดิจิทัลที่จะเข้ามาพัฒนา Digital Ecosystem ให้ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกของแม็คโครให้ครบสมบูรณ์ ทั้งในด้านการบริหารสินค้า การสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ การตลาด และการสนับสนุนด้านความยั่งยืน สอดคล้องกับเทรนด์ค้าส่งค้าปลีกสมัยใหม่ ที่ต้องพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งแม็คโครก็พร้อมที่จะนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยยกระดับธุรกิจค้าส่งค้าปลีกไทย ให้ก้าวสู่ระดับโลก

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/other/%E0%B8%A3%E0%B8%9E-%E0%B8%9A%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%8F%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%81.html">“รพ.บำรุงราษฏร์” ล้ำอีกก้าว นำ AI วิเคราะห์เชิงลึกรักษามะเร็ง</a>

<hr />
<p class="p1"><span class="s1"><a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก<span class="s2"> Forbes Thailand Magazine</span></a></span></p>

‘ถิรายุ ทรงเวชเกษม’ เลือดใหม่แม็คโคร หนุนยุทธศาสตร์สู่ผู้นำค้าส่งค้าปลีกดิจิทัล

สุชาดา อิทธิจารุกุล ผนึกคู่คิดธุรกิจ แม็คโคร-โลตัสส์

ทำเนียบ 30 UNDER 30 ASIA ประจำปี 2020 มีผู้ประกอบการหนุ่มสาวและนักสร้างความเปลี่ยนแปลงซึ่งอายุน้อยแต่ต่อยหนัก เหล่าผู้นำที่เฉลียวฉลาดและมีหัวคิดสร้างสรรค์ 300 คนนี้ มีทั้งความพร้อมและอาวุธครบมือเพื่อจะปรับตัวเข้ากับอนาคตไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม

<strong>DONALD KNG</strong> อายุ 29 ปี และ  <strong>NICO LI</strong> อายุ 28 ปี ผู้ร่วมก่อตั้ง <strong>VETRESKA</strong> • จีน
สาขา: ค้าปลีก และอี-คอมเมิร์ซ<strong>
</strong>

Vetreska สตาร์ทอัพใน Shanghai ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดย Nico Li เชื้อสายจีน และ Donald Kng ชาวสิงคโปร์สตาร์ทอัพแห่งนี้ขายอาหารขบเคี้ยวและอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องรสชาติแปลกใหม่และการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร

Vetreska ทำยอดขายได้ 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว และมีกำไรสุทธิ 2 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจากยอดขาย 9.5 ล้านเหรียญ และกำไร 720,000 เหรียญในปี 2018 หลังขยายธุรกิจออกนอกประเทศจีนไปยังญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ แม้การระบาดของไวรัสโคโรนาจะส่งผลกระทบต่อยอดขายในปีนี้ แต่ Vetreska ยังมีเงินทุนเพียงพอที่จะผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากไปให้ได้

<img class="alignnone size-full wp-image-31133" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/06/VETRESKA_03.jpg" alt="" width="600" height="400" />

ทั้งนี้ บริษัทระดมทุนได้ 10 ล้านเหรียญนับตั้งแต่ปี 2017 โดย Li เจอกับ Kng ขณะที่ยังเป็นนักศึกษาที่สถาบัน Fashion Institute of Technology ใน New York และก่อตั้ง Vetreska ขึ้นเป็นสตูดิโอออกแบบเล็กๆ ขณะเรียนอยู่ปี 4 อย่างไรก็ตามทั้งคู่ย้ายกลับมายัง Shanghai ในปี 2016 เมื่อพบว่าตลาดสัตว์เลี้ยงในจีนกำลังโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

ปัจจุบันพวกเขาตั้งเป้าเพิ่มไลน์สินค้าไลฟ์สไตล์ เช่น เสื้อยืดรูปสัตว์เลี้ยงแสนรัก “นี่เป็นตลาดที่โตเร็วมากจริงๆ” Kng ผู้เป็นหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์และฝ่ายขายกล่าว “ผู้คนมากมายในจีนมองว่าแมวเป็นคู่แท้ของพวกเขา และเต็มใจใช้จ่ายจำนวนมากไปกับมัน”-- Yue Wang

<strong>กรรมการตัดสิน:</strong> HIROSHI MIKITANI (ญี่ปุ่น) ซีอีโอ RAKUTEN • ALLAN ZEMAN (ฮ่องกง) ผู้ก่อตั้ง และประธานกรรมการ LAN KWAI FONG GROUP

<em><strong>ภาพ:</strong> TIM GAO</em> <em><strong>เรียบเรียง:</strong> ธรรดร โสถิอำรุง, ชูแอตต์ และริศา</em>

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/world/asia/nor-diana-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0-marius-suntanu-%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88.html">Nor Diana และ Marius Suntanu สองคนรุ่นใหม่แห่งทำเนียบ 30 Under 20 Asia ปี 2020</a>

<hr />

<a href="https://bit.ly/3dp757n">คลิกอ่านฉบับเต็ม ทำเนียบ 30 UNDER 30 ASIA ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤษภาคม 2563 ในรูปแบบ e-magazine</a>

<img class="alignnone wp-image-29538" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/05/COVER_750.jpg" alt="" width="300" height="394" />

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events