<h2>U.S. News และ World Report ร่วมกันจัดอันดับ มหาวิทยาลัยยอดเยี่ยม ที่สุดในโลก ประจำปี 2021 โดยรวบรวมข้อมูลสถิติ จากราว 1,500 สถานศึกษาจากหลากหลายประเทศ ที่มีผลงานการวิจัยเชิงวิชาการคุณภาพและชื่อเสียงของสถาบัน</h2>
โดยรายชื่อ มหาวิทยาลัยยอดเยี่ยม ใน 10 อันดับแรกมาจากเพียง 2 ประเทศเป็นหลักคือสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ โดยมหาวิทยาลับที่ได้รับคะแนนอันดับที่ 1 ได้แก่ Harvard University ตามมาด้วยอันดับที่ 2 Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT ขณะที่อันดับที่ 3  ได้แก่ Stanford University และ อันดับที่ 4 University of California–Berkeley โดยอันดับที่  5  University of Oxford จากอังกฤษ

การจัดอันดับประจำปีนี้มีประเทศที่เข้าร่วมมากถึง 86 ประเทศ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่จำนวน 81 ประเทศ ขณะที่ประเทศที่มีมหาวิทยาลัยติดเข้ามาในรายชื่อได้มากที่สุดคือ สหรัฐฯ โดยมีมหาวิทยาลัยติดอันดับมากถึง 255 แห่ง รองลงมาเป็นประเทศจีนที่มีมหาวิทยาลัยติดเข้าเป็นจำนวน 176 แห่ง, สหราชอาณาจักร  87 แห่ง, ฝรั่งเศส 70 แห่ง และ เยอรมนี 68 แห่ง

“หลักในการพิจารณามหาวิทยาลัยยอดเยี่ยมของเราให้ความสำคัญกับมาผลงานวิจัยทางวิชาการ” Robert Morse, chief data strategist แห่ง U.S. News กล่าว “การจัดอันดับแบ่งได้ตามสาขาวิชา, ภูมิภาคและประเทศ, ความเข้าใจของนักเรียนและผู้ปกครองที่เกี่ยวข้องกับสถานศึกษาเหล่านั้น”

สำหรับการจัดอันดับมหาวิทยาลัยประจำปี 2021 ได้เพิ่มการจัดอันดับอีก 10 สาขาวิชา ทำให้จำนวนสาขาวิชาทั้งหมดเป็น 38  สาขาวิชา โดยสาขาวิชาที่เพิ่มเข้ามา อาทิ สาขาไบโอเทคโนโลยี, สิ่งแวดล้อมและชีวอนามัย และ เวชศาสตร์นิวเคลียร์และ MRI ด้านทางการแพทย์ ซึ่งมหาวิทยาลัยจากประเทศจีนถึง 6 แห่ง ได้คะแนนเป็นอันดับที่ 1 ในสาขาวิชา 10 สาขาวิชาที่เพิ่มเข้ามาใหม่ อาทิ สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์-เคมี, สาขาวิชาพลังงานและเชื้อเพลิง และ สาขาวิชานาโน-วิทยาศาสตร์และนาโน-เทคโนโลยี

"การแพร่กระจายของไวรัสโคโรน่าเป็นปัจจัยที่ทำให้เรายิ่งต้องหาไขว่คว้าการศึกษาที่สูงขึ้นไป โดยเฉพาะผู้ที่มองหาหลักสูตรจากต่างประเทศ" Anita Narayan บรรณาธิการบริหารด้านการศึกษา แห่ง U.S. News กล่าว "สำหรับนักเรียนที่กำลังคิดจะเรียนต่อ การจัดอันดับ Best Global Universities ช่วยเริ่มต้นการค้นหาสถานที่เรียนต่อได้เป็นอย่างดี"

ทั้งนี้สำหรับมหาวิทยาลัยในประเทศไทยติดในอันดับจากการจัดอันดับโดย U.S. News และ World Report โดย 3  อันดับแรกได้แก่ อันดับที่ 1 มหาวิทยาลัยมหิดล, อันดับที่ 2 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ อันดับที่ 3 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

&nbsp;

พบ 10 อันดับมหาวิทยาลัยยอดเยี่ยมที่สุดในโลก ประจำปี 2021

<img class="alignnone wp-image-36599 size-medium" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/01-Harvard-University-300x169.jpg" alt="มหาวิทยาลัยยอดเยี่ยม" width="300" height="169" />
อันดับที่ 1
Harvard University (สหรัฐฯ)

<img class="alignnone wp-image-36600 size-medium" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/02-Massachusetts-Institute-of-Technology--300x200.png" alt="มหาวิทยาลัยยอดเยี่ยม" width="300" height="200" />
อันดับที่ 2
Massachusetts Institute of Technology (สหรัฐฯ)

<img class="alignnone wp-image-36601 size-medium" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/03-Stanford-University-300x200.jpg" alt="มหาวิทยาลัยยอดเยี่ยม" width="300" height="200" />
อันดับที่ 3
Stanford University (สหรัฐฯ)

<img class="alignnone wp-image-36602 size-medium" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/04-University-of-California–Berkeley-300x195.jpg" alt="มหาวิทยาลัยยอดเยี่ยม" width="300" height="195" />
อันดับที่ 4
University of California–Berkeley (สหรัฐฯ)

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-36603 size-medium" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/05-University-of-Oxford-300x198.jpg" alt="มหาวิทยาลัยยอดเยี่ยม" width="300" height="198" />
อันดับที่ 5
University of Oxford (สหราชอาณาจักร)

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-36604 size-medium" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/06-Columbia-University-300x169.jpg" alt="มหาวิทยาลัยยอดเยี่ยม" width="300" height="169" />
อันดับที่ 6
Columbia University (สหรัฐฯ)

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-36605 size-medium" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/07-California-Institute-of-Technology-300x201.jpg" alt="มหาวิทยาลัยยอดเยี่ยม" width="300" height="201" />
อันดับที่ 7
California Institute of Technology (สหรัฐฯ)

<img class="alignnone wp-image-36606 size-medium" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/08-University-of-Washington-300x200.jpg" alt="มหาวิทยาลัยยอดเยี่ยม" width="300" height="200" />
อันดับที่ 8
University of Washington (สหรัฐฯ)

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-36607 size-medium" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/09-University-of-Cambridge-300x150.jpg" alt="มหาวิทยาลัยยอดเยี่ยม" width="300" height="150" />
อันดับที่ 9
University of Cambridge (สหราชอาณาจักร)

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-36608 size-medium" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/10-Johns-Hopkins-University-300x196.jpg" alt="มหาวิทยาลัยยอดเยี่ยม" width="300" height="196" />
อันดับที่ 10
Johns Hopkins University (สหรัฐฯ)

&nbsp;

แปลและเรียบเรียงจาก U.S. News Unveils 2021 Best Global Universities Rankings เผยแพร่บน usnews.com

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/people/strategies/%E0%B8%94%E0%B8%A3-%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B9%8C%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%88-%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B9%8C-%E0%B8%81%E0%B8%B1.html">ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ กับภารกิจสร้าง “Innovation Thailand”</a>

<header class="entry-header">

<hr />

ไม่พลาดบทความด้านกลยุทธ์องค์กรและธุรกิจ ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>
และ <a href="https://twitter.com/Forbes_TH">ทวิตเตอร์ Forbes Thailand</a>

</header>

10 อันดับ มหาวิทยาลัยยอดเยี่ยม ประจำปี 2021

<h2 class="p1">สําหรับคําถามที่ว่าการเรียนในสถาบันอุดมศึกษาคุ้มค่าหรือไม่นั้น คําตอบก็คือ คุ้มค่าอย่างแน่นอน อย่างน้อยถ้าคุณได้เข้าเรียนในสถานศึกษาชั้นนํา และนั่นไม่ทําให้คุณถังแตกแล้วละก็ จะรีรออะไร</h2>
ค่าใช้จ่ายต่อปีโดยเฉลี่ยของสถาบันอุดมศึกษา 650 แห่งที่เราวิเคราะห์นี้อยู่ที่ 45,000 เหรียญสหรัฐฯ ในอเมริกา 49% ของบัณฑิตที่อายุน้อยกว่า 30 ปี มีหนี้สินจากการกู้ยืมเพื่อแลกกับฐานเงินเดือนที่เป็นค่ากลางซึ่งอยู่ที่ 25,000 เหรียญ ซึ่งถือเป็นสิทธิพิเศษของผู้มีวุฒิปริญญาตรี แต่สําหรับนักศึกษาจากบรรดามหาวิทยาลัยชั้นนํา การลงทุนดังกล่าวให้ผลตอบแทนอย่างงาม
หลังจากทํางานได้ 10 ปี ศิษย์เก่าจากสถาบันอุดมศึกษา 50 อันดับแรกจากการจัดอันดับของเรา มีรายได้มากกว่าผู้ที่สําเร็จการศึกษาจากสถานศึกษา 50 อันดับสุดท้ายถึงเกือบ 50,000 เหรียญต่อปี การจัดอันดับของเราทำการศึกษาวิเคราะห์เฉพาะสถาบันการศึกษา 650 แห่งที่ดีที่สุดของประเทศเท่านั้น (มีสถานศึกษาราว 3,000 แห่งที่จัดการศึกษาระดับปริญญาตรีหลักสูตร 4 ปีทั่วสหรัฐฯ)
นักศึกษาจากสถานศึกษาชั้นนําเหล่านี้ยังทําได้ดีกว่าในแง่ของการสําเร็จการศึกษาภายในเวลาที่กําหนด การได้รับการยอมรับในแวดวงวิชาการ และการได้รับรางวัลจากการแข่งขันต่างๆ การเลือกสถานศึกษาที่ถูกต้องเหมาะสมถือเป็นหนึ่งในการตัดสินใจครั้งสําคัญของทุกคน ดังนั้น จงหาข้อมูลให้รอบด้านและเลือกด้วยความรอบคอบ
&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-26065" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/01.jpg" alt="" width="300" height="300" />
อันดับที่ 1: HARVARD Cambridge, MA
จํานวนนักศึกษาระดับปริญญาตรี: 13,844 คน
ค่าใช้จ่ายรวม: 69,600 เหรียญ
อัตราการตอบรับเข้าเรียน: 5%
ศิษย์เก่าผู้มีช่ือเสียง: Jeremy Lin ผู้เล่นในลีก NBA
&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-26066" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/02.jpg" alt="" width="300" height="300" />

อันดับที่ 2: STANFORD Stanford, CA 
จํานวนนักศึกษาปริญญาตรี: 8,402 คน
ค่าใช้จ่ายรวม: 69,109 เหรียญ
อัตราการตอบรับเข้าเรียน: 5%
ศิษย์เก่าผู้มีช่ือเสียง: Charles Schwab ผู้ร่วมก่อตั้ง Schwab
&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-26067" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/03.jpg" alt="" width="300" height="300" />

อันดับที่ 3: YALE  New Haven, CT 
จํานวนนักศึกษาปริญญาตรี: 6,483 คน
ค่าใช้จ่ายรวม: 71,290 เหรียญ
อัตราการตอบรับเข้าเรียน: 7%
ศิษย์เก่าผู้มีชื่อเสียง: Steve Mnuchin รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-26068" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/04.jpg" alt="" width="300" height="300" />

อันดับที่ 4: MIT Cambridge, MA 
จํานวนนักศึกษาปริญญาตรี: 4,680 คน
ค่าใช้จ่ายรวม: 67,430 เหรียญ
อัตราการตอบรับเข้าเรียน: 7%
ศิษย์เก่าผู้มีชื่อเสียง: Benjamin Netanyahu นายกรัฐมนตรีอิสราเอล
&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-26069" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/05.jpg" alt="" width="300" height="300" />

อันดับที่ 5: PRINCETON Princeton, NJ 
จํานวนนักศึกษาปริญญาตรี: 5,659 คน
ค่าใช้จ่ายรวม: 66,150 เหรียญ
อัตราการตอบรับเข้าเรียน: 6%
ศิษย์เก่าผู้มีชื่อเสียง: Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon
&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-26070" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/06.jpg" alt="" width="300" height="300" />

อันดับที่ 6: PENN Philadelphia, PA
จํานวนนักศึกษาปริญญาตรี: 13,437 คน
ค่าใช้จ่ายรวม: 71,715 เหรียญ
อัตราการตอบรับเข้าเรียน: 9%
ศิษย์เก่าผู้มีชื่อเสียง: Elon Musk ผู้ร่วมก่อตั้ง Tesla
&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-26071" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/07.jpg" alt="" width="300" height="300" />

อันดับที่ 7: BROWN Providence, RI
จํานวนนักศึกษาปริญญาตรี: 7,390 คน
ค่าใช้จ่ายรวม: 71,050 เหรียญ
อัตราการตอบรับเข้าเรียน: 8%
ศิษย์เก่าผู้มีชื่อเสียง: Emma Watson นักแสดง
&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-26072" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/08.jpg" alt="" width="300" height="300" />

อันดับที่ 8: CALTECH Pasadena, CA
จํานวนนักศึกษาปริญญาตรี: 1,002 คน
ค่าใช้จ่ายรวม: 68,901 เหรียญ
อัตราการตอบรับเข้าเรียน: 8%
ศิษย์เก่าผู้มีชื่อเสียง: Kip Thorne นักฟิสิกส์ทฤษฎี เจ้าของรางวัลโนเบล
&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-26073" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/09.jpg" alt="" width="300" height="300" />

อันดับที่ 9: DUKE Durham, NC
จํานวนนักศึกษาปริญญาตรี: 7,184 คน
ค่าใช้จ่ายรวม: 71,764 เหรียญ
อัตราการตอบรับเข้าเรียน: 10%
ศิษย์เก่าผู้มีชื่อเสียง: David Rubenstein ผู้ร่วมก่อต้ัง The Carlyle Group
&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-26074" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/10.jpg" alt="" width="300" height="300" />

อันดับที่ 10: DARTMOUTH Hanover, NH
จํานวนนักศึกษาปริญญาตรี: 4,693 คน
ค่าใช้จ่ายรวม: 71,827 เหรียญ
อัตราการตอบรับเข้าเรียน: 10%
ศิษย์เก่าผู้มีชื่อเสียง: Shonda Rhimes ผู้ควบคุมการผลิตรายการหรือละครชุดทางโทรทัศน์
&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-26079" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/USA-U.jpg" alt="" width="500" height="726" />

&nbsp;

อ่านเพิ่มเติม
<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/world/europe/10-%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%a1%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%a5%e0%b8%b1%e0%b8%a2-%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%94.html">10 อันดับมหาวิทยาลัย ที่ดีที่สุดใน UK</a></li>
</ul>
&nbsp;

<hr />

<a href="https://bit.ly/2OSAe1p">คลิกอ่านบทความทางด้านธุรกิจและการทำงาน ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนธันวาคม 2562 ได้ในรูปแบบ e-Magazine</a>

<img class="alignnone wp-image-24517" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/11/cover-December-2019.jpg" alt="" width="300" height="394" />

10 อันดับ สุดยอดมหาวิทยาลัยในอเมริกา

<h2>หากพูดถึงการเรียนต่อที่ต่างประเทศ “สหราชอาณาจักร” หรือ UK นับเป็นจุดหมายต้นๆ ในใจผู้ปกครองที่จะส่งบุตรหลานไปเรียนต่อ เพราะไม่เพียงได้ภาษาอังกฤษแบบต้นฉบับแล้ว ที่นี่ยังมีระบบการศึกษาที่ดี เข้มข้น อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ</h2>
Forbes Life Thailand ขอแนะนำ 10 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดใน UK จากการจัดอันดับของ Times Higher Education 2019 หรือ THE ที่รวบรวมข้อมูลจาก HR consultancy Emerging ซึ่งวัดผลจากการเรียน การสอน การวิจัย การถ่ายทอดความรู้ และภาพลักษณ์มุมมองในระดับนานาชาติ

<img class="alignnone wp-image-25537 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/12/01.jpg" alt="University of Oxford" width="450" height="236" />

1. University of Oxford

ตั้งอยู่ในเมือง Oxford เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ โดดเด่นในด้าน อักษรศาสตร์ มนุษยศาสตร์ กฎหมาย และงานวิจัย ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่มีการแข่งขันสูง มีการเรียนการสอนที่เข้มข้น และได้รับการยอมรับจากทั่วโลก

Times Higher Education 2019 ให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของโลก ซึ่งมีนักศึกษาได้รับงานทันทีหลังจบถึง 97% ศิษย์เก่าของ OxFord กลายเป็นผู้นำระดับนานาชาติจำนวนมาก เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษถึง 27 คน ได้รับรางวัลโนเบล 50 คน และได้รับเหรียญรางวัลโอลิมปิกถึง 120 คน

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-25538 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/12/02.jpg" alt="University of Cambridge" width="450" height="300" />

2. University of Cambridge

ตั้งอยู่ในเมือง Cambridge เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 2 ที่เก่าแก่ที่สุด ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ จัดเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยกลุ่ม Golden Triangle เด่นในด้านหลักสูตรการเรียนภาษาอังกฤษ กฎหมาย และสาขาที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยอย่างวิทยาศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ ทั้งยังเด่น ในเรื่องเทคนิคการเรียนการสอนที่เรียกว่า tutelage system เป็นการเรียน แบบเสวนากลุ่มเล็ก โต้ตอบระหว่างผู้เรียนและผู้สอน พร้อมผสานกับนวัตกรรมการเรียนการสอบแบบใหม่

Times Higher Education 2019 ให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 2 ของโลก ซึ่งมีศิษย์เก่าที่มีบทบาทสำคัญ ในองค์กรใหญ่และด้านการเมืองจำนวนมากกว่า 400 รายทั่วโลก

<img class="alignnone wp-image-25539 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/12/03.jpg" alt="Imperial College London (ICL)" width="450" height="300" />

3. Imperial College London (ICL)

ตั้งอยู่ใน London ถือเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของอังกฤษ โดดเด่น ในด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ แพทยศาสตร์ และธุรกิจ

Times Higher Education 2019 ได้จัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 9 ของโลก โดยเป็นจุดหมายปลายทางการศึกษาของนักศึกษา ผู้ประกอบการ หรือ ผู้ที่ต้องการสร้างความสัมพันธ์อันดี ทางธุรกิจในระดับนานาชาติ

<img class="alignnone wp-image-25540 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/12/04.jpg" alt="University College London (UCL)" width="450" height="339" />

4. University College London (UCL)

ตั้งอยู่ใน London จัดเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีความหลากหลายของสาขาวิชาเป็นอันดับต้นๆ ของโลก มีชื่อเสียงในด้านแพทยศาสตร์ วรรณกรรม นิติศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และดาราศาสตร์ ฟิสิกส์ โดยเฉพาะ งานวิจัยที่มีคุณภาพ และรูปแบบการเรียนการสอนที่แตกต่างจากที่อื่นใน UK เนื่องจากเป็นการเรียนการสอนแบบบูรณาการความรู้จากหลากหลายสาขาวิชาเข้าด้วยกันคล้ายกับมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา โดยได้รับรางวัลโนเบล อันทรงเกียรติมาแล้วถึง 29 รางวัล

Times Higher Education 2019 จัดให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 14 ของโลก

<img class="alignnone wp-image-25541 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/12/05.jpg" alt="London School of Economics and Political Science (LSE)" width="450" height="300" />

5. London School of Economics and Political Science (LSE)

วิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่ง London เป็นสถาบันเฉพาะทางสายสังคมศาสตร์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ และสังคมศาสตร์ โดยถือว่าดีที่สุดอันดับ 1 ของโลกในการเตรียม ความพร้อมนักศึกษาสู่สายอาชีพวารสารศาสตร์และสิ่งพิมพ์ และ ดีที่สุดอันดับ 2 ของโลกในสาขาวิชาสังคมศาสตร์และการจัดการ และ ดีที่สุดอันดับ 3 ของโลกในวิชาสื่อและ การสื่อสาร

Times Higher Education 2019 จัดให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 26 ของโลก ที่สำคัญ LSE ยังเป็น ที่ตั้งของห้องสมุดด้านสังคมศาสตร์ การเมือง และการปกครองที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-25542 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/12/06.jpg" alt="University of Edinburgh" width="300" height="413" />

6. University of Edinburgh

ตั้งอยู่ในเมือง Edinburgh ของสกอตแลนด์ เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ในด้านภาษาศาสตร์ (Linguistics) ติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก รวมถึงยังเด่นด้านแพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และธุรกิจ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางด้านการสอนและการวิจัยของสกอตแลนด์ เพราะมีวิชาด้านการวิจัยมากมายถึง 135 สาขา

Times Higher Education 2019 จัดให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 29 ของโลก

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-25543 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/12/07.jpg" alt="King’s College London (KCL)" width="300" height="400" />

7. King’s College London (KCL)

ตั้งอยู่ใน London เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ในอังกฤษ มีความโดดเด่น ในด้านแพทยศาสตร์ มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ นิติศาสตร์ และการพัฒนา ระหว่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางในการทำวิจัย ซึ่งนักวิจัยเคยยกย่องให้ KCL เป็น “ผู้นำระดับโลก” เนื่องจาก ค้นพบโครงสร้างของ DNA ที่ซับซ้อน

Times Higher Education 2019 จัดให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 38 ของโลก

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-25544" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/12/08.jpg" alt="" width="450" height="300" />

8. University of Manchester

ตั้งอยู่ที่เมือง Manchester มีจุดเด่นในด้านประวัติศาสตร์ ภาษาอังกฤษ การเมือง รัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ มานุษยวิทยาสังคม รวมถึงพยาบาล-ศาสตร์ และสาขาวิชาพัฒนศึกษา ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของมหาวิทยาลัยนี้ได้รับรางวัลโนเบลมาแล้ว กว่า 25 รางวัล

Times Higher Education 2019 จัดให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 57 ของโลก

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-25545" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/12/09.jpg" alt="" width="450" height="300" />

9. University of Bristol

ตั้งอยู่ที่เมือง Bristol มีชื่อเสียง ในด้านแพทยศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ถือเป็นมหาวิทยาลัยนานาชาติที่แท้จริง เพราะเต็มไปด้วยนักศึกษา และนักวิชาการจากหลากหลาย ประเทศทั่วโลก ที่สำคัญมีการเรียน การสอนแบบควบคู่ Combined Master’s ซึ่งจะได้รับปริญญาโทถึง 2 ใบหลังจบการศึกษาอีกด้วย รวมถึงนักศึกษาแต่ละคนจะมีติวเตอร์ส่วนตัวคอยให้คำปรึกษาเรื่องเรียนอยู่ตลอด ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีสาขาวิชาที่ หลากหลายและดูสนุกสนาน เช่น วิชาความสุข เป็นต้น มหาวิทยาลัยนี้มีศิษย์เก่าที่ได้รับรางวัลโนเบลมากถึง 13 คน

Times Higher Education 2019 จัดให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ ที่ 78 ของโลก

<img class="alignnone size-full wp-image-25546" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/12/010.jpg" alt="" width="450" height="300" />

10. University of Warwick

ตั้งอยู่ที่เมือง Coventry มีจุดแข็งในด้านภาษาอังกฤษและวรรณกรรม อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของศูนย์ศิลปศึกษา Warwick Art Centre จากการสำรวจโดย High Fliers Research พบว่านักศึกษาที่จบจาก Warwick เป็นที่ต้องการในตลาดงานเป็นอย่างมาก

Times Higher Education 2019 จัดให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับที่ 79 ของโลก

เรื่อง: ฐิตาภา ญาณพัฒน์

&nbsp;

<hr />

<a href="https://www.ookbee.com/shop/magazine/FORBES/bebabb02-eb1c-4942-ab9c-3fbf41894111/forbes-%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%96%E0%B8%A1-%E0%B8%89%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99-%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%A8%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%99-2562">คลิกเพื่ออ่านบทความทางด้านการลงทุนได้ที่ Forbes Life แถมฟรีมาในนิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2019 ในรูป e-Magazine</a>

<img class="alignnone wp-image-24460" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/11/ForbesLifeNov2019.jpg" alt="" width="300" height="359" />

&nbsp;

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events