<h2>สงครามใหญ่กำลังก่อตัวขึ้นระหว่างอิสราเอลกลุ่ม Hezbollah และอิหร่าน ซึ่งการปะทะกันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะเหล่าผู้เคร่งศาสนาหัวรุนแรงในอิหร่านจะไม่ยอมหันเหเป้าหมายจากการแบ่งแยกและทำลายล้างรัฐชาติของชาวยิว ความขัดแย้งดังกล่าวมีแววว่าจะขยายวงออกไปอย่างรวดเร็ว โดยมีการดึงสหรัฐฯ และรัสเซียให้เข้ามาอยู่ในวงพิพาทด้วย&nbsp;</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มว่าจะทำให้จีนเคลื่อนไหวด้วยท่าทีแข็งกร้าวมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างรัฐบาลจีนและสหรัฐฯ คำถามเดียวที่เหลืออยู่ในตอนนี้คือ ระเบิดเวลาลูกนี้จะตูมตามขึ้นมาเมื่อไร ซึ่งอาจจะเป็นเร็วๆ นี้ หรืออาจจะทอดระยะออกไปอีกก็เป็นไปได้ทั้งนั้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จุดที่อาจเกิดการปะทะกันได้ง่ายคือแนวพรมแดนระหว่างตอนเหนือของอิสราเอลกับตอนใต้ของเลบานอน ซึ่งเป็นละแวกที่ทางกลุ่ม Hezbollah ใช้เป็นฐานปฏิบัติการยิงขีปนาวุธและโดรนเข้าถล่มอิสราเอลมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้จนถึงขณะนี้มีประชากรชาวอิสราเอล 80,000 คนแล้วที่ต้องอพยพโยกย้ายถิ่นฐานออกจากพื้นที่อาศัย ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่สาหัสสากรรจ์เกินกว่าที่รัฐเอกราชแห่งใดจะทนรับได้ ซึ่งทางอิสราเอลไม่มีทางยอมให้องค์กรก่อการร้ายบีบให้ต้องละทิ้งผืนแผ่นดินที่อยู่ในอาณาเขตของตนไปอย่างแน่นอน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เป้าหมายของอิหร่านคือ พยายามบีบให้อิสราเอลยอมทำข้อตกลงโดยกลุ่ม Hezbollah จะถอดถอนกำลังและหยุดยิงจรวดถล่มอิสราเอลเพื่อแลกกับการที่อิสราเอลหยุดยิงที่ Gaza ซึ่งหากข้อตกลงนี้เกิดขึ้นจริงไม่เพียงแต่กลุ่ม Hamas จะไม่ถูกกวาดล้าง แต่ยังจะสามารถขยายอิทธิพลเหนือพื้นที่ Gaza และต่อเนื่องไปถึง West Bank ด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อิสราเอลไม่มีทางเห็นชอบกับข้อตกลงนี้แน่นอน เพราะมันจะเป็นลางหายนะสำหรับรัฐชาติของชาวยิว เหมือนการส่งสัญญาณว่าอิสราเอลไม่มีกำลังขวัญที่จะควบคุมหรือทำลายล้างข้าศึก และนั่นคือเหตุผลที่จะทำให้เกิดสงครามในระดับที่ใหญ่ขึ้นไปกว่านี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นักรบของกองกำลังของกลุ่ม Hezbollah เหนือกว่ากลุ่ม Hamas ทั้งในแง่จำนวนคนและสมรรถภาพการรบ แถมยังมีขีปนาวุธหลายรูปแบบอยู่ในมือถึง 150,000 ลูก ดังนั้น การจะกำจัดกลุ่ม Hezbollah จึงมีต้นทุนสูงมาก เพราะจรวดและโดรนบางลูกน่าจะแหวกฝ่าระบบป้องกันขีปนาวุธ Iron Dome ของอิสราเอลมาได้และเข้าโจมตีเป้าหมายในเขตชุมชนเมืองที่มีประชากรหนาแน่น ยิ่งไปกว่านั้น อิหร่านก็ไม่น่าจะอยู่เฉยและน่าจะกดปุ่มปล่อยจรวดเข้าโจมตีอิสราเอลด้วยอีกทางหนึ่ง ซึ่งทางอิหร่านอาจจะรู้สึกอยากที่จะนำอาวุธนิวเคลียร์ออกมาใช้ก็เป็นได้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แล้วอิสราเอลมีเครื่องมือที่จะใช้ทำลายหรือทำให้ฐานยิงนิวเคลียร์ของอิหร่านใช้ไม่ได้อยู่บ้างไหม? ในช่วงหลายปีมานี้อิหร่านเสริมความแข็งแกร่งอยู่ใต้ดินและกระจายฐานยิงไปทั่วประเทศ ดังนั้น อิสราเอลต้องการความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ เพื่อต่อสู้กับ Hezbollah และอิหร่าน โดยยังไม่ต้องพูดถึงกลุ่ม Hamas ว่าแต่ว่าสหรัฐฯ จะให้ความช่วยเหลือแก่อิสราเอลหรือไม่?&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การที่มีคำถามนี้เกิดขึ้นทำให้ทางอิหร่านใจชื้นขึ้นมาได้ เพราะมองว่า สหรัฐฯ ขี้ขลาดและไม่น่าจะสนับสนุนให้อิสราเอลทำสงครามเต็มรูปแบบกับ Hezbollah ซึ่งเมื่อแนวโน้มเป็นแบบนี้ อิสราเอลอาจจะเกิดความรู้สึกว่าต้องเดินหน้าเข้าสู่สงครามใหญ่ด้วยตัวเอง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แต่อย่าลืมว่าสงครามไม่เคยดำเนินไปตามทิศทางที่คาดกันไว้หรอกนะ Photo by <a href="https://unsplash.com/@adolfofelix?utm_content=creditCopyText&amp;utm_medium=referral&amp;utm_source=unsplash">Adolfo Felix</a> on <a href="https://unsplash.com/photos/blue-earth-globe-on-table-4JL_VAgxwcU?utm_content=creditCopyText&amp;utm_medium=referral&amp;utm_source=unsplash">Unsplash</a> ​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/world/america/chrissy-taylor-driving-force-of-enterprise-mobility" alt="Chrissy Taylor พลังขับเคลื่อนแห่ง Enterprise Mobility"></a><a href="https://www.forbesthailand.com/news/finance-and-investment/kkp-research-us-election-2024" alt="KKP มองผลเลือกตั้งสหรัฐฯ ต่อไทย ใครชนะก็ไม่ต่าง การกีดกันการค้ามาแรง ส่งออกเสี่ยงกระทบ">KKP มองผลเลือกตั้งสหรัฐฯ ต่อไทย ใครชนะก็ไม่ต่าง การกีดกันการค้ามาแรง ส่งออกเสี่ยงกระทบ</a>​ ​<a target="_blank" href="https://www.mebmarket.com/ebook-324639-Forbes-Thailand-October-2024" alt="คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนตุลาคม 2567 ในรูปแบบ e-magazine">คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนตุลาคม 2567 ในรูปแบบ e-magazine</a><div class="se-component se-image-container __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/10/mjwECCEF6Lir3QT1ERKF.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="mjwECCEF6Lir3QT1ERKF.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-percentage="auto,auto" origin-size="300,394" data-rotatex="" data-rotatey="" style="" data-index="0"></figure></div>

ทำไมสงครามนี้ถึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

<h2 class="p1">นับจากเปิดปี 2020 ก็ได้สร้างความกังวลในภาวะสงครามของ ตะวันออกกลาง หลังจากสหรัฐฯ ได้สังหารผู้นำทางทหารของอิหร่าน แต่เบื้องต้นเหตุการณ์ผ่านไปได้ด้วยการที่สหรัฐฯ เลือกใช้การคว่ำบาตร ไม่ใช่การก่อสงคราม</h2>
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าความไม่สงบใน ตะวันออกกลาง ยังเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อการลงทุนในปี 2020 แต่สำหรับการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบที่จะทรงตัวในระดับสูงและยาวนาน เรามองว่าเป็นไปได้จำกัดจาก 5 ปัจจัย ดังนี้
-สหรัฐฯ เลือกตัดสินใจใช้การคว่ำบาตร ไม่ทำสงคราม ด้วยศักยภาพทางการทหารของสหรัฐฯ ย่อมมีความได้เปรียบ อย่างไรก็ดี ปี 2020 ถือเป็นการครบรอบ 4 ปีที่จะต้องมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดังนั้น การส่งกองกำลังทหารเพิ่มเข้าไปในตะวันออกกลาง อาจไม่เป็นผลดีต่อฐานคะแนนเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์
-กลุ่ม OPEC และพันธมิตร สามารถเพิ่มอุปทานน้ำมันได้ ในช่วงปี 2018 - ปัจจุบัน กลุ่ม OPEC และพันธมิตรต้องการให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีมติเอกฉันท์ร่วมกันปรับลดปริมาณการผลิตล่าสุด  ซึ่งมีมติร่วมกันปรับลดปริมาณการผลิตให้ได้ 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน นำโดยซาอุดีอาระเบียที่ปรับลดปริมาณการผลิตสูงถึง 1.67 แสนบาร์เรลต่อวัน จากทั้งหมด 3.72 แสนบาร์เรลต่อวันของทั้งกลุ่ม OPEC ดังนั้น หากราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นมากเกินไป กลุ่ม OPEC และพันธมิตรอาจมีมติปรับเพิ่มอุปทานน้ำมันดิบเพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาได้
<img class="alignnone size-full wp-image-25975" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/opec.jpg" alt="" width="649" height="305" />

-ราคาน้ำมันดิบที่ระดับสูงจะยิ่งจูงใจให้ผู้ผลิตสหรัฐฯ (Shale Oil) ปรับเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นไปอีก บริษัทในสหรัฐฯ มีความสามารถในการผลิตน้ำมันดิบจากเทคโนโลยี Shale Oil ส่งผลให้สหรัฐฯ เป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก อย่างไรก็ดี การที่เร่งการผลิตน้ำมันดิบย่อมตามมาด้วยการลงทุนในระดับสูง แต่กลับทำให้บริษัท Shale Oil หลายแห่งประสบปัญหาหนี้สินที่ไต่ระดับสูงขึ้น (โดยปัจจุบันบริษัท Shale Oil มีหนี้สินต่อทุนระดับ 1.1 เท่า ซึ่งถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์) ดังนั้นในช่วงราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูง บริษัท Shale Oil จะยิ่งสบโอกาสในการเพิ่มกำลังการผลิต ซึ่งจะทำให้ปริมาณการผลิตสูงกว่าความต้องการมากขึ้นไปอีก และตามมาด้วยการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบจำกัด

-บริษัทขนส่งน้ำมันดิบในตะวันออกกลางใช้ความระมัดระวัง ในช่วงหลังเกิดเหตุการณ์สังหารผู้นำทางทหารอิหร่าน จุดยุทธศาสตร์สำคัญที่อาจสร้างความผันผวนให้กับราคาน้ำมันดิบคือช่องทางการขนส่งน้ำมันสำคัญผ่านช่องแคบฮอร์มุซ (Strait of Hormuz)  ซึ่งอยู่ระหว่างประเทศ อิหร่าน โอมาน โดยจุดแคบที่สุดกว้างเพียง 40 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งจุดดังกล่าวมีความสำคัญ เนื่องจากเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันดิบที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ช่องแคบดังกล่าวมีการขนส่งน้ำมันดิบปริมาณ 21 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ 20% ของความต้องการน้ำมันดิบโลก ทว่าในช่วงหลังการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว บริษัทขนส่งน้ำมันดิบหลายบริษัทได้ใช้ความระมัดระวังเพิ่มขึ้น และชะลอการขนส่งออกไปก่อน 

-ปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริง การผลิตน้ำมันยังคงสูงกว่าความต้องการ หากอิงจากรายงาน OPEC เดือน ธ.ค. 62 พบว่าการเติบโตของปริมาณการผลิตของกลุ่ม Non-OPEC อยู่ที่ระดับ 2.17 ล้านบาร์เรลต่อวัน (หลักๆ มาจากปริมาณการผลิตของสหรัฐฯ เติบโต 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน) ในขณะที่คาดการณ์เติบโตของปริมาณความต้องการใช้น้ำมันเพียง 1.08 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็นเพียง 50% เท่านั้น

&nbsp;

อ่านเพิ่มเติม
<ul>
 	<li><header class="entry-header"><a href="https://forbesthailand.com/commentaries/investment-outlook/%e0%b8%84%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%ab%e0%b8%b8%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2-imo2020.html">ยุทธศาสตร์การลงทุนส่งเสริมสิ่งแวดล้อม คัดหุ้นไทยที่ได้ประโยชน์จากมาตรการ IMO2020</a></header></li>
</ul>
&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-25971" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/คุณกันติพัฒน์.jpg" alt="" width="300" height="300" />
กันติพัฒน์ วงศ์สุคนธ์ 
Head of  Wealth  Advisory บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้


<hr />

<article id="post-25963" class="post-25963 post type-post status-publish format-standard has-post-thumbnail hentry category-global category-news tag-meghan-markle tag-sussex-royal tag-10920 tag--harry tag-787">
<div class="body-content post-content-wrap post-detail">

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

</div>
</article>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events