ยุทธศาสตร์ 5 ปี ‘ท่าเรือราชาเฟอร์รี่’ ฝ่ามรสุมลมเปลี่ยนทิศ

<h2><span style="font-size: 20px;">ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ เผยแผนธุรกิจ ปี 2561 ตั้งเป้าผู้ใช้บริการ 1.5 ล้านคน พร้อมเปิดใช้งานเรือขนส่งสินค้า R11 จับมือพันธมิตรเชื่อมต่อการท่องเที่ยวแบบครบวงจร ตั้งเป้าหมายเพิ่มยอดรายได้จากการจองออนไลน์ 55%  </span></h2>
<strong>อภิชาติ ชโยภาส</strong> กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) หรือ RP กล่าว ธุรกิจบริการเรือเฟอร์รี่ข้ามเกาะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รายได้หลักของเรากว่า 70 % ยังคงมาจากการขนส่งสินค้าอุปโภค บริโภค และการขนส่งเพื่อสาธารณูปโภคจากท่าเรือดอนสักสู่เกาะสมุย และสู่เกาะพะงัน ที่ยังคงมีการขยายตัวด้านการอยู่อาศัยและการลงทุนทางด้านธุรกิจต่อเนื่อง ในการบริกานำรถบรรทุกข้ามฟากของกลุ่มต่างๆ อาทิ การส่งสินค้าจากเครือร้านสะดวกซื้อ 7-eleven, การส่งสินค้าของกลุ่มเทสโก้ โลตัส และ การส่งสินค้าจากกลุ่มร้านวัสดุก่อสร้างอาทิ Home Pro

นอกจากนี้การปรับเวลาจองตั๋วลงเรือล่วงหน้าเหลือ 3 ชั่วโมงก่อนเดินทางเพื่อให้ลูกค้าสามารถเดินทางได้เร็วขึ้น ทำให้ปี 2560 มียอดผู้ใช้บริการราว 1.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปี 2559 ส่วนบริการรถลงเรืออยู่ที่ประมาณ 620,000 คัน

สำหรับทิศทางธุรกิจในปี 2561 อภิชาติ คาดว่าแนวโน้มการท่องเที่ยวรวมทั้งการเดินทางและขนส่งทางทะเล จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสัญญาณการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวจีนฝั่งตะวันตกที่เดินทางต่อเครื่องจากจีนยังสนามบินสุราษฎร์ และเดินทางสู่เกาะสมุยและเกาะพะงัน

การเดินทางเพื่อท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวจีนมายังประเทศไทยนิยมการเดินทางจบในกระบวนการเดียวตั้งแต่ประเทศต้นทางสู่ที่พัก และการให้บริการครบวงจรสู่ทั้งสองเกาะซึ่งเป็นที่นิยมของชาวจีนกลุ่มนี้ โดยปัจจุบันมีผู้ให้บริการเพียงไม่กี่รายที่เข้าเงื่อนไขการบริการนี้หนึ่งในนั้นคือกลุ่มเรา เนื่องจากทางการจีนมีมาตรฐานสำหรับผู้ให้บริการการเดินทางในหลายๆ ด้าน ทั้งการใช้รถบัสโดยสาร ความปลอดภัยต่างๆ ความสามารถในการเชื่อมเส้นทางการบิน เนื่องจากไฟล์บินจากจีนมักเดินทางมาถึงสนามบินสุราษฎร์ฯ ในไฟล์สุดท้ายและไฟล์แรกสุดของวัน

<span style="color: #ff0000;">“ปีที่ผ่านมาหาคิดเป็นสัดส่วนจากนักท่องเที่ยว 1.2 ล้านคนผ่านการบริการของท่าเรือราชาเฟอร์รี่ ราว 70-80 % คือนักท่องเที่ยวชาวจีน และรองลงมาเป็นนักท่องเที่ยวจากทวีปยุโรป อเมริกา”</span> <strong>อภิชาติ ชโยภาส</strong> เผย

<figure><img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/f0d9d9973118495a58c580f72b87f91a.png" alt="" width="680" height="453" /><figcaption> เรือเฟอร์รี่ R11</figcaption></figure>

โดยปี 2561 ท่าเรือราชาเฟอร์รี่เตรียมงบประมาณในการปรับปรุงท่าเรือราว 300 ล้านบาท เพื่อรองรับท่าเรือเฟอร์รี่เป็นสถานที่นัดพบ รวมถึงการในบริการความสะดวกสบายอื่นๆ อาทิ อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ร้านค้าต่างๆ รวมไปถึงการแก้ปัญหาคอขวดของท่าเรือดอนสัก เนื่องจากลักษณะพื้นที่จำเพาะของท่าเรือดอนสึกเอง โดยปัจจุบันมีท่าเทียบเรือให้บริการเพียง 3 ท่า

อภิชาติ คาดการณ์แผนการขยายท่าเทียบเรือ 4-5 นั้นน่าจะได้เห็นช่วงกลางปีเป็นต้นไป ซึ่งรองการรับรองด้านสิ่งแวดล้อมจากหน่วยงานรัฐบาลที่รับผิดชอบ นอกจากนี้ยังเตรียมงบประมาณอีกราว 300 ล้าบาทในปีนี้เพื่อการเพิ่มกองเรือเฟอร์รี่ ตามเป้าหมายที่วางไว้ในปี 2563 ที่มีกองเรือเฟอร์รี่ 20 ลำ เพื่อหมุนเวียนเรือระหว่างการซ่อมบำรุง

ปัจจุบันท่าเรือราชาเฟอร์รี่ ตั้งบริษัทย่อย อาร์พี ทรานสปอร์ต เพื่อให้บริการรถร่วมโดยสารขนส่งสาธารณะ และร่วมกับผู้บริการท้องถิ่นอาทิ กลุ่มพันธทิพย์ เพื่อเชื่อมเส้นทางการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ต้องเดินทางไปยังเกาะเต่า และพัฒนาการระบบการจองออนไลน์จากเดิมที่สัดส่วนของรายได้จากการขายออนไลน์อยู่ราว 25% ขึ้นเป็นอยู่ที่ 55% ในอนาคต

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events