<h2>ผู้เขียนเคยลองดื่มไวน์จากถ้วยกาแฟเพราะแก้วไวน์ในงานปาร์ตี้หมดกล่อง ปรากฏว่ากลิ่นของไวน์ไม่อวลขึ้นมาในจมูกอย่างเคยและทำให้รสชาติขมปร่า ในขณะนั้น ผู้เขียนคิดไปว่า รสชาติแปลกๆ อาจจะเป็นเพราะอุปาทานที่เกิดจากการจิบไวน์ด้วยแก้วกาแฟซึ่งดูผิดฝาผิดตัวอย่างมาก</h2>
กระทั่งเมื่อปลายปีที่ผ่านมา แบรนด์แก้วไวน์คริสตัลสัญชาติไทย “ลูคาริส” (Lucaris) จัด Wine Pairing Class หรือห้องเรียนการจับคู่ไวน์กับอาหารขึ้นที่เกาะฮ่องกง โดยเชิญ Sarah Heller ไวน์มาสเตอร์อายุน้อยที่สุดในโลกมาเป็นวิทยากรผู้บรรยาย ห้องเรียนครั้งนี้เสมือนเป็นการทดลองทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่า แก้วไวน์ ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเครื่องมือที่ทำให้รสและกลิ่นของไวน์แตกต่างกันในขั้นตอนสุดท้าย

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/8b37a21db120d457f0401806c23b5c3d.png" alt="" />

ห้องเรียนครั้งนี้จัดเซ็ตอาหารคู่กับไวน์ทั้งหมด 4 เซ็ต ทั้งไวน์ขาว ไวน์แดง และไวน์หวาน โดยเลือกจับคู่กับอาหารเอเชีย ในแต่ละเซ็ต Heller จะใช้แก้วไวน์ของลูคาริสจากต่างคอลเล็กชันกัน 3 แบบ ได้แก่ Desire, Hong Kong Hip และ Shanghai Soul เพื่อแสดงให้เห็นว่ารูปทรงแก้วไวน์ที่แตกต่างกันมีผลต่อรสชาติไวน์มากเพียงใด

&nbsp;
<h3>เซ็ตที่ 1 ไวน์ขาว Cuvee Alexandre Chardonnay Lapostolle 2013 จับคู่กับป่อเปี๊ยะและซอสหวาน</h3>
<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/e8b9e25cfff76a3a69b42bba5a93e7ac.png" alt="" />

เซ็ตแรกเริ่มต้นด้วยไวน์ขาวกับป่อเปี๊ยะ น่ามหัศจรรย์ที่ไวน์ในแต่ละแก้วให้รสชาติที่ต่างกันเสมือนมาจากคนละขวด Heller อธิบายเหตุผลที่ทำให้เกิดความแตกต่างเช่นนี้ว่า แก้ว Rich White Glass (ซ้ายมือสุด) เป็นทรงเตี้ยและกระเปาะแก้วค่อนข้างกว้าง ทำให้ไวน์มีพื้นที่สัมผัสอากาศมากกว่า เกิดเป็นกลิ่นหอมอวลและช่วยดึงรสหวานเด่นจากซอสบ๊วยของป่อเปี๊ยะ ขณะที่แก้วแบบ Chardonnay Glass ซึ่งเป็นทรงตรงสูงมากกว่า ทำให้กลิ่นของไวน์แหลมพุ่งเข้าสู่จมูก ทั้งยังทำให้ป่อเปี๊ยะรสเค็มมากยิ่งขึ้น

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/9ad221ba1f59ea654dd4f909786aff6f.png" alt="" />

Heller ผู้นำห้องเรียนขอเสียงโหวตจากผู้เข้าร่วมทั้งห้องว่าชอบไวน์ในแก้วแบบใดมากที่สุด ซึ่งในกรณีนี้มีคนจำนวนมากที่เลือก Rich White Glass ที่ดึงกลิ่นหอมของไวน์ได้ดี

&nbsp;
<h3>เซ็ตที่ 2 ไวน์แดง Sicilia DOC Nero d’Avola, Sallier de La Tour 2015 จับคู่กับหมูหัน</h3>
<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/1bf23c6869122d9dbd8b8f9ece61e4d6.png" alt="" />

ทันทีที่ Heller ให้ยกมือโหวต ครั้งนี้เสียงแตกต่างกันอย่างน่าประหลาดใจ ผู้เข้าร่วมชั้นเรียนยกมือให้กับดีไซน์แก้วแต่ละแบบจำนวนใกล้เคียงกัน

ในเซ็ตนี้แก้วที่น่าสนใจคือ Burgundy Glass (ใบกลางและใบขวามือ) Burgundy Glass จากคอลเล็กชัน Hong Kong Hip เธอมองว่าทำให้กลิ่นแร่ธาตุออกมาได้อย่างชัดเจน ขณะที่แก้วจากคอลเล็กชัน Shanghai Soul ซึ่งกระเปาะกลมมนกว่าและมีขอบแก้วบานออกทำให้กลิ่นไวน์กลมกล่อมและหมูหันอร่อยยิ่งขึ้น

&nbsp;
<h3>เซ็ตที่ 3 ไวน์แดง Cabernet Sauvignon, Nashwauk 2012 จับคู่กับเนื้อทอดเกลือและพริกไทย</h3>
<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/f38bb6581bbc341d9c172cb6b3ccf5fd.png" alt="" />

เป็นอีกหนึ่งเซ็ตที่ทำให้ไวน์ในแต่ละแก้วต่างกันอย่างชัดเจน Heller พูดถึงแก้ว Robust Red Glass ซ้ายมือสุดก่อนว่าดีไซน์กระเปาะแก้วกว้างแต่ปากแก้วแคบทำให้กลิ่นผลไม้พุ่งสู่จมูก

ขณะที่แก้ว Bordeaux Glass ของคอลเล็กชัน Hong Kong Hip ที่ออกแบบเป็นทรงเหลี่ยมตรงจะดึงกลิ่นแร่ธาตุออกมาแทนกลิ่นผลไม้ ปิดท้ายด้วยแก้วของคอลเล็กชัน Shanghai Soul ที่กระเปาะกลมมนทำให้กลิ่นและรสทั้งหมดรวมตัวและเข้าสู่ประสาทสัมผัสของเราพร้อมๆ กัน โดยเธอมองว่าเป็นแก้วที่ดึงรสชาติไวน์ออสเตรเลียนขวดนี้ได้ดีและชูรสเนื้อทอดให้ดียิ่งขึ้น

&nbsp;
<h3>เซ็ตที่ 4 ไวน์หวาน Recioto di Soave La Broia DOCG, Roccolo Grassi 2013 จับคู่กับไข่หงส์ไส้งาดำ</h3>
<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/e836d4224decc599c6196e95a90afcd5.png" alt="" />

ปิดท้ายที่ของหวานและไวน์หวาน ไวน์มาสเตอร์ของเราอธิบายว่าการเลือกคู่อาหารและไวน์ในหมวดของหวานของเอเชียยิ่งน่าสนใจ เพราะของหวานของเอเชียมักจะไม่มีผลไม้เป็นส่วนประกอบและออกรสเค็ม ซึ่งต่างจากขนมตะวันตก ทำให้การจับคู่กับไวน์ท้าทายมากขึ้น

ไวน์หวานในแก้วแบบ Universal Glass ซึ่งกระเปาะกว้างที่สุดในแก้ว 3 ใบทำให้รสไวน์หวานที่สุดและกลิ่นหอมฟุ้งในจมูก เข้ากันได้ดีกับของหวานอย่างสมดุล ขณะที่แก้ว Chardonnay Glass ทรงตรงสูงทำให้รสเปรี้ยวของกรดตามธรรมชาติในไวน์ออกมาผสมกับความหวานและให้รสฝาดของแทนนินมากขึ้น และแก้วใบสุดท้าย Riesling Glass กระเปาะกลมมนทำให้กลิ่นดอกไม้หอมขึ้น รสชาติเบาขึ้น แต่ Heller มองว่าอาจจะส่งเสริมของหวานชนิดนี้ได้ไม่ดีนัก

<figure><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/87dee43747658bb1592c6c5adcf99ad6.png" alt="" width="680" height="478" /><figcaption> Sarah Heller มาสเตอร์ออฟไวน์ในวัย 29 ปี</figcaption></figure>

ถึงแม้ Heller จะมีตัวเลือกแก้วที่เธอชื่นชอบสำหรับแต่ละเซ็ต แต่เธอบอกเช่นกันว่าตัวเลือกแก้วไวน์หรือรสชาติของไวน์ที่แต่ละคนชื่นชอบนั้น “ไม่มีผิดหรือถูก” เพราะการรับรู้สัมผัสจากไวน์เป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคล ดังนั้น แก้วไวน์จึงมีหลายแบบเพื่อขับเน้นไวน์แต่ละชนิดในรูปแบบต่างๆ กัน และถูกรสนิยมของคนต่างกันไป

“ฉันคิดว่าแก้วไวน์เป็นเหมือนเสื้อผ้าของคน เสื้อผ้าที่ใส่ทำให้เรามีภาพลักษณ์ที่แตกต่างต่อผู้พบเห็น อย่างเช่นถ้าฉันอยากจะดูเป็นทางการฉันอาจจะใส่สูท ไวน์ก็เช่นเดียวกัน แก้วไวน์ทำให้รสและกลิ่นที่ปรากฏแตกต่าง และแก้วไวน์คือขั้นตอนสุดท้ายของการดื่มที่มีคุณภาพ” Heller กล่าวสรุป

แก้วไวน์: ปราการสุดท้ายที่ทำให้ไวน์เปลี่ยนรสชาติ

<h2>Forbes Thailand รายงานจากงานประกาศรางวัล The Hotelier Awards 2017 ณ Studio City Hotel มาเก๊า รางวัลที่มอบให้กับบุคลากรยอดเยี่ยมในภาคการโรงแรมและบริการ แบ่งเป็นกลุ่มโรงแรมจากภูมิภาค Greater China ได้แก่ ประเทศจีน ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน และสำหรับกลุ่มโรงแรมจากภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด รวมถึงเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น</h2>
รางวัล <a href="http://hotelierawards.com/">The Hotelier Awards </a>มีการมอบให้บุคลากรยอดเยี่ยม 14 ประเภทตำแหน่งในปีนี้ ตัวอย่างตำแหน่งที่มีการพิจารณา เช่น ผู้จัดการทั่วไป, เชฟ, กองเซียจ, การเงิน, อาหารและเครื่องดื่ม (F&amp;B) เป็นต้น อ่านรายชื่อผู้ชนะทั้งหมดด้านล่าง

Benoit C. Thebaut ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้อำนวยการ The Hotelier Awards 2017 เปิดเผยว่า รางวัลนี้ก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2014 ด้วยความตั้งใจที่จะยกระดับภาคการโรงแรมและบริการให้เป็นสายอาชีพที่มีคุณค่า โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ แรกเริ่มมีการให้รางวัลเฉพาะกลุ่มประเทศ Greater China ก่อนจะเพิ่มรางวัลเฉพาะกลุ่มประเทศเอเชียขึ้นเมื่อปี 2016

<figure><img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/e77a434145971df93f9506cb6648e527.png" alt="" width="680" height="453" /><figcaption> Benoit C. Thebaut</figcaption></figure>

“จากการทำงานในภาคการโรงแรมและบริการมานานกว่า 15 ปีในประเทศจีน เราพบว่างานบริการเช่นนี้เป็นงานที่ขึ้นอยู่กับบุคลากรเป็นอย่างมาก หากบุคลากรมีความสามารถจะทำให้การบริการทุกอย่างดีเยี่ยม แต่ในเอเชียกลับยังไม่มีรางวัลใดที่มอบให้กับบุคลากรในสายงานโรงแรมและบริการ ดังนั้นเราจึงก่อตั้งงาน The Hotelier Awards ขึ้นเพื่อจะผลักดันอุตสาหกรรมนี้ให้ไปได้ไกลกว่าปัจจุบัน

และในปี 2017 มีประเภทตำแหน่งประเภทใหม่ที่มอบรางวัลเพิ่มเข้ามาคือ กลุ่ม Rising Stars ซึ่งจะมอบให้กับนักศึกษาฝึกงาน เพราะเราต้องการสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่เห็นคุณค่าในสายอาชีพและทราบว่ามีอนาคตอันยาวไกลรออยู่ข้างหน้า” Benoit กล่าว

รางวัล The Hotelier Awards 2017 มีโรงแรมเข้าร่วมส่งผู้สมัครกว่า 900 คนจากแบรนด์โรงแรม 58 แบรนด์ จากนั้นทีมงานจะคัดเลือกใบสมัครเบื้องต้น ก่อนจะส่งต่อให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 6 คนให้คะแนน จนได้ผู้เข้ารอบสุดท้ายในแต่ละประเภท ประเภทละ 5 คน เพื่อทำการสัมภาษณ์ในรอบชิงชนะเลิศ

<img style="width: 680px; height: 452px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/8c86a25ee7fb58137e0e48087d750aab.png" alt="" />

สำหรับโรงแรมในประเทศไทย มีบุคลากรทั้งหมด 5 ท่านที่เข้ารอบสุดท้าย ได้แก่
<ol>
 	<li>Prasert Rungjaeng กงเซียจ จาก วนา เบลล์ เอ ลักชัวรี คอลเลคชั่น เกาะสมุย</li>
 	<li>Supapong Mekprasart หัวหน้าแผนกเครื่องดื่ม จาก แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ</li>
 	<li>Pinit Na Nakorn ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาบุคลากร จาก เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ</li>
 	<li>Sirikarn Anyamaneearmo Floral Designer จาก แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ</li>
 	<li>Suphaporn Khanthong Spa Therapist จาก เดอะ พาวิลเลี่ยน ภูเก็ต</li>
</ol>
Benoit กล่าวต่อว่า ในปี 2018 รางวัลนี้จะมีการจัดงานแยกจากกันระหว่างกลุ่มประเทศ Greater China กับกลุ่มประเทศเอเชีย ซึ่งการประกาศรางวัลสำหรับกลุ่ม Greater China จะจัดขึ้นที่เมือง Shenzhen ประเทศจีน ส่วนการประกาศรางวัลของกลุ่มประเทศเอเชียจะจัดขึ้นในสิงคโปร์

<figure><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/af637c35ef0087b899cf0f696047bf5d.png" alt="" width="680" height="453" /><figcaption> (ซ้าย) Benoit C. Thebaut และ (ขวา) Uday Verma</figcaption></figure>

Uday Verma ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท โอเชียนกลาส จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตแก้วไวน์คริสตัลแบรนด์ ลูคาริส (Lucaris) ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนงาน The Hotelier Awards 2017 กล่าวว่า บริษัทเลือกสนับสนุนงานในครั้งนี้เนื่องจากเป็นงานที่รวมบุคลากรด้านการโรงแรมจากทั่วเอเชีย เป็นกลุ่มผู้ใช้และผู้ซื้อสำคัญของตลาดแก้วไวน์

ดังนั้นการเข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนและได้นำผลิตภัณฑ์ของลูคาริสมาใช้ในงานกาล่าดินเนอร์ประกาศรางวัลถือเป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าอย่างดีเยี่ยม เชื่อว่าจะทำให้บุคลากรการโรงแรมได้สัมผัสและเข้าใจถึงคุณภาพของลูคาริสอันเป็นแบรนด์แก้วไวน์จากเอเชียว่ามีคุณภาพดีแข่งขันได้กับแบรนด์จากภูมิภาคยุโรป

&nbsp;

รายชื่อผู้ชนะรางวัล The Hotelier Awards 2017

Rooms Hotelier ASIA – Maria Judith S. Matubis, City of Dreams Manila, Philippines

Rooms Hotelier GREATER CHINA – Goncalo Monteiro, Four Seasons Hotel Macao, Cotai Strip

Corporate Hotelier – Walter Junger H12

Owner Representative GREATER CHINA – Park Li, The Ritz Carlton Beijing, Financial Street, China

Finance Hotelier ASIA – I Made Dwi Adnyana, Alila Villas Uluwatu, Indonesia

Finance Hotelier GREATER CHINA – Belinda Yuan, The Portman Ritz-Carlton, Shanghai, China

Human Resource Hotelier ASIA – Sariparmetha Kencana, Four Seasons Hotel, Jakarta, Indonesia

Human Resource Hotelier GREATER CHINA – Dundy Deng, Niccolo Chengdu, China

Concierge Hotelier ASIA – Stella Tan, Four Seasons Hotel, Jakarta, Indonesia

Concierge Hotelier GREATER CHINA – Freda Cheung, Four Seasons Hotel Macao, Cotai Strip

Food &amp; Beverage Hotelier ASIA – Denise Matthijsse, Fairmont Sanur Beach, Indonesia

Food &amp; Beverage Hotelier GREATER CHINA – Hildegard Anzenberger, The Langham Shenzhen, China

The Rising Star – Benita Nathania Bunawan, Blue Mountains International Hotel Management School at Torrens University, Australia

Sales &amp; Marketing Hotelier ASIA – Pearl P. Maclang, Marco Polo Davao, Philippines

Sales &amp; Marketing Hotelier GREATER CHINA – Cindy Zhang, Grand Kempinski Hotel Shanghai, China

Wellness &amp; Spa Hotelier ASIA – Dwi Santini, Mandapa a Ritz-Carlton Reserve, Indonesia

Wellness &amp; Spa Hotelier GREATER CHINA – Mary Yip, Studio City Macau

Technology Hotelier GREATER CHINA – Tom Du, New World Beijing Hotel, China

Unsung Hero ASIA – Michael G. Lumbres, City of Dreams Manila, Philippines

Unsung Hero GREATER CHINA – Teresa Huang, Intercontinental Sanya Resort, China

Chef Hotelier ASIA – Nguyen Cong Chung, Sheraton Hanoi Hotel, Vietnam

Chef Hotelier GREATER CHINA – Philippe Bruneau, W Guangzhou, China

General Manager ASIA – Ana Gorjao Henriques, Mandapa a Ritz-Carlton Reserve, Indonesia

General Manager GREATER CHINA – Janet McNab, Sheraton Grand Macao Hotel &amp; The St. Regis Macao

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events