กำไรของ Serena Williams

<h2>รากฐานของความสัมพันธ์ระหว่าง <strong>Rolex</strong> กับกีฬาและความสำเร็จของมนุษย์เชื่อมโยงกับเจตนารมณ์ของการก่อตั้งบริษัท โดยเมื่อครั้งที่ <strong>Hans Wilsdorf</strong> ก่อตั้งบริษัทผลิตนาฬิกาของเขา เขาได้รับอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสังคมในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นยุคที่นาฬิกาข้อมือยังคงถูกมองว่าเป็นเพียงเครื่องประดับที่เปราะบาง ดังนั้น เขาจึงได้ตั้งใจสร้างสรรค์นาฬิกาข้อมือที่แข็งแรง แม่นยำ และเชื่อถือได้ รวมทั้งเข้ากับไลฟ์สไตล์ที่กระฉับกระเฉง และเหมาะกับการเล่นกีฬามากขึ้น ปัจจุบัน Rolex ได้เป็นพันธมิตรอันยาวนานกับวงการเทนนิสกว่า 40 ปี ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาแห่งการสร้างสรรค์ความเป็นเลิศ ในขณะที่ยังคงมุ่งมั่นรักษาธรรมเนียมของเทนนิส</h2>
<img style="width: 638px; height: 425px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/196500291dbd2352fdd05fe2e9025c06.jpg" alt="" />

ความสัมพันธ์ระหว่าง Rolex กับกีฬาเทนนิสได้พัฒนาไปสู่ระดับสูงสุดของวงการ ผ่านการสนับสนุนนักกีฬาเทนนิสที่มากความสามารถ การสนับสนุนการแข่งขันระดับมืออาชีพ และการแข่งขันเทนนิสระดับแกรนด์สแลม (Grand Slam®) อาทิ การสนับสนุนการแข่งขันลอนเทนนิสชิงชนะเลิศครั้งแรกของโลกในปี 1978 การแข่งขันเทนนิสแชมเปี้ยมชิพ วิมเบิลดัน (The Championships, Wimbledon) และล่าสุดคือการแข่งขันเทนนิสยูเอสโอเพน (US Open) และในปี 2018 Rolex ได้ต่อยอดมรดกอันทรงคุณค่าของ Grand Slam® ด้วยการสร้างความร่วมมือกับ United States’ Tennis Association (USTA) ซึ่งเป็นการต้อนรับ US Open มาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Rolex โดย US Open จะเป็นการแข่งขันระดับ Grand Slam®  ที่ 3 ที่ Rolex ให้การสนับสนุนต่อจาก The Championships, Wimbledon และ Australian Open จุดสูงสุดแห่งความสัมพันธ์ของ Rolex กับการแข่งขันเทนนิส ประกอบด้วย The Championships, Wimbledon เดือนกรกฎาคม Australian Open เดือนมกราคม และ US Open ปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นกันยายนนี้

<img style="width: 638px; height: 425px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/2b2e434da2418dac25dbffd1ad4fab14.jpg" alt="" />

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events