<h2>ปทุมพร ตรีวิศวเวทย์ บุตรสาวคนสุดท้องของ วรเทพ วงศาสุทธิกุล ผู้คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมยางพาราของไทย กับบทบาทซีอีโอของ “บริษัท เลเท็กซ์ ซิสเทมส์ จำกัด (มหาชน)” ธุรกิจครอบครัวที่วันนี้กำลังถูกเดิมพันครั้งสำคัญทั้งการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และการดันบริษัทขึ้นสู่ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องนอนยางพาราธรรมชาติ 100% เบอร์ 1 ของไทย</h2>
“เราไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับยางพารารวมถึงกระบวนการต่างๆ ในโรงงานมาก่อนเลย เป็นลูกคนเดียวที่พอเรียนจบแล้วไม่ได้ยุ่งเกี่ยวธุรกิจครอบครัวตั้งแต่แรก เราเป็นสาวออฟฟิศในเมือง เลยนึกภาพไม่ออกว่าการต้องเข้ามาดูหน้างาน ควบคุมการผลิตภายในโรงงานกับผลิตภัณฑ์ที่มาจากยางพาราคืออะไร สุดท้ายมันอาจเป็น destiny ก็ได้ ทำให้เราก้าวมาสานต่อธุรกิจครอบครัว ซึ่งพ่อมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเข้ามารับหน้าที่นี้”

ปทุมพรเอ่ยกับ <em>Forbes Thailand </em>เป็นประโยคแรก บนอาณาจักรผลิตเครื่องนอนยางพาราธรรมชาติ 100% ขนาดใหญ่กินเนื้อที่หลายสิบไร่ ใน ต.หอมศีล อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมเล่าว่าครอบครัว “วงศาสุทธิกุล” (นามสกุลเดิมของเธอ) เชี่ยวชาญเรื่องน้ำยางพารามาตั้งแต่ยุคพ่อ คือ <strong>วรเทพ วงศาสุทธิกุล</strong> ที่ปัจจุบันเป็นนายกกิตติมศักดิ์สมาคมน้ำยางข้นไทย และอุปนายกสมาคมยางพาราไทย รวมถึงเป็นประธานกรรมการ <strong>บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)</strong> หรือ TRUBB บริษัทแม่ของเลเท็กซ์ฯ

<figure><img class="wp-image-7497 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/ปทุมพร-ตรีวิศวเวทย์-เลเท็กซ์-ซิสเทมส์.jpg" alt="ปทุมพร ตรีวิศวเวทย์" width="800" height="474" /><figcaption> ปทุมพร ตรีวิศวเวทย์</figcaption></figure>

“ปัจจุบันพี่ชายคนโต (ภัทรพล วงศาสุทธิกุล) รับหน้าที่ดูแล TRUBB ร่วมกับคุณพ่อ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ขณะที่เลเท็กซ์ฯ เอง ต้องหาคนที่ไว้ใจได้เพื่อเข้ามาทำให้ธุรกิจเดินต่อไป...”

&nbsp;
<h2>จุดเริ่มต้นของ “เลเท็กซ์ฯ”</h2>
ย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นของธุรกิจเครื่องนอนภายใต้ <strong>บริษัท เลเท็กซ์ ซิสเทมส์ จำกัด (มหาชน)</strong> หรือ LS จดทะเบียนก่อตั้งบริษัทฯ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2546 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 4 ล้านบาท โดยนักธุรกิจชาวฝรั่งเศสลงทุนในสัดส่วน 49% และนักลงทุนชาวไทย 51% เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายที่นอนที่ผลิตจากน้ำยางพาราธรรมชาติ มีโรงงานตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ด้วยกำลังการผลิตที่นอนมากกว่า 18,000 ชิ้นต่อปี

ต่อมากิจการของบริษัทฯ ภายใต้การบริหารของกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม (ชาวฝรั่งเศส) ประสบปัญหาทางการเงิน จึงได้ติดต่อให้วรเทพและกลุ่มนักลงทุน ที่มีประสบการณ์ด้านการบริหารธุรกิจและน้ำยางข้น เข้ามาฟื้นฟูกิจการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2550 และสานต่อธุรกิจที่ขณะนั้นมีทิศทางไปได้อีกไกล จึงทำการเพิ่มทุนเพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตสินค้าแห่งใหม่ที่ ต.หอมศีล อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา (ที่ตั้งของบริษัทเลเท็กซ์ฯ ในปัจจุบัน) และขยายโรงงานใน จ.ระยอง อีกหนึ่งแห่ง โดยยุบโรงงานที่ลาดกระบังลง ปัจจุบัน TRUBB ถือหุ้นในบริษัทเลเท็กซ์ฯ ในสัดส่วน 56.17%

&nbsp;
<h2>ปรับทัพรุกตลาดเครื่องนอนเต็มสูบ</h2>
ธุรกิจของเลเท็กซ์ฯ ภายใต้การนำของเธอ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ <strong>1. ธุรกิจผลิตที่นอน หมอน และผลิตภัณฑ์อื่นๆ แบบไม่ติดตราสินค้า หรือ Non-Brand</strong> โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2558-2560) กลุ่มธุรกิจ Non-Brand ถือเป็นธุรกิจหลักของบริษัท มีสัดส่วน 95.76% ของรายได้จากการขายรวม เน้นค้าส่งให้ผู้ประกอบการประกอบที่นอนทั้งในไทยและต่างประเทศ

<strong>2. ธุรกิจผลิตที่นอน หมอน และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ภายใต้แบรนด์ของบริษัท หรือเรียกว่าธุรกิจ Brand</strong> ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2558-2560) มีสัดส่วน 4.24% ของรายได้จากการขายรวม ปัจจุบันมี 4 แบรนด์ ได้แก่ Latex System, Sleepertist, TNF และ Nap&amp;Night โดยกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่ม “เรือธง” สำคัญของปทุมพร ที่เธอมองว่ามีโอกาสทำรายได้อีกมหาศาล

<figure><img class="size-full wp-image-7498" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/ไลน์การผลิต-เลเท็กซ์-ซิสเทมส์.jpg" alt="" width="800" height="510" /><figcaption> ไลน์การผลิตหมอนยางพารา</figcaption></figure>

<span style="color: #ff0000;">“ตัวที่จะเป็นนางเอกของเราคือแบรนด์ Sleepertist เป็นแบรนด์ระดับพรีเมียมที่เราจะทำตลาดเอง และส่งออกไปต่างประเทศด้วย เป็นตัวชูโรงบุกไปยุโรป อเมริกา รวมถึงในเอเชียด้วย เป็นแผนที่มองไว้อีกสัก 2 ปีข้างหน้า...”</span>

ขณะที่ Latex Systems บริษัทเน้นเป็นแบรนด์สำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าภายในประเทศและผู้นำเข้าและส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ ที่อยากได้แบรนด์ของบริษัทไปติดที่ตัวสินค้า ส่วน TNF ถือเป็นแบรนด์สำหรับลูกค้าระดับกลาง ปิดท้าย Nap &amp; Night เป็นสินค้าราคาประหยัด

<img class="alignnone size-full wp-image-7499" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/แบรนด์-เลเท็กซ์-ซิสเทมส์.jpg" alt="" width="800" height="628" />

&nbsp;
<h2>ส่องแผนใหญ่ขยายลงทุน</h2>
แผนใหญ่ที่ถือเป็น “Think Big” ของบริษัทเลเท็กซ์ฯ ภายใต้การนำของปทุมพรคือ <strong>การดันบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ</strong> โดยจะระดมทุนช่วงไตรมาส 2 ของปี 2562 นับเป็นเดิมพันครั้งสำคัญ เพื่อเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตผ่านการลงทุนเพิ่มในโครงการ ได้แก่ โครงการลงทุนซื้อโรงงานผลิตหมอนยางพาราใน จ.ระยอง มูลค่าลงทุน 243 ล้านบาท และได้ตกลงซื้อที่ดินเพิ่มเติมอีกจำนวนประมาณ 13 ไร่ ใช้เงินลงทุนรวม 109 ล้านบาท

<img class="alignnone size-full wp-image-7500" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/ผลประกอบการ-เลเท็กซ์-ซิสเทมส์.jpg" alt="" width="800" height="564" />

นอกจากนี้ บริษัทยังต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มเพื่อปรับปรุงสายการผลิตหมอน สายการผลิตที่ 1 และลงทุนติตตั้งสายการผลิตที่ 2 อีกประมาณ 133 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตหมอนยางพารา

รวมถึงยังมีแผนลงทุนอาคารโชว์รูม “flagship” สำหรับแสดงสินค้าของบริษัทในกรุงเทพฯ และจังหวัดท่องเที่ยวที่คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 50 ล้านบาท

&nbsp;
<h2>ชูคุณภาพ “น้ำยางพารา”</h2>
สิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นจุดแข็งของบริษัทเลเท็กซ์ฯ คือ คุณภาพของน้ำยางพาราที่เป็นธรรมชาติ 100% ไม่ผสม เป็นสิ่งที่สร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทมาอย่างยาวนาน

<span style="color: #ff0000;">“เราไม่เคยลดสเปกน้ำยางพาราจากซัพพลายเออร์ลง สเปกที่เราขอต้องได้</span> แน่นอนว่าซัพพลายเออร์ของเราซึ่งส่วนใหญ่อยู่ทางภาคใต้ โดยเฉพาะใน จ.สุราษฏร์ธานี ก็มีความพร้อมมาก ทำให้เราไม่มีปัญหาเรื่องคุณภาพของน้ำยางพารา <span style="color: #ff0000;">จุดแข็งมากๆ ของเราคือ ยางพาราคุณภาพดี กลิ่นธรรมชาติมากที่สุด ไม่เหม็น</span> เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ลูกค้าให้ความเชื่อมั่นเรามาก”
<ul>
 	<li><a href="http://forbesthailand.com/news/property/kun-%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1.html">KUN 'เฟอร์นิเจอร์อะลูมิเนียม' แบรนด์ไทย หันบุกผู้บริโภครายย่อย หวังยอดขายโต 20%</a></li>
 	<li><a href="http://forbesthailand.com/people/asean-biz/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B2-%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%A5-%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5.html">สุวรรณา เอี่ยมพิกุล 'เซียงเพียว' ส่งสรรพคุณไกลในอาเซียน</a></li>
</ul>
เมื่อลงลึกถึงกลยุทธ์บุกตลาดในแบบของเลเท็กซ์ฯ เธอย้ำว่า นอกจากคุณภาพที่ต้องเป็นน้ำยางพาราที่ดีที่สุด สเปกดีที่สุด ซึ่งเป็น key success สำคัญ เธอยังโฟกัสในเรื่องการขยับขยายช่องทางการจำาหน่ายให้กว้างขึ้น และหลากหลายขึ้นกว่าเดิม โดยเลเท็กซ์ฯ ใช้วิธีนำสินค้าเข้าร่วมกับโครงการ เช่น บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม โรงแรม และโรงพยาบาลให้ถี่ขึ้น  การเพิ่มจำนวนโชว์รูมและตัวแทนจำหน่าย รวมทั้งการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์

<img class="alignnone size-full wp-image-7501" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/กราฟิกสัดส่วนสินค้า-เลเท็กซ์-ซิสเทมส์.jpg" alt="" width="800" height="704" />

นอกจากนี้ ยังโฟกัสไปที่การบริหารต้นทุนของสินค้า เนื่องด้วยวัตถุดิบหลักในการผลิตคือน้ำยางข้นซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 70% ของต้นทุนวัตถุดิบรวมทั้งหมด เลเท็กซ์ฯ มีนโยบายการจัดเก็บน้ำยางข้นในเวลาไม่เกิน 30 วันเพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำยางข้น และมีการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (forward contract) เพื่อบริหารต้นทุนและเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น

ปัจจุบันตลาดที่นอนยางพาราทั่วโลก เลเท็กซ์ฯ ให้ข้อมูลว่ามีไม่ถึง 10% ในไทย การยอมรับที่นอนยางพาราเริ่มเป็นที่นิยมแต่ตลาดยังไม่กว้างมากเพราะยังติดในเรื่องราคาที่สูงกว่าที่นอนปกติหลักหมื่นบาท

“มูลค่าตลาดที่นอนยางพาราปัจจุบันน่าจะอยู่ที่ประมาณ 5-10% ของตลาดที่นอนทั้งหมดที่มีทั้งที่นอนสปริง ที่นอนฟองน้ำส่วนที่นอนยางพาราเติบโตขึ้นทุกปี โดยเฉพาะในกลุ่มคนจีน ยิ่งนักท่องเที่ยวจีนเข้ามามาก ปริมาณการซื้อขายก็เพิ่มมากขึ้น”

<img class="alignnone size-full wp-image-7502" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/ปทุมพร-ตรีวิศวเวทย์-เลเท็กซ์-ซิสเทมส์-Forbes-Facts.jpg" alt="" width="450" height="800" />

&nbsp;

ภาพ: จันทร์กลาง กันทอง

<hr />

<a href="https://bit.ly/2GB6P6G">คลิกเพื่ออ่านฉบับเต็ม "ปทุมพร ตรีวิศเวทย์ เนรมิต "ยางพารา" สู่งาน "เครื่องนอน" ระดับเวิลด์คลาส" ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับ เมษายน 2562 ในรูปแบบ e-Magazine</a>
<a href="https://bit.ly/2GB6P6G"><img class="alignnone size-full wp-image-7213" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/COVER-71-350.jpg" alt="" width="350" height="460" /></a>

ปทุมพร ตรีวิศวเวทย์ เนรมิต “ยางพารา” สู่งาน “เครื่องนอน” ระดับเวิลด์คลาส

<strong>ทนง ลี้อิสสระนุกูล</strong> กรรมการผู้จัดการ กลุ่มสิทธิผล วัย 59 ปี นำทัพธุรกิจร้อยปีผนึกกำลังพี่น้องสร้างการเติบโตในแต่ละสายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจแสงสว่างอิเล็กทรอนิกส์และพลาสติก กลุ่มธุรกิจยางรถ กลุ่มธุรกิจกิจโซ่และเหล็กแปรรูป และกลุ่มธุรกิจพลังงาน โดย <strong>พิมพ์ใจ ลี้อิสสระนุกูล</strong> ดูแลกลุ่มบริษัทไออาร์ซีที <strong>อภิชาต ลี้อิสสระนุกูล</strong> บริหารกลุ่มบริษัทไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (Stanly) และ <strong>พรทิพย์ เศรษฐีวรรณ</strong> รับผิดชอบ บริษัท แปซิฟิค อินดัสตรีย์ส จำกัด ควบตำแหน่งงานด้านบัญชีการเงินของกลุ่มสิทธิผล

<strong>ปทุมพร ตรีวิศวเวทย์</strong> หลานสะใภ้แห่งตะกูล ช.การช่าง บุตรสาวคนสุดท้องของ <strong>“วรเทพ วงศาสุทธิกุล”</strong> ผู้คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมยางพาราของไทย ปัจจุบันเธอนั่งเป็น ซีอีโอ บริษัท บริษัท เลเท็กซ์ ซิสเทมส์ จำกัด ผู้ผลิตเครื่องนอนจากยางพารา 100% ที่มีกำลังการผลิตที่นอนและหมอนด้วยกำลังการผลิตรวมกันมากกว่า 2 ล้านชิ้นต่อปี ขายทั้งในประเทศและส่งออก ตั้งเป้าเบอร์ 1 ของไทยด้วยรายได้เติบโต 15% ต่อปีในอีก3 ปีข้างหน้า

<strong>บุญยง ตันสกุล</strong> ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) วัย 53 ปี ปรับประสบการณ์บริหารที่ได้รับจากซิงเกอร์กว่าสิบปีขยายสาขาในประเทศและประเทศในกลุ่มอาเซียน พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมายรายได้หมื่นล้านบาทในปี 2566 จากรายได้รวม 2.23 พันล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561

<strong>พญ.สมพร หาญพาณิชย์</strong> รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทัล ผู้อยู่เบื้องหลังและอยู่เคียงข้างความสำเร็จของ <strong>นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์</strong> (ติดอันดับ 39 มหาเศรษฐีฟอร์บสประจำปี 2561)ตลอดเวลากว่า 3 ทศวรรษ นับจากจุดเริ่มต้นที่โรงพยาบาล <strong>"ตึกแถว"</strong> ขนาดเล็กแถบชานเมือง จนสร้าง เครือ  BCH ในวันนี้ที่มี 12 โรงพยาบาล 4 แบรนด์ดัง อาทิ เกษมราษฏร์, เวิล์ด เมดิคัล ฮอสปิทัล ปัจจุบัน พญ.สมพร เป็นประธานฝ่ายจัดซื้อและดูแลงาน “หลังบ้าน” ภายในเครือ BCH

<strong>ภญ.อาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์</strong> เภสัชกรหญิงคนแรกที่ขึ้นเป็น <strong>"ซีอีโอ"</strong> เป็นลูกหม้อคนสำคัญของ รพ.บำรุงราษฎร์ โรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ ที่กลุ่มเป้าหมายกว่า 50% เป็นชาวต่างชาติที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมารักษา โดยมีวิสัยทัศน์สำคัญผลักดัน บำรุงราษฏร์เป็น World-class holistic healthcare ที่สร้างความแตกต่างด้วยนวัตกรรมให้ได้ภายในปี 2565

<strong>พบการจัดอันดับอภิมหาเศรษฐีฮ่องกง “</strong><strong>Hong Kong’s 50 Richest List”</strong> ที่มรสุมจาก”ไอโฟน” และภาวะเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ ส่งผลให้มหาเศรษฐีในทำเนียบจากการจัดอันดับโดยฟอร์บสในปีนี้ได้รับผลกระทบด้วยมูลค่าสินทรัพย์สุทธิลดลงจำนวนมากและร่วมอ่านบทความและเรื่องราวธุรกิจอันหลากหลายเพื่อสร้าง “แรงบันดาลใจของผู้ใฝ่ความสำเร็จ” จาก Forbes Thailand ฉบับ เมษายน 2562

<hr />

<img class="alignnone size-full wp-image-6363" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/04/FB071_E-BOOK-RES-150-14.jpg" alt="" width="638" height="737" />

<img class="alignnone size-full wp-image-6364" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/04/FB071_E-BOOK-RES-150-16.jpg" alt="" width="638" height="737" />

<img class="alignnone size-full wp-image-6365" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/04/FB071_E-BOOK-RES-150-18.jpg" alt="" width="638" height="757" />

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events