<h2>เภสัชกรที่สนใจการคิดค้นพัฒนายามากกว่าการทำงานในโรงพยาบาลตัดสินใจเปลี่ยนเสื้อกาวน์เป็นพนักงานบริษัทและสวมสูทผู้บริหารมืออาชีพแถวหน้าในอุตสาหกรรมเวชภัณฑ์และยาระดับโลก พร้อมนำความเชี่ยวชาญรอบด้านก่อตั้งธุรกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับคนและสัตว์ครบวงจรภายใต้แนวคิด “Value Your Live”</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เราสนใจเรื่องโพรไบโอติกตั้งแต่ทำงานในแผนกยาเกี่ยวกับอาหารเสริม และในช่วงที่คุณแม่ไม่สบายเราก็พยายามให้ท่านเสริมโพรไบโอติกเพื่อช่วยให้ร่างกายทำงานดีขึ้น เพราะเมื่อคนเราอายุเกิน 60 ปี ภูมิจะเริ่มตกและเกิดโรคต่างๆ ตามมา เช่น กระเพาะ-ปัสสาวะอักเสบ เริม งูสวัด หรือติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้ง่าย ด้วยความที่เราเป็นเภสัชกรจึงให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ต้องพิสูจน์ได้ว่ามีผลทางการรักษาหรือกินแล้วได้อะไร โดยเราน่าจะเป็นรายแรกๆ ที่ติดต่อต่างประเทศนำโพรไบโอติกเข้ามาในรูปแบบกึ่งยากึ่งอาหารเสริม ซึ่งบริษัทเริ่มต้นจากผมและพนักงาน 3 คน โดยลูกค้ารายแรกๆ ของเราเป็นโรงพยาบาลศิริราชและโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ยอดขายส่วนใหญ่เรามาจากโรงพยาบาล คลินิก ศูนย์ชะลอวัยชั้นนำต่างๆ”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ดร.ตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) หรือ IP วัย 53 ปี กล่าวถึงการเริ่มต้นธุรกิจจากความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมทั้งปริญญาตรี ด้านเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท บริหารธุรกิจ ด้านการตลาด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท บริหารธุรกิจ ด้านการเงินและธนาคารระหว่างประเทศจาก The University of Birmingham ประเทศอังกฤษ ปริญญาเอก บริหารธุรกิจ ด้านพัฒนาองค์กร หลักสูตรนานาชาติ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะเดียวกันยังแสดงฝีมือการทำงานและบริหารสร้างการเติบโตทางธุรกิจให้บริษัทยักษ์ใหญ่จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นอดีตผู้อำนวยการแผนกเวชภัณฑ์โรงพยาบาลและร้านขายยา บริษัท บริสตอล-ไมเยอร์ส สควิบบ์ (ประเทศไทย) จำกัด, อดีตผู้อำนวยการธุรกิจ แผนกเวชภัณฑ์และวิตามิน บริษัท แอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส จำกัด (ประเทศไทย), อดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟเซอร์ เวชภัณฑ์สัตว์ ประเทศไทย, อดีตกรรมการบริหาร บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด และ บริษัท เอเพ็กซ์เซล่า จำกัด รวมถึง บริษัท เอบินิส จำกัด และ บริษัท อินโน-ไบโอคอสเมด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/01/sWg3JFVAJoGQ3TE4XknQ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="sWg3JFVAJoGQ3TE4XknQ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="720,480"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“สมัยเรียนเราทำพาร์ตไทม์บริษัทยาหลายบริษัท และรู้ว่าชอบเรื่องการคิดค้นยาและสนใจด้านการสร้างการเติบโตทางธุรกิจมากกว่าเป็นเภสัชกร หลังจากเรียนจบจึงทำงานเภสัชกรไม่นานก็ออกมาเป็นผู้แทนยาที่ Sandoz ประมาณ 1 ปีได้เป็น best seller ทำให้ได้เข้าไปในทีม business development specialist เราทำอยู่ 1 ปีก็ย้ายไปเป็น Product Manager ที่ AstraZeneca ในช่วงอายุไม่ถึง 25 ปีและได้รับ ตำแหน่ง Sales Manager ขยับเป็น National Sales Manager จากนั้นตัดสินใจเข้าทำงานที่ Bristol Myers Squibb นั่งเก้าอี้ Director ดูแลแผนกยาทั้งหมดกว่า 5 ปี และออกในช่วงปรับโครงสร้างองค์กร”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“โดยนำเงินที่ได้รับไปเปิดพอร์ตหุ้น จาก 5 ล้านบาทผ่านไป 14 ปีเกือบร้อยล้านบาท ซึ่งระหว่างนั้นเรายังกลับไปทำงานในกลุ่ม consumer โดยดูแลแผนกยาและช่วยก่อตั้งกลุ่มวิตามินอาหารเสริมของ Abbott Laboratories และย้ายไปอยู่ Pfizer เวชภัณฑ์สัตว์ประมาณ 4 ปี ซึ่งเราเป็น MD คนแรกที่ไม่ใช่สัตวแพทย์แต่เป็นเภสัชกร จนกระทั่งคุณแม่ป่วยเราจึงลาออกมาดูแลท่านโดยรับงานสอนหนังสือควบคู่กับเป็นโค้ชฝึกอบรมและ strategic planning เช่น เข้าไปช่วยทำแผน 5 ปีให้โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ดร.ตฤณวรรธน์ทบทวนเส้นทางการทำงานที่ผ่านมาจากผู้บริหารมืออาชีพสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจเต็มตัวในปี 2556 ด้วยการปรับโครงสร้าง บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพทั่วไปตั้งแต่ปี 2549&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์สุขภาพและนวัตกรรมความงามสำหรับคนที่ดำเนินการโดยบริษัทแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยารักษาโรค (pharmaceutical product) เช่น Zensil, Bella Para, Zimmex, Virogon, Aller-Tab, Ingesic, Metforin, P-Fen, Omezole, Supenac, Bubble-X, Itrazole, Zyritine, Pyrana ซึ่งบริษัทมีโรงงานผลิตยาของตัวเองในประเทศไทย 2 แห่งที่จังหวัดอยุธยาและสมุทรปราการ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ส่วนผลิตภัณฑ์รักษาสุขภาพและชะลอวัย (wellness and anti-aging product) เน้นการสร้างสมดุลอวัยวะภายในร่างกายหรือโภชนเภสัช (nutraceutical) พัฒนาจากสารอาหารที่มีหลักฐานการวิจัยด้านประสิทธิภาพการรักษา ป้องกันโรค และส่งเสริมสุขภาพ เช่น Probac7, Probac10 Plus, Probac BL, Beta Glucan Plus, Pure Krill Oil, PreBO, Astacurmin, ProLivo, Bravo Fit, Wonder Fit, Probac Fit, Fibo Fit, Protein Fit Plus, Probac Ultra Collagen, Multivitamin, Magnesium Plus B Complex, Probac Mood, D-Choless และ Prohare รวมถึงเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ TS6 Synbiotic&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สุดท้ายเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมความงาม (aesthetic innovation product) เช่น ยาสีฟัน YUUU และเป็นตัวแทนจำหน่าย TS6 Lady Health​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/01/AAHfFftTdPm3hHqVY9ym.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="720px,480px" data-align="center" data-index="3" data-file-name="AAHfFftTdPm3hHqVY9ym.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,480" data-origin="720px,480px" style="width: 720px; height: 480px;"></figure></div> ทางลัดธุรกิจโตติดปีก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ความมุ่งมั่นในการเสริมความแข็งแกร่งด้านเงินทุนสำหรับขยายอาณาจักรอย่างต่อเนื่องได้รับการวางแผนเส้นทางนับตั้งแต่เริ่มต้นก้าวแรกทางธุรกิจ ด้วยการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai โดยสามารถย้ายกระดานเทรดซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หมวดธุรกิจของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ปี 2567 พร้อมยกระดับความเชื่อมั่นองค์กรสู่โอกาสการเติบโตในระยะยาว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ที่ผ่านมาเราทำงานทั้งอาชีพอิสระ พนักงานบริษัท ผู้บริหาร นักลงทุน เมื่อเป็นผู้ประกอบการก็ทำในสิ่งที่เคยโค้ชเรื่องการเขียนแผน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราชอบตั้งแต่สมัยเป็นลูกจ้างมืออาชีพ ในช่วงก่อตั้งธุรกิจเราจึงเขียนแผนว่าเราจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ใน 5 ปี เพราะเรามองธุรกิจระยะยาวและการระดมทุนทำให้เรามีเงินขยายกิจการเติบโตทั้ง organic และ inorganic เหมือนอย่าง Pfizer โดยเรานำเงินระดมทุนที่ได้ไปซื้อโรงงาน Modern Pharma และซื้อต่อจาก TEVA เป็นบริษัทยาอันดับ 1 ของอิสราเอล ซึ่ง takeover มาก่อน เราซื้อ LAB Pharmacy, โรงพยาบาลนครพัฒน์, เมตตา เมดเทค ทำเรื่องเวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพบำบัด รวมถึงร่วมทุนกับ Thai Union ทำอาหารเสริมโภชนบำบัดจากปลา และจับมือ Asian Seafoods ในส่วนอาหารสัตว์ เรามองว่าถ้าไปคนเดียวอาจจะไปได้เร็ว แต่ไปได้ไม่ไกลเท่ากับมี partnership”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ตฤณวรรธน์กล่าวถึงทางลัดสร้างการเติบโตทางธุรกิจผ่านการซื้อกิจการและการจับมือกับพันธมิตรก่อตั้งบริษัทร่วมทุน รวมถึงร่วมมือวิจัย พัฒนา และต่อยอดนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับการติดปีกเงินทุนและการเติบโตหลังจาก บริษัท อินโนบิก แอลแอล โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 20% ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 1.04 พันล้านบาทในปี 2565 พร้อมช่วยต่อยอดงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพครบวงจร เช่น เวชภัณฑ์ที่ใช้นวัตกรรมทางยา เวชภัณฑ์สำหรับสุขภาพดวงตา โภชนเภสัชและอาหารเสริม ยาสมุนไพรไทย อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เป็นต้น ภาพ: วรัชญ์ แพทยานันท์ และ IP เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/people/dine-with-the-boss/richard-maloney-ceo-uob-sustainable-growth" alt="Richard Maloney ซีอีโอใหม่นำ UOB ไทยเติบใหญ่ในวิถียั่งยืน">Richard Maloney ซีอีโอใหม่นำ UOB ไทยเติบใหญ่ในวิถียั่งยืน</a>​ ​<a href="https://www.mebmarket.com/ebook-338717-Forbes-Thailand-December-2024" alt="อ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนธันวาคม 2567 ในรูปแบบ e-magazine">อ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนธันวาคม 2567 ในรูปแบบ e-magazine</a><div class="se-component se-image-container __se__float-none" contenteditable="false"><figure><a href="https://www.mebmarket.com/ebook-338717-Forbes-Thailand-December-2024" alt="https://www.mebmarket.com/ebook-338717-Forbes-Thailand-December-2024" data-image-link="image"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/12/N7XJzBErAUPSeEjXJA7H.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="N7XJzBErAUPSeEjXJA7H.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="300px,auto" data-rotate="" origin-size="549,720" data-image-link="https://www.mebmarket.com/ebook-338717-Forbes-Thailand-December-2024" style="width: 300px; height: auto;" data-index="2"></a></figure></div>

ตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ ค้นสูตรต่างเสริมภูมิแกร่ง IP

<h2 class="p1">SwipeRx แอปพลิเคชันด้านเภสัชกรรม ระดมทุน 27 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในรอบ Series B นำโดย MDI Ventures จากอินโดนีเซีย ร่วมกับ Bill &amp; Melinda Gates Foundation, Johnson &amp; Johnson Impact Ventures, Susquehanna International Group และนักลงทุนรายอื่นๆ</h2>
<img class="alignnone wp-image-63290" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/05/com.swiperx.png" alt="SwipeRx" width="500" height="367" />
แอปพลิเคชันของ SwipeRx ได้รับการออกแบบเป็นการเฉพาะเพื่อให้เภสัชกรหรือผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถเชื่อมต่อและซื้อขายเภสัชภัณฑ์ระหว่างภาคเอกชน (B2B) ตลอดจนรับข่าวสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลภายในอุตสาหกรรม
สำหรับเงินทุนที่ได้รับในรอบล่าสุดนี้ บริษัทเตรียมนำไปใช้เพื่อเร่งการการเติบโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมุ่งเน้นไปที่ตลาดอินโดนีเซียเป็นหลัก
“การระดมทุนรอบนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะพัฒนาฟังก์ชั่นต่างๆ เพื่อช่วยให้เภสัชกรทำงานอย่างมืออาชีพมากยิ่งขึ้น และบรรลุจุดประสงค์อันสูงสุด ซึ่งก็คือการนำบริการทางสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพไปรักษาและช่วยชีวิตผู้ป่วยทั่วประเทศ” Farouk Meralli ผู้ก่อตั้งและซีอีโอบริษัท ซึ่งเคยทำงานในตำแหน่งที่ปรึกษาให้กับบริษัท Johnson &amp; Johnson และ Pfizer กล่าวในแถลงการณ์
ปัจจุบัน SwipeRx ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2012  มีสำนักงานในสิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย เวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา ทำงานร่วมกับองค์กรด้านการดูแลสุขภาพอย่าง AstraZeneca, Clinton Health Access Initiative, Stanford University, University of Oxford และอีกมากมาย ทั้งยังได้รับการยอมรับจากเภสัชกร ซึ่งลงทะเบียนใช้งานบนแพลตฟอร์มมากกว่า 235,000 ราย
โดยก่อนหน้านี้ สตาร์ทอัพซึ่งใช้ชื่อเดิมว่า mClinica กวาดเงินระดมทุนกว่า 6.3 ล้านเหรียญในรอบ Series A ปี 2017
แปลและเรียบเรียงจากบทความ Singapore Pharmacy Platform Startup Lands $27 Million In Bill Gates-Backed Funding Round โดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: <a style="color: #003300;" href="https://forbesthailand.com/commentaries/insights/%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%81-thematic-etf-%e0%b8%ab%e0%b8%b8%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%ae%e0%b8%a5%e0%b8%97%e0%b9%8c%e0%b9%81%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b9%8c.html">รู้จัก Thematic ETF ‘หุ้นเฮลท์แคร์จีน’ กับ KURE</a>
<div class="single-content-writer-box">
<div>

<hr />

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a style="color: #003300;" href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

</div>
</div>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events