<h2>‘กรุงศรี ออโต้’ ผู้ให้บริการธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผย 3 อินไซต์เจาะลึกพฤติกรรมผู้ใช้รถ จากการวิเคราะห์ฐานข้อมูลลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อจากงานมหกรรมยานยนต์ทั่วประเทศตลอดปี 2567 ชี้ผู้บริโภคเลือกแผนการผ่อนชำระที่นานขึ้นและมีการปรับราคาของรถมือ 2 ซึ่งเป็นผลมาจากการทำการตลาดของแบรนด์ใหม่ๆ ด้านยานยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;คงสิน คงคา ประธานเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่มีความท้าทาย หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงและกำลังซื้อที่ลดลง ทำให้ผู้บริโภคต้องปรับตัวและวางแผนการใช้จ่ายอย่างรอบคอบมากขึ้น กรุงศรี ออโต้ ได้ให้ความสำคัญกับการกำหนดนโยบายการพิจารณาสินเชื่อให้สอดคล้องกับคำแนะนำของภาครัฐ แต่ยังคงไว้ซึ่งศักยภาพในการแข่งขัน โดยมุ่งเน้นการนำเสนอโซลูชั่นทางการเงินที่เหมาะสมกับผู้บริโภคแต่ละราย และส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศ ด้วยการวางกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกผ่านการเข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ทั่วประเทศกว่า 27 งาน ครอบคลุม 16 จังหวัด ในปีที่ผ่านมา”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งหมดนี้ทำให้ กรุงศรี ออโต้ สามารถรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์พฤติกรรมเชิงลึกของผู้บริโภค พร้อมต่อยอดเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการ ควบคู่ไปกับการมุ่งเน้นการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (Krungsri Auto Responsible Lending) และการยึดหลักการสร้างคุณค่าร่วม (CSV) เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการเติบโตของธุรกิจและความยั่งยืนในสังคม พร้อมผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคง​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/BaVxJd8k4rvgm7YhAESp.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="BaVxJd8k4rvgm7YhAESp.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กรุงศรี ออโต้ ได้วิเคราะห์ฐานข้อมูลลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อจากงานมหกรรมยานยนต์ทั่วประเทศตลอดปี 2567 เพื่อนำมาคาดการณ์แนวโน้มตลาดยานยนต์ปี 2568 โดยมีเนื้อหาสำคัญ ดังนี้ Gen Z และวัยทำงาน พลังใหม่ขับเคลื่อนตลาดยานยนต์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ตลาดยานยนต์กำลังก้าวเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ โดยมีกลุ่ม Gen Z และวัยทำงานอายุ 25-44 ปี เป็นแรงขับเคลื่อนหลักของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งในประเภทรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี (BEV) และรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) โดยพฤติกรรมการใช้งานของคนกลุ่มนี้สะท้อนให้เห็นว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับสมรรถนะ ฟังก์ชันการใช้งาน และค่าใช้จ่ายระยะยาวมากกว่าชื่อเสียงของแบรนด์ โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางระยะสั้นเฉลี่ย 5-20 กิโลเมตรต่อวัน และอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับการชาร์จ EV ได้ดีกว่าพื้นที่อื่นๆ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แนวโน้มดังกล่าวยังสะท้อนจากส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนที่สูงถึง 84.7% โดย 3 แบรนด์ที่มียอดจดทะเบียนสูงสุด ได้แก่ BYD MG และ NETA ที่โดดเด่นด้านความคุ้มค่าและเทคโนโลยี โดยที่แบรนด์จากค่ายรถอเมริกามีแนวโน้มการเติบโตลดลง ซึ่งผลวิจัยดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลการให้สินเชื่อของ กรุงศรี ออโต้ ผ่านงานมหกรรมยานยนต์ทั่วประเทศ ในปีที่ผ่านมา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ กลุ่มวัยทำงานยังถือเป็นกำลังซื้อหลักของตลาดรถจักรยานยนต์และบิ๊ก ไบค์ โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 21-40 ปี ที่มีอัตราการขอสินเชื่อบิ๊ก ไบค์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อพิจารณาตลาดสินเชื่อในเชิงพื้นที่พบว่าภาคตะวันออกมีอัตราการขอสินเชื่อเพิ่มขึ้น ซึ่งสวนทางกับกรุงเทพฯ ที่มีแนวโน้มลดลง รถยนต์มือ 2 สมดุลราคา-คุณภาพ โอกาสทองของผู้บริโภค&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปี 2567-2568 ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของตลาดรถยนต์มือ 2 จากราคาที่ปรับตัวลดลง 10-30% ทำให้ผู้บริโภคกลุ่ม Gen X และ Gen Y ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของตลาดสินเชื่อรถยนต์มือ 2 สามารถเข้าถึงรถยนต์ที่หลากหลายและคุ้มค่ามากขึ้น คุณภาพดีได้ง่ายกว่าเดิม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมื่อมองถึงภาพรวมโครงสร้างตลาดรถมือ 2 เทรนด์เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง โดยรถที่เป็นตัวเลือกยอดนิยม ได้แก่ รถที่มีอายุ 3-5 ปี ครองตลาดมากที่สุดที่ 52% รองลงมาคือรถอายุไม่เกิน 3 ปี จำนวน 20% และ 6-8 ปีที่ 19% ซึ่งเป็นช่วงที่รถยนต์ยังคงมีสภาพดีและสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้านประเภทพลังงาน รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปยังคงเป็นตัวเลือกหลักในตลาดรถมือ 2 ที่ 54% ตามมาด้วยกลุ่มรถไฮบริด (HEV) และปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ที่ 38% ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี (BEV) อยู่ที่ 9%​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/PUxedqbRuUQ59LGVTySL.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="PUxedqbRuUQ59LGVTySL.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="1"></figure></div> คนไทยใช้รถนานขึ้น สะท้อนพฤติกรรมรอบคอบในยุคเศรษฐกิจท้าทาย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่มีความท้าทาย ผู้บริโภคส่วนใหญ่จึงชะลอการตัดสินใจซื้อรถใหม่และเลือกใช้รถยนต์คันเดิมนานขึ้น โดยในปี 2567 อายุการใช้งานเฉลี่ยของรถยนต์ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจาก 7 ปี เป็น 10 ปี ปัจจัยหลักมาจากราคาขายต่อของรถมือ 2 ที่ลดลง รวมถึงภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการเปลี่ยนรถและให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าในการใช้งานระยะยาว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ พฤติกรรมของผู้บริโภคยุคปัจจุบันได้เปลี่ยนไป โดยหากพวกเขาวางแผนจะซื้อรถยนต์ใหม่ มักใช้เวลาในการตัดสินใจนานขึ้น พร้อมต้องการข้อมูลรอบด้าน และพิจารณาปัจจัยหลายมิติก่อนตัดสินใจซื้อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าของรถ ความคุ้มค่าในการใช้งาน รวมถึงเทรนด์ของตลาดรถยนต์มือ 2 ‘กรุงศรี ออโต้’ สร้างความต่างด้วยอีโคซิสเต็มเพื่อผู้ใช้รถ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กรุงศรี ออโต้ ตอกย้ำความเป็นผู้ใช้บริการด้านสินเชื่อยานยนต์ครบวงจรชั้นนำ ด้วยกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในทุกมิติ พร้อมเดินหน้าพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่สะดวก รวดเร็ว และเข้าถึงทุกเซกเมนต์ของผู้ใช้รถ โดยหนึ่งในนวัตกรรมสำคัญคือ ‘สินเชื่อยานยนต์ดิจิทัล (Digital Auto Lending)’ ที่สามารถขอสินเชื่อได้ทุกผลิตภัณฑ์ของกรุงศรี ออโต้ ผ่านแอป โก บาย กรุงศรี ออโต้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ยังมีการใช้กลยุทธ์การตลาดแบบเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง (Direct-to-Consumer) ผ่านการเข้าร่วมมหกรรมยานยนต์ทั่วประเทศ เพื่อนำข้อมูลเชิงลึกมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ พร้อมทั้งการจัดกิจกรรม Krungsri Auto Ultimate Test Drive &amp; Ride เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถทดลองขับรถได้มากถึง 36 แบรนด์ 94 รุ่น ในที่เดียว ลดข้อจำกัดด้านเวลาและการเดินทาง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ กรุงศรี ออโต้ ไม่เพียงแค่สร้างความแตกต่างในตลาดสินเชื่อยานยนต์ แต่ยังเป็นองค์กรที่มุ่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ควบคู่ไปกับการเดินหน้าสร้างสรรค์บริการและโซลูชันใหม่ที่ตอบรับเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างสรรค์ชีวิตผู้ใช้รถให้ดีขึ้นต่อไป ภาพ:&nbsp;กรุงศรี ออโต้ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/motoring/mgc-asia-creates-4-business-groups-support-2025-revenue-growth-10-percent" alt="MGC-ASIA กางแผน Road Map 3 ปี เตรียมปั้น 4 กลุ่มธุรกิจ หนุนรายได้ปี 68 โตเพิ่ม 10%">MGC-ASIA กางแผน Road Map 3 ปี เตรียมปั้น 4 กลุ่มธุรกิจ หนุนรายได้ปี 68 โตเพิ่ม 10%</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

กรุงศรี ออโต้ เปิดอินไซต์คนใช้รถ พบ Gen X และ Y นิยมรถมือ 2 ส่วน Gen Z และวัยทำงานมองหา EV

<h2>หากพูดถึงสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ หลายคนอาจนึกถึงกลุ่มผู้ที่ต้องการสภาพคล่องหรือเงินหมุนให้เร็วที่สุดแม้ดอกเบี้ยสูง แต่ก็พร้อมกู้ แต่ปัจจุบันกลับพบว่า กลุ่มผู้ใช้รถหรู รถยุโรป หรือ Supercar หากขาดสภาพคล่องก็หันมาใช้สินเชื่อจำนำทะเบียนมากขึ้นด้วย</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นายวิสิทธิ์ พึ่งพรสวรรค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีไอเอ็มบี ไทย ออโต้ จำกัด บริษัทในเครือธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย CIMBT เล่าว่า ช่วงที่ผ่านมาการแข่งขันสินเชื่อรถยนต์ขยับจากรถยนต์ใหม่มายังที่ตลาดรถมือสองมากขึ้น กระทั่งช่วงปี 2566 - 2567 ราคารถยนต์มือสองที่ลดลงรุนแรงในบางช่วงไปถึง 50% (ปกติจะลดลงเฉลี่ยไม่เกิน 40%) ส่งผลให้หลายบริษัทขาดทุนจัดการขายรถ และจึงเห็นการปรับกลยุทธ์มาเน้นลูกค้าที่มีประวัติการผ่อนชำระดีมากขึ้น รวมถึงยังเห็นการเพิ่มเงินดาวน์เพื่อเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม ปี 2567 นี้ในพอร์ตของธนาคาร CIMBT ส่วนสินเชื่อเช่าซื้อยานยนต์ปรับตัวดีขึ้นมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 ส่วนหนึ่งอาจเพราะมาตรการช่วยเหลือของรัฐที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง และมองถึงปี 2568 เชื่อว่าตลาดสินเชื่อรถยนต์จะกลับมาฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น และภาวะดอกเบี้ยนโยบายขาลงที่เป็นผลดีต่อเช่าซื้อ (คาดว่าไตรมาส 1 และ 2 ปี 2568 อาจเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยลงราว 0.5-1%)​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/11/4qDpkzY6KpsFQbzkoWqZ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="4qDpkzY6KpsFQbzkoWqZ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="0"><figcaption><div>​นายวิสิทธิ์ พึ่งพรสวรรค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีไอเอ็มบี ไทย ออโต้ จำกัด​</div></figcaption></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ดังนั้น กลยุทธ์ของ ซีไอเอ็มบี ไทย ออโต้ จะรุกตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถมากขึ้น แม้อาจมีการแข่งขันสูง แต่ทางบริษัทฯ จะแข่งขันในกลุ่มลูกค้าที่มีประวัติการผ่อนชำระที่ดี และกลุ่มที่มีรายได้ต่อเดือน 30,000-50,000 บาทขึ้นไป ล่าสุดเปิดตัว ‘สินเชื่อรถปลดล็อค’ เป็นสินเชื่อจำนำทะเบียนรถเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการสภาพคล่อง อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.25% ต่อเดือน (3% ต่อปี) วงเงินสูงสุด 5 ล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ต้องยอมรับว่า ตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถแข่งขันสูง ที่เรากล้าปล่อยแคมเปญสู้ เพราะเรามั่นใจว่าตรงความต้องการลูกค้า จากการที่ทีมงานทุ่มเทศึกษาตลาดและทำการบ้านอย่างหนัก เพื่ออุด pain point ของลูกค้าทุกจุด จึงออกมาเป็นสินเชื่อรถปลดล็อก by CIMB THAI AUTO ซึ่งเราคาดว่าจะปล่อยสินเชื่อรถปลดล็อกได้ 3,000 ล้านบาทภายในปี 2568” นายวิสิทธิ์ กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นายเกรียงภพ ปานุราช รองกรรมการผู้จัดการ สินเชื่อการตลาดและบริหารสินเชื่อ บริษัท ซีไอเอ็มบี ไทย ออโต้ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันยังเห็นความต้องการสภาพคล่องสูง ซึ่งรวมถึงกลุ่มผู้ประกอบกิจการ SME ที่มีทรัพย์สินเป็นรถยนต์จึงนำมาขอสินเชื่อจำนำทะเบียนเมื่อต้องการสภาพคล่อง โดยเริ่มเห็นการนำรถยุโรป Supercar มาขอสินเชื่อจำนำทะเบียนมากขึ้น ทางบริษัทฯ จึงขยายสู่ฐานลูกค้ากลุ่มนี้และให้วงเงินสูงสุดที่ 5 ล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“สาเหตุที่เราให้วงเงินสูงเพราะต้องการเสริมศักยภาพทางการเงินให้ลูกค้า แต่ทำการตลาดจะควบคู่ไปกับการให้ความรู้ลูกค้าในการขอสินเชื่อเท่าที่ตัวเองสามารถผ่อนได้ โดยจากการศึกษาข้อมูล พบว่าลูกค้าที่มีรถปลอดภาระมักไม่ทิ้งรถ” นายเกรียงภพ กล่าว<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/11/wo6rzdM1jKL8EWPPRXpo.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="720px,330px" data-align="center" data-file-name="wo6rzdM1jKL8EWPPRXpo.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,330" data-origin="720px,330px" style="width: 720px; height: 330px;" data-index="1"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ สินเชื่อจำนำทะเบียนของธนาคารมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 9.95% ต่อปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยจำนำทะเบียนแบบไม่โอนเล่มที่ถือว่าอยู่ในอัตราต่ำของตลาด ขณะที่กลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูงกว่า ยังมีการปล่อยสินเชื่อแต่จะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า (อัตราสูงสุดตามกฎเกณฑ์อยู่ที่ 24% ต่อปี)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตามแผนใน 2 ปี ตั้งเป้าหมายในรถที่อายุน้อยลง จากปัจจุบันเฉลี่ยอายุรถที่ 6-10 ปี ส่วนมูลค่ารถที่นำมาจัดสินเชื่อเฉลี่ยที่ 500,000 บาทต่อคัน เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่อยู่ราว 300,000 บาทต่อคัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า พอร์ตสินเชื่อรวมของบริษัทฯ ปัจจุบันอยู่ที่ราว 31,000 ล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน โดยปี 2568 คาดว่าจะมียอดสินเชื่อใหม่เดือนละ 1,200 ล้านบาท จากปัจจุบันที่อยู่ราว 800 ล้านบาท (ปัจจุบันมียอดการชำระคืนเฉลี่ยเดือนละ 1,000 ล้านบาท) แต่ภายใน 3 ปีข้างหน้าตั้งเป้าหมายจะมีสินเชื่อคงค้างเช่าซื้อยานยนต์อยู่ที่ 38,000 ล้านบาทโดยแบ่งสัดส่วนเป็น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;- สินเชื่อเช่าซื้อให้กับดีลเลอร์ยานยนต์ 60% (จากปัจจุบันอยู่ที่ 90%)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;- สินเชื่อจำนำทะเบียนราว 20% (จากปัจจุบันอยู่ที่ 5%)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;- สินเชื่อมอเตอร์ไซค์ใช้แล้วในสัดส่วน 20% (จากปัจจุบันอยู่ที่ 5%)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะที่ ด้านหนี้เสียหรือ NPL ปัจจุบันอยู่ที่ 1.9% ปรับตัวดีขึ้นจากช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ตามในปี 2568 เชื่อว่า NPL จะลดลง ทั้งจากเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและการมุ่งเน้นลูกค้ากลุ่มคุณภาพ โดยปัจจุบันในพอร์ตของบริษัทมีการให้สินเชื่อในกลุ่มที่มีฐานข้อมูลในเครดิตบูโร (NCB) กว่า 75% Photo by <a href="https://unsplash.com/@redcharlie?utm_content=creditCopyText&amp;utm_medium=referral&amp;utm_source=unsplash" style="background-color: initial; font-family: &quot;DB FongNam X&quot;, sans-serif; font-size: 34px; text-align: var(--bs-body-text-align);">redcharlie</a> on <a href="https://unsplash.com/photos/silver-bmw-m-3-coupe-parked-in-building-6EjtuM4D0oQ?utm_content=creditCopyText&amp;utm_medium=referral&amp;utm_source=unsplash" style="background-color: initial; font-family: &quot;DB FongNam X&quot;, sans-serif; font-size: 34px; text-align: var(--bs-body-text-align);">Unsplash</a>, CIMBT เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/marketing/travel/rs-group-invest-entertainment-complex" alt="RS ประกาศลงทุน Entertainment Complex ตั้งบริษัทย่อยผนึกพาร์ทเนอร์ ปักธงภูเก็ต-พังงา">RS ประกาศลงทุน Entertainment Complex ตั้งบริษัทย่อยผนึกพาร์ทเนอร์ ปักธงภูเก็ต-พังงา</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

คนไทยใช้รถหรูมากู้มากขึ้น! CIMBT เปิดตัว ‘สินเชื่อรถปลดล็อก’ วงเงินสูงสุด 5 ล้านบาท ดอกเบี้ย 0.25% ต่อเดือน

<h2>“กรุงศรี ออโต้” ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ประกาศกลยุทธ์ธุรกิจปี 2565 ผ่าน 3 แกนหลัก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ถูกใจ ไร้กังวล บริการราบรื่น ไร้รอยต่อ และดิจิทัล ไร้ขีดจำกัด ตั้งเป้ายอดสินเชื่อใหม่มูลค่า 173,000 ล้านบาท เติบโต 11% พร้อมครองตลาดสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร</h2>
<img class="alignnone size-full wp-image-60740" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/03/กรุงศรี-ออโต้_0603.jpg" alt="" width="650" height="348" />

คงสิน คงคา ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้ว่า มองเห็นสัญญาณบวกจากปัจจัยในประเทศที่จะทำให้เศรษฐกิจค่อยๆ ฟื้นตัว โดยสำนักวิจัยธนาคารกรุงศรีอยุธยาคาดว่าจีดีพีปีนี้เติบโต 2.8 เปอร์เซนต์

สำหรับยอดขายรถใหม่ปีนี้คาดการณ์ว่าอยู่ที่ 810,000 คัน เติบโต 6 เปอร์เซนต์ โดยคาดว่ายอดสินเชื่อใหม่รวมทั้งตลาดมีมูลค่า 499,500 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 5 แม้สภาพตลาดจะดูดีขึ้น แต่ปี 2565 ยังมีความไม่แน่นอน สาเหตุจาก หนึ่ง ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ผลกระทบจากโควิด และเงินเฟ้อ ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวค่อนข้างช้า สอง พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงโดยโควิดเป็นตัวเร่งให้ใช้บริการดิจิทัลมากขึ้น รวมถึงการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ และสามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยธุรกิจใหม่ดิสรัปต์ธุรกิจเดิม ทำให้การแข่งขันในตลาดสูงขึ้น มีผู้เล่นมากขึ้น

ทั้งนี้ในปี2565 กรุงศรี ออโต้ จะนำลูกค้าและคู่ค้าไปสู่ความเป็นไปได้ใหม่ ทั้งด้านการดำเนินชีวิตและการทำธุรกิจ โดยจะขับเคลื่อนธุรกิจ ผ่าน 3 กลยุทธ์หลักคือ มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ถูกใจ ไร้กังวล (Product Harmonization) โดยใช้ความแข็งแกร่งของดาต้าในเครือกรุงศรี วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าแบบ 360 องศา และมอบข้อเสนอสินเชื่อยานยนต์ที่ออกแบบมาอย่างเหมาะเจาะกับลูกค้าแต่ละราย  ควบคู่ไปกับการนำเสนอโซลูชันทางการเงินอื่นๆ ในเครือ

การมอบประสบการณ์ราบรื่น ไร้รอยต่อ (Brand Experience) ผ่านการให้บริการด้วย Advisory Service Model ที่ผสมผสานการให้คำปรึกษาที่เชื่อมต่อกันในทุกจุดบริการ ตั้งแต่การประสานการทำงานต่างพื้นที่ (Cross-Branch Service) ระหว่างสาขาของพันธมิตรหรือต่างพื้นที่บริการได้อย่างต่อเนื่องเป็นมาตรฐานเดียวกัน บริการลูกค้าทุกสถานการณ์ผ่านระบบออนไลน์ (Digital Face-to-Face) ให้สามารถเชื่อมต่อพูดคุยกันกับพนักงานได้ทุกที่ทุกเวลา

กลยุทธ์ที่สามคือ ดิจิทัล ไร้ขีดจำกัด (Digital Connectivity) นำศักยภาพด้านดิจิทัลสนับสนุนการขายของคู่ค้า โดยนำเทคโนโลยี API มาเชื่อมต่อนวัตกรรมประเมินวงเงินเบื้องต้น “กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท” เข้ากับแพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถออนไลน์ของดีลเลอร์รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และแบรนด์ผู้ผลิต เพื่อช่วยให้ผู้ซื้อสามารถเลือกชมรถ พร้อมกับวางแผนด้านสินเชื่อได้เบ็ดเสร็จในที่เดียว ลูกค้าสามารถเช็กวงเงินและตัดสินใจเลือกซื้อได้สะดวกขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อดีลเลอร์

รวมทั้งยกระดับบริการสินเชื่อยานยนต์ดิจิทัลบน GO Application by Krungsri Auto ขยายบริการให้ครอบคลุมสินเชื่อรถจักรยานยนต์ และคาร์ ฟอร์ แคช พร้อมทั้งนำเสนอโซลูชันสำหรับลูกค้าปัจจุบัน และผู้ใช้รถทั่วไป ทำให้อีโคซิสเต็มมีความสมบูรณ์ มีเครือข่ายพาร์ตเนอร์กว้างขึ้น

“ด้วยโซลูชันสินเชื่อยานยนต์ที่มุ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและคู่ค้าอย่างครอบคลุม เราเชื่อมั่นว่าในปี 2565 จะสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร ด้วยยอดสินเชื่อใหม่มูลค่า 173,000 ล้านบาท เติบโต 11% และขยายโอกาสในการขับเคลื่อนโมเดลธุรกิจใหม่ต่อไปในอนาคต” คงสิน กล่าวในตอนท้าย

ปัจจุบันกรุงศรี ออโต้ มียอดสินเชื่อคงค้างรวม 425,000 ล้านบาท มียอดสินเชื่อใหม่ผ่านช่องทางดิจิทัลคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 6 จากยอดสินเชื่อใหม่ทั้งหมด เติบโตร้อยละ 53 จากปี 2564

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/%e0%b8%81%e0%b8%a4%e0%b8%a9%e0%b8%8e%e0%b8%b4%e0%b9%8c-%e0%b9%80%e0%b8%ad%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a1%e0%b8%aa%e0%b8%81%e0%b8%b8%e0%b8%a5%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%95%e0%b8%99%e0%b9%8c.html">กฤษฎิ์ เอี่ยมสกุลรัตน์ นำทีม ALLY GLOBAL ตั้งเป้าปั้น AUM 5 พันล้านเหรียญ ใน 5 ปี</a>

<hr />
<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>
&nbsp;

“กรุงศรี ออโต้” เผยกลยุทธ์ปี 2565 ดันยอดสินเชื่อใหม่โต 11%

<h2>“กรุงศรี ออโต้” ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ชี้การแข่งขันด้านดิจิทัลยังคงมาแรง ควบคู่การสร้างความแตกต่างให้ผลิตภัณฑ์และบริการ พร้อมปักธง 4 เทรนด์น่าจับตาในปี 2565 ได้แก่ เข้าถึงด้วยออนไลน์ มัดใจด้วยคำปรึกษา ให้มากกว่าด้วยความหลากหลาย และตอบอินไซต์ผู้บริโภค</h2>
กฤติยา ศรีสนิท ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจตลาดยานยนต์ และสินเชื่อยานยนต์ปี 2564 ว่าจากการที่จีดีพีขยายตัว 1.2 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์เดิม สาเหตุจากปัจจัยหลายประการประกอบด้วย สถานการณ์โควิดเบาบางลง รัฐบาลเปิดประเทศ และเศรษฐกิจบางภาคส่วนมีแนวโน้มดีขึ้น

โดยภาคที่เติบโตคือการก่อสร้างของภาครัฐ ค้าปลีกออนไลน์ ธุรกิจขายส่ง และค่ายรถยนต์หลายแห่งมีโมเดลใหม่ๆ ออกมา ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว และคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวสู่ระดับก่อนโควิด-19 ได้ในช่วงปลายปี 2565

ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ คาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ใหม่อยู่ที่ 750,000 คัน ลดลง 5 เปอร์เซ็นต์ และมูลค่าของสินเชื่อยานยนต์อยู่ที่ 465,000 ล้านบาท ลดลง 4 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปี 2563

ทั้งนี้ กรุงศรี ออโต้ มองว่ามี 4 เทรนด์ที่จะเข้ามาขับเคลื่อนตลาดสินเชื่อยานยนต์ในปีหน้า โดยเทรนด์แรกคือการเข้าถึงด้วยออนไลน์ จากการสำรวจโดย ABeam Consulting ระบุว่าร้อยละ 40 ของผู้ซื้อรถในประเทศไทย สนใจที่จะซื้อรถผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งรวมถึงขั้นตอนการวางเงินดาวน์และวางแผนด้านสินเชื่อ

กฤติยา กล่าวว่า “กรุงศรี ออโต้ ได้วางรากฐานด้านบริการสินเชื่อยานยนต์ดิจิทัลมาอย่างต่อเนื่อง และในเดือนกันยายนที่ผ่านมาเราได้นำร่องบริการสินเชื่อยานยนต์ดิจิทัล ครอบคลุมทั้งรถยนต์ใหม่และรถยนต์มือสอง ผ่าน GO Application by Krungsri Auto 

ลูกค้าสามารถยืนยันตัวตนผ่าน National Digital ID (NDID) กรอกใบสมัคร และรอรับผลอนุมัติสินเชื่อได้โดยไม่ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังได้เปิดให้ลูกค้าที่ขอสินเชื่อรถยนต์ใหม่ในงาน Motor Expo 2021 ได้ใช้งานเพิ่มเติมอีกด้วย”

แม้แพลตฟอร์มดิจิทัลจะช่วยให้ผู้บริโภคหาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น แต่สำหรับรถยนต์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง ผู้บริโภคมองว่าการพูดคุยกับพนักงานขายที่มีความเชี่ยวชาญ ยังคงเป็นช่องทางที่มีประโยชน์สูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ในขณะเดียวกัน 59% ของผู้ซื้อรถในประเทศไทยยังคงเดินทางไปที่โชว์รูม พูดคุยกับพนักงานขาย และทดลองขับรถ ก่อนตัดสินใจซื้อ จึงเป็นที่มาของเทรนด์ที่สองเทรนด์ที่สองคือการมัดใจด้วยคำปรึกษา

“ในธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ เทคโนโลยีดิจิทัลไม่สามารถแทนที่ช่องทางเดิมทั้งหมดได้ แต่จะมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของพนักงาน และมอบคำปรึกษาที่ตรงใจลูกค้า สำหรับการให้บริการโดย Krungsri Auto Advisor เราได้ใช้เทคโนโลยีในการวิเคราะห์ฐานข้อมูลลูกค้า

และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เฉพาะเจาะจงกับลูกค้าแต่ละราย อีกทั้งยังใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเข้ามาลดขั้นตอนในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการขอสินเชื่อ การประเมินราคารถยนต์มือสอง และการส่งเอกสารพิจารณาสินเชื่อได้แบบเรียลไทม์”

นอกจากนี้ความหลากหลายของช่องทางการบริการเป็นอีกปัจจัยที่ผู้ให้บริการสินเชื่อไม่ควรมองข้าม จากสถิติชี้ให้เห็นว่ามากกว่าครึ่งของเจ้าของรถยนต์หรูและรถยนต์ทั่วไป เลือกใช้หรือต้องการใช้ช่องทางดิจิทัลสำหรับบริการหลังการขาย ในขณะที่เจ้าของรถกระบะส่วนใหญ่ยังคงเลือกช่องทางออฟไลน์

“อีกสิ่งหนึ่งที่กรุงศรี ออโต้ ให้ความสำคัญคือ กลยุทธ์ในการเลือกใช้ช่องทางดิจิทัลให้เหมาะสมกับแต่ละวัตถุประสงค์ ยกตัวอย่างเช่น เราใช้ GO Application by Krungsri Auto ในการรวบรวมผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ไว้ในที่เดียว

ควบคู่ไปกับการใช้ LINE Official Account เพื่อให้คำปรึกษาผ่านแชทแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้เรายังยังได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเพิ่มความรวดเร็วในการนำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์ และบริการที่สาขาธุรกิจยานยนต์ต้นแบบ Smart Branch อีกด้วย”

“กรุงศรี ออโต้ มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์อินไซต์ของลูกค้าในทุกสถานการณ์ โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดอย่าง ‘คาร์ ฟอร์ แคช พร้อมใช้’ สินเชื่อเพื่อคนมีรถ พร้อมวงเงินฉุกเฉิน และการขยายประกันอะไหล่ ‘กรุงศรี ออโต้ โพรเทค’ ให้ครอบคลุมเซ็กเมนต์ บิ๊ก ไบค์ ก็ได้รับการออกแบบมาเพื่อเสริมความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้รถในระยะยาว ในปีหน้า เราจะมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์เหล่านี้ให้แก่ลูกค้าในวงกว้างขึ้น”

ทั้งนี้ กรุงศรี ออโต้ ตั้งเป้ายอดสินเชื่อค้างปี 2564 ไว้ที่ 428,000 ล้านบาท โดยมียอดสินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัลคิดเป็นร้อยละ 4–5 จากเป้าหมายทั้งหมด

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/metalab-creative-solution-%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81-metaverse.html">“METALAB Creative Solution” เอเจนซี่ไทยในโลก Metaverse</a>

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

"กรุงศรี ออโต้" ชี้ 4 เทรนด์สินเชื่อยานยนต์ปี 65

<h2>“กรุงศรี ออโต้” หนึ่งผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และผู้บุกเบิกการตลาดดิจิทัลในธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีแห่งยุคอย่าง แชท คอมเมิร์ซ (Chat Commerce) เข้ามาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมผู้ใช้รถยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ</h2>
ในยุคที่แบรนด์ทั้งเล็กและใหญ่ต่างงัดกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลหลากหลายรูปแบบมาใช้เพื่อมัดใจลูกค้า โดยหนึ่งในธุรกิจที่มีความท้าทายสูงสุดก็คือ ธุรกิจการเงิน โดยเฉพาะบริการสินเชื่อยานยนต์ ซึ่งมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ลูกค้าต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ ล่าสุด "กรุงศรี ออโต้" นำแพลตฟอร์มแชทอันดับหนึ่งของไทยอย่าง LINE มาใช้ในกลยุทธ์ "แชท คอมเมิร์ซ" ที่สามารถช่วยปิดการขายได้ถึงร้อยละ 45 เลยทีเดียว

สาเหตุสำคัญที่การแชทเป็นเครื่องมือทางการขายที่มีประสิทธิภาพมากเป็นเพราะผู้ซื้อไม่จำเป็นต้องค้นหาข้อมูลต่างๆ ด้วยตนเอง แต่ผู้ขายสามารถไขข้อข้องใจให้แก่ลูกค้าได้แบบตัวต่อตัว ให้ประสบการณ์เหมือนการพุดคุยทางโทรศัพท์แต่ตอบรับด้านความสะดวกสบายยิ่งขึ้น เพราะสามารถรองรับลูกค้าหลายรายได้ในเวลาเดียวกัน รวมถึงสร้างความสัมพันธ์ที่ดีได้

กฤติยา ศรีสนิท ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า “กรุงศรี  ออโต้ ถือเป็นแบรนด์สินเชื่อยานยนต์รายแรกของประเทศไทยที่ให้บริการและให้คำปรึกษาด้านสินเชื่อผ่านแชท คอมเมิร์ซ บนแอปพลิเคชันยอดนิยมอย่าง LINE ตั้งแต่เดือนกรกฏาคม 2561 เป็นต้นมา เนื่องจากเห็นว่าเป็นเทคโนโลยีการตลาดที่ผู้บริโภคคุ้นเคยและเข้าถึงได้ง่าย พร้อมทั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ลูกค้าสามารถควบคุมทุกอย่างได้เอง สำหรับคนที่ยังไม่พร้อมจะตัดสินใจ ก็สามารถใช้เวลาในการโต้ตอบได้ตามสะดวก ในขณะที่บางคนซึ่งมีความพร้อมแล้ว ก็สามารถขอข้อมูลที่ต้องการและแจ้งความต้องการสมัครสินเชื่อเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับได้ในทันที

เราจึงได้วางกลยุทธ์ในการนำเสนอบริการแชทกับป๋าสูทเหลือง ซึ่งให้คำปรึกษาในคาแรกเตอร์ป๋ามาดกวน แต่เข้าถึงง่าย โดยให้คำแนะนำครอบคลุมตั้งแต่การให้ข้อมูลสินเชื่อเบื้องต้น การวางแผนการผ่อนชำระ และบริการหลังการขาย รวมถึงเพิ่มฟีเจอร์อัตโนมัติเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการอยู่กว่า 1.2 ล้านราย โดยในปี 2563 ที่ผ่านมามีส่วนผลักดันยอดสินเชื่อใหม่เกือบร้อยละ 20 ของยอดสินเชื่อผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งหมด”

<img class="alignnone size-full wp-image-46550" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/06/KA-Chat-Commerce66.jpg" alt="" width="640" height="430" />

ก่อนซื้อ: ให้ข้อมูลการเงินแบบเจาะลึก ครบทุกยี่ห้อ ครบทุกรุ่น สะดวกต่อการตัดสินใจ

หนึ่งในโจทย์สำคัญของการวางกลยุทธ์ แชท คอมเมิร์ซ เพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายและจูงใจให้กลับมาใช้งานอย่างต่อเนื่อง คือ การออกแบบฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์และช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและบริการ สำหรับสินเชื่อยานยนต์ของเรา พบว่า ข้อมูลค่างวดมีความสำคัญไม่แพ้รุ่นและราคารถ จึงได้นำเครื่องคำนวณค่างวด (Loan Calculator) มาไว้บน LINE Official Account และออกแบบให้ลูกค้าสามารถเช็กราคารถพร้อมคำนวณค่างวด และกรอกข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับได้ในแพลตฟอร์มเดียว ในขณะที่เจ้าหน้าที่ก็สามารถให้คำปรึกษาลูกค้าแต่ละรายได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยฟีเจอร์เครื่องคำนวณค่างวดของกรุงศรี ออโต้ มีผู้ใช้เฉลี่ยถึงเดือนละ 100,000 ครั้ง

ระหว่างซื้อ: ให้คำปรึกษาเชิงลึกผ่านบริการโดยพนักงาน

สินเชื่อยานยนต์มีรายละเอียดเฉพาะเจาะจง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรุ่นรถ การติดต่อกับดีลเลอร์ ไปจนถึงเอกสารในการสมัคร อีกทั้งยังมีวงเงินในระดับหลักแสน การตัดสินใจของลูกค้าจึงต้องอาศัยที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor) ให้คำปรึกษาผ่านแชท คอมเมิร์ซ ซึ่งเอื้อให้ลูกค้าสนทนาได้อย่างเป็นธรรมชาติและอิสระ ในขณะที่เจ้าหน้าที่สามารถสังเกตเห็นความต้องการบางอย่างที่เฉพาะเจาะจง และสัมผัสถึงอารมณ์ความรู้สึกในข้อความต่างๆ  ที่ลูกค้าอาจไม่ได้สื่อสารออกมาโดยตรง แทนที่จะพึ่งพาโปรแกรมแชทบอท (Chatbot) เพียงอย่างเดียว ซึ่งเหมาะกับการให้คำแนะนำพื้นฐานจากการออกแบบชุดคำถามที่พบบ่อย (FAQ) ด้วยการเก็บข้อมูลจากการใช้งานจริงก่อน ทั้งนี้อยู่ในระหว่างการพัฒนาฟีเจอร์แชทบอท และจะเตรียมเปิดให้บริการเร็วๆ นี้

หลังซื้อ: ให้ความช่วยเหลือใกล้ชิด ไม่ขาดตอน

เพราะการดูแลใส่ใจตลอดการใช้บริการของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญในการมอบประสบการณ์ที่ดี เราจึงได้เชื่อมต่อระบบแชท คอมเมิร์ซ เข้ากับการให้บริการลูกค้าทั้งหมด ทำให้สามารถติดตามสถานะของลูกค้าแต่ละคนได้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังเตรียมให้บริการชำระค่างวดผ่านไลน์ในอนาคตอันใกล้ พร้อมบริการทางการเงินใหม่ๆ ที่จะทยอยเปิดตัวให้บริการผ่านไลน์ บัญชีทางการ อย่างต่อเนื่อง

“ในยุคที่เทคโนโลยีได้เข้ามายกระดับการให้บริการสินเชื่อยานยนต์ให้มีความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ในฐานะเป็นแบรนด์ผู้กำหนดทิศทางตลาดด้านดิจิทัล (Digital Market Shaper) กรุงศรี ออโต้ มองว่าสิ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กันคือ กลยุทธ์ในการนำนวัตกรรม เช่น แชท คอมเมิร์ซ มาประยุกต์ใช้เพื่อให้สามารถตอบความต้องการของลูกค้าได้ในทุกๆ ขั้นตอนและครบวงจร รวมถึงสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจได้ต่อไปในอนาคต” กฤติยา กล่าวสรุป

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/world/america/%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b9%80%e0%b8%87%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b9%83%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%93%e0%b8%b2%e0%b8%88%e0%b8%b1.html">ธุรกิจเงินล้านในอาณาจักรของ Bezos</a>

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events