จัดอันดับตราสารที่นิยมเทรดในตอนนี้ และพบกับ XM โบรกเกอร์ที่มีหลากหลายสินทรัพย์ให้เลือกเทรดได้อย่างลงตัว 3 ตราสารที่นิยมเทรดมากที่สุดในประเทศไทยเนื่องจากการหมุนเวียนทางการเงินในภาพรวมของประเทศไทยมีปริมาณสูง ทำให้ความสนใจในการลงทุนและการเทรดตราสารต่างประเทศมีเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันในหมู่นักลงทุนชาวไทยที่เข้ามาในตลาดนี้เพิ่ม พร้อมทั้งแพลตฟอร์มการเทรดออนไลน์ที่ช่วยอำนวยความสะดวก ส่งผลให้คนทั่วไปก็สามารถสำรวจโอกาสทางการเงินและเข้าถึงภาพรวมเพื่อศึกษาข้อมูลเชิงลึกได้ โดยมี 3 ตราสารยอดนิยมดังนี้1. USDJPY คู่สกุลเงิน USDJPY เป็นการจับคู่ระหว่างเงินดอลลาร์สหรัฐและเงินเยนญี่ปุ่น นับเป็นที่จับตามองอย่างมากในประเทศไทย เนื่องจากมีความโดดเด่นในฐานะที่เป็นหนึ่งในคู่สกุลเงินที่มีการเทรดมากที่สุดทั่วโลก นอกเหนือจากความนิยมอย่างกว้างขวางแล้ว คู่สกุลเงิน USDJPY ยังมีบทบาทสำคัญในฐานะตัวบ่งชี้ความเสี่ยงและสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูง (Safe Haven) ในช่วงที่ตลาดมีความไม่แน่นอน อันเนื่องมาจากอัตราดอกเบี้ยของเงินเยนญี่ปุ่นที่ค่อนข้างต่ำกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ปรากฏการณ์นี้จะผลักดันให้นักลงทุนหันมาใช้ "กลยุทธ์ Carry Trade" ซึ่งใช้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยต่ำของเงินเยนเพื่อลงทุนในตลาดเกิดใหม่และใช้ประโยชน์จากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย2. US30US30 หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า Dow Jones Industrial Average (DJIA) ถือเป็นเกณฑ์มาตรฐานที่รู้จักกันดีในกลุ่มดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ด้วยการสร้างค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักราคาของบริษัทขนาดใหญ่ 30 อันดับแรก ซึ่งรวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอย่าง Apple, Coca-Cola, Visa, McDonald's และ Nike จึงทำให้ตราสารตัวนี้มีสถานะที่สำคัญทั้งในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (New York Stock Exchange: NYSE) และ NASDAQ นอกจากนี้ นักลงทุนจำนวนมากยังมองว่าดัชนีหุ้นตัวนี้เป็นตัวบ่งชี้ความสมบูรณ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ จึงมีการติดตาม DJIA อย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ตาม ควรทราบว่า มีองค์ประกอบหุ้นเพียง 30 ตัวและกลไกการถ่วงน้ำหนักราคามีความผันผวนกว่าเมื่อเทียบกับ S&amp;P 500 ซึ่งมีจำนวนตัวประกอบถ่วงน้ำหนักที่กว้างกว่าโดยเฉพาะในระยะสั้น อีกทั้งเมื่อเปรียบเทียบกับ NASDAQ 100 ซึ่งใช้สูตรการถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาด ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นการระบุผลตอบแทนต่อปีที่สูงกว่า เพราะโดยทั่วไปแล้ว NASDAQ 100 มักได้รับแรงหนุนจากการถ่วงน้ำหนักอย่างมากในหุ้นเทคโนโลยี โดยนักลงทุนที่ติดตาม Dow Jones อยู่นั้น มักจะเลือกลงทุนทั้งแบบการซื้อหุ้นของบริษัทจดทะเบียน 30 แห่ง ไปจนถึงการลงทุนใน CFD ของดัชนีเงินสด3. ทองคำ ทองคำ ซึ่งใช้สัญลักษณ์ XAUUSD แสดงอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างทองคำหนึ่งออนซ์ (XAU) ต่อดอลลาร์สหรัฐ (USD) โดยเป็นตราสารทางการเงินที่ได้รับความนิยม XAUUSD มีความโดดเด่นตรงที่เป็นการจับคู่ระหว่างสกุลเงินและโลหะมีค่า โดยดำเนินการบนแพลตฟอร์มดิจิทัลเป็นหลัก ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถมีส่วนร่วมในการเทรดทองคำดิจิทัลได้ เพราะทองคำอยู่ในฐานะสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูง จึงทำให้ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนชาวไทย ไม่ว่าจะเป็นทองคำจริงหรือจะเป็นทองคำดิจิทัล จึงทำให้ประเทศไทยกลายเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของทวีปเอเชีย และเป็นเพราะเสน่ห์ของทองคำที่ยังคงดึงดูดนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เป็นตัวเลือกหลักในการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน <a href="https://bit.ly/3WGLGR9" alt="เรียนรู้เพิ่มเติม">เรียนรู้เพิ่มเติม</a>​​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/dXfRF3jTmX2y9xumSJdR.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="dXfRF3jTmX2y9xumSJdR.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div> เข้าใจความสำคัญของการเทรดตราสารยอดนิยม ตราสารสำหรับการเทรดที่ดีที่สุดมีความสำคัญด้วยหลากหลายเหตุผล มีบทบาทในการสร้างความมั่นคงให้กับราคา เพื่อให้มั่นใจว่าสภาพแวดล้อมในการเทรดจะมีความปลอดภัย ด้วยต้นทุนการทำธุรกรรมที่ต่ำและสภาพคล่องที่สูง จึงช่วยให้เทรดเดอร์สามารถดำเนินการตามกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถทำธุรกรรมจำนวนมากได้โดยไม่มีความผันผวนของราคาอย่างมีนัยสำคัญ การเทรดตราสารที่ได้รับความนิยมมากยังช่วยลดความผันผวน ซึ่งนับเป็นผลพลอยได้จากความนิยมนี้ อีกทั้งยังมอบประสบการณ์การเทรดที่สามารถควบคุมได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแหล่งข้อมูลมากมายที่เกี่ยวข้องกับตราสารยอดนิยม ซึ่งช่วยให้เข้าถึงข่าวสารล่าสุดและบทวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้การตัดสินใจของเทรดเดอร์ได้ดียิ่งขึ้น โดยรวมแล้วประโยชน์ของราคาที่เสถียร ต้นทุนต่ำ สภาพคล่อง และการเข้าถึงข้อมูลจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ตราสารยอดนิยมเหล่านี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเทรดเดอร์ในรอบด้าน​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/AQh4TKxVuaaLkEmZAfPV.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="AQh4TKxVuaaLkEmZAfPV.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> ซื้อขายตราสารยอดนิยมกับ XMพบกับ XM ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเทรดแบบ All-in-One ที่ได้รับการกำกับดูแลและให้บริการเทรดเดอร์จากทั่วโลก รวมไปถึงชาวไทย ด้วยชื่อเสียงที่เป็นที่น่าเชื่อถือและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ากว่า 10 ล้านคน XM พร้อมนำเสนอบริการที่ได้รับรางวัลการันตี ศูนย์การเรียนรู้ฟรี และข้อเสนอด้านการเทรดที่คุ้มค่า เช่น สเปรดต่ำ ไม่มีค่าคอมมิชชัน และตัวเลือกเลเวอเรจที่ยืดหยุ่น นอกจากนี้ XM ยังมีสินทรัพย์ที่หลากหลายถึง 10 ประเภทและตราสารจากทั่วทุกมุมโลกมากกว่า 1,000 รายการ เทรดเดอร์จึงสามารถกระจายความเสี่ยงได้ดีขึ้น ในฐานะโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตและมีการกำกับดูแลโดยหน่วยงานหลายแห่ง XM ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเทรดเดอร์ทุกคน <a href="https://bit.ly/3WGLGR9" alt="ดูรายละเอียดเพิ่มเติม">ดูรายละเอียดเพิ่มเติม</a>​<a href="https://bit.ly/3WGLGR9" alt="​โบนัสเทรดฟรี $30">​โบนัสเทรดฟรี $30</a> ร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดยอดความเร็วในการดำเนินการส่งคำสั่ง การฝากเงินที่ราบรื่น และการถอนเงินที่ฉับไวผ่านช่องทางที่ปลอดภัยกว่า 25 ช่องทาง รวมถึงธนาคารไทย มาปลดล็อกโบนัสเงินฝาก 100% สูงสุดถึง $500 และโบนัสชั้นที่สอง 20% สูงสุดถึง $10,000 ทุกครั้งเมื่อฝากเงิน อีกทั้ง XM ยังนำเสนอกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งการแข่งขันสำหรับเทรดเดอร์ทุกระดับประสบการณ์พร้อมรางวัลเงินสด รับรางวัลจากโปรแกรมลอยัลตี้สำหรับการเทรดรายวัน และฟีเจอร์ XM Copy Trading ที่คุณสามารถแบ่งปันหรือคัดลอกกลยุทธ์ที่ทำกำไรได้ แล้วมาเลือกใช้แพลตฟอร์มการเทรดที่มีฟีเจอร์ครบครันมากกว่า 10 แพลตฟอร์ม รวมถึงแอปพลิเคชัน XM ที่รองรับ iOS และ Android และโปรแกรมเทรด MT4 และ MT5​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/05/JaJ2JG3NgJwZgE4rUUUH.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="JaJ2JG3NgJwZgE4rUUUH.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div> ​ติดตามข้อเสนอและบริการของ XM ผ่านช่องทาง Facebook, Instagram, TikTok&nbsp;เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่&nbsp;<a href="https://www.xm.com/th/" alt="https://www.xm.com/th/">https://www.xm.com/th/</a>

จัดอันดับตราสารที่นิยมเทรดมากที่สุดในประเทศไทย

<h2>ด้วยระยะเวลา 20 ปี SBI Group สร้างธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ ที่ปัจจุบันครองส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นในการเป็นผู้ให้บริการการซื้อขายหลักทรัพย์และตราสารอนุพันธ์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่จับกลุ่มตลาดนักลงทุนรุ่นใหม่</h2>
Kazunari Ogawa ​ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ (SBITO) ถือเป็นหนึ่งในทีมผู้บริหารคนสำคัญของ SBI Group Companies ทั้งยังร่วมทำงานในยุคที่ SBI ญี่ปุ่น ก่อร่างสร้างธุรกิจ

Ogawa รับตำแหน่งซีอีโอประจำประเทศไทยเมื่อมีนาคมที่ผ่านมา บริหารงาน SBITO หรือที่เรียกกันคุ้นเคยสำหรับนักลงทุนในชื่อ “สบายโตะ” ซึ่งเป็นการรับตำแหน่งต่อจาก Yukiko Roberts ผู้บริหารประจำประเทศไทยคนก่อน

เดือนมีนาคม 2563 ถือเป็นเดือนเริ่มต้นปีงบประมาณของบริษัทฯ และเป็นโอกาสอันดีในการเดินหน้าตามกลยุทธ์หลักเพื่อครองใจนักลงทุนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะการมุ่งเป้าทำความรู้จักและให้ความรู้ด้านการซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์ ค่าคอมมิชชั่นที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมหลักทรัพย์

“เป้าหมายของผมคือการขยับฐานรายได้และผลกำไรให้ดีขึ้น ด้วย 3 กลยุทธ์คือ ค่าคอมมิชชั่นที่ดีที่สุด เป็นผู้ให้ข้อมูลเรื่องการลงทุนที่ละเอียดและดีที่สุด และงานบริการที่ครอบคลุม โดยทั้ง 3 กลยุทธ์จะมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง” Ogawa กล่าว และเสริมว่า “ถ้าถามว่ากลยุทธ์ด้านไหนสำคัญที่สุด คงไม่สามารถตอบได้ เพราะกลยุทธ์แต่ละด้านจะเกื้อหนุนกัน ดังนั้นทุกข้อจึงสำคัญหมดเพื่อสร้างความเข้าใจกับกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ในประเทศไทย” 

เหตุที่มองว่ากลยุทธ์ทั้ง 3 ส่วนมีส่วนสำคัญและสัมพันธ์กัน เนื่องจากการลงทุนในหุ้นยังไม่เป็นที่แพร่หลายนักยิ่งเมื่อเทียบกับพฤติกรรมความสนใจและการลงทุนในหุ้นของนักลงทุนชาวญี่ปุ่น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่วัย 24-40 ปีซึ่งเป็นกลุ่มที่ Ogawa มั่นใจว่าจะเข้ามาขยายฐานนักลงทุนของ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ “ผมเชื่อว่าถ้าสามารถวางรากฐานตรงนี้ให้แน่น ทำให้คนรุ่นใหม่เข้าใจเรื่องการลงทุนในหุ้นได้ ก็จะเป็นการสร้างฐานความรู้และทำให้เกิดนักลงทุนหน้าใหม่ได้ในอนาคต” Ogawa กล่าว

<img class="alignnone size-full wp-image-30692" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/06/SBITO-06.jpg" alt="" width="600" height="342" />

เขากล่าวด้วยว่านักลงทุนในประเทศไทยพึ่งพาในส่วนของบทความวิเคราะห์เป็นหลัก แต่ถ้าเป็นไปได้อยากให้นักลงทุนลองทำการค้นคว้าข้อมูลเองบ้าง อย่าพึ่งพานักวิเคราะห์อย่างเดียว “การทำการบ้านเองบ้างจะทำให้คุณเป็นอิสระมากขึ้น ซึ่งมันไม่ยากนะ เอาข้อมูลจากในอินเทอร์เน็ตมาวิเคราะห์เองได้เลย โดยสิ่งที่คุณหาเพิ่มเติมเข้ามา คุณอาจจะได้เจออะไรใหม่ๆ ก็เป็นได้”

บริษัทหลักทรัพย์เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ เป็นสมาชิกในตลาดหลักทรัพย์ไทยอันดับที่ 33 เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2558 มีทุนจดทะเบียน 722 ล้านบาท และเริ่มเปิดให้ลูกค้าส่งคำสั่งซื้อขายวันที่ 16 ตุลาคม ปีเดียวกัน ซึ่งเป็นร่วมทุน กับ บมจ.หลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส (ปี 2560 ขายหุ้นจำนวนร้อยละ 45 คืนให้กับ SBI Financial Services Co., Ltd.)

Ogawa กล่าวว่าถือเป็นโอกาสอันดี ที่เขาได้รับมอบหมายให้เข้ามาบริหารธุรกิจในช่วงของการเริ่มต้น และนำกลยุทธ์ในการสนับสนุนนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นมาใช้ที่เมืองไทย เพราะอยากทำให้ SBITO เป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่ให้การสนับสนุนนักลงทุนมากที่สุดเช่นเดียวกับที่ญี่ปุ่นที่บริษัทหลักทรัพย์ SBI ให้การสนับสนุนนักลงทุนออนไลน์เทรดดิ้งมากที่สุด

<img class="alignnone wp-image-30691 size-large" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/06/SBITO-05-1024x685.jpg" alt="" width="640" height="428" />

อย่างสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นถือเป็นวิกฤตสำหรับการลงทุน แต่ในทางกลับกัน เขามองว่าเป็นโอกาสที่นักลงทุนหน้าใหม่จะเข้ามาจับตลาดตรงนี้ เนื่องจากมีการปรับตัวลงของราคาค่อนข้างมาก

“สำหรับวิกฤตทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นหลายๆ ครั้ง ต้องบอกก่อนเลยว่าถ้าเปรียบเทียบกันในกลุ่มธุรกิจหลักทรัพย์ อุตสาหกรรมจะได้รับผลประโยชน์มากกว่าได้รับผลกระทบ เนื่องจากตลาดเกิดความผันผวนขึ้น ทำให้มีสภาพคล่องเข้ามา ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดที่เราต้องทำคือหาโอกาสการลงทุนที่ดีที่สุดให้กับนักลงทุน”

ดังนั้นเมื่อมีนักลงทุนเข้ามามากขึ้น นี่จึงเป็นโอกาสที่จะมีการเปิดบัญชีมากกว่าเดิม ซึ่งการเข้ามาของนักลงทุนหน้าใหม่ ไม่ใช่แค่บริษัทเท่านั้นที่จะได้ประโยชน์ แต่โบรกเกอร์ รวมไปถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมหลักทรัพย์อีกด้วย ที่จะเติบโตไปพร้อมกัน

<img class="alignnone size-full wp-image-30690" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/06/SBITO-04.jpg" alt="" width="600" height="800" />

ภาพรวมของอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ในประเทศไทย Ogawa กล่าวเสริมด้วยว่าจากศึกษาพบว่าตลาดหุ้นไทยมีความแตกต่างจากตลาดหุ้นญี่ปุ่นในหลายๆ ด้าน ยกตัวอย่างเช่น เวลาพักระหว่างการซื้อขายช่วงกลางวันที่ประเทศญี่ปุ่น เวลาพักจะอยู่ระหว่าง 11.30-12.30 น. ใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมง แต่ประเทศไทยพักถึง 2 ชั่วโมง

ในขณะที่การซื้อขายเป็นระบบคอมพิวเตอร์และสามารถซื้อขายออนไลน์ได้ รวมไปถึงเรื่องของ Margin Trading ที่นักลงทุนไทยมองว่าจะทำให้เป็นหนี้ ทั้งๆ ทีวิธีการดังกล่าวคือการลงทุน โดยนักลงทุนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ใช้วิธีนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน

เรื่องที่น่าสนใจอีกเรื่องคือความยุ่งยากของการลงทุน เพราะที่เมืองไทยยังไม่ค่อยเป็นที่นิยม แต่ที่ญี่ปุ่นนิยมมาก ที่ญี่ปุ่นใช้มาร์จินเทรดดิ้งกันเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ที่เมืองไทยอยู่ที่ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น อาจจะด้วยกฏเกณฑ์ต่างๆ ที่มันยุ่งยากด้วย

และอีกความต่างคือการกู้ยืมมาเทรด คนไทยมองว่าเป็นหนี้ แต่คนญี่ปุ่นจะมองว่ามันคือเรื่องของการลงทุน ซึ่งนี่คือความต่างของวัฒนธรรมครับ ซึ่งตรงนี้ผมมองว่าไม่ใช่แค่ SBI เท่านั้นที่จะต้องแก้ไขเรื่องตรงนี้ แต่ถ้าทุกที่ร่วมกันทำ มันจะยิ่งเป็นการดี เพราะตลาดตรงนี้จะได้โตขึ้นอย่างรวดเร็ว

Ogawa กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่าในทุกครั้งที่ต้องย้ายฐานการทำงานจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง นิสัยของผมคือการปรับปรุงทุกอย่างให้ดีขึ้นซึ่งไม่ใช่ทำแค่วันแรก เดือนแรก หรือปีแรก แต่ผมทำตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย

“ผมรู้สึกว่าผมเติบโตขึ้นทุกครั้งที่ต้องย้ายไปประจำในสถานที่และความท้าทายใหม่ๆ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เป็นพลังผลักดันผมตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงานใน SBI ญี่ปุ่นให้ทำภารกิจสำเร็จก็คือ “โชค” และผมหวังว่าโชคจะช่วยให้ผมทำเป้าหมายที่วางไว้กับประเทศไทยได้สำเร็จเช่นกัน ภายใต้หลักคิดของการทำงานของผมที่ว่า “Honest and Respect”

&nbsp;
<ul>
 	<li>อ่านเพิ่มเติม <a href="https://forbesthailand.com/people/power-women/%e0%b8%a0%e0%b8%b1%e0%b8%97%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%a3%e0%b8%b2-%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%a5%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%a0%e0%b8%9e-%e0%b8%82.html">ภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ข้ามยุคหุ้นสู่การบริหารความมั่งคั่ง</a></li>
</ul>
&nbsp;

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความด้านธุรกิจ ติดตามได้ที่ Facebook: Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events