<h2>เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) เผย กระแสตอบรับดี หลังมียอดจองรถทั้งสิ้น 2,815 คัน จากงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 โดย ORA Good Cat มียอดจองสูงถึง 652 คัน และรถไฟฟ้า EV แบบ 100% มีสัดส่วนยอดจองสูงถึง 31% ของยอดจองรวมทั้งหมด </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ได้กระแสตอบรับอย่างดีจากการเผยโฉมรถกระบะไฮบริดรุ่นแรกในไทย “GWM POER SAHAR HEV” พร้อมเปิดตัว “Three Man Down” ในฐานะพรีเซนเตอร์ HAVAL JOLION ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 โดยสามารถกวาดยอดจองไปได้รวมทั้งสิ้น 2,815 คัน นำทัพโดย ORA Good Cat ที่มียอดจองสูงถึง 652 คัน ตามมาด้วย GWM POER SAHAR HEV 640 คัน และเจ้าสิงโตอารมณ์ดี HAVAL JOLION ที่ยังคงความร้อนแรงกวาดยอดจองไปทั้งสิ้น 577 คัน สำหรับ HAVAL H6 มียอดจองทั้งสิ้น 463 คัน แบ่งเป็น HAVAL H6 HEV 233 คัน และ HAVAL H6 PHEV จำนวน 230 คัน ตามด้วย ORA 07 จำนวน 233 คัน และรถยนต์เอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียม GWM TANK จำนวน 250 คัน&nbsp;ซึ่งจากยอดจองดังกล่าว คิดเป็นยอดจองของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% (ORA Good Cat และ ORA 07) จำนวน 885 คัน หรือ 31% ของยอดจองรวม และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอื่น ๆ จำนวน 1,930 คัน หรือประมาณ 69% ของยอดจองรวม <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/zDDC4VLg6xskgRasKjWY.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="0" data-file-name="zDDC4VLg6xskgRasKjWY.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div>​ <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/pUb2sHuMBHcaxS7vMyLp.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="6" data-file-name="pUb2sHuMBHcaxS7vMyLp.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ จากผลสำรวจความคิดเห็นของผู้เข้าเยี่ยมชมบูธ จำนวน 679 คน ช่วงอายุระหว่าง 25-44 ปี และกว่า 60% มีอาชีพเป็นพนักงานบริษัทและเจ้าของกิจการ ที่มีรายได้ต่อเดือนอยู่ระหว่าง 30,000-100,000 บาท พบว่า รถยนต์ภายใต้แบรนด์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่ผู้เยี่ยมชมบูธชื่นชอบมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่&nbsp; ORA Good Cat, ORA 07 และ HAVAL JOLION ตามลำดับ และปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประกอบด้วย ดีไซน์ภายนอก ดีไซน์ภายใน และราคา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับ GWM POER SAHAR HEV ที่นำมาจัดแสดงภายในงาน ได้รับความสนใจจากผู้เข้าเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก จากเหตุผลด้านดีไซน์ภายใน ดีไซน์ภายนอก ขนาดของรถยนต์ และเทคโนโลยีตามลำดับ โดยผู้ที่สนใจส่วนใหญ่อยากซื้อรถรุ่นนี้เข้าไปเพื่อใช้งานในครอบครัวเพิ่มเติมจากรถที่มีอยู่แล้ว และจะใช้เป็นรถคันหลักในการทำงาน ใช้ในการเดินทางไปต่างจังหวัด และใช้สำหรับพักผ่อนท่องเที่ยวกับเพื่อนและครอบครัว นอกจากนี้ ปัจจัยที่ผู้เยี่ยมชมบูธใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ 3 อันดับแรก ได้แก่ ราคา ภาพลักษณ์ของแบรนด์ และสมรรถนะของรถยนต์​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/PTSZM7UkotnkDMgggzWh.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="1" data-file-name="PTSZM7UkotnkDMgggzWh.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ต้องขอขอบคุณทุกท่านกับความไว้วางใจที่มีให้กับเราเสมอมา กระแสตอบรับที่ดีจากแฟน ๆ ชาวไทยเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เรามุ่งมั่นที่จะเดินหน้าสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เพื่อให้คนไทยได้มีประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงส่งมอบรถยนต์ที่มีคุณภาพ เทคโนโลยีอันล้ำสมัย ปลอดภัย และคุ้มค่าคุ้มราคาให้กับลูกค้าชาวไทย เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนการใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย และผลักดันประเทศไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตและจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน”​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/CH4im7BBwRNcQQgYj9YN.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="2" data-file-name="CH4im7BBwRNcQQgYj9YN.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div>​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false" style="min-width: 100%; width: 75%;"><figure style="margin: auto; width: 75%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/41GxG1WDSkoa1QzjmifH.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="4" data-file-name="41GxG1WDSkoa1QzjmifH.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="75%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="75," style="width: 100%;"></figure></div> <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/WHqXyucDYGpQ1ExBiVJ9.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="5" data-file-name="WHqXyucDYGpQ1ExBiVJ9.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div>​ ​ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/motoring/neta-to-launch-neta-x-in-q-2-2024" alt="NETA เผยยอดขายในไทย Q1/67 เติบโตขึ้น 12.1% YoY พร้อมเปิดตัว NETA X ไตรมาสสอง">NETA เผยยอดขายในไทย Q1/67 เติบโตขึ้น 12.1% YoY พร้อมเปิดตัว NETA X ไตรมาสสอง</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เผย กระแสตอบรับดี มียอดจองรถทั้งสิ้น 2,815 คัน จากงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45  

<h2>บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ "GPI" เดินหน้าแผนปรับโครงสร้างธุรกิจ ตั้งเป้าหมายรายได้แตะ 1 พันล้านบาท เติบโตเท่าตัวใน 3 ปีข้างหน้าจากการขับเคลื่อน 6 แกนธุรกิจหลัก เสริมความแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมยานยนต์และการจัดงานระดับภูมิภาค พร้อมต่อยอดสู่ธุรกิจใหม่ที่มีโอกาสเติบโตสูง สร้าง New S-curve</h2>
พีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่สายพัฒนาธุรกิจ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้าแผนทรานส์ฟอร์มธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินงานและปรับตัวให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้นำความเชี่ยวชาญในธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าและกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อรูปแบบใหม่ และธุรกิจงานพิมพ์ ต่อยอดสู่การปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ ภายใต้ 6 ธุรกิจแกนหลัก ได้แก่ Event, Exhibition &amp; Festival, Lifestyle Media + News, Award &amp; Trophy, Sport &amp; Competitions, Printing &amp; Packaging  และ E-Commerce &amp; Mobile App &amp; Others

สำหรับ Event, Exhibition &amp; Festival เป็นส่วนธุรกิจที่มีความสำคัญมากที่สุด โดยจะเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของงาน ‘บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์’ พร้อมนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของการจัดงานระดับภูมิภาค ต่อยอดสู่การจัดเอ็กซิบิชั่นด้านยานยนต์เพิ่มเติม เช่น การจัดงานรูปแบบ Auto Sale &amp; Market Place และ Auto Merchandise เพื่อสร้างแหล่งรายได้ที่มีขนาดใหญ่ รวมถึงขยายไปยังอีเวนต์ประเภทอื่นๆ ปัจจุบันอยู่ระหว่างวางแผนเตรียมการจัดงานด้านธุรกิจสตาร์ทอัพ

<img class="alignnone size-full wp-image-68541" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/09/GPI_0903.jpg" alt="" width="650" height="433" />

ส่วน Lifestyle Media + News จะนำจุดแข็งด้านการพัฒนาคอนเทนต์และสื่อโฆษณาทางการตลาดเกี่ยวกับยานยนต์ มาต่อยอดเพื่อรักษาความเป็นผู้นำสื่อยานยนต์ในประเทศไทย ด้วยการเชื่อมโยงสื่อ Online to Offline (O2O) และนำประโยชน์จาก Big Data เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในช่องทางที่หลากหลาย (Omni-Channel)

ด้าน Award &amp; Trophy จะรุกเข้าสู่ธุรกิจการจัดงานประกาศรางวัล เน้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ เช่น ยานยนต์ กีฬา เป็นต้น 4) Sport &amp; Competitions จะมุ่งสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจสปอร์ตอีเวนต์และดิจิทัลมอเตอร์สปอร์ต โดยในช่วงที่ผ่านมาได้ร่วมกับพันธมิตรจัดมหกรรมไตรกีฬา วิ่ง ว่ายน้ำ และขี่จักรยาน ‘AMAZING RACE FESTIVAL&amp;TRIATHLON KANCHANABURI 2022’ ณ สนามกรังด์ปรีซ์ มอเตอร์ ปาร์ค และสนามกรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยยังคงมองโอกาสขยายไปสู่กิจกรรมอื่นๆ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมในอนาคต

ขณะที่ Printing &amp; Packaging จะขยายกลุ่มธุรกิจงานพิมพ์ไปสู่แพคเกจจิ้ง รวมถึงสินค้าและของสะสมที่เกี่ยวกับรถยนต์ โดยปัจจุบันธุรกิจงานพิมพ์เริ่มกลับมาคึกคักจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว หลังจากเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีงานในมือที่รอส่งมอบ (แบ็กล็อก) รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้

นอกจากนั้น ธุรกิจ E-Commerce &amp; Mobile App &amp; Others บริษัทจะพัฒนาแอปพลิเคชัน “CAR Buddy” สู่การเป็นแพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าและให้บริการเกี่ยวกับยานยนต์แบบครบวงจร เช่น อะไหล่รถยนต์ แบตเตอรี่ อู่ซ่อมรถ บริการล้างรถ เป็นต้น และ “ธุรกิจตกแต่งรถยนต์” ซึ่งปัจจุบันอยู่หว่างพัฒนารถแข่งรุ่นใหม่ คาดว่ารถต้นแบบจะเสร็จปลายปีนี้ เพื่อใช้กับการแข่งขันทัวนาเมนต์ใหม่ปีหน้า และธุรกิจโรงไฟฟ้าจากขยะแปรรูป (RDF) คาดจะทอยรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้

ทั้งนี้ กลยุทธ์สร้างการเติบโตของบริษัทฯ จะอยู่ภายใต้หลัก Invest &amp; Diversification คือ ขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจที่สร้างโอกาส มีมูลค่าตลาดที่สูง และยังมีศักยภาพให้เติบโตอีกมาก แต่ยังคงไม่ทิ้งความแข็งแกร่งหลักในด้านยานยนต์และผู้จัดงานระดับประเทศของ GPI โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อสร้าง New S-curve ใหม่ๆ ในช่วง 1-3 ปีต่อจากนี้ โดยตั้งเป้าหมายมีรายได้เติบโตเท่าตัว หรือแตะ 1 พันล้านบาท ภายใน 3 ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในช่วงที่เหลือของปี 2565 ยังต้องจับตาปัจจัยเสี่ยงต่างๆ โดยเฉพาะผลพวงจากปัญหาระหว่างจีนและไต้หวัน ทำให้ชิปขาดแคลนจนกระทบต่อการผลิตรถยนต์ทั่วโลก อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมทางธุรกิจอย่างรอบด้าน เพื่อรองรับโอกาสการเติบโตในอนาคต

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/finance-and-investment/schroders-%e0%b9%80%e0%b8%9c%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%95%e0%b8%b2%e0%b8%9b%e0%b8%b1%e0%b8%8d%e0%b8%ab%e0%b8%b2.html">Schroders เผยนักลงทุนจับตาปัญหาภูมิอากาศและสินทรัพย์ดิจิทัล</a>

<hr />
<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>
&nbsp;

GPI เปิดแผนทรานส์ฟอร์มดันรายได้แตะพันล้านใน 3 ปี

“พีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา” เส้นทางท้าทายครั้งใหม่ของกรังด์ปรีซ์

<h2>กรังด์ปรีซ์ หรือ GPI ผู้จัดงานมอเตอร์โชว์ลงทุนใหญ่ในธุรกิจโรงไฟฟ้าแปรรูปขยะเป็นพลังงาน ที่จังหวัดนครสวรรค์ ด้วยกำลังการผลิตติดตั้ง 9 เมกะวัตต์ พร้อมจ่ายไฟไตรมาส 3 กระจายความเสี่ยงธุรกิจลดพึ่งพารายได้จากการจัดงานแสดงสินค้า</h2>
พีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาเข้าซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท ทรูเอ็นเนอร์จี จำกัด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิง RDF กำลังการผลิตติดตั้ง 9 เมกะวัตต์ (MW) ในอำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 700,000 หุ้นหรือคิดเป็น 25.45% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของทรูเอ็นเนอร์จี โดยใช้เงินลงทุน 250 ล้านบาท ซึ่งมีแหล่งเงินมาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท และจะส่งผลให้ทรูเอ็นเนอร์จี มีสถานะเป็นบริษัทร่วมของ GPI

“ปัจจัยที่บริษัทตัดสินใจลงทุนครั้งนี้ เพราะมองว่าโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิง RDF เป็นธุรกิจที่มีรายได้แน่นอนและมีความสม่ำเสมอในระยะยาว เนื่องจากมีการทำสัญญาขายไฟฟ้าแก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่ชัดเจน ประกอบกับทรูเอ็นเนอร์จีเป็นผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้า ดังนั้น จึงมั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการธุรกิจเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ยังใช้เชื้อเพลิงที่มาจากการแปรรูปขยะชุมชน เป็นการช่วยลดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย” พีระพงศ์ กล่าวถึงการลงทุนครั้งใหญ่หลังจากพิจารณาโอกาสการลงทุนในธุรกิจต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องนับจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

สำหรับการเข้าลงทุนดังกล่าวนับเป็นการแตกไลน์ธุรกิจครั้งใหญ่ของ GPI ด้วยความเชื่อมั่นในโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีรายได้มั่นคงจากสัญญาการจำหน่ายไฟฟ้า โดยบริษัทจะได้รับสิทธิ์เป็นกรรมการในบริษัท ทรูเอ็นเนอร์จี จำกัด

ส่วน ทรูเอ็นเนอร์จี จะรับผิดชอบการบริหารโรงไฟฟ้าและการจัดหาขยะชุมชนเพื่อนำมาแปรรูปเป็นเชื้อเพลิง RDF (Refuse Derived Fuel) เพื่อผลิตไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจุบันมีแหล่งขยะเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นที่เรียบร้อย

นอกจากนั้น พีระพงศ์คาดว่า โรงไฟฟ้าดังกล่าวจะสามารถสร้างรายได้ทั้งสิ้นปีละประมาณ 400 ล้านบาทและใช้ระยะเวลาคืนทุนประมาณ 5 ปี โดยมีผลต่อโครงสร้างผลการดำเนินงานในอนาคตของบริษัทฯ ที่จะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรตามสัดส่วนการถือหุ้น 25.45% ในธุรกิจโรงไฟฟ้า เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้หลักจากกลุ่มธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าและกิจกรรมส่งเสริมการตลาดซึ่งมีสัดส่วนรายได้กว่า 84.15% ในปีที่ผ่านมา

“ประเมินว่าการลงทุนครั้งนี้จะใช้ระยะเวลาคืนทุนประมาณ 5 ปี ประเมินอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (Economic Internal Rate of Return: EIRR) ที่ 11% ต่อปี ถือว่าค่อนข้างเร็ว ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ จากปัจจุบันที่มีแหล่งรายได้จากธุรกิจจัดงานแสดงสินค้าด้านยานยนต์ เช่น งาน Bangkok International Motor Show และกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ธุรกิจงานพิมพ์ และธุรกิจสื่อ” พีระพงศ์ กล่าวถึงแนวโน้มรายได้ที่มีโอกาสเติบโตจาก 733.89 ล้านบาทและกำไรสุทธิ 102.72 ล้านบาทในปี 2562

<img class="alignnone wp-image-28490 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/04/GPI.jpg" alt="พีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา พา กรังด์ปรีซ์ ผู้จัดงานมอเตอร์โชว์ กระจายความเสี่ยงลุยธุรกิจพลังงาน" width="866" height="593" />

ด้าน จำรัส เตชะนิธิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรูเอ็นเนอรจี จำกัด ผู้พัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิง RDF กล่าวว่า การเข้าถือหุ้นของ GPI จะช่วยเสริมศักยภาพและความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงินแก่ทรูเอ็นเนอร์จี ซึ่งบริษัทได้รับการก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2547 และได้ขยายการลงทุนสู่ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิง RDF ในอำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ โดยนำขยะชุมชนมาแปรรูปเป็นเชื้อเพลิง RDF ในการผลิตกระแสไฟฟ้า

ในปัจจุบันโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าวมีความคืบหน้าการก่อสร้างกว่า 95% และคาดว่าจะเริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date) ภายในไตรมาส 3 ปี 2563 โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และได้รับ Adder หรือส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าในอัตรา 3.50 บาทต่อหน่วย (Kwh) เพิ่มจากค่าไฟฐานเป็นระยะเวลา 7 ปีนับจากวันที่เริ่มต้นจำหน่ายไฟฟ้า หลังจากนั้นราคารับซื้อจะเป็นตามราคารับซื้อพื้นฐานและนโยบายของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

นอกจากนี้ ทรูเอ็นเนอร์จี ยังได้ทำสัญญารับกำจัดขยะโดยวิธีคัดแยกกับเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ มีอายุสัญญา 25 ปี (นับจาก 12 พฤศจิกายน 2558) เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า จากการประเมินปริมาณขยะจากบ่อฝังกลบของเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ พบว่ามีปริมาณขยะจากบ่อฝังกลบ 3 แห่งรวมประมาณ 5 แสนตัน

ซึ่งในจำนวนนี้ประมาณ 70% สามารถนำมาแปรรูปเป็นเชื้อเพลิง RDF ดังนั้น หากนำมารวมกับปริมาณขยะที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต บริษัทจึงมั่นใจว่า จะมีปริมาณขยะเพียงพอต่อการแปรรูปเป็นเชื้อเพลิง RDF ตลอดอายุสัญญาจำหน่ายไฟฟ้า

ขณะเดียวกันบริษัทยังวางแผนจัดหาแหล่งขยะอื่นๆ สำรองเพิ่มเติม ด้วยการประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดนครสวรรค์และพื้นที่ใกล้เคียง เช่น เทศบาลตำบลท่าตะโก เทศบาลเมืองตาคลี เป็นต้น รวมถึงได้เจรจากับภาคเอกชนเพื่อทำสัญญาซื้อขายเชื้อเพลิง RDF เพิ่มเติม

ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าดังกล่าวได้มีมาตรการป้องกันและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชนที่สอดคล้องกับเงื่อนไขและข้อกำหนดตามประมวลหลักการปฏิบัติ หรือ Code of Practice (COP) เพื่อให้ความมั่นใจแก่ผู้พักอาศัยในบริเวณใกล้เคียง เช่น การออกแบบอาคารเป็นระบบปิด การติดตั้งปล่องระบายมลพิษทางอากาศที่มีความสูงตามหลักเกณฑ์ Good Engineering Practice

มาตรการควบคุมการปล่อยสารมลพิษตามเกณฑ์มาตรฐาน การติดตั้งเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศจากปล่องระบายมลพิษแบบต่อเนื่องและตรวจวัดคุณภาพอากาศปีละ 2 ครั้ง การควบคุมคุณสมบัติเชื้อเพลิง RDF ได้ตามมาตรฐาน และการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมด้านอื่นๆ เป็นต้น

<hr />

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

"กรังด์ปรีซ์" ทุ่มงบแตกไลน์โรงไฟฟ้าขยะ

<h2>มีหลายท่านสงสัยว่า ทำไม Rolls-Royce นิยมใช้คำว่า Effortless มากนักในการให้คำอธิบายในเรื่องการขับเคลื่อนของรถและการควบคุมในการขับขี่ หรือ คำว่า Effortless ก็ยังนำมาใช้คำอธิบายเกี่ยวกับการใช้ฟังก์ชั่นในรถอีก ทุกอย่างมีที่มาที่ไปทั้งสิ้น</h2>
เหตุเกิดจากความคิดที่ว่า รถที่ดีที่สุดในโลก นอกจากการออกแบบขั้นสูงที่ใช้ทุกมิติของความคิดเพื่อให้เกิดเป็นแนวศิลป์ขั้นสูง การใช้วัสดุชั้นเยี่ยมหรือหายาก การประกอบด้วยมือทั้งคันในระยะเวลา 450 ชั่วโมง จากผู้ชำนาญการและเชี่ยวชาญในทุกด้าน 30 ท่าน เพื่อให้รถคันนั้นมีอัตลักษณ์เฉพาะรุ่นแล้ว รถคันนั้นต้องทำให้ผู้นั่งและผู้ขับได้รับความสะดวกสบายและใช้ช่วงเวลาในรถได้นานอย่างไม่มีปัญหา

ดังนั้นทุกอย่างจึงต้อง Effortless คือ ความง่าย และ ความสะดวกสบายในการขับขี่ อาทิเช่น ขุมพลัง V12 กับแรงม้าและแรงบิดมหาศาลที่จะทำให้ผู้ขับไม่รู้สึกถึงความยากลำบากหรือความเหน็ดเหนื่อยที่เกิดจากการขับขี่ในระยะทางยาว เพราะเพียงแค่เท้าแตะเบาๆ ที่คันเร่ง รถก็สามารถเร่งแรงเร็งขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างใจปรารถนาราวกับพรมวิเศษ และที่เป็นเช่นนี้ได้ก็เพราะพลังงานสำรองสามารถเรียกกลับมาได้อย่างรวดเร็วและทันต่อการเร่งแรงทุกครั้งอย่างเต็มที่ได้ทันทีที่แตะคันเร่ง ดังนั้นการขับเคลื่อนจะไม่รู้สึกถึงจุดสะดุดของแรงที่ตกลงเลยในทุกรอบ

กอปรกับ Intellectual Air Suspension ระบบการสั่นสะเทือนอันชาญฉลาดที่อยู่ทุกล้อ จะดูดซับแรงสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง และทุก 0.0005 มิลลิวินาที สมองของระบบนี้จะตรวจสอบและประมวลทุกสภาพท้องถนนตลอดเวลาที่ล้อได้สัมผัสและปรับการทรงตัวใหม่ทุกครั้งได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้เกิดการทรงตัวที่สมบูรณ์แบบทุกรอบ และขณะเดียวกันจะ ดูดซับแรงสั่นสะเทือนอย่างละเอียด จนแทบจะไม่รู้สึกถึงแรงกระแทกจากการที่รถต้องวิ่งบนท้องถนนที่ไม่ราบเรียบ ทำให้การขับขี่บนท้องถนนหรือการนั่งในห้องโดยสารดำเนินไปได้อย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยแม้จะขับในระยะทางไกล รู้สึกได้ถึงคำว่า Effortless จริงๆ

ฟังก์ชั่นในรถออกแบบมาให้สะดวกและง่าย (Effortless) ไม่ว่าจะเปิดวิทยุฟังเพลง หรือเล่นแผ่นซีดีภาพยนตร์ได้สองเรื่องในเวลาเดียวกัน ค้นหาเส้นทาง และอื่นๆ ที่เพิ่มความสะดวกสบายสูงสุด เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ขยับแค่ปุ่มเดียว ซึ่งทำให้การใช้เวลานานในรถไม่น่าเบื่อหน่าย

ความหมายของคำว่า Effortless ของ รถยนต์ Rolls-Royce ที่ง่ายที่สุดก็คือ ผู้นั่งและผู้ขับไม่ต้องปิดประตูเองเมื่อนั่งในรถ เพราะเพียงแค่กดประตูก็จะปิดให้ทันที  คือทุกอย่างง่ายและสะดวกสบาย เพื่อให้สมกับรถที่ดีที่สุดในโลก

เพื่อให้เข้าถึงรถยนต์ Rolls-Royce ได้ง่ายขึ้น Rolls-Royce Motor Cars Bangkok ใคร่ขอเรียนเชิญแขกผู้ทรงเกียรติทุกท่านร่วมรับประสบการณ์พิเศษกับรถยนต์ Rolls-Royce รุ่น Ghost, Wraith และ Dawn ใน “Effortless Luxury” รวมถึงชมการแสดงแฟชั่นโชว์ที่หรูหราบ่งบอกความเป็นอัตลักษณ์ของรถยนต์ Rolls-Royce โดยนักออกแบบชาวไทย VATANIKA ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ที่บูธ Rolls-Royce ใน งาน Motor Expo 2017 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

วันที่      :  วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน 2560
เวลา      : 15:30 – 17:30 น.
(การแสดงแฟชั่นโชว์ VATANIKA เริ่มตั้งแต่เวลา 16:35 – 16:45 น.)
สถานที่  :  อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับเกียรติจากท่านผู้ทรงเกียรติในการเรียนเชิญครั้งนี้

ยืนยันการเข้าร่วมงาน กรุณาติดต่อคุณพิพัฒน์ งามวุฒิกุล โทร. 085-911-8611 ภายในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ เพื่อรับบัตรเข้างาน จำกัดเพียง 12 ท่านเท่านั้น

&nbsp;

&nbsp;

รายละเอียด ของรถยนต์ Rolls-Royce รุ่น Ghost, Wraith และ Dawn โดยสังเขป

&nbsp;
<h2>Ghost (โกสท์)</h2>
<img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/62dfe14ceee86e016f29f6e80c7e3b69.png" alt="" />

เพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีแก่นสารและมีสไตล์

ในโลกนี้มีผู้ที่มองว่าความสำเร็จไม่ใช่เพียงแค่ความมั่งคั่งทางวัตถุเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประสบการณ์อันเต็มเปี่ยมและการมีสุนทรียะแห่งความงามอีกด้วย สำหรับคนเหล่านี้ ความงามสง่าอันน่าหลงใหลและแก่นแท้แห่งดีไซน์ของ Ghost คือภาพสะท้อนหนึ่งของรางวัลอันล้ำค่าสำหรับชีวิต เลิศล้ำทุกสัดส่วน งดงามอย่างเหนือชั้น "เราได้ถ่ายทอดที่สุดของความสำเร็จแห่งดีไซน์ออกมาถึง 3-4 ระดับ" - Giles Taylor ผู้อำนวยการฝ่ายดีไซน์ของ Rolls-Royce Motor Cars

ขุมพลังแห่งความคล่องแคล่วที่มุ่งตรงสู่จุดหมายแห่งอนาคต ความงามตามหลักสุนทรียศาสตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสัดส่วนแห่งดีไซน์ตามธรรมชาติ Ghost เปล่งประกายแห่งความเชื่อมั่นอันสุขุม
<img style="width: 680px; height: 459px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/f9d1fc4a8905651de37f14858f330a8b.png" alt="" />

พลังแห่งการเชื่อมต่อ

เชื่อมต่อผู้คน กับโลกของคุณ – Ghost ทำงานร่วมกับอุปกรณ์ เครือข่าย และเทคโนโลยีอื่นๆ ได้อย่างสอดประสาน พร้อมให้คุณก้าวทันทุกความก้าวหน้าและความเคลื่อนไหวแม้ขณะเดินทาง

&nbsp;

<img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/de1bc83069b6102317277d02b507c155.png" alt="" />

ประติมากรรมอันวิจิตรบรรจง

ด้วยแรงบันดาลใจจากการออกแบบกระจังหน้า Rolls-Royce Pantheon อันเป็นเอกลักษณ์ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้เข้ากับยุคสมัย โดดเด่นด้วยลายเส้นโค้งเว้าที่ตอกย้ำความเป็นยนตรกรรมที่ตอบทุกโจทย์ผู้ขับขี่ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น

&nbsp;
<h2>Wraith (เรธ)</h2>
<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/58a7790193ed17a18bebd0ce47144c8a.png" alt="" />

ขุมพลัง มีสไตล์ และความเหนือชั้น

นิยามใหม่แห่งยนตรกรรม Grand Touring สำหรับผู้แสวงหาความท้าทายในโลกยุคใหม่ ด้วยจิตวิญญาณแห่งความกล้าหาญภายใต้สไตล์แห่งความเชื่อมั่น เมื่อประสบการณ์คือสิ่งเดียวที่ใช้ในการประเมินค่าความสำเร็จ Wraith คือการผสานขุมพลัง ความมีสไตล์ และความเหนือชั้นเพื่อการสัมผัสที่สุดแห่งยนตรกรรม GT
<img style="width: 680px; height: 319px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/ea844b8f5026d202569b3d1167c08ec3.png" alt="" />

สำหรับผู้แสวงหาความท้าทาย

จินตนาการแห่งยนตรกรรม Grand Touring พบจุดบรรจบ ณ ที่แห่งนี้ Wraith ก้าวสู่ความเป็นยานยนต์ที่ล้ำหน้าขึ้นไปอีกขั้น ด้วยสมรรถนะอันเป็นที่ประจักษ์ ถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งการขับขี่อย่างแท้จริงที่ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือน

&nbsp;

<img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/f79ce7731d099941f72292d917d54f1d.png" alt="" />

นิยามใหม่แห่งกาลเวลา

Bespoke สะท้อนแรงปรารถนาในการออกค้นหาประสบการณ์อันเป็นแบบฉบับอย่างเต็มเปี่ยม เส้นโค้ชไลน์รังสรรค์ลวดลายได้ตามต้องการ เครื่องหนังตกแต่งภายในที่เลือกได้ทั้งโทนสีแบบเข้ากันและตัดกัน ทุกองค์ประกอบล้วนเปิดโอกาสให้ผู้เป็นเจ้าของได้สร้างสรรค์เรื่องราวตามแบบฉบับของตนเอง

เพราะประสบการณ์คือสิ่งเดียวที่ควรแก่การประเมินค่าความสำเร็จ Wraith สร้างสรรค์ภาพลักษณ์ใหม่แห่งยนตรกรรม Grand Touring ด้วยแรงขับเคลื่อนในการแสวงหาที่สุดแห่งประสบการณ์อันไร้ขีดจำกัด

&nbsp;
<h2>Dawn (ดอร์น)</h2>
<img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/ea9fe87207b944f169eba5878b75e36a.png" alt="" />

รับรู้สัมผัสทุกช่วงเวลา

Dawn ให้ทุกสัมผัสอย่างเพลิดเพลิน ให้ความสะดวกสบายและอิสระที่สมบูรณ์แบบ เหนือระดับด้วยความงามและความคล่องตัวในทุกช่วงขณะ พร้อมเปิดรับประสบการณ์อย่างไร้ขีดจำกัดด้วยสุนทรียะอันเหนือชั้น ดื่มด่ำและสัมผัสช่วงเวลาแห่งความเร้าใจของยนตรกรรมที่พร้อมปลุกจิตวิญญาณและสรีระให้โลดแล่นอย่างไร้พันธนาการ

&nbsp;

<img style="width: 680px; height: 443px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/1281cd0effbfc00edff5c6addc6e9b00.png" alt="" />
<img style="width: 680px; height: 523px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/3e646860bd906cf7e22448530cc23571.png" alt="" />

แบ่งปันประสบการณ์ร่วมกัน

Dawn Drophead Coupé  Rolls-Royce Dawn 2 ประตู 4 ที่นั่ง คูเป้ เปิดประทุนที่โดดเด่น Dawn เกิดมาจากการพัฒนาของ Phantom Drophead Coupe ดังนั้น เสน่ห์ ของความเป็นที่สุดของ Rolls-Royce จึงอยู่ครบทุกด้าน ขุมพลัง อันทรงพลัง ของเครื่องยนต์ขนาด 6.6 ลิตร วี 12 ทวินเทอร์โบ การเปิดปิดหลังคา แบบ บาเลลินา โคลสต์ สามารถทำได้อย่างเงียบสนิท  ผ้าเวลเวตที่พัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษถึง 4 ชั้น  จึงทำให้ Dawn เป็นรถที่มีหลังคานิ่มที่เงียบที่สุดในโลก ด้วยลำโพง 18 ตัวที่มีคุณภาพพิเศษ ระบบ Hi-Fi  ที่สามารถปรับตัวเองโดยอัตโนมัติเพื่อให้ได้เสียงสมบูรณ์แบบและสุนทรียภาพตลอดการเดินทาง

&nbsp;

&nbsp;

<iframe src="https://www.youtube.com/embed/84HoEma6g38" width="680" height="435" frameborder="0" allowfullscreen="allowfullscreen"></iframe>

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ Rolls-Royce Motor Cars Bangkok &amp; Phuket
02-670-6060 (สาขาถนนพระราม 3), 02-610-6788 (สาขาสยามพารากอน), 07 620 1999 (สาขาภูเก็ต)

<a href="https://m.facebook.com/rollsroycemotorcarsbangkok/">https://m.facebook.com/rollsroycemotorcarsbangkok/</a>
<a href="https://goo.gl/renvW5">https://goo.gl/renvW5</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events