<h2>Verso เผยจับมือ IDEO บริษัทด้านนวัตกรรมการออกเแบบระดับโลก ตอบโจทย์การศึกษาที่ถือเป็นการลงทุนที่สำคัญในมิติการแข่งขันของโลกสมัยใหม่ ซึ่งการศึกษามีความสำคัญไม่แพ้ต้นทุนใดๆ เพราะเปรียบได้กับการวางรากฐานให้ก้าวแรกมีความแข็งแกร่งมั่นคง บนเส้นทางชีวิตที่ทอดยาวถึงอนาคต</h2>
เมื่อการเฟ้นหาโรงเรียนและหลักสูตรการศึกษาที่ดีที่สุดแก่บุตรหลานสามารถตีความได้ในมุมของการพิจารณาเลือกลงทุน โดยมีอนาคตเป็นเดิมพัน การศึกษาและรวบรวมข้อมูลสถาบันการศึกษาที่มีลักษณะเฉพาะแตกต่างกันจึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ (Verso) เป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาที่ได้รับความสนใจในฐานะโรงเรียนนานาชาติขนาดใหญ่ที่มุ่งเน้นนวัตกรรม

<span style="color: #993300;">“เวอร์โซ คือนวัตกรรมด้านการเรียนรู้ตอบโจทย์โลกสมัยใหม่ ที่เต็มไปด้วยการดิสรัปชัน หรือการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี”</span> <strong>ปิยพร พรรณเชษฐ์</strong> ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริหาร บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) ในเครือบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)

โดยยู ซิตี้ฯ นั้นร่วมเป็นพันธมิตรกับ<strong> บริษัท ฟอร์จูน แฮนด์ เวนเจอร์ ลิมิเต็ดจาก Hong Kong</strong> ในการก่อตั้งโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ กล่าวถึงความมุ่งมั่นในการลงทุนสร้างโรงเรียนแห่งใหม่ให้เป็นนวัตกรรมด้านการศึกษาแห่งอนาคต เด็กเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ ขณะเดียวกัน ก็ยกระดับการพัฒนาศักยภาพสูงสุดไปอีกขั้น

<img class="alignnone wp-image-32008 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/ปิยพร-พรรณเชษฐ์_CEO_U-City-NEW-.jpg" alt="verso" width="600" height="468" />

สำหรับความแตกต่างของเวอร์โซ อยู่ที่การเป็นโรงเรียนนานาชาติแห่งแรกของโลกที่ร่วมมือกับไอดีโอ (IDEO) บริษัทด้านนวัตกรรมและการออกแบบระดับโลกจาก San Francisco สหรัฐอเมริกา ในการคิดค้นคอนเซปต์และการออกแบบทางกายภาพโรงเรียนนานาชาติใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ

Verso ยกระดับการพัฒนาศักยภาพการศึกษาถือเป็นการลงทุนที่สำคัญในมิติการแข่งขันของโลกสมัยใหม่ทำให้การศึกษามีความสำคัญไม่แพ้ต้นทุนใดๆ เพราะเปรียบได้กับการวางรากฐานให้ก้าวแรกมีความแข็งแกร่งมั่นคง บนเส้นทางชีวิตที่ทอดยาวถึงอนาคตของโรงเรียนใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ต้น โดยผสมผสานงานสถาปัตยกรรมล้ำสมัยเข้ากับองค์ประกอบต่างๆ เพื่อสร้างวิสัยทัศน์การเรียนรู้ที่ดีที่สุด

<span style="color: #993300;">“ด้านสถาปัตยกรรมล้ำสมัยของเวอร์โซเป็นผลจากการศึกษาวิจัยการออกแบบสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่เสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางพฤติกรรม เป็นพื้นที่การเรียนรู้ที่เน้นความคล่องตัว ยืดหยุ่น และสร้างประโยชน์สูงสุด”</span>

อาคารทรงกลมเป็นสัญลักษณ์ของเวอร์โซให้ความรู้สึกของการเรียนรู้ที่เป็นอิสระแตกต่างจากรูปแบบของอาคารเรียนทั่วไปที่นี่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สระว่ายน้ำในร่มมาตรฐานโอลิมปิกที่ควบคุมอุณหภูมิได้แห่งแรกและแห่งเดียว สตูดิโอผลิตงานมัลติมีเดีย สนามกีฬาขนาด 1,000 ที่นั่ง และยิมเนเซียมขนาดใหญ่ เป็นต้น

เวอร์โซจะเปิดภาคการศึกษาแรกในเดือนสิงหาคมนี้ โดยในปัจจุบัน ได้เปิดรับสมัครนักเรียนชั้นเตรียมอนุบาล 2 (Early Years 2) ถึงเกรด 8 และจะเปิดรับสมัครนักเรียนในชั้นเกรด 9-12 ในปีต่อไป ล่าสุดมีความคืบหน้าด้านการก่อสร้าง และความพร้อมของหลักสูตรแล้วกว่า 90%

<img class="alignnone wp-image-32005 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/Rainforest.jpg" alt="verso" width="600" height="400" />

ปิยพร กล่าวว่า เวอร์โซมีมูลค่าการลงทุนกว่า 5 พันล้านบาท ภายใต้ยุทธศาสตร์หลักในการเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ให้แก่โครงการหลักธนาซิตี้ รวมทั้งพัฒนาความยั่งยืนในอนาคต โดยโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซนั้นมีพื้นที่รวม 168 ไร่ หรือ 66 เอเคอร์ ตั้งอยู่รอบบริเวณโครงการธนาซิตี้ นับเป็นโรงเรียนนานาชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ

จุดเด่นอีกประการหนึ่งคือ การพัฒนาพื้นที่สีเขียวเต็มรูปแบบ โดยจะเป็นโรงเรียนนานาชาติที่มีพื้นที่สีเขียวมากกว่า 60% ของพื้นที่ทั้งหมด ส่งผลดีต่อนักเรียนในโรงเรียนที่จะได้รับทั้งประโยชน์ความผ่อนคลาย ความใกล้ชิดธรรมชาติ การส่งเสริมสติปัญญาและแรงบันดาลใจทางศิลปะ

<img class="alignnone wp-image-32009 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/มร.-คาเมรอน-ฟ็อกซ์-หัวหน้าผู้บริหารโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ.jpg" alt="verso" width="600" height="388" />

<strong>Cameron Fox</strong> หัวหน้าผู้บริหารโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ อดีตครูใหญ่ American International School Hong Kong หนึ่งในโรงเรียนนานาชาติที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดแห่งหนึ่งของ Hong Kong เล่าว่า การบูรณาการหลักสูตรของเวอร์โซใช้มาตรฐานการศึกษาอเมริกัน เน้นการเตรียมความพร้อมของผู้เรียนต่อการรับมือโลกอนาคต (Future-ready Curriculum) การเรียนการสอนเป็นสหวิทยาการ (Interdisciplinary) เน้นการทำโครงงาน (Project-based) เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนได้ค้นหาสิ่งที่ตนเองสนใจและถนัด แสดงความสามารถและบ่มเพาะทักษะที่ตอบโจทย์ (Personalized)

<span style="color: #993300;">“เวอร์โซเน้นความทันสมัย เราออกแบบการเรียนรู้ โดย 12 บุคลากรชั้นนำในแวดวงการศึกษาจากทั่วโลก เพื่อเตรียมความพร้อมให้นักเรียนของเราสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต ที่นับวันจะรวดเร็วและมิอาจคาดเดา”</span> Cameron กล่าว

ทั้งนี้ เวอร์โซยังได้รับการรับรองจากสมาคมโรงเรียนและวิทยาลัยตะวันตก (WASC) ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้การรับรองโรงเรียนที่มีมาตรฐานสากลสำหรับสถานที่ตั้ง เวอร์โซตั้งอยู่บริเวณถนนบางนา-ตราด ใกล้กับโครงการธนาซิตี้ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิ 4 กิโลเมตร ซึ่งในอนาคตจะมีระบบขนส่งมวลชนรางเบาสายสีน้ำตาลตัดผ่าน

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/other/bluebik-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94-4-%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%AB.html">‘Bluebik’ เปิด 4 ทริคสร้างโอกาสหลังโควิด-19</a>

<hr />

<a href="https://bit.ly/3dp757n">คลิกอ่านบทความทางด้านธุรกิจการลงทุนได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับพิเศษ "Wealth Management &amp; Investing 2020" ในรูปแบบ e-magazine</a>

<a href="https://bit.ly/2NMoJqO"><img class="alignnone wp-image-31881 size-medium" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/Wealth-Management-Investing-2020-01-229x300.jpg" alt="ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย " width="229" height="300" /></a>

Verso ยกระดับโรงเรียนนานาชาติ จับมือบริษัทนวัตกรรม

ณ ห้วงเวลาที่ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เข้าซื้อหุ้นในบริษัท เนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) เมื่อปี 2558 บริษัทมีผลขาดทุน 277 ล้านบาท หลังจากเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นบมจ.ยู ซิตี้ โจทย์สำาคัญคือการเปลี่ยนสถานะขาดทุนสู่กำไร ซึ่งนักบริหารหญิงผู้นี้คือซีอีโอผู้พลิกฟื้นสถานการณ์ได้ภายใน 3 ปี

https://youtu.be/if84_AmP-Ss

&nbsp;

<hr />

รับชมบทสัมภาษณ์ของบุคคลที่น่าสนใจ กดติดตามแชลเนลวิดีโอของเราบนยูทูบได้ที่ <a href="https://www.youtube.com/user/ForbesThai">Forbes Thailand Magazine</a>

ปิยพร พรรณเชษฐ์ พลิกฟื้น “เอ็นพาร์ค” ทำกำไรให้ “ยู ซิตี้”

<h2>ณ ห้วงเวลาที่ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เข้าซื้อหุ้นในบริษัท เนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) เมื่อปี 2558 บริษัทมีผลขาดทุน 277 ล้านบาท หลังจากเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นบมจ.ยู ซิตี้ โจทย์สำคัญคือการเปลี่ยนสถานะขาดทุนสู่กำไร ซึ่งนักบริหารหญิงผู้นี้คือซีอีโอผู้พลิกฟื้นสถานการณ์ได้ภายใน 3 ปี</h2>
การก้าวสู่ตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดภายใต้โจทย์ยาก ที่ต้องพลิกฟื้นบริษัทที่ประสบภาวะขาดทุนมาอย่างยาวนานให้กลับมามีกำไรได้ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ <strong>ปิยพร พรรณเชษฐ์</strong> ประธานเจ้าหน้าที่บริหารวัย 52 ปีของบมจ.ยู ซิตี้ สามารถทำได้โดยใช้เวลาไม่นานเกินไปหลังจาก บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เข้าซื้อหุ้นในบริษัท เนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือเอ็นพาร์ค เมื่อปี 2558 ก่อนหน้าที่ปิยพรจะเข้ามานั่งบริหาร 2 ปี หลังจากเธอเข้ามาเป็นซีอีโอที่ยู ซิตี้แล้วก้าวย่างแห่งการพลิกฟื้นสถานการณ์ดำเนินไปอย่างน่าสนใจ

ปิยพรนัดพบทีม Forbes Thailand ที่โรงแรม ยู สาทร ในซอยงามดูพลี โรงแรม สไตล์รีสอร์ตกลางเมืองของบริษัท เธอกล่าวทักทายพร้อมแนะนำว่าโรงแรมนี้เป็นที่ชื่นชอบของแขกชาวเกาหลีและฮ่องกง โดยเฉพาะ ร้านอาหาร J’aime by Jean-Michel Lorain ซึ่งได้ดาวมิชลิน ทำให้มีลูกค้าเนืองแน่นแม้เป็นกลางวันวันธรรมดา

ปัจจุบันพอร์ตหลัก 70% ของยู ซิตี้มาจากโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เดิมอย่าง “ยู” และ “อีสติน” และแบรนด์ใหม่ที่ได้มาจากการซื้อกิจการอย่างเครือ Vienna House และ arcona ในแถบยุโรปตะวันออก ส่วนที่เหลืออีก 30% เป็นกลุ่มออฟฟิศบิลดิ้ง ที่อยู่อาศัยและโรงเรียนนานาชาติ การจัดพอร์ตเหล่านี้มีความชัดเจนขึ้นหลังจากปิยพรเข้ามารับตำแหน่งในเดือนมกราคม 2560 ร่วมกับทิศทางของเครือบีทีเอสเองที่โยกย้ายพอร์ตอสังหาฯ ในเครือมาอยู่ในบมจ.ยู ซิตี้แทนเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์

<span style="color: #993300;">“ภารกิจที่ทางบอร์ดให้ direction มาโดยหลักการคือ พอร์ตนี้ต้องการให้ถือ long term และเน้นการใช้ synergy ร่วมกับพันธมิตรต่างๆ”</span> ปิยพรเล่าถึงโจทย์ที่เธอได้รับ ซึ่งเป็นที่มาของการลงทุน 6.4 พันล้านบาท เพื่อซื้อกิจการ Vienna House และ Warimpex เมื่อปี 2560 ตามด้วยการลงทุนอีก 890 ล้านบาทเพื่อซื้อกิจการโรงแรมเครือ arcona ในปี 2562 ทำให้รวมแล้วยู ซิตี้มีโรงแรมในมือผ่านเครือเหล่านี้ 43 แห่ง (ยังอยู่ระหว่างก่อสร้าง 2 แห่ง)

<span style="color: #993300;">“ตอนนี้โลกเปลี่ยนเร็วมาก เราไม่จำเป็นต้องเริ่มตั้งแต่ step one ด้วยตัวเอง”</span> ซีอีโอหญิงกล่าว แนวทางนี้ดูจะเป็นแนวทางของ บีทีเอสมาตั้งแต่แรก เมื่อบีทีเอสจับมือเซ็นสัญญาร่วมทุนก่อสร้างคอนโดมิเนียมร่วมกับบมจ.แสนสิริ 25 โครงการ มูลค่ารวม 1 แสนล้านบาทเมื่อปี 2558 และสัญญาก็ถูกโอนย้ายมาให้ยู ซิตี้ดูแลและรับผลกำไรในปี 2561

ด้วยการจัดพอร์ตภายในเครือและการตัดสินใจซื้อกิจการเพิ่ม ทำให้บมจ.ยู ซิตี้มีมูลค่าสินทรัพย์รวม 5.4 หมื่นล้านบาท ทำกำไรสุทธิ 154.85 ล้านบาท ณ ไตรมาส 2/62 นับเป็นครั้งแรกที่บริษัทเริ่มเห็นผลกำไร และหากไม่มีอะไรผิดพลาด ปี 2562 นี้ บมจ.ยู ซิตี้น่าจะประกาศกำไรได้อย่างเป็นทางการหลังจากโอนย้ายสินทรัพย์และอัดงบลงทุนให้บริษัทมั่นคงขึ้น

<figure><img class="wp-image-25987 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/โรงเรียนเวอร์โซ.jpg" alt="" width="600" height="450" /><figcaption> โครงการโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ มูลค่าลงทุน 5 พันล้านบาท</figcaption></figure>

ก้าวต่อไปของยู ซิตี้นั้นปิยพรกล่าวว่า จากลักษณะบริษัทที่เน้นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทเช่าเพื่อรับรายได้ระยะยาว ทำให้ต้องใช้เงินลงทุนมาก

นอกจากเร่งลงทุนด้วยวิธีเข้าซื้อกิจการแล้ว ยู ซิตี้ยังมีการพัฒนาเองเป็นบางโครงการในไทย เพื่อเสริมทัพและถ่วงสมดุลพอร์ต โดยโครงการที่จะพัฒนาเองจะเน้นเฉพาะที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ระยะยาวและเกิดขึ้นบนที่ดินในเครือบีทีเอส

ซึ่งขณะนี้มีโครงการที่พัฒนาแล้ว คือ <strong>โรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ</strong> มูลค่าลงทุน 5 พันล้านบาท เปิดรับสมัครนักเรียนปีนี้เป็นปีแรก ออฟฟิศบิลดิ้งและโรงแรม <strong>เดอะ ยูนิคอร์น พญาไท</strong> มูลค่าลงทุน 9.5 พันล้านบาท สร้างเสร็จปี 2564 และโครงการโรงแรมบนศุลกสถาน <strong>(โรงภาษีร้อยชักสาม)</strong> มูลค่าลงทุน 3 พันล้านบาท จะสร้างเสร็จปี 2568

ส่วนโครงการอื่นๆ ยังอยู่ระหว่างพิจารณาซึ่งบริษัทมีแลนด์แบงก์สำาคัญ เช่น ที่ดินราษฎร์บูรณะ 27 ไร่ ที่ดินคูคต 57 ไร่ และที่ดินย่านสุขสวัสดิ์ประมาณ 40-50 ไร่
<h2>เชื่อมต่อเอเชีย-ยุโรป</h2>
แม่ทัพหญิงของยู ซิตี้กล่าวย้อนถึงการตัดสินใจเลือกเทกโอเวอร์ Vienna House ซึ่งมีพอร์ตโรงแรมในมือส่วนใหญ่แถบยุโรปตะวันออก เช่น เยอรมนี โปแลนด์ ออสเตรีย เช็ก ฯลฯ เกิดจากการวิเคราะห์ตลาดทวีปยุโรปซึ่งเริ่มประสบภาวะเศรษฐกิจซบเซาแต่ยังมีโอกาสเป็นบางจุด จุดลงทุนหลักๆ ที่มักมีการลงทุนโรงแรมคือยุโรปใต้ เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี ซึ่งการแข่งขันสูง ขณะที่เยอรมนีมีสภาพเศรษฐกิจที่แข็งแรง รวมถึง ยุโรปตะวันออก อัตราราคาห้องพักระดับ 3-4 ดาวยังไม่สูงมาก เฉลี่ยอยู่ที่ 4,000 บาทต่อคืน ซึ่งจะดึงดูดทั้งคนยุโรปท้องถิ่นและชนชั้นกลางในเอเชียที่กำลังเพิ่มจำนวนขึ้น

ทั้งนี้ ยู ซิตี้มีการร่วมหุ้นในบริษัท แอ๊บโซลูทโฮเต็ล เซอร์วิส ประเทศไทย จำกัด (AHS) เจ้าของเชนโรงแรมยู, อีสติน, ทราเวลลอดจ์ ซึ่งมีพอร์ตบริหารโรงแรมในเอเชียทั้งไทย อินเดีย เวียดนาม อินโดนีเซีย ตะวันออกกลาง ฯลฯ การเทกโอเวอร์ แจึงเป็นการต่อจิ๊กซอว์ของยู ซิตี้ในทวีปยุโรป ที่จะทำให้บริษัทมีโอกาสมากขึ้นทั้งสองฟากโลกโดยแต่ละแบรนด์ในเครือมีสไตล์ที่แตกต่างกัน

<figure><img class="wp-image-25988 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/โรงแรม-Vienna-House.jpg" alt="" width="600" height="393" /><figcaption> สไตล์การตกแต่งของ Vienna House ที่ตอบโจทย์กลุ่มชนชั้นกลาง</figcaption></figure>
<h2>จากนักบัญชีสู่ผู้บริหารอสังหาฯ</h2>
เส้นทางการทำงานก่อนที่ปิยพรจะรับตำแหน่งที่ยู ซิตี้นั้นเรียกว่าเป็นการต่อยอดประสบการณ์มาอย่างต่อเนื่อง โดยเธอจบปริญญาตรีจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เริ่มทำงานในตำแหน่งผู้ตรวจสอบบัญชีที่ Coopers &amp; Lybrand (PwC ในปัจจุบัน) ก่อนจะเลือกเรียนต่อ MBA ที่ University of New Hampshire และ MSc ด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ MIT

ซึ่งหลังจากเธอกลับจากเรียนต่อที่สหรัฐฯ เธอได้รับตำแหน่งทั้งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ควอลิตี้ เฮาส์ รองประธานฝ่ายที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุน AIG ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีซีซี แลนด์ กรุ๊ป และ กรรมการผู้จัดการ เครือซิกซ์เซ้นส์ รีสอร์ท แอนด์ สปา/โซเนวา

<strong> “ความคิดสร้างสรรค์”</strong> และ <strong>“ธรรมาภิบาล”</strong> ในการบริหารยู ซิตี้ด้วย เพราะองค์กรที่จะต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ จะต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ต้องเปิดพื้นที่ให้พนักงานริเริ่มนวัตกรรมใหม่ แต่ขณะเดียวกัน ต้องอยู่ภายใต้ความเป็นไปได้จริงและมีเหตุผล หากมีความยืดหยุ่นแล้วจะทำให้เกิดวัฒนธรรมองค์กรที่ดี

“พี่เชื่อว่าคนทุกคนจะต้องทำอะไรใหม่ๆ ทุกวัน ทำอย่างไรให้ดีขึ้น ไม่ว่าพี่เอง ไม่ว่าน้องๆ เอง ก็ควรทำอย่างนั้น ถ้าเรา run บริษัทเหมือนเมื่อวาน มันจะดึงดูดคนที่ชอบทำเหมือนเมื่อวานเข้ามาอยู่ด้วยกัน พอเจอดิสรัปชั่นก็คงลำบาก ดังนั้น พี่ชอบให้ลูกน้องถามตัวเองว่า สิ่งที่เราทำมีความหมายอะไรอย่าทำเพราะมันเคยชิน ถามว่าเราจะทำอะไรให้กับบริษัท ทำอะไรให้กับอนาคตของเรา” ปิยพรกล่าวทิ้งท้าย

ภาพประกอบ: API

<hr />

<a href="https://bit.ly/2OSAe1p">คลิกอ่านฉบับเต็ม "ปิยพร พรรณเชษฐ์ พลิกฟื้น “เอ็นพาร์ค” ทำกำไรให้ “ยู ซิตี้”" ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนธันวาคม 2562 ได้ในรูปแบบ e-Magazine</a>
<a href="https://bit.ly/2OSAe1p"><img class="alignnone wp-image-25590" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/cover-December-2019.jpg" alt="" width="300" height="394" /></a>

&nbsp;

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events