<h2 class="p1">เพราะการ “ประสบความสำเร็จ” ไม่ได้ได้มาโดยง่าย ในความเป็นจริงแล้ว มีปัจจัยมากมายที่ทำให้นักธุรกิจประสบความสำเร็จ แน่นอนว่าการทำงานอย่างหนักและอดทนเป็นสิ่งที่นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จทุกคนมี แต่เชื่อหรือไม่ว่า “คนอื่น” เป็นแรงขับเคลื่อนชั้นดีที่จะทำให้เราพัฒนาตัวเองไปสู่ความสำเร็จ</h2>
เพราะคนที่อยู่รอบตัวนั้นส่งผลต่อทั้งวิธีคิด การแสดงออก และความรู้สึกในแต่ละวัน ในหลายครั้งการ "ประสบความสำเร็จ" ในการทำธุรกิจจึงเหมือนกับความสำเร็จในด้านอื่นของชีวิต เช่น เด็กๆ ที่อยากเป็นนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จ ก็จะพาตัวเองเข้าไปอยู่กับคนที่ผลักดันให้เขาดีขึ้น ไม่ใช่คนที่ทำให้เขาสนใจในสิ่งนี้น้อยลง
แล้วคนแบบไหนที่ผู้ประกอบการหรือนักธุรกิจที่อยากประสบความสำเร็จมากขึ้นจะต้องพาตัวเองไปใกล้ชิด ลองไปดูกัน
&nbsp;
<h2 class="p1">1.คนที่ทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย</h2>
คุณอาจรู้จักมนุษย์ที่มีลักษณะแบบนี้อยู่บ้าง หรือบางทีคนนั้นก็อาจเป็นคุณเอง โดยคนลักษณะนี้จะผลักดันให้เราทำงานหนักขึ้นทุกวัน เพราะเขาทำงานด้วยแพสชั่นและความมุ่งมั่นที่แท้จริง ซึ่งสองสิ่งนี้จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้
&nbsp;
<h2 class="p1">2.คนที่มีทัศนคติบวก</h2>
คนเรานั้นมีแนวโน้มจะทำบางสิ่งได้ดีขึ้นหากมีความสุข ทัศนคติเชิงลบนั้นจะบั่นทอนความรู้สึกอยากทำงาน ไม่สร้างแรงบันดาลใจใดๆ ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ การพาตัวเองเข้าไปอยู่ในแวดล้อมของคนทัศนคติเชิงลบอาจทำให้ความคิดสร้างสรรค์และแรงขับเคลื่อนในชีวิตชะงักลงได้ ในที่สุดก็จะทำให้ธุรกิจของคุณไปไม่ถึงไหนหรือย่ำแย่ลง ขณะที่คนที่มีทัศนคติเชิงบวกก็จะให้ผลตรงกันข้าม รวมถึงช่วยให้คุณไปสู่ความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การนำความสุขมาในที่ทำงานยังช่วยให้พนักงานมีขวัญกำลังใจและก้าวมองไปข้างหน้า

<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/news/hr/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2-%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2-%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A2.html">งานวิจัยทางจิตวิทยาชี้ “คนรวย” มีพื้นฐานบุคลิกภาพแตกต่างจากคนทั่วไป</a></li>
</ul>
&nbsp;
<h2 class="p1">3.คนที่เป็นนักตั้งคำถาม</h2>
Albert Einstein เคยกล่าวว่า “สิ่งสำคัญคือต้องไม่หยุดตั้งคำถาม” สำหรับผู้ประกอบการหรือนักธุรกิจแล้ว เราควรตั้งคำถามถามเกี่ยวกับตัวเราและธุรกิจของเราอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม คงไม่ใช่แค่ใครคนเดียวที่จะคิดคำถามสำคัญได้ทุกข้อ จึงควรพาตัวเองไปอยู่กับนักตั้งคำถามหลายๆ คน เพราะมุมมองที่แตกต่างมักเกิดขึ้นจากการตั้งคำถามนั่นเอง และในที่สุดคำถามเหล่านี้ก็อาจนำไปสู่การพัฒนาที่สำคัญสำหรับธุรกิจ
<img class="alignnone wp-image-7985" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/people-2557396_960_720.jpg" alt="" width="854" height="569" />

&nbsp;
<h2 class="p1">4.นักฝัน</h2>
การตั้งเป้าหมายและการทำงานอย่างหนักนั้นช่วยให้บรรลุในสิ่งที่หลายคนอาจคิดว่าคุณทำไม่ได้ และเพื่อให้มีแรงขับเคลื่อนต่อไป คุณจึงควรพาตัวเองเข้าไปอยู่กับคนที่เป้าหมายคล้ายๆ กัน โดยนักฝันเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณก็ได้ สิ่งสำคัญคือคุณต้องอยู่ใกล้กับคนที่มีแผนใหญ่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของเขา เฝ้ามองแรงขับเคลื่อนของคนอื่นจะช่วยให้อยากจะไปให้ถึงเป้าหมายมากขึ้น
ตัวคุณนั้นคือผลลัพธ์จากคนที่คุณใช้เวลาด้วย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณข้องเกี่ยวโดยตรงกับคนที่จะผลักดันคุณ สร้างแรงบันดาลใจให้คุณ และกระตุ้นให้คุณทำและเป็นในสิ่งที่ดีขึ้น การเติบโตของธุรกิจของคุณก็เหมือนกับการเติบโตของชีวิต มีเปลี่ยนโรงเรียน คบเพื่อนใหม่ๆ ซึ่งนั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิต ดังนั้น หากคุณอยากจะมีชีวิตดั่งที่ฝัน สิ่งที่คุณเลี่ยงไม่ได้คือเเชื่อในการทำงานอย่างหนัก คิดบวก และมองโลกในแง่ดีเข้าไว้
&nbsp;

แปลและเรียบเรียงโดย กนกวรรณ มากเมฆ / Online Content Creator

&nbsp;

ที่มา
<ul>
 	<li><a href="https://www.businessinsider.com/surround-4-types-of-people-successful-2019-5">To become more successful, surround yourself with these 4 types of people</a></li>
</ul>

4 ลักษณะของคนที่คุณพาตัวเองเข้าไปอยู่ด้วย หากอยาก "ประสบความสำเร็จ" มากขึ้น

<h2 class="p3">ผู้คนต่างคาดคะเนว่าบุคคลมั่งคั่งนั้นน่าจะมีสิ่งที่ “แตกต่าง” จากคนทั่วไป ไม่ใช่เพียงแค่ทรัพย์สินที่พวกเขามีเท่านั้น แต่ “คนรวย” ยังมีบุคลิกภาพที่แตกต่างด้วย</h2>
แปลและเรียบเรียงจาก<a href="https://www.forbes.com/sites/rainerzitelmann/2019/05/08/new-psychological-studies-how-the-wealthy-really-are-different-from-everyone-else/#477597596a74"> New Psychological Studies: How The Wealthy Really Are Different From Everyone Else</a> โดย Rainer Zitelmann นักวิจัยและนักเขียนด้านจิตวิทยาและสังคม
มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ไม่มากที่สามารถยืนยันหรือปฏิเสธข้อสันนิษฐานเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม กลุ่มนักวิจัยทางเศรษฐศาสตร์และจิตวิทยาชาวเยอรมัน 6 คนได้ทำการวิจัยขนาดใหญ่ในประเด็นดังกล่าว พวกเขาสัมภาษณ์บุคคลมั่งคั่งทั้งหมด 130 คน เพื่อนำผลลัพธ์มาสร้างบุคลิกทางจิตวิทยาเฉพาะของกลุ่มคนรวย จากนั้นนำมาเปรียบเทียบกับประชากรทั้งหมด
&nbsp;
<h2 class="p3">หลัก Big Five เพื่อทดสอบเปรียบเทียบ</h2>
ในหลายทศวรรษที่ผ่านมา แบบวัดบุคลิกภาพ 5 อย่าง (Big Five) ถือเป็นโมเดลการวัดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ทำให้ถูกนำมาใช้ในงานวิจัยทางจิตวิทยาของบุคคลมั่งคั่งนี้ด้วยเพื่อหาข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัด ซึ่งแกนบุคลิกภาพ 5 อย่างดังกล่าว ได้แก่

<ol>
 	<li class="p3">การมีจิตสำนึก (Conscientious) อธิบายบุคลิกของคนที่มีความละเอียดถี่ถ้วน พิถีพิถัน ขยัน มีประสิทธิภาพ มีความเป็นระบบระเบียบ ตรงต่อเวลา ทะเยอทะยานและมุ่งมั่น</li>
 	<li class="p3">ความไม่มั่นคงทางอารมณ์ (Neuroticism) บุคคลที่มีบุคลิกภาพข้อนี้สูงมักจะเป็นคนขี้กังวล ไม่มั่นใจต่อสิ่งใดก็ตามที่มีโอกาสไม่เป็นอย่างที่คาด กลุ่มนี้มีแนวโน้มตอบโต้กลับตามอารมณ์ และไม่มั่นคงทางจิตใจ</li>
 	<li class="p3">ความเป็นมิตร (Agreeableness) บุคคลที่มีความเป็นมิตรสูงมักจะต้องการความสมัครสมานกลมเกลียว ดังนั้นพวกเขามักจะยอมถอยอย่างรวดเร็วเมื่อเผชิญความขัดแย้ง และมีความไว้วางใจผู้อื่นมากเกินไป</li>
 	<li class="p3">การเปิดตัว (Extraversion) คนที่มีบุคลิกนี้สูงมักจะช่างพูด มุ่งมั่น กล้าได้กล้าเสีย พลังงานสูง และกล้าหาญ</li>
 	<li class="p3">การเปิดรับประสบการณ์ (Openness to Experience) คนที่มีบุคลิกเปิดรับประสบการณ์มักจะเป็นคนมีจินตนาการ มีความคิดสร้างสรรค์ และช่างสงสัย</li>
</ol>
จากการเปรียบเทียบแกนบุคลิกภาพ 5 อย่างระหว่างกลุ่มผู้มั่งคั่งที่รับการสัมภาษณ์กับคนทั่วไป จะพบรูปแบบความแตกต่างเหล่านี้

<ol>
 	<li class="p3">คนรวยมีอารมณ์ที่มั่นคงกว่า (มีบุคลิกแบบ Neuroticism น้อย)</li>
 	<li class="p3">คนรวยมีบุคลิกเปิดตัว (Extraversion) สูงเป็นพิเศษ</li>
 	<li class="p3">คนรวยมีการเปิดรับประสบการณ์สูงกว่า</li>
 	<li class="p3">คนรวยยอมโอนอ่อนผ่อนตามน้อยกว่า หมายความว่าเป็นไปได้น้อยที่พวกเขาจะหนีจากข้อขัดแย้ง</li>
 	<li class="p3">คนรวยมีบุคลิกการมีจิตสำนึก (Conscientious) มากกว่า</li>
</ol>
นอกจากการทดสอบ Big Five แล้ว นักวิจัยกลุ่มนี้ยังวัดผลบุคลิกภาพอีก 2 ด้านด้วย คือ บุคลิกภาพแบบหลงตัวเอง (Narcissism) และ วัดระดับลักษณะมุ่งอนาคตควบคุมตน (Internal Locus of Control = LOC ยิ่งมีมากจะยิ่งเป็นคนที่เชื่อโชคชะตาน้อย เชื่อตนเองมากกว่า) สิ่งที่พวกเขาค้นพบคือ

<ol>
 	<li class="p3">คนรวยมีความหลงตัวเองมากกว่าคนทั่วไป</li>
 	<li class="p3">คนรวยแสดงค่า LOC ที่สูงกว่าคนทั่วไป กล่าวคือ พวกเขามักจะเห็นด้วยกับแนวคิด เช่น ‘ฉันเป็นผู้กำหนดผลลัพธ์ของชีวิตด้วยตัวเอง’ มากกว่าแนวคิดอย่าง ‘ความสำเร็จในชีวิตเกิดจากโชคชะตาเป็นหลัก’</li>
</ol>
&nbsp;
<h2 class="p3">แรงขับเบื้องหลัง “คนรวย”</h2>
<figure><img class="wp-image-7664" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/ball-407081_1920.jpg" alt="คนรวย แตกต่าง" width="798" height="406" /><figcaption> Image by <a href="https://pixabay.com/users/SplitShire-364019/?utm_source=link-attribution&amp;utm_medium=referral&amp;utm_campaign=image&amp;utm_content=407081">SplitShire</a> from <a href="https://pixabay.com/?utm_source=link-attribution&amp;utm_medium=referral&amp;utm_campaign=image&amp;utm_content=407081">Pixabay</a></figcaption></figure>
นอกจากจะตอบสัมภาษณ์เกี่ยวกับบุคลิกภาพ Big Five อย่างเข้มข้นเป็นเวลาคนละ 1-2 ชั่วโมงแล้ว พวกเขายังต้องตอบคำถามเรื่องบุคลิกภาพเชิงลึกอีก 50 คำถามด้วย
กุญแจสำคัญที่ทีมวิจัยค้นพบคือ มหาเศรษฐีเหล่านี้มักจะมีขบถต่อธรรมเนียมปฏิบัติ พวกเขาเพลินใจกับการว่ายทวนกระแสสังคมและไม่มีปัญหาหากต้องต่อต้านแนวคิดปกติทั่วไป

<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/news/global/%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3-%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA.html">มหาเศรษฐีอ่านอะไร? หนังสือ 5 เล่มที่ทรงอิทธิพลต่อความคิด 5 บุคคลมั่งคั่งของโลก</a></li>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/news/hr/%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%B3-%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%81%E0%B8%A3.html">เปิดบุคลิกผู้นำ 4 แบบแห่ง "ยุคอุตสาหกรรม 4.0." ...คุณคือผู้นำธุรกิจแบบไหน?</a></li>
</ul>
กลุ่มคนรวยเหล่านี้ยังมีแนวโน้มที่จะตัดสินใจจาก ‘gut feeling’ คือมักจะใช้สัญชาตญาณมากกว่าดูบทวิเคราะห์อย่างละเอียด
นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ พวกเขามีวิธีการรับมือกับความพ่ายแพ้และล้มเหลวที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากคนส่วนใหญ่
ประชากรส่วนใหญ่นั้นมักจะต้องการ ‘เครดิต’ ในความสำเร็จ ขณะที่พยายามโยนความผิดให้กับผู้อื่นเมื่อเกิดความผิดพลาดหรือพ่ายแพ้ ในทางตรงข้าม เหล่าคนรวยมักจะมองหาเหตุแห่งความผิดพลาดในตัวพวกเขาเอง ไม่ใช่ในสภาพแวดล้อมหรือคนอื่น
ความสำคัญของวิธีคิดนี้คือ มันทำให้พวกเขารู้สึกถึงอำนาจ “ถ้าความผิดนั้นเป็นเพราะตัวฉัน ฉันจะสามารถเปลี่ยนมันได้ ฉันสามารถควบคุมชีวิตของตนเองได้”
มีเหตุผลมากมายที่ทำให้คนบางกลุ่มประสบความสำเร็จในการสร้างความมั่งคั่งในขณะที่คนอื่นทำไม่ได้ การผสมผสานของบุคลิกภาพรูปแบบเฉพาะซึ่งงานวิจัยได้ค้นพบคือหนึ่งในเหตุผลเหล่านั้น คนรวยรวยได้เพราะพวกเขามีวิธีปฏิบัติที่ต่างจากคนทั่วไป และพวกเขาปฏิบัติแตกต่างก็เพราะพวกเขาคิด ตัดสินใจ และตอบโต้กับสิ่งต่างๆ แตกต่างออกไปเช่นกัน

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events