<h2>บ้านปูฯ เดินหน้าสมาร์ทซิตี้โซลูชั่น สานต่อกลยุทธ์ Greener &amp; Smarter สนับสนุนโรงเรียนนานาชาติรักบี้ ประเทศไทย สู่การเป็นสมาร์ทแคมปัสเต็มรูปแบบ รองรับการใช้งานไฟฟ้า ตั้งเป้านำนวัตกรรมพลังงานสะอาดจากทั่วโลกปรับใช้ในประเทศไทย</h2>
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เชิญสื่อมวลชน เยี่ยมชม โรงเรียนนานาชาติรักบี้ ประเทศไทย มี นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, ทยา ทีปสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้บริหารระดับสูงของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วม ภายใต้แนวคิดสร้างสมาร์ทแคมปัสที่โรงเรียนนานาชาติรักบี้ ประเทศไทย

สมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าว “เพื่อสานต่อกลยุทธ์ Greener &amp; Smarter ของกลุ่มบ้านปูฯ อย่างต่อเนื่อง กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีด้านพลังงานของบ้านปูฯ ได้นำเสนอสมาร์ทซิตี้โซลูชั่นตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย”

“บ้านปูฯ มั่นใจว่าการติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และโซลูชั่นเทคโนโลยีด้านพลังงานอื่นๆ ให้กับโรงเรียนนานาชาติรักบี้ฯ จะช่วยส่งเสริมให้โรงเรียนเป็นหนึ่งในต้นแบบสมาร์ทแคมปัสที่มีการใช้งานพลังงานอย่างชาญฉลาด การลงทุนของบ้านปูฯ จากทั่วโลกทำให้เราได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ๆ”

ทั้งนี้ในเฟสแรก บ้านปูฯ ได้ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อรองรับระบบไมโครกริด ระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System: ESS) ระบบการบริหารจัดการพลังงาน (Energy Management System: EMS) รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle) และ สถานีประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น

“เราลงทุนราว 20 ล้านบาทกว่าในการสร้างสมาร์ทแคมปัสซึ่งในเฟสแรกสำเร็จไปแล้วกว่า 70-80 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมราว 1 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้ รร.นานาชาติรักบี้ฯ สามารถประหยัดไฟฟ้าได้ต่อปีกว่า 4.3 ล้านบาท ผ่านการติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บริเวณหลังคาอาคารเรียน หลังคาทางเดิน และบริเวณลานจอดรถ” สมฤดีกล่าว

นอกจากการติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แล้ว จากการลงพื้นที่ของทีมบ้านปูฯ ทำให้เรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้งานไฟฟ้าจึงเกิดเป็น โซลาร์คีออส ที่สามารถสร้างไฟฟ้าเองได้โดยไม่ต้องเพิ่งพิงพลังงานไฟฟ้าหลัก เพื่อให้บริการกับผู้ปกครองและนักเรียนระหว่างรอรับส่ง รวมถึงการอำนวยความสะดวกแก่อาจารย์ในการเดินทางภายในโรงเรียนด้วยรถพลังงานไฟฟ้า (EV) คือสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า

<img class="alignnone size-full wp-image-4447" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/02/บ้านปูฯ-โซล่าร์พลังงานแสงอาทิตย์-06.png" alt="" width="638" height="425" />

ด้าน ทยา ทีปสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงเรียนนานาชาติรักบี้ ประเทศไทยกล่าวว่า “โรงเรียนนานาชาติรักบี้ ประเทศไทย เป็นโรงเรียนที่เน้นพัฒนาการศึกษาแบบองค์รวม ภายใต้แนวคิดสมาร์ทแคมปัส โดยปลูกฝังให้นักเรียนคำนึงถึงการรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อบริหารทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์มากที่สุด”

“การที่ทางบ้านปูฯ ได้เข้ามาติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์รวมถึงสมาร์ทซิตี้โซลูชันให้นั้น นอกจากจะช่วยให้โรงเรียนสามารถเดินหน้าพัฒนาเป็นสมาร์ทแคมปัสอย่างยั่งยืนได้เร็วยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้ถึงประโยชน์ของการใช้พลังงานสะอาดผ่านประสบการณ์จริงและคุ้นชินกับการเอาเทคโนโลยีมาส่งเสริมการประหยัดพลังงานในชีวิตประจำวัน ซึ่งนักเรียนสามารถเข้าไปตรวจสอบการผลิตไฟฟ้าและจำนวนพลังงานที่คงเหลือ ผ่านแอพพลิเคชั่นของบ้านปูฯ”

<img class="alignnone size-full wp-image-4446" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/02/บ้านปูฯ-โซล่าร์พลังงานแสงอาทิตย์-03.png" alt="" width="638" height="435" />
<h2>โชว์ ตู้คอนเทนเนอร์พลังงานไฟฟ้าเคลื่อนที่รอจดลิขสิทธิ์</h2>
ภายในงานเปิดตัวสมาร์ทโซลูชั่นโรงเรียนนานาชาติรักบี้ ประเทศไทย ทีมงานบ้านปูฯ โชว์ตู้คอนเทนเนอร์พลังงานแสงอาทิตย์เคลื่อนที่ ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกที่งานแสดงดนตรี Big Mountain ครั้งล่าสุด เพื่อใช้ในการชาร์จโทรศัพท์มือถือและพลังงานสำรองขนาดเล็ก

ทีมงานบ้านปู เผยว่า ตู้คอนเทนเนอร์เป็นหนึ่งในนวัตกรรมการนำพลังงานสะอาดจากธรรมชาติมาใช้ โดยดัดแปลงตู้คอนเทนเนอร์เป็นพลังงานสำรองไฟฟ้าเคลื่อนที่ ซึ่งตู้คอนเทนเนอร์ชุดนี้แบ่งเป็นสองส่วนคือ ตู้คอนเทนเนอร์ที่เป็นแผงโซล่าร์พลังงานแสงอาทิตย์ และตู้คอนเทนเนอร์ที่เป็นตู้สำรองพลังงานไฟฟ้า หรือ Energy BOX และกำลังรอการจดลิขสิทธิ์ทางปัญญา

<img class="alignnone size-full wp-image-4442" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/02/บ้านปูฯ-โซล่าร์พลังงานแสงอาทิตย์-04.png" alt="" width="638" height="425" />

การติดตั้งตู้คอนเทนเนอร์ใช้เวลาราวหนึ่งวันในการประกอบ ติดตั้ง และทดสอบระบบสำรองไฟฟ้า โดยแผงโซล่าร์เซลล์ 1 ชุด ด้วยขนาด 2x1 เมตร บ้านปูฯ เลือกใช้จำนวนการผลิตไฟฟ้าที่ 340 วัตต์ต่อชั่วโมง หากเปรียบเทียบง่ายๆ สำหรับแผงโซล่าร์เซลล์ 1 แผงขนาด 340 วัตต์ จะสำรองการใช้งานหลอดไฟฟ้าแบบยาวได้ราว 10 หลอด

ปัจจุบันตู้คอนเทนเนอร์ของบ้านปูฯ ใช้แผงโซล่าร์เซลล์ประมาณ 140 แผ่น โดยเป็นการสไลด์ออก-เข้าเพื่อการใช้งานและจัดเก็บ สำหรับตู้สำรองไฟฟ้า หรือ Energy BOX สามารถสำรองไฟฟ้าได้ 200 กิโลวัตต์ (ถ้ามีการใช้งานปริมาณไฟฟ้า 200 กิโลวัตต์ สามารถใช้งานได้ 1 ชั่วโมง ถ้ามีปริมาณการใช้ไฟฟ้า 100 กิโลวัตต์ สามารถใช้ไฟได้ 2 ชั่วโมง) ซึ่งในอนาคตพื้นที่ของ Energy BOX นี้สามารถสำรองไฟฟ้าได้ 500 กิโลวัตต์ ทั้งนี้ตัวแบตเตอรี่สำรองที่ใช้งานเป็นเทคโนโลยีการผลิตที่ทางกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีของบ้านปูฯ ผลิตเอง

<img class="alignnone size-full wp-image-4445" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/02/บ้านปูฯ-โซล่าร์พลังงานแสงอาทิตย์-02.png" alt="" width="638" height="425" />

อ่านเพิ่มเติม
<ul>
 	<li><a href="http://forbesthailand.com/people-detail.php?did=1428">สมฤดี ชัยมงคล “ภารกิจคืนความแข็งแกร่งให้ บ้านปู”</a></li>
</ul>

บ้านปูฯ เดินหน้าสมาร์ทซิตี้โซลูชั่นจากพลังงานสะอาด

<h2>ทายาทสาวหนึ่งเดียวแห่งบ้าน “ศรีวิกรม์” กลับมาทุ่มเทแรงกายแรงใจให้ธุรกิจการศึกษา ซึ่งเปรียบดังหัวใจของครอบครัวอีกครั้ง ล่าสุดกับโครงการโรงเรียนอินเตอร์ฯ ที่จะเป็นรูปเป็นร่างในปี 2560</h2>
“คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้เลี้ยงแบบตามใจหรือต้องมีคนดูแลตลอด ท่านให้อิสระในการตัดสินใจ แต่ขณะเดียวกันก็จะแสดงให้ลูกๆ รู้ว่าหากมีปัญหาอะไรก็สามารถขอคำแนะนำจากท่านได้” ทยา ทีปสุวรรณ วัย 43 ปี ผู้จัดการโรงเรียนศรีวิกรม์ ทายาทคนสุดท้องของครอบครัว “ศรีวิกรม์” เริ่มต้นบทสนทนากับ Forbes Thailand ในบรรยากาศอันร่มรื่น ณ บ้านในซอยสุขุมวิทใกล้กับแยกอโศกมนตรี ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของทยา หลังจากเฉลิมพันธ์เสียชีวิตในปี 2554

ทยา เติบโตในครอบครัวที่ประเด็นการเมืองและเศรษฐกิจคือหัวข้อหลักบนโต๊ะอาหาร ทำให้ได้ติดตามสถานการณ์และข้อมูลข่าวสารต่างๆ ไปโดยปริยาย หลังจบปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เธอก็ขอเฉลิมพันธ์ไปศึกษาต่อปริญญาโทด้านการบริหารจัดการระบบข้อมูลที่ประเทศอังกฤษ และกลับเมืองไทยเมื่ออายุราว 21-22 ปี จากนั้นก็เข้าทำงานที่ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นเวลา 2 ปี เพราะต้องการเรียนรู้องค์กรใหญ่ที่มีรูปแบบการทำงานอย่างเป็นระบบ

กระทั่งวิกฤตเศรษฐกิจปี2540 เฉลิมพันธ์และคุณหญิงศศิมา ต้องการให้ทยากลับมาช่วยดูแลธุรกิจของครอบครัว หลังจากที่พี่ชายทั้งสามเข้ามาช่วยก่อนหน้านี้แล้ว เธอจึงเลือกทำงานด้านการศึกษาที่โรงเรียนศรีวิกรม์ ซึ่งเป็นธุรกิจแรกที่เฉลิมพันธ์และคุณหญิงศศิมาก่อตั้งในปี 2506 และเป็นสิ่งที่ทั้งสองรักมาก โดยเปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล 1 - มัธยมศึกษาปีที่ 6 และบริหารวิทยาลัยเทคโนโลยีศรีวิกรม์บริหารธุรกิจ ที่เน้นพัฒนาทักษะของนักเรียนระดับ ปวช. และ ปวส. ในเวลาต่อมา

นอกจากบทบาทด้านวิชาการเธอยังช่วยเหลือสามี ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ผู้เป็นสามีหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. จนถูกทาบทามนั่งตำแหน่ง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในสมัย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครสมัยแรก รับผิดชอบด้านการศึกษา พัฒนาสังคม วัฒนธรรม การท่องเที่ยว กีฬา และการต่างประเทศ มีผลงานที่ร่วมผลักดันให้เกิดขึ้น อาทิ หลักสูตร “โตไปไม่โกง” ของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร โครงการอาหารเช้าให้เด็ก ดูแลให้คนในชุมชนมีอาชีพมากขึ้น สร้างบ้านพักคนเร่ร่อน เป็นต้น เมื่อครบวาระว่าการของผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ เธอกลับมาดูแล ลูกๆ ทั้ง 3 คน คือ ณฤทัย นรุตม์ และนฤพล เหมือนดังเช่นเคย

ขณะนี้ ทายาทคนเล็กของบ้านกลับมาดูแลการศึกษาอีกครั้ง ในบทบาทผู้จัดการโรงเรียนศรีวิกรม์ และกำลังอยู่ในช่วงปรับเปลี่ยนโครงสร้างโรงเรียนและวิทยาลัยบนพื้นที่ 10 ไร่ ริมถนนสุขุมวิทให้เป็นโรงเรียนนานาชาติ ใช้งบลงทุนราว 500 ล้านบาท เพื่อให้สอดรับกับโลกภายนอกที่ภาษาอังกฤษทวีความสำคัญมากขึ้น เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1-มัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยจับมือกับโรงเรียนจากประเทศอังกฤษที่มีชื่อเสียงสั่งสมมาเกือบร้อยปีและมีประสบการณ์ในการจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอน

ปัจจุบัน ทยาทุ่มเทพลังในการทำงานให้การศึกษาเป็นหลัก นอกเหนือจากนี้คือดูการลงทุนในพอร์ทของครอบครัว “ศรีวิกรม์” ซึ่งสมาชิกทุกคนในครอบครัวจะมาเสนอแผนงาน หรือรายงานความคืบหน้าของแต่ละธุรกิจกันเป็นประจำทุกเดือน


<iframe id="instagram-embed-0" class="instagram-media instagram-media-rendered" src="https://www.instagram.com/p/BA8xG7WQ3Pe/embed/?cr=1&amp;v=6&amp;wp=350&amp;rd=http%3A%2F%2Fforbesthailand.com&amp;rp=%2Fpeople-detail.php%3Fdid%3D746#%7B%22ci%22%3A0%2C%22os%22%3A1125.7299999997485%7D" height="554" frameborder="0" scrolling="no" allowfullscreen="allowfullscreen" data-instgrm-payload-id="instagram-media-payload-0" data-mce-fragment="1"></iframe>

เรื่อง: สุทธาสินี จิตรกรรมไทย

<hr />

<a href="http://goo.gl/8MhWJo">คลิ๊กอ่าน "ทยา ทีปสุวรรณ นักการศึกษาแห่งตระกูล “ศรีวิกรม์”" ฉบับเต็มได้ที่ Forbes Thailand ในรูปแบบ E-Magazine </a>
<a href="http://goo.gl/8MhWJo"><img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/DECEMBER%202015/cover%20new.jpg" alt="" width="399" height="522" /></a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events