<h2>กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เผยผลประกอบการปี 2566 มียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 365,000 ล้านบาท (+10%) คาดผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2567 เติบโตต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่ญี่ปุ่นโตจากปีก่อน 50% แตะ 2,950 ล้านบาท</h2><p><br></p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;<strong>อธิศ รุจิรวัฒน์</strong> กรรมการผู้จัดการ <strong>บริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด</strong> ในฐานะตัวแทนบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เผยว่า “ผลประกอบการของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ปี 2566 เติบโตน่าพอใจ โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 365,000 ล้านบาท (+10%) ยอดสินเชื่อใหม่ 92,000 ล้านบาท (+6%) เทียบกับปีก่อน</p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับในไตรมาสแรกคาดว่าผลประกอบการจะเติบโตต่อเนื่องและเป็นไปตามเป้าหมาย โดยในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2567 มียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 62,000 ล้านบาท (+10%) ยอดสินเชื่อใหม่ 15,000 ล้านบาท (+8%) ยอดสินเชื่อคงค้าง 142,000 ล้านบาท (+3%)</p><p><span style="background-color: initial; font-family: &quot;DB FongNam X&quot;, sans-serif; font-size: 34px; text-align: var(--bs-body-text-align);">​</span><br></p><div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/4jNHjUJTYozfe6jHJwgC.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="4jNHjUJTYozfe6jHJwgC.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="1567,1045" style="width: 720px; height: auto;" data-index="0"></figure></div><p><br></p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับหมวดใช้จ่ายที่เติบโตสูง ได้แก่ 1. ตัวแทนท่องเที่ยว 2. สายการบิน 3. โรงแรมและรถเช่า ซึ่งในปีนี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เตรียมรุกขยายธุรกิจ เพื่อสร้างความเติบโต โดยในปี 2567 บริษัทได้ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตร 393,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่ 100,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อคงค้าง 151,000 ล้านบาท”</p><p><span style="background-color: initial; font-family: &quot;DB FongNam X&quot;, sans-serif; font-size: 34px; text-align: var(--bs-body-text-align);">​</span><br></p><div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/zdpRHSAZSHa17ay1kQY6.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="zdpRHSAZSHa17ay1kQY6.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="1179,649" style="width: 720px; height: auto;" data-index="1"></figure></div><p><span style="background-color: initial; font-family: &quot;DB FongNam X&quot;, sans-serif; font-size: 34px; text-align: var(--bs-body-text-align);">​</span><br></p><div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/pjeg4EtewZiDkT1EvN8d.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="pjeg4EtewZiDkT1EvN8d.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="1179,670" style="width: 720px; height: auto;" data-index="2"></figure></div><p><br></p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้าน <strong>สมหวัง โตรักตระกูล</strong> กรรมการผู้จัดการ <strong>บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด</strong> กล่าวเสริมว่า “จากข้อมูลในปี 2566 พบว่า สัดส่วนยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในเครือ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ในต่างประเทศมีมูลค่ารวม 5,500 ล้านบาท โดยญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับ 1 และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของตลาดดังกล่าว จึงเตรียมต่อยอดแคมเปญ “เรื่องญี่ปุ่น ต้องกรุงศรี” ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้บริษัทได้ขยายความร่วมมือกับเครือข่ายทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของ MUFG และพันธมิตรทั้งในญี่ปุ่นและไทยเพิ่มเติม รวมกว่า 600 แบรนด์ นำเสนอสิทธิประโยชน์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่านบัตร โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว”</p><p><span style="background-color: initial; font-family: &quot;DB FongNam X&quot;, sans-serif; font-size: 34px; text-align: var(--bs-body-text-align);">​</span><br></p><div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/UzWZ8RfXKHihzppcZB7B.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="UzWZ8RfXKHihzppcZB7B.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="1567,1045" style="width: 720px; height: auto;" data-index="3"></figure></div><p><br></p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา แคมเปญ “เรื่องญี่ปุ่น ต้องกรุงศรี” ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยในปี 2566 มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ที่ญี่ปุ่น 2,200 &nbsp;ล้านบาท (+250% เทียบกับปีก่อน) หมวดใช้จ่ายสูงสุด เรียงตามยอดใช้จ่าย ได้แก่ 1. ห้างสรรพสินค้า 2. โรงแรม ที่พัก 3. สินค้าแฟชั่น เครื่องแต่งกาย &nbsp;4. เครื่องสำอาง สินค้าเบ็ดเตล็ด &nbsp;5. สนามบินและสินค้าปลอดภาษี โดยลูกค้าส่วนใหญ่ราว 80% เป็นกลุ่ม Gen X และ Gen Y มียอดใช้จ่ายต่อคน เฉลี่ย 32,000 บาท หรือ เติบโต 10% เทียบกับปี 2565 โดยบริษัทตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่ญี่ปุ่น 2,950 ล้านบาทในปี 2567 (เติบโต 50% เทียบกับปีก่อน)</p><p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม อธิศ รุจิรวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด ในฐานะตัวแทนบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า “บริษัทตั้งเป้าให้มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรใหม่โดยเน้นขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Z หรือ First Jobber มากยิ่งขึ้น โดยที่ผ่านมาบริษัทได้ใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีรูปแบบต่างๆ รวมถึงสิทธิประโยชน์ที่หลากหลายเข้ามาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าในแต่ละกลุ่มได้ดียิ่งขึ้น ส่วนเรื่องของเศรษฐกิจโดยรวมจะมีผลกระทบต่อหนี้เสีย NPL และสินเชื่อส่วนบุคคลหรือไม่นั้น ไม่ค่อยมีผลกระทบต่อบริษัทเท่าไรนัก เพราะฐานลูกค้าส่วนใหญ่ของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ถือเป็นกลุ่มลูกค้าที่ค่อนข้างดีมีคุณภาพ<span style="color: rgb(68, 68, 68)">”</span></p><p><span style="background-color: initial; font-family: &quot;DB FongNam X&quot;, sans-serif; font-size: 34px; text-align: var(--bs-body-text-align);">​</span><br></p><div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/2nS76g754bz1mcpo2kMH.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="2nS76g754bz1mcpo2kMH.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="1567,1045" style="width: 720px; height: auto;" data-index="4"></figure></div><p><br></p><div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/haBJLcdreer3gK7P1ekm.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="haBJLcdreer3gK7P1ekm.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="1179,679" style="width: 720px; height: auto;" data-index="5"></figure></div><p>​<span style="background-color: initial; font-family: &quot;DB FongNam X&quot;, sans-serif; font-size: 34px; text-align: var(--bs-body-text-align);">​</span></p><div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/htsKupNjCGegJeWZ1aKh.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="htsKupNjCGegJeWZ1aKh.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="1567,1045" style="width: 720px; height: auto;" data-index="6"></figure></div><p><br></p><p><span style="color: rgb(68, 68, 68)">เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/finance-and-investment/k-scan-to-pay" alt="ตอกย้ำผู้นำนวัตกรรมการชำระเงิน! กสิกรเปิดให้สแกนจ่ายคิวอาร์โค้ดบัตรเครดิต บน K PLUS ไม่ต้องพกบัตร">ตอกย้ำผู้นำนวัตกรรมการชำระเงิน! กสิกรเปิดให้สแกนจ่ายคิวอาร์โค้ดบัตรเครดิต บน K PLUS ไม่ต้องพกบัตร</a></span><br></p><p><a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a></p>

กรุงศรี คอนซูมเมอร์ มั่นใจ ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่ญี่ปุ่น ปี 67 โตเพิ่ม 50% แตะ 2,950 ล้านบาท

<h2>อธิศ รุจิรวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส เผยทิศทางการเติบโตหลังต่อสัญญากับ Central Group ภายใต้หลักสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในแนวทาง “Building glow to partnership” เชื่อมผลิตภัณฑ์และดาต้าจากกลุ่มเครือกรุงศรีฯ คาด เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส (GCS) สิ้นปีตัวเลขเติบโตในสองหลักทุกมิติ</h2>
<strong>อธิศ รุจิรวัฒน์</strong> กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด กล่าวว่า ภายหลังการเข้าพิชชิ่งงานและสามารถต่อสัญญากับกลุ่มเซ็นทรัลได้สำเร็จในการบริหารบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน ด้วยการคอนเซ็ปต์ “Partnership next Level” ซึ่งเป็นการยกระดับความร่วมมือทางธุรกิจให้มากขึ้น ประจวบเหมาะกับความพร้อมของ “กรุงศรีฯ คอนซูมเมอร์” และกลุ่มธนาคารกรุงศรีฯ ที่สามารถทำได้เป็นจริง

สำหรับภาพรวมการเติบโตของ เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส ปี 2564 มีผลประกอบการที่ทำลายสถิติตัวเลขสูงสุดสูงเป็นประวัติกาณ์ในการก่อตั้งบริษัทตั้งแต่ปี 2541 สินทรัพย์ก่อให้เกิดรายได้หรือ NEA ทำสถิติ 2.4 หมื่นล้านบาท เติบโต 4 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรนั้นทำลายสถิติสูงสุดเช่นกัน โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเป็นจำนวน 7.65 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้นร้อยละ 10 จากปีที่ผ่านมา ด้านฐานบัตรรวมมีจำนวน 952,000 ใบ เติบโตรวม 6 เปอร์เซ็นต์

ปี 2564 นั้นเป็นช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 ทำให้การเปิดบัตรเดรดิตใหม่ลดลงติดลบ 32 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 52,000 ใบ เช่นเดียวกับยอดสินเชื่อใหม่อยู่ลดลงติดลบ 4 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท สาเหตุอันเนื่องจากการปิดห้างสรรพสินค้าซึ่งเป็นช่องทางสำคัญในการสมัครบัตรเครดิต

ขณะเดียวกันในช่วงสถานการณ์โควิด-19 การเติบโตและส่วนแบ่งทางการตลาดของบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ปี 2564 มีส่วนแบ่งทางการตลาดรวมร้อยละ 4.6 ของธุรกิจบัตรเครดิตในประเทศ โดยบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ทั้ง 4 ประเภทนั้น เติบโตจากกลุ่มบัตรสีดำทั้ง 2 ประเภทสำหรับลูกค้าที่ฐานเงินเดือนเกินหนึ่งแสนบาทขึ้นไป โดยในกลุ่มของบัตรสีดำนี้สร้างเติบโตของยอดใช้จ่ายรวมของปี 2564 ราว 30-40 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่บัตรสีแดงเติบโตเพียงตัวเลขหนึ่งหลักเท่านั้น

<img class="alignnone size-full wp-image-63729" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/05/Photo-4_ภาพหน้าบัตรเครดิต-เซ็นทรัล-เดอะวัน.jpg" alt="" width="650" height="433" />
<h3>ปัจจัยลบจากสภาวะเศรษฐกิจในประเทศ</h3>
อธิศ กล่าวว่าในปี 2565 แม้สถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายไปมากแต่เนื่องจากสถานการณ์โลกโดยเฉพาะสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ทำให้พลังงานเชื้อเพลิงภายในประเทศสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์มีส่วนสำคัญที่ทำให้ระดับเงินเฟ้อสูงขึ้น 4.5 เปอร์เซ็นต์

ขณะที่ตัวเลข GDP ของประเทศปี 2565 นั้นอาจจะต่ำกว่า 3.2 เปอร์เซ็นต์ จากการประมาณการของธนาคารแห่งประเทศไทยให้ไว้ ขณะที่ในส่วนอัตราการผิดนัดชำระของผู้ถือบัตรเครดิตยังอยูในระดับที่น่าเป็นห่วง สำหรับสถานการณ์บวกอย่างการเปิดประเทศและการจับจ่ายที่เพิ่มมากขึ้น อธิศ คาดการณ์ว่าจะปิดปี 2565 ด้วยตัวเลขบัตรใหม่ที่เพิ่มขึ้นราว 10-15 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจะเพิ่มขึ้นราว 12-15 เปอร์เซ็นต์

สำหรับตัวเลขผลดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2565 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2564 สินทรัพย์ก่อให้เกิดรายได้ (NEA) อยู่ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท เติบโตร้อยละ 4.4 ขณะที่ยอดบัตรเครดิตใหม่อยู่ที่ 19,500 ใบ ยอดบัตร CFC ใหม่อยูที่ 9,500 ใบ ยอดสินเชื่อบุคคลใหม่อยูที่ 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 ด้านส่วนแบ่งทางการตลาดเมื่อสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมาบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวันมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยูที่ 4.7 เปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้อธิศคาดการณ์ว่าภายในสิ้นปี 2565 เป้าหมายของการเติบโตของบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน จะอยู่ที่ตัวเลขสองหลัก คาดการณ์โดยประมาณตัวเลขบัตรเครดิตใหม่อยู่ 81,200 ใบ เพิ่มขึ้นร้อยละ 52 ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรอยู่ที่ราว 8.82 หมื่นล้านบาท โตราวร้อยละ16 ยอดสินเชื่อบุคคลใหม่ อยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท โตราวร้อยละ 13 และ สินทรัพย์ก่อให้เกิดรายได้ (NEA) อยู่ที่ราว 2.5 หมื่นล้านบาท โตราวร้อยละ 10
<h3>แนวทางการเติบโตอย่างยั่งยืน</h3>
สำหรับแนวทางการเติบโตอย่างยั่งยืน อธิศกล่าวเพิ่มเติมว่าเป็นการเติบโตผ่านการใช้แผนธุรกิจใน 4 เสาหลักซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส เร่งการเติบโตของรายได้ระหว่างกลุ่มธนาคารกรุงศรีฯ และกลุ่มเซ็นทรัล ได้แก่ การเดินทางสร้างช่องทางการชำระเงินผ่าน QR-CODE ที่จะช่วยให้ผู้ถือบัตรได้รับสิทธิประโยชน์จากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเซ็นทรัลฯ หรือการใช้บัตรผ่านแอปพลิเคชั่น UChoose การปรับปรุงบัตรสีแดงในโดนใจผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ และเตรียมพัฒนาโปรแกรมการใช้จ่ายแบบ Buy Now Pay Later ที่คาดว่าเปิดตัวภายในปีนี้

ส่วนที่สองคือความร่วมมือด้านการพัฒนาข้อมูลจากฐานสมาชิก The 1 จำนวน 18 ล้านราย เพื่อสร้างโปรโมชั่นที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย รวดเร็ว เนื่องจากข้อมูลจากฐานของสมาชิก The 1 สามารถลงลึกในระดับ SKU

ส่วนที่สามการศึกษาการใช้เหรียญฯ เป็นคะแนนสะสม ผ่านแอปฯ UChoose และส่วนที่สี่คือการร่วมกันระหว่างสององค์กรในการเชื่อมต่อบริการและผลิตภัณฑ์ระหว่างสององค์กร อาทิ ความร่วมมือทางโปรโมชั่น ความร่วมมือในฟังก์ชันใหม่ๆ อย่าง BNPL เพื่อเพิ่มศักยกาภและยอดขาย ความร่วมมือในร่วมพัฒนาโมเดลข้อมูลเพื่อหาลูกค้าใหม่ๆ ผ่านเครือข่ายภายในกลุ่มเซ็นทรัลอย่าง Central Retail ไทวัสดุ เป็นต้น

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/accenture-technology-vision-2022.html">เปิดจักรวาลโลกอนาคตกับ Accenture Technology Vision 2022</a>

<hr />
<p class="p1"><span class="s1"><a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก<span class="s2"> Forbes Thailand Magazine</span></a></span></p>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events