<h2>ในโอกาสครบรอบ 60 ปีแห่งเอกราช สิงคโปร์รายงานการเติบโตทางเศรษฐกิจครึ่งแรกของปี 2025 ที่ 4.3% สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ สาเหตุหลักมาจากการส่งออกที่พุ่งแรงท่ามกลางความไม่แน่นอนเรื่องภาษีการค้า ขณะเดียวกันเหล่าเศรษฐีสิงคโปร์ก็มีเรื่องให้เฉลิมฉลองเพิ่มเติม เพราะความมั่งคั่งรวมของพวกเขาเพิ่มขึ้นเกือบ 25% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 239,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Eduardo Saverin ผู้ร่วมก่อตั้ง Facebook และพำนักในสิงคโปร์มานาน ครองอันดับ 1 ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 และเป็นผู้ที่กวาดกำไรเพิ่มมากที่สุด โดยทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 14,000 ล้านเหรียญ ส่งผลให้มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 43,000 ล้านเหรียญ จากแรงหนุนของหุ้น Meta ที่พุ่งขึ้นเพราะโฆษณาขับเคลื่อนด้วย AI&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Kwek Leng Beng เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ ขยับขึ้นมาที่อันดับ 2 ความมั่งคั่งครอบครัวเพิ่มขึ้น 24% เป็น 14,300 ล้านเหรียญ จากข้อมูลใหม่เกี่ยวกับทรัพย์สินที่ตระกูลถือครอง ก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นข่าวใหญ่เมื่อฟ้องลูกชาย Sherman Kwek ซีอีโอของ City Developments เรื่องการแต่งตั้งบอร์ดโดยไม่ทำตามขั้นตอน แต่สุดท้ายยุติคดีภายในสองสัปดาห์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Robert และ Philip Ng สองพี่น้องตระกูลอสังหาฯ ร่วงลงสู่อันดับ 3 ความมั่งคั่งรวมลดเหลือ 14,100 ล้านเหรียญ จากผลกระทบวิกฤตอสังหาฯ ฮ่องกง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ครอบครัว Goh ผู้สืบทอดอาณาจักรสีทาบ้านของ Goh Cheng Liang (ถึงแก่อสัญกรรมในวัย 98 ปี เมื่อสิงหาคมที่ผ่านมา) เข้าสู่ทำเนียบเศรษฐีเป็นครั้งแรกที่อันดับ 4 ด้วยทรัพย์สิน 13,100 ล้านเหรียญ หุ้น Nippon Paint Holdings ที่บุตรชาย Goh Hup Jin ดำรงตำแหน่งประธาน ขยับขึ้นเกือบ 30% หลังเข้าซื้อกิจการ AOC ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์พิเศษในสหรัฐฯ เมื่อปี 2024&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อีกกลุ่มที่กวาดความมั่งคั่งมหาศาลคือสามผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยี Sea ซึ่งจดทะเบียนในนิวยอร์ก โดยรายได้ไตรมาสสองของทุกธุรกิจ ได้แก่ ความบันเทิงดิจิทัล, อีคอมเมิร์ซ และฟินเทคเพิ่มขึ้นแรง ส่งผลให้ Forrest Li ประธานและซีอีโอ ขยับขึ้นสู่อันดับ 6 ด้วยทรัพย์สิน 11,200 ล้านเหรียญ ขณะที่&nbsp;Gang Ye ซีโอโอ ขึ้นมาอยู่อันดับ 13 ด้วยทรัพย์สิน 6,000 ล้านเหรียญ และ&nbsp;David Chen ซีพีโอของ Shopee พุ่งขึ้น 22 อันดับ มาที่อันดับ 28 ด้วยทรัพย์สิน 2,000 ล้านเหรียญ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ยังมีการกลับเข้าสู่ทำเนียบอีก 2 ราย ได้แก่&nbsp; &nbsp; - Teo Swee Ann ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Espressif Systems (ผู้ผลิตชิปสำหรับอุตสาหกรรมและอุปกรณ์สวมใส่) ที่ทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2024 กลับมาติดอันดับหลังห่างหายไป 3 ปี&nbsp; &nbsp; - Henry Ng และพี่น้อง ผู้ควบคุม Pan-United ผู้ผลิตคอนกรีต รายนี้หวนกลับมาติดอันดับหลัง 7 ปี เพราะหุ้นพุ่งกว่าเท่าตัวจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำและการใช้ AI มาช่วยบริหารงาน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปีนี้ เกณฑ์ขั้นต่ำสำหรับการติดอันดับเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านเหรียญ จากเดิม 870 ล้านเหรียญ ส่งผลให้มีเศรษฐี 2 รายหลุดจากรายชื่อ &nbsp; &nbsp; ส่วน 10 อันดับมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในสิงคโปร์ มีดังต่อไปนี้ ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/09/V2zsDi6cT6AG9KcDx5B5.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="0" data-file-name="V2zsDi6cT6AG9KcDx5B5.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> ​ อ้างอิง: <a target="_blank" href="https://www.forbes.com/sites/janeho/2025/09/03/singapores-50-richest-2025-combined-wealth-jumps-to-239-billion-facebook-cofounder-eduardo-saverin-adds-14-billion-to-remain-at-no-1/" alt="Singapore's 50 Richest 2025">Singapore's 50 Richest 2025</a> Photo by <a href="https://unsplash.com/@mikeenerio?utm_content=creditCopyText&amp;utm_medium=referral&amp;utm_source=unsplash">Mike Enerio</a> on <a href="https://unsplash.com/photos/san-marina-bay-singapore-7ryPpZK1qV8?utm_content=creditCopyText&amp;utm_medium=referral&amp;utm_source=unsplash">Unsplash</a> ​ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/forbes-lists/top-10-worlds-highest-paid-tennis-players-2025" alt="10 อันดับ ‘นักเทนนิส’ รายได้สูงสุดในโลก ปี 2025">10 อันดับ ‘นักเทนนิส’ รายได้สูงสุดในโลก ปี 2025</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

10 อันดับ มหาเศรษฐีสิงคโปร์ ประจำปี 2025

10 อันดับ "มหาเศรษฐีสิงคโปร์" ประจำปี 2022

<h2 class="p3">Chang Yun Chung มหาเศรษฐีอายุมากที่สุดของโลก ยังไม่หมดแรง แม้จะอายุครบ 101 ปีในเดือนนี้</h2>
เขาส่งบังเหียนของ Pacific International Lines (PIL) บริษัทชิปปิ้งที่เขาก่อตั้งเมื่อปี 1967 ให้ลูกชาย Teo Siong Seng รับช่วงต่อเมื่อปีที่แล้ว แต่ Chang ก็ยังคงเข้าออฟฟิศทุกวันและชี้แนะแนวทางกลยุทธ์ให้คณะกรรมการบริษัทในฐานะประธานกิตติคุณ
Teo ผู้เข้ารับตำแหน่งประธานกรรมการบริหารของ PIL เมื่อเดือนเม.ย. 2018 อาจต้องการคำแนะนำจากบิดาเพื่อนำพาบริษัทผ่านช่วงเวลาที่ท้าทายไปให้ได้  PIL มีผลขาดทุนสุทธิ 208 ล้านเหรียญในปี 2018 เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 119 ล้านเหรียญในปีก่อนหน้า เนื่องจากอัตราค่าระวางที่ลดลงและต้นทุนเชื้อเพลิงที่แพงขึ้น แม้ว่าปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้รายได้เพิ่มขึ้น 11% เป็น 4.5 พันล้านเหรียญก็ตามที
นอกจากนี้ สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯที่รุนแรงขึ้น ก็ยิ่งทำบริษัททำงานลำบากมากกว่าเดิมในปีนี้
สภาพแวดล้อมที่ท้าทายของธุรกิจได้ทำให้ทรัพย์สินของ Chang ลดลง ทรัพย์สินสุทธิของเขาลดลง 27% เหลือ 1.5 พันล้านเหรียญจาก 2.05 พันล้านเหรียญ (เขาอยู่ในอันดับที่ 22 จาก<a href="https://forbesthailand.com/world/asia/10-%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%9a-%e0%b8%a1%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%a8%e0%b8%a3%e0%b8%a9%e0%b8%90%e0%b8%b5%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%87%e0%b8%84%e0%b9%82%e0%b8%9b.html">การจัดอันดับมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดของสิงคโปร์ปี 2019</a>) แต่ Chang ซึ่งถือหุ้นประมาณ 94% ใน PIL ไม่ให้ความเห็นในเรื่องนี้


<figure><img class="size-full wp-image-22723" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/10/มหาเศรษฐีอายุมากที่สุดของโลก-family.jpg" alt="มหาเศรษฐีอายุมากที่สุดของโลก-family" width="800" height="596" /><figcaption> Chang Yun Chung (นั่งในภาพ ขณะอายุ 99 ปี) กับลูกๆ เรียงจากซ้ายมือคือ Lisa Teo, Teo Choo Wee และ Teo Siong Seng</figcaption></figure>
ถึงกระนั้น ลูกชายของเขาก็ยังมองว่าบริษัทมีอนาคตดี เมื่อดูจากข้อความที่เขาโพสต์ในเว็บไซต์ของบริษัทเมื่อเดือน ธ.ค. ซึ่งเขียนว่า “บริษัทและกิจกรรมทางธุรกิจของเราอยู่ในจุดที่ดี บริษัทยังมีอนาคตที่ดี ที่จะเผชิญกับความท้าทายขณะก้าวไปข้างหน้าด้วยความระมัดระวัง”
อย่างไรก็ตาม Teo ไม่ออกความเห็นในเรื่องนี้ แต่โฆษกของ PIL กล่าวว่า Teo ยังคงมีมุมมองเช่นเดิม และแม้ PIL จะประสบปัญหา แต่ Singamas Container บริษัทผลิตตู้คอนเทนเนอร์รายใหญ่อันดับสองของโลกที่ PIL ถือหุ้น 41% ก็มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 74% เป็น 72 ล้านเหรียญในปี 2018
PIL เพิ่มเรือขนคอนเทนเนอร์ใหม่ 12 ลำตั้งแต่ช่วงปลายปี 2017 ถึงต้นปี 2019 ทำให้บริษัทมีกองเรือ 180 ลำ สามารถขนตู้คอนเทนเนอร์ขนาดยี่สิบฟุตได้ทั้งหมด 500,000 ตู้ และบริษัทก็มองการลงทุนในท่าเรือให้บริการตู้สินค้าและศูนย์โลจิสติกส์ในตลาดเกิดใหม่อย่างไนจีเรีย ซูดาน และแทนซาเนีย เพื่อจะช่วยเสริมกับธุรกิจชิปปิ้งของบริษัทด้วย
PIL เป็นหนึ่งในสิบบริษัทขนส่งตู้สินค้ารายใหญ่ที่สุดของโลก มีรากฐานที่แข็งแกร่งในแอฟริกาและรับงานในเส้นทางการค้าข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกและเส้นทางเหนือใต้
รายงานฉบับเดือน พ.ค. ของวารสารการเดินเรือ Alphaliner กล่าวว่า เรื่องนี้ทำให้ PIL เป็นเป้าหมายที่น่าสนใจสำหรับการเข้าซื้อกิจการโดยบริษัทอย่าง Cosco Shipping ซึ่งเป็นหัวหอกให้จีนในการเชื่อมโยงเอเชียและยุโรปทางทะเล รางรถไฟ และถนน แต่ Chang ไม่น่าจะยอมรับข้อเสนอขอซื้อบริษัท และโฆษกบริษัทกล่าวว่า “PIL ไม่ได้มีไว้ขาย”
&nbsp;
เรื่องโดย Jonathan Burgos


<hr />

<a href="https://bit.ly/2kmIPNv">คลิกอ่านฉบับเต็ม “50 อันดับ มหาเศรษฐีสิงคโปร์ ประจำปี 2019” ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกันยายน 2562 ได้ในรูปแบบ e-Magazine</a>
<a href="https://bit.ly/2kmIPNv"><img class="lazy alignnone wp-image-15976 lazy-loaded" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/09/COVER-76-SEPTEMBER-.jpg" sizes="(max-width: 250px) 100vw, 250px" srcset="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/09/COVER-76-SEPTEMBER-.jpg 750w, https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/09/COVER-76-SEPTEMBER--229x300.jpg 229w" alt="" width="250" height="328" data-lazy-type="image" data-lazy-src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/09/COVER-76-SEPTEMBER-.jpg" data-lazy-srcset="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/09/COVER-76-SEPTEMBER-.jpg 750w, https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/09/COVER-76-SEPTEMBER--229x300.jpg 229w" data-lazy-sizes="(max-width: 250px) 100vw, 250px" /></a>

Chang Yun Chung มหาเศรษฐีอายุมากที่สุดของโลก ส่งต่อ “มรดกชิปปิ้ง”

50 อันดับ มหาเศรษฐีสิงคโปร์ ประจำปี 2019 ได้สะท้อนความมั่งคั่งของกลุ่มมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดของประเทศ ผ่านความขัดแย้งทางการค้าทั่วโลกที่ไม่มีสัญญาณว่าจะสงบลง เศรษฐกิจสิงคโปร์ได้หยุดชะงัก มีการคาดการณ์เมื่อไม่นานนี้จากรัฐบาลระบุว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์แทบจะไม่ขยายตัวเลยในปี 2019 เนื่องจากการเผชิญหน้ากับความเสี่ยงหลายอย่างที่อาจเกิดขึ้น เช่น การชะลอตัวอย่างมากของจีน ความไม่แน่นอนในฮ่องกง และเหตุการณ์ไกลบ้านอย่าง Brexit ที่จะออกไปแบบไร้ข้อตกลง แม้ลมต้านการเติบโตของเศรษฐกิจกำลังก่อตัวขึ้น และตลาดหุ้นร่วงลงไปแล้ว 3.5%

นับตั้งแต่ที่เราวัดอันดับความร่ำรวยล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคม 2018 แต่ความมั่งคั่งรวมกันของ 50 คนที่ร่ำรวยที่สุด ได้เพิ่มขึ้นถึง 12% ไปอยู่ที่ 1.3 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยส่วนที่ช่วยหนุนให้ความมั่งคั่งปรับตัวขึ้น เกิดจากการเปิดตัวครั้งแรกของมหาเศรษฐีหม้อไฟพันล้าน Zhang Yong ผู้ก่อตั้ง Haidilao International ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นฮ่องกง

Zhang พลเมืองและผู้พักอาศัยที่แปลงสัญชาติมาเป็นสิงคโปร์รายนี้ เคยติดอยู่ในทำเนียบคนร่ำรวยที่สุดของจีนก่อนหน้า ได้ขึ้นเป็นสมาชิกหน้าใหม่อันดับ 1 ของปีนี้ ด้วยทรัพย์สินสุทธิที่ 1.38 หมื่นล้านเหรียญ โดยบริษัทของเขากำลังขยายธุรกิจไปทั่วโลกด้วย Zhang เข้ามาแทนพี่น้องวงการอสังหาริมทรัพย์ Robert และ Philip Ng ผู้ยึดอันดับสูงสุดของทุกปีในช่วง 10 ปีมานี้ แต่ตอนนี้หล่นไปอยู่อันดับ 2 ด้วยทรัพย์สิน 1.21 หมื่นล้านเหรียญ

ส่วนผู้ที่ร่ำรวยขึ้นมากที่สุดในปีนี้เป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกราย คือ Kwek Leng Beng ประธานกรรมการ Hong Leong Group ความมั่งคั่งของ Kwek เพิ่มขึ้น 1.2 พันล้านเหรียญ โดยส่วนหนึ่งมาจากการขยาย City Developments ธุรกิจหลักของเขาสู่ต่างแดน ซึ่งได้เข้าซื้ออาคารสำนักงาน 2 แห่งใน London มูลค่า 690 ล้านเหรียญในปี 2018 ด้าน Goh Cheng Liang นักธุรกิจผลิตสีก็ร่ำรวยขึ้นอีกหลายพันล้านเหรียญ โดยส่วนหนึ่งมาจากข้อมูลใหม่เกี่ยวกับทรัพย์สินที่เขาถือครองอยู่

มหาเศรษฐีกว่าครึ่งที่หวนกลับสู่ทำเนียบปีนี้มีความมั่งคั่งลดลง เช่น Eduardo Saverin เศรษฐีพันล้านจาก Facebook และผู้พักอาศัยในสิงคโปร์ ซึ่งมีทรัพย์สินลดลงราว 1.2 พันล้านเหรียญ ขณะที่เขายังคงเป็นผู้ถือหุ้นส่วนน้อยอยู่นั้น Saverin ไม่มีบทบาทใดๆ ในยักษ์โซเชียลมีเดีย ซึ่งกำลังต่อสู้กับความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับประเด็นความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

ด้าน Chang Yun Chung นักธุรกิจชิปปิ้ง ความมั่งคั่งของเขาถูกกัดกร่อนลงไป 27% ท่ามกลางภาคอุตสาหกรรมชิปปิ้งอันซบเซาในสิงคโปร์ที่พึ่งพาการค้าเป็นหลัก โดยตอนนี้ Chang อายุ 101 ปีแล้ว และเป็นมหาเศรษฐีพันล้านที่อายุมากที่สุดของโลก

การตัดอันดับสูงสุดที่ 50 นั้น ทำให้เกณฑ์ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเล็กน้อยไปอยู่ที่ 560 ล้านเหรียญ จากทำเนียบการจัดอันดับปีนี้มีให้เศรษฐี 3 รายหลุดจากรายชื่อไป รวมถึง Ching Chiat Kwong อดีตตำรวจที่ผันตัวมาเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งรู้จักกันในชื่อราชาแห่งอะพาร์ตเมนต์กล่องรองเท้า การขยายธุรกิจที่สร้างหนี้สินของ Oxley Holdings ของเขา สร้างความกังวลให้นักลงทุน และฉุดให้หุ้นบริษัทดิ่งลง

&nbsp;
<h2>รายชื่อ 10 อันดับ มหาเศรษฐีสิงคโปร์ ประจำปี 2019</h2>
<img class="alignnone wp-image-22481 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/10/1-Zhang-Yong.jpg" alt="ZHANG YONG มหาเศรษฐีสิงคโปร์" width="416" height="416" />

อันดับที่1  ZHANG YONG
อายุ: 49 ปี
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.38 หมื่นล้านเหรียญ
ธุรกิจ: HAIDILAO INTERNATIONAL

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-22472 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/10/2-Robert-Philip-Ng.jpg" alt="ROBERT &amp; PHILIP NG มหาเศรษฐีสิงคโปร์" width="416" height="416" />

อันดับที่ 2 ROBERT &amp; PHILIP NG
อายุ: 67 ปี, 60 ปี
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.21 หมื่นล้านเหรียญ
ธุรกิจ: FAR EAST ORGANIZATION

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-22473 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/10/3-Eduardo-Saverin.jpg" alt="EDUARDO SAVERIN มหาเศรษฐีสิงคโปร์" width="416" height="416" />

อันดับที่ 3 EDUARDO SAVERIN
อายุ: 37 ปี
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.06 หมื่นล้านเหรียญ
ธุรกิจ: FACEBOOK

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-22474 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/10/4-Goh-Cheng-Liang.jpg" alt="GOH CHENG LIANG" width="416" height="416" />

อันดับที่ 4 GOH CHENG LIANG
อายุ: 92 ปี
มูลค่าทรัพย์สิน: 9.5 พันล้านเหรียญ
ธุรกิจ: NIPPON PAINT

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-22475 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/10/5-Kwek-Leng-Beng-family.jpg" alt="KWEK LENG BENG" width="416" height="416" />

อันดับที่ 5 KWEK LENG BENG
อายุ: 78 ปี
มูลค่าทรัพย์สิน: 8.8 พันล้านเหรียญ
ธุรกิจ: CITY DEVELOPMENTS

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-22476 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/10/6-Wee-Cho-Yaw.jpg" alt="WEE CHO YAW" width="416" height="416" />
อันดับที่ 6 WEE CHO YAW
อายุ: 90 ปี
มูลค่าทรัพย์สิน: 6.6 พันล้านเหรียญ
ธุรกิจ: UNITED OVERSEAS BANK

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-22477 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/10/7-Khoo-family.jpg" alt="KHOO FAMILY" width="416" height="416" />

อันดับที่ 7 KHOO FAMILY
มูลค่าทรัพย์สิน: 6.5 พันล้านเหรียญ
ธุรกิจ: GOODWOOD GROUP OF HOTELS

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-22478 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/10/8-Kwee-brothers.jpg" alt="KWEE BROTHERS" width="416" height="416" />

อันดับที่ 8 KWEE BROTHERS
มูลค่าทรัพย์สิน: 5.7 พันล้านเหรียญ
ธุรกิจ: PONTIAC LAND

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-22479 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/10/9-Kuok-Khoon-Hong-family.jpg" alt="KUOK KHOON HONG" width="416" height="416" />

อันดับที่ 9 KUOK KHOON HONG
อายุ: 69 ปี
มูลค่าทรัพย์สิน: 3 พันล้านเหรียญ
ธุรกิจ: WILMAR

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-22480 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/10/10-Choo-Chong-Ngen.jpg" alt="CHOO CHONG NGEN" width="416" height="416" />

อันดับที่ 10 CHOO CHONG NGEN
อายุ: 66 ปี
มูลค่าทรัพย์สิน: 2.95 พันล้านเหรียญ
ธุรกิจ: HOTEL 81

รายงานเพิ่มเติมโดย Pamela Ambler, Wayne Arnold,Megha Bahree, Jonathan Burgos, Shu-Ching Jean Chen, Russell Flannery, Sean Kilachand, Anis Muslimin, Suzanne Nam, Anuradha Raghunathan, Sheela Sarvananda และ Jessica Tan

เกณฑ์การจัดอันดับ

การจัดอันดับในทำเนียบใช้ข้อมูลทางการเงินและการถือครองหุ้น ที่ได้รับมาจากทางครอบครัวและผู้ได้รับการจัดอันดับ ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ นักวิเคราะห์ และแหล่งข้อมูลอื่นๆ ทำเนียบนี้แตกต่างจากการจัดอันดับมหาเศรษฐีพันล้านของเรา โดยรวมถึงทรัพย์สินของครอบครัวและทรัพย์สินที่ถือครองโดยสมาชิกครอบครัวในหลายรุ่น เช่น Kwek Leng Beng และลูกพี่ลูกน้องของเขา มูลค่าทรัพย์สินสุทธิคำนวณตามราคาหุ้นและอัตราแลกเปลี่ยนของระดับปิดตลาด ณ วันที่ 13 สิงหาคม 2019 ส่วนมูลค่าบริษัทเอกชนอ้างอิงตามการเปรียบเทียบกับบริษัทลักษณะใกล้เคียงกันที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

<hr />

<a href="https://bit.ly/2kmIPNv">คลิกอ่านฉบับเต็ม "50 อันดับ มหาเศรษฐีสิงคโปร์ ประจำปี 2019" ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกันยายน 2562 ได้ในรูปแบบ e-Magazine</a>
<a href="https://bit.ly/2kmIPNv"><img class="alignnone wp-image-15976" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/09/COVER-76-SEPTEMBER-.jpg" alt="" width="250" height="328" /></a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events