<h2>บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง ประกาศปรับปรุงทิศทางและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ เสริมสร้างความแข็งแกร่ง ตอบโจทย์การเติบโตในอนาคต แต่งตั้ง ‘ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์’ ให้ดำรงตำแหน่งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทฯ</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) ประกาศปรับปรุงทิศทางและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ โดยจะมุ่งเน้นการพัฒนาและสร้างความแข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจหลักของบริษัทฯ ซึ่งได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้างและพรีคาสท์ และธุรกิจเฮลท์แคร์ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้บริษัทฯ ได้วางแผนปรับโครงสร้างพอร์ตการลงทุน (Investment Portfolio) โดยมุ่งเน้นการลงทุนที่มีศักยภาพและสามารถสนับสนุนกลุ่มธุรกิจหลักของบริษัทฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยง ความชัดเจนในกลยุทธ์การดำเนินงาน และใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในการนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการแต่งตั้ง นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ให้ดำรงตำแหน่งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทฯ โดยนายทองมาจะเข้ามาดูแลการบริหารงานเชิงกลยุทธ์ และด้านปฏิบัติการต่างๆ ในกลุ่มพฤกษา เพื่อให้สามารถตอบสนองเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ขององค์กรได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2567&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูงในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อให้การบริหารงานของบริษัทฯ สอดคล้องกับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในอนาคต ที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจหลัก ซึ่งเป็นไปตามแผนการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ แต่อย่างใด ทั้งยังเป็นการส่งเสริมกลยุทธ์การพัฒนาองค์กร ภายใต้แนวคิดการส่งมอบการอยู่อาศัยที่ “อยู่ดี มีสุข Live well Stay well” ที่พฤกษาต้องการมุ่งสร้างความแข็งแกร่งและการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับ 2 กลุ่มธุรกิจที่เป็นหัวใจหลัก อันได้แก่ (1) การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่ดีของทุกกลุ่มลูกค้า ทั้งในด้านการออกแบบ ฟังก์ชัน สิ่งอำนวยความสะดวก การส่งมอบบริการที่เป็นเลิศ รวมถึงการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบเวลเนส เรสซิเดนซ์เต็มรูปแบบ โดยนำจุดแข็งที่เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายเดียวของไทยที่มีกลุ่มโรงพยาบาลวิมุตอยู่ในเครือ ร่วมพัฒนาโครงการของพฤกษา เพื่อยกระดับการอยู่อาศัยที่ “อยู่ดี มีสุข”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;และ (2) ธุรกิจเฮลท์แคร์ ที่มีความพร้อมในการพัฒนาและขยายธุรกิจ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเสาหลักที่สำคัญในการเติบโตของพฤกษา เพื่อช่วยยกระดับการดูแลสุขภาพ และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของสังคมในวงกว้าง โดยมุ่งมั่นที่จะขยายการให้บริการที่เน้นคุณภาพสูง และการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพอย่างครบวงจร ซึ่งธุรกิจเฮลท์แคร์ของพฤกษายังคงเป็นหนึ่งในธุรกิจที่สร้างรายได้ที่ดีอย่างต่อเนื่อง และช่วยเสริมฐานรายได้ของบริษัทฯ ในภาพรวม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างเต็มที่ อีกทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจและทิศทางของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยพฤกษาพร้อมเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจเฮลท์แคร์ที่ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต มุ่งเดินหน้าสู่เป้าหมายองค์กรแห่งการพัฒนาอย่างยั่งยืน เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/property/the-palm-residences-pattanakarn-the-new-super-ultra-luxury-flagship-of-pruksa" alt="'เดอะ ปาล์ม เรสซิเดนเซส พัฒนาการ' แฟล็กชิพซูเปอร์อัลตร้าลักชัวรีแห่งใหม่ของ 'พฤกษา'">'เดอะ ปาล์ม เรสซิเดนเซส พัฒนาการ' แฟล็กชิพซูเปอร์อัลตร้าลักชัวรีแห่งใหม่ของ 'พฤกษา'</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

‘พฤกษา’ ปรับทิศทาง-กลยุทธ์ธุรกิจ ตั้ง ‘ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์’ เป็นรักษาการซีอีโอกลุ่ม

ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ทุนชีวิต-ธุรกิจ “ยิ่งให้ก็ยิ่งได้”

&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ อดีตวิศวกรโยธา ผู้ก่อตั้งพฤกษาในปี พ.ศ. 2536 และกลายเป็นผู้พัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การปรับโครงสร้างในปี 2559 ทองมาเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์พฤกษา เรียลเอสเตท และก่อตั้งบริษัทโฮลดิ้งใหม่ชื่อพฤกษา โฮลดิ้ง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ถัดมาในปี 2566 CapitaLand ของสิงคโปร์และพฤกษาได้จัดตั้งกองทุนการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีมูลค่า 350 ล้านเหรียญสิงคโปร์ และในปี 2023 เขาก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอกลุ่มแต่ยังคงดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหาร

ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ และครอบครัว

<h2>พฤกษา ผู้นำอันดับหนึ่งในวงการอสังหา ฉลองครบรอบ 25 ปี วางโรดแมป ขยายธุรกิจ Health Care สร้างรายได้ต่อเนื่อง มุ่งคิดค้นนวัตกรรมใหม่ตอบโจทย์ Total Living Solution ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย ตั้งเป้าครองตำแหน่งผู้นำอสังหาฯ ต่อเนื่อง พร้อมย้ายฐานทัพบัญชาการใหม่สุดทันสมัยอาคาร “เพิร์ล แบงก์ค็อก” ตึกไข่มุกแลนด์มาร์กแห่งใหม่ย่านอารีย์</h2>
ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “พฤกษาเริ่มต้นจากเจตนารมย์ที่อยากให้คนไทยมีบ้านที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม จากบริษัทที่เริ่มจัดสรรทาวน์เฮาส์เพียงไม่กี่ยูนิตต่อปี จนปัจจุบันพฤกษาได้ดำเนินธุรกิจเติบโตมาจนอายุครบ 25 ปี พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว และคอนโด ที่ครอบคลุมทุกเซ็กต์เมนต์ ส่งมอบบ้านคุณภาพให้กับลูกค้าในแต่ละปี 20,000 ยูนิต และมีจำนวนโครงการที่เปิดขายแล้วกว่า 1,000 โครงการ ซึ่งถือว่ามีจำนวนโครงการและยูนิตมากที่สุด เป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจอสังหาฯ เนื่องจากพฤกษามี Business Model และแนวคิดในการบริหารธุรกิจที่แตกต่าง ทำให้สามารถเติบโตและครองตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างต่อเนื่อง"

ล่าสุดได้ขยายการลงทุนในธุรกิจ Health Care ได้แก่ โรงพยาบาลวิมุต และคลินิกบ้านหมอวิมุต ซึ่งบริหารงานโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ยาวนานเป็นที่ยอมรับในวงการธุรกิจโรงพยาบาลของประเทศไทย ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการที่มีคุณภาพตามมาตรฐานระดับสากล ด้วยเจตนารมณ์ที่อยากให้คนไทยได้รับบริการทางการแพทย์ที่ดี ในราคาที่เอื้อมถึงได้

<figure><img class="wp-image-3143 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2018/12/Pruksa_2.jpg" alt="" width="638" height="425" /><figcaption> สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม และ ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (ซ้าย, กลาง)</figcaption></figure>

รวมถึงมองหาธุรกิจอื่นๆ ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับในปีนี้ได้รวมพนักงานที่อยู่ตามอาคารสำนักงานต่างๆ หลายแห่ง ย้ายเข้าสู่สำนักงานใหญ่แห่งใหม่เป็นศูนย์กลางทั้งหมดที่เดียวที่ อาคาร “เพิร์ล แบงก์ค็อก” จึงเป็นโอกาสดีที่จะเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีของพฤกษาอย่างสมบูรณ์ สำหรับสำนักงานใหญ่ของพฤกษาที่ “เพิร์ล แบงก์ค็อก” เป็นอาคารประหยัดพลังงานที่ได้รับการรับรองการประเมินอาคารเขียวตามมาตรฐาน LEED Certified Green Building ระดับ Gold  มีความสูง 25 ชั้น มูลค่าก่อสร้างกว่า 3,000 ล้านบาท

การออกแบบของตัวอาคารได้รับแรงบันดาลใจจาก “ไข่มุกรูปทรงเมล็ดข้าว” (Rice Pearl Dome) และในส่วนของโดมด้านหน้าได้แนวคิดมาจาก “หอยมุกมา-เบ” (Ma -Be Pearl) ที่มีลักษณะทรงกลมครึ่งซีก ด้วยความโค้งมนของอาคาร การใส่ใจในทุกรายละเอียดของการออกแบบและเลือกใช้วัสดุ จึงมีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมทั้งภายในและภายนอกอาคาร โดยมุ่งหวังให้เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงเทพ เพื่อให้พนักงานพฤกษารวมถึงลูกค้าและผู้เข้ามาติดต่อได้รับความสะดวกสบาย ทั้งทำเลที่อยู่ใกล้ BTS อารีย์ ความสวยงามภายในอาคาร พร้อมสรรพด้วยเทคโนโลยีและระบบต่างๆ ที่ทันสมัย พร้อมด้วยธนาคารพาณิชย์ชั้นนำถึง 7 แห่ง และ Pruksa Open Home ที่เป็นศูนย์บริการลูกค้าครบวงจรตั้งแต่จองจนถึงยื่นขอสินเชื่อเพื่อให้บริการอีกด้วย

สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาเรียกได้ว่า เรามีการปรับกลยุทธ์การสร้างแบรนด์พฤกษาเพื่อตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการลดจำนวนแบรนด์จาก 48 แบรนด์ เหลือ 14 แบรนด์เพื่อให้ง่ายในการจดจำ พร้อมดึง “ตูน อาทิวราห์” เป็น Brand Endorser นอกจากนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่ที่มีความหมายและมาพร้อมแบรนด์ไอเดีย “พฤกษาใส่ใจ...เพื่อทั้งชีวิต” ที่ไม่ใช่เป็นแค่เพียงชิ้นงานสื่อสารทั่วไป แต่เป็นการนำเอา Brand Purpose มาตอกย้ำให้ลงลึกถึงวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นการลงมือทำ เพื่อส่งมอบบ้านที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า  รวมถึงทำการตลาดรูปแบบใหม่ (New Marketing Approach) โดยเน้นการใช้สื่อดิจิทัลเพื่อเข้าตรงถึงกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพได้อย่างรวดเร็ว และการขยายช่องทางการขาย Online Booking

<img class="alignnone size-full wp-image-3145" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2018/12/Pruksa_10.jpg" alt="" width="638" height="425" />

สำหรับทิศทางการดำเนินงาน เราตั้งใจจะสร้างพฤกษาให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีธุรกิจอสังหาฯ เป็นธุรกิจหลัก เป็นผู้นำทางด้านที่อยู่อาศัยเติบโตด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าและความต้องการของแต่ละกลุ่ม และเรายังขยาย Portfolio ไปสู่ธุรกิจ Health และ Well being ที่จะเป็นอีกหนึ่งเสาหลักของพฤกษา โดยจะยังคงมุ่งเน้นนวัตกรรมใหม่ๆ ด้วยการขยาย Platform ที่จะมาตอบโจทย์ Total Living Solution ที่ไม่ใช่เพียงแค่การขายบ้านเพียงอย่างเดียว  แต่ยังมุ่งเน้นการยกระดับมาตรฐานคุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยของคนไทยให้ดีขึ้นอีกด้วย

พฤกษา ฉลอง 25 ปี เปิดบ้าน “เพิร์ล แบงก์ค็อก” แลนด์มาร์กใหม่ของกรุงเทพ แถลงรักษาแชมป์อสังหาฯ ต่อเนื่อง

<h2>พฤกษาดึงตูน บอดี้สแลมเป็น Brand Endorser ในโอกาสครบรอบ 25 ปี สื่อสารแบรนด์สร้างภาพลักษณ์ใหม่ หวังขึ้นแท่นเป็นอันดับ 1 ในใจผู้บริโภค ด้านภาพรวมตลาดอสังหาฯ ไตรมาส 1/61 เติบโตสูง 25%</h2>
ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เป้าหมายหลักของพฤกษาในปีนี้คือการมุ่งสู่การเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในใจผู้บริโภคเมื่อต้องการซื้อที่อยู่อาศัย โดยสื่อสารภาพลักษณ์การเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญและพัฒนาด้านเทคโนโลยีทั้งเทคโนโลยีก่อสร้างและการบริการ เช่น โรงงานพรีคาสท์ ระบบก่อสร้างบ้านอย่างเป็นขั้นตอน Pruksa REM แอพพลิเคชั่นแจ้งซ่อมของลูกบ้าน เป็นต้น

สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)กล่าวต่อว่า ปี 2561 นี้พฤกษามีวาระครบรอบ 25 ปี ทำให้ต้องการรีแบรนด์สื่อสารภาพลักษณ์ของพฤกษาใหม่โดยเน้นย้ำวิสัยทัศน์ความใส่ใจต่อผู้บริโภคเป็นแกน

การรีแบรนด์ดังกล่าวเริ่มมาตั้งแต่ต้นปี พฤกษามีการปรับโลโก้ใหม่ และลดจำนวนแบรนด์ในพอร์ตจาก 48 แบรนด์เหลือ 13 แบรนด์หลักเรียบร้อยแล้ว รวมถึงบริษัทยังเลือกดึง ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม มาเป็น Brand Endorser อีกด้วย

<figure><img src="http://forbesthailand.com/uploads/library/921303e23267db89c85114d223e22252.png" alt="" width="686" height="456" /><figcaption> (จากซ้าย) ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย, ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ซีอีโอ บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง และสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองซีอีโอ บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง</figcaption></figure>

“เราเลือกพี่ตูนเพราะเขามีความเด่นชัดด้านปรัชญาการใช้ชีวิตที่เสียสละและทำเพื่อคนอื่น ซึ่งตรงกันกับปรัชญาการทำงานของพฤกษา” สุพัตรากล่าว

ทั้งนี้ บริษัทใช้งบด้านการตลาด 100 ล้านบาทในการทำแคมเปญร่วมกับตูน อาทิวราห์ตลอดปีนี้ โดยมีการทำโฆษณาชิ้นใหม่ในลักษณะ Internet Film และยังร่วมกับ GMM ผลิตเพลงใหม่ “ใส่ใจ”เพื่อสื่อถึงปรัชญาการทำงานดังกล่าว

รองซีอีโอหญิงยังกล่าวด้วยว่า ตูนเป็นตัวเลือกที่เข้าถึงคนได้ทุกเพศทุกวัยและทั่วทั้งประเทศ เชื่อว่าจะเป็นหนึ่งในแรงผลักดันให้พฤกษาไต่อันดับจากแบรนด์ในใจผู้บริโภคอันดับ 3 ในปัจจุบันขึ้นสู่อันดับ 1 ได้

<img src="http://forbesthailand.com/uploads/library/c843a2664e680b28265cfd6d6437eca1.jpg" alt="" />

นอกเหนือจากการใช้ Brand Endorser แล้ว บริษัทจะยังคงมุ่งลดอัตราการแจ้งซ่อมของลูกค้า โดยเมื่อปีที่ผ่านมาอัตราการแจ้งซ่อมเฉลี่ยอยู่ที่ 0.48 รายการ/ยูนิต/เดือน และไตรมาส 1 ปีนี้สามารถลดจำนวนรายการแจ้งซ่อมลงได้อีก 7% ถือเป็นภารกิจหลักที่บริษัทกำลังดำเนินงาน

สำหรับไตรมาส 1/61 ของพฤกษา มีการเปิดตัวไปแล้ว 15 โครงการ มูลค่ากว่า 9 พันล้านบาท และมียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ (แบ็กล็อก) สะสม 3.1 หมื่นล้านบาท ด้านรายได้และกำไรสุทธิยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่เป็นทิศทางขาขึ้นและเติบโตขึ้นมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาส 2 บริษัทจะบุกตลาดต่อเนื่องด้วยการเปิดตัว 20 โครงการ มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท

ส่วนตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด สุพัตรากล่าวว่าไตรมาส 1 ตลาดอสังหาฯ มีการเปิดตัวรวมกัน 110 โครงการ มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท และทั้งตลาดมียอดขายที่เติบโตขึ้นถึง 25% ถือว่าเป็นปีที่ไตรมาส 1 มีความคึกคักสูง คาดว่าเกิดจากแรงส่งของตลาดที่ดีขึ้นมาตั้งแต่ไตรมาส 4/60 รวมถึงอัตราหนี้ของผู้บริโภคโดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิตปรับลดลง ส่งเสริมให้กำลังซื้อที่อยู่อาศัยดีขึ้น

&nbsp;

พฤกษาดึง ‘ตูน’ บอดี้สแลม เป็น Brand Endorser ทุ่ม 100 ล้านจัดแคมเปญ "รีแบรนด์" ตลอดปี

<h2>พฤกษา ปี 2561 ตั้งเป้าโตทุกมิติ 10-13% วางเป้ายอดขาย 5.4 หมื่นล้านบาท ขยับกำไรสุทธิเพิ่มเป็น 15% ภายใน 3-4 ปี เปิดตัว 75 โครงการ มูลค่ารวม 6.67 หมื่นล้าน บุกหนักตลาดกลางถึงบน กลุ่มธุรกิจพรีเมียมยิ้มรับยอดขายพุ่ง เตรียมเปิดใหม่อีก 1 หมื่นล้าน</h2>
สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 2560 ของบริษัท สร้างยอดขายได้ 47,535 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้า 52,900 ล้านบาทที่ตั้งไว้ -11% ส่งผลให้บริษัทมีแบ็กล็อกสะสมรวมทั้งกลุ่มธุรกิจแวลูและพรีเมียม 21,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แผนธุรกิจของปี 2561 บริษัทวางเป้ายอดขายเติบโตจากปีก่อน 13% คิดเป็นมูลค่าราว 53,700 ล้านบาท เป้ารายได้วางไว้ที่ 50,500 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนไม่ต่ำกว่า 10% ส่วนกำไรสุทธิปีนี้วางเป้าหมายที่ 13.5% และเป็นเป้าหมายระยะกลางของพฤกษา ต้องการทำกำไรสุทธิให้ได้ 15% ภายใน 3-4 ปี ขณะที่งบซื้อที่ดินเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 23% เป็น 16,000 ล้านบาท

ด้านแผนการเปิดตัวโครงการ บริษัทมีแผนเปิดตัว 75 โครงการ มูลค่ารวม 66,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 13% โดยแบ่งเป็นกลุ่มสินค้าทาวน์เฮ้าส์ 44 โครงการ มูลค่ารวม 27,900 ล้านบาท กลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยว 18 โครงการ มูลค่ารวม 19,700 ล้านบาท กลุ่มคอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่า 8,000 ล้านบาท และที่เหลือเป็นกลุ่มธุรกิจพรีเมียมที่มีทั้งคอนโดฯ และบ้านเดี่ยว รวม 8 โครงการ มูลค่ารวม 11,100 ล้านบาท

<figure><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/291dd487277de015854f7dbb6607568f.png" alt="" width="350" height="434" /><figcaption> โลโก้ใหม่พฤกษา: ใช้รูปใบไม้ 2 ใบซ้อนกัน</figcaption></figure>

สุพัตรากล่าวเสริมว่า ปีนี้บริษัทมีกลยุทธ์สำคัญด้านการสร้างแบรนด์ โดยเริ่มจากปรับรูปลักษณ์โลโก้แบรนด์พฤกษาใหม่ให้เหมาะสมและเป็นเอกลักษณ์ขึ้น และลดแบรนด์ย่อยลง จาก 48 แบรนด์ในอดีตเหลือ 14 แบรนด์ในปัจจุบัน เช่น ภัสสร บ้านพฤกษา พลัมคอนโด แชปเตอร์วัน เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ใช้งบในการลงทุนสร้างแบรนด์น้อยลง แต่ยังคงมีความแตกต่างของโครงการมากเพียงพอที่จะตอบสนองคนทุกกลุ่ม

สำหรับความคืบหน้าของ โรงพยาบาลวิมุตติ ปัจจุบันเดินหน้าตอกเข็มก่อสร้างแล้ว คาดว่าจะสร้างเสร็จภายใน 2 ปี โดยมี นพ.สันติ เอื้อนรเศรษฐ์ เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล และอยู่ระหว่างเจรจาหาพันธมิตรร่วมดำเนินการ-จัดหาบุคลากร

&nbsp;
<h2>บุกหนักแนวราบ-ตลาดกลางถึงบน</h2>
ปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท กล่าวว่า ยอดขายอสังหาริมทรัพย์กรุงเทพฯ และปริมณฑล ปี 2560 มีมูลค่าถึง 4 แสนล้านบาท เติบโต 10.5% จากปีก่อนหน้า โดยมาจากการเติบโตของกลุ่มคอนโดมิเนียมที่มียอดขายเพิ่มถึง 20% รองลงมาคือกลุ่มทาวน์เฮาส์ เติบโต 15%

สำหรับปี 2561 คาดการณ์ว่าตลาดอสังหาฯ จะเติบโตราว 4.8% ยอดขายทั้งตลาดเพิ่มเป็น 4.2 แสนล้านบาท เชื่อว่าปีนี้กลุ่มสินค้าทาวน์เฮาส์เป็นกุญแจสำคัญของปี จะเติบโตสูงต่อเนื่องราว 8% มูลค่าเพิ่มเป็น 8.26 หมื่นล้านบาท ขณะที่ตลาดบ้านเดี่ยว-บ้านแฝดจะกลับสู่วัฏจักรขาขึ้นหลังปีก่อนซบเซาลงไป เชื่อว่าจะเติบโตราว 4% มูลค่ารวม 9.53 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ หากมองตลาดโครงการแนวราบในแง่กลุ่มราคา เชื่อว่าตลาดระดับกลางถึงบนจะเติบโตได้ดีในปีนี้

ในขณะที่ตลาดอาคารชุดจะชะลอความร้อนแรงลง คาดเติบโตราว 4% มูลค่ากว่า 2.3 แสนล้านบาท มีตลาดใหญ่ที่ยังเติบโตได้ดีถึง 17% คือตลาดไฮเอนด์กลุ่มราคามากกว่า 7 ล้านบาทต่อยูนิต ด้านกลุ่มราคา 2-5 ล้านบาทจะเติบโตได้ 3-4% ส่วนกลุ่มราคาอื่นๆ เชื่อว่าจะไม่เติบโตหรือติดลบ

ปิยะกล่าวต่อว่า จากการคาดการณ์ตลาดทำให้ปี 2561 พฤกษาในกลุ่มธุรกิจแวลูจะเน้นการเปิดโครงการแนวราบโดยเฉพาะบ้านเดี่ยวซึ่งสต๊อกเหลือขายในตลาดเหลือน้อย และเน้นตลาดกลางถึงบนมากยิ่งขึ้นต่อเนื่องจากกลยุทธ์ของปี 2560 ได้แก่ ทาวน์เฮาส์ราคา 3-5 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวราคา 5-7 ล้านบาทจนถึง 7 ล้านบาทขึ้นไป

&nbsp;
<h2>เปิดคอนโด-บ้านหรูกวาดลูกค้าเศรษฐี</h2>
ด้าน ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาฯ ระดับลักชัวรีของไทยปีนี้เชื่อว่ายังคงมีปัจจัยบวก ทั้งจากดอกเบี้ยที่ทรงตัวระดับต่ำส่งผลให้เจ้าของสินทรัพย์ต้องการลงทุนในสินทรัพย์อื่นที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า ประกอบกับช่วงต้นปีนี้ตลาดหุ้นไทยพุ่งขึ้น ยิ่งทำให้กลุ่มคนสินทรัพย์สูงมีความมั่งคั่ง

<figure><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/3980399e422a985c04899435b5bdab0f.png" alt="" width="680" height="207" /><figcaption> กลุ่มธุรกิจพรีเมียมของพฤกษาจับตลาดอสังหาฯ ไฮเอนด์ ได้แก่ บ้านเดี่ยวราคามากกว่า 10 ล้านบาท, ทาวน์เฮาส์ราคามากกว่า 7 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมราคามากกว่า 1.5 แสนบาท/ตร.ม.</figcaption></figure>

สำหรับปีที่ผ่านมาเป็นปีแรกที่พฤกษาเริ่มลงทุนในกลุ่มพรีเมียม โดยประสบความสำเร็จจากการเปิดตัว 5 โครงการแนวสูง มียอดขาย 8,000 ล้านบาท คิดเป็น 5% ของตลาดพรีเมียมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นแบ็กล็อกไปจนถึงปี 2562

ในปี 2561 บริษัทจะยังคงทำตลาดพรีเมียมอย่างต่อเนื่อง วางแผนเปิดตัว 8 โครงการ รวมมูลค่าราว 1.09-1.11 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น 4 โครงการแนวสูงในหลายทำเล เช่น พญาไท ซอยสวนพลู และอีก 4 โครงการแนวราบ ทั้งหมดเป็นบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์ เดอะ ปาล์ม 4 ทำเล ได้แก่ รามคำแหง-วงแหวน กาญจนาภิเษก-ปิ่นเกล้า บางนา-วงแหวน และพหล-วิภาวดี

โดยปีนี้กลุ่มธุรกิจพรีเมียมของพฤกษาจะเริ่มรับรู้รายได้ราว 3,500 ล้านบาท ตั้งเป้าปี 2563 กลุ่มพรีเมียมจะมีรายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 16-17% เป็นอย่างน้อย

&nbsp;

Forbes Facts

<a href="http://forbesthailand.com/news/property/%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9B.html">สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ </a>เข้ามาร่วมงานกับพฤกษาเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2560 ก่อนหน้านั้นเธอเติบโตในสายงานการตลาดกับ กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย นานกว่า 2 ทศวรรษ โดยตำแหน่งสูงสุดที่เธอเคยได้รับคือประธานกรรมการบริหารและประธานที่ปรึกษา ยูนิลีเวอร์ นับเป็นหญิงไทยคนแรกที่ดำรงตำแหน่งนี้ในองค์กรยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าอุปโภคบริโภคจากต่างประเทศ

พฤกษา ปี 2561 ตั้งเป้าโตทุกมิติ 10-13% เปิดตัวใหม่ 6.67 หมื่นล้าน ใส่เกียร์บุกตลาดกลางถึงบน

ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ เคล็ดลับ “กระเพาะปลา” สู่ “พฤกษา” อสังหาฯ แสนล้าน

<h2>ตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑลยังคงคึกคัก ผู้เล่นรายใหญ่ต่างหวังชิงส่วนแบ่งที่ใหญ่ขึ้น รวมถึง “พฤกษา” ที่พร้อมปล่อยโครงการอย่างต่อเนื่องในปีนี้ทั้งในตลาดระดับกว้างและระดับบน หวังหนุนยอดขายและรายได้ให้เป็นไปตามเป้า รักษาบัลลังก์เจ้าตลาดอสังหาฯ เมืองไทย</h2>
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/2560 ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่กลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เผยว่า พฤกษา เรียลเอสเตท มี ยอดขายไตรมาส 1/2560 อยู่ที่ 13,303 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2559 และเพิ่มขึ้น 36.4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2559 มีสาเหตุจากการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ 2 โครงการ คือ เดอะทรี สุขุมวิท 71 และ เดอะรีเซิร์ฟ ทองหล่อ รายได้ไตรมาส 1/2560 อยู่ที่ 8,072 ล้านบาท ลดลง 21.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2559 และลดลง 42.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2559 สาเหตุที่รายได้ลดลงเป็นผลจากคอนโดฯ ในไตรมาส 1/2560 ยังไม่คิดเป็นรายได้ ขณะที่ กำไรไตรมาส 1/2560 อยู่ที่ 681 ล้านบาท ลดลง 45.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2559 และลดลง 65.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2559

ทองมา กล่าวด้วยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไตรมาส 1/2560 เติบโต 13.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2559 และเติบโต 0.8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2559 จึงยังเป็นโอกาสของ พฤกษา เรียลเอสเตท ในการสร้างยอดขายและรายได้ให้เป็นไปตามแผนธุรกิจที่ตั้งเป้าหมายไว้ในปีนี้คือยอดขายที่ 52,900 ล้านบาท และรายได้ที่ 50,200 ล้านบาท

ไตรมาส 2 ของปีนี้ก็จะยังคงเป็นไปตามแผน และตัวเลขจะดีขึ้นในไตรมาสที่ 2-4 ตอนนี้ตลาดอสังหาฯ ยังโตได้เอง จึงยังไม่ได้ต้องการให้ภาครัฐมาช่วยกระตุ้น” ทองมา กล่าว

<img style="width: 680px; height: 450px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/7097c128eeccbd55b0a5469e3c80f949.png" alt="" />

ปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท กล่าวว่า ไตรมาส 1/2560 กลุ่มธุรกิจแวลูเปิดโครงการใหม่ไปแล้ว 11 โครงการ มี backlog (ยอดขายรอรับรู้รายได้) ที่ 23,611 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.8% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2559 ในไตรมาส 2-4 เตรียมเปิดโครงการใหม่เพิ่ม 23 โครงการ 19 โครงการ และ 13 โครงการตามลำดับ รวมทั้งสิ้น 66 โครงการ มูลค่ารวม 59,300 ล้านบาท ขณะที่ปี 2559 กลุ่มธุรกิจแวลูมีทั้งหมด 69 โครงการ มูลค่ารวม 59,700 ล้านบาท

ผู้บริการกลุ่มธุรกิจแวลู เผยเพิ่มเติมว่า แม้ตลาดอสังหาฯ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ยังเติบโตได้ดี แต่ก็มีปัจจัยเสี่ยงได้แก่กำลังซื้อและหนี้ครัวเรือน ซึ่ง พฤกษา เรียลเอสเตท แก้ปัญหาด้วยการให้ลูกค้ายื่นพรีแอพพรูฟสินเชื่อ เป็นต้น ซึ่งช่วยลดปัญหาที่ลูกค้าถูกปฏิเสธสินเชื่อได้

ด้าน ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไตรมาส 1/2560 ซึ่งโตเกือบ 14% มีแรงหนุนจากการโตของตลาดพรีเมียมถึง 38% ซึ่ง พฤกษา เรียลเอสเตท ประสบความสำเร็จในการรุกธุรกิจกลุ่มพรีเมียมจากโครงการ เดอะรีเซิร์ฟ ทองหล่อ ที่ปิดการขายได้แล้วทั้งโครงการ มูลค่า 1,830 ล้านบาท และเตรียมเปิดคอนโดฯ โครงการใหม่ในย่านเอกมัยภายในปีนี้ โดยเป็น 1 ใน 6 โครงการของธุรกิจพรีเมียม มูลค่ารวมทั้งหมด 9,900 ล้านบาท

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events