นับเป็นข่าวที่สร้างความสะเทือนใจให้ชาวไทยเเละเเฟนบอลทั่วโลก หลัง สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ (Leicester City) ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ แสดงความเสียใจต่อการจากไปของ 'วิชัย ศรีวัฒนประภา' ประธานสโมสรฯเเละเจ้าของอาณาจักรดิวตี้ฟรี คิง เพาเวอร์  พร้อมอีก 4 ผู้เสียชีวิตที่ร่วมโดยสารบนเฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุตกลงบนบริเวณลานจอดรถ ใกล้สนามฟุตบอลคิง เพาเวอร์สเตเดียม ในเมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังจบเกมการแข่งขันเพียง 1 ชั่วโมง

'วิชัย ศรีวัฒนประภา'  ชายวัย 60 ปี ผู้เป็นเศรษฐีอันดับ 5 ของไทยจากการจัดอันดับความมั่งคั่งโดยนิตยสาร Forbes ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 1.625 แสนล้านบาท ในปี 2561 นอกจากความร่ำรวยมหาศาลเเล้ว เขายังเป็นหนึ่งในนักธุรกิจชั้นนำที่ได้รับการยกย่องให้เป็น "มหาเศรษฐีใจบุญ" ด้วยการทำคุณประโยชน์ให้สังคม ทั้งการบริจาคเงินเเละดำเนินโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
<ul>
 	<li><a href="http://www.forbesthailand.com/news-detail.php?did=2421">10 อันดับอภิมหาเศรษฐีไทยประจำปี 2561 จากการจัดอันดับโดย FORBES</a></li>
</ul>
ในวันนี้สนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม เต็มไปด้วยความเศร้าโศก แฟนบอลจำนวนมากนำช่อดอกไม้มาร่วมแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีคนเขียนข้อความแสดงความขอบคุณวิชัย 'สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำเพื่อสโมสร'

“สายสัมพันธ์ที่พวกเขามีกับชาวเมืองเลสเตอร์มีมากกว่าเรื่องฟุตบอล เพราะเขากับลูกชายและอาณาจักร คิง เพาเวอร์ ได้ช่วยเหลือองค์กรการกุศลท้องถิ่นและโรงพยาบาล" Matt Piper อดีตปีกของทีมเลสเตอร์ซิตี้ บอกกับบีบีซี

โดยวิชัยได้บริจาคเงิน 2 ล้านปอนด์  (ประมาณ 102 ล้านบาท) เพื่อสร้างอาคารโรงพยาบาลเด็กในเลสเตอร์ จากโครงการระดมทุน 30 ล้านปอนด์เพื่อยกระดับโรงพยาบาล พร้อมมอบทุนการศึกษาให้มหาวิทยาลัยเลสเตอร์อีกด้วย
<ul>
 	<li><a href="http://www.forbesthailand.com/news-detail.php?did=2848">ยืนยัน ‘วิชัย ศรีวัฒนประภา’ เจ้าของคิง เพาเวอร์ เสียชีวิต แฟนบอล Leicester City ทยอยไว้อาลัย</a></li>
</ul>
<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/8fe1493e339b32eeca5935175562319f.jpg" alt="" />
<h3>คิง เพาเวอร์ หนุน “ตูน บอดี้สแลม” ก้าวคนละก้าว</h3>
ปรากฎการณ์ "ก้าวคนละก้าว"โครงการรวมใจคนไทย โดยนักร้องวงร็อกชื่อดัง “อาทิวราห์ คงมาลัย" (ตูน บอดี้สแลม) ประกาศวิ่งจากสุดเขตแดนใต้ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ไปจนถึงเหนือสุดแดนสยาม อำเภอแม่สาย จังหวัด เชียงราย รวมระยะทาง 2,191 กม. ผ่าน 20 จังหวัด เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนถึง 25 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา เพื่อระดมทุนซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับ 11 โรงพยาบาล

โดยเจ้าของคิง เพาเวอร์ ประเดิมร่วมบริจาคเงินก้อนเเรก 24 ล้านบาท ก่อนการเปิดเส้นทางดังกล่าว ต่อมาเมื่อขบวนวิ่งก้าวคนละก้าวเดินทางมาถึงโรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ วิชัยเเละลูกชายอย่าง 'อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา' ก็ได้ร่วมบริจาคเงินเพิ่มอีก 53 ล้านบาท รวมกับผู้บริจาคในหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งสิ้น 89 ล้านบาท เเละคิง เพาเวอร์ได้บริจาคเพิ่มอีก 11 ล้านบาท เพื่อให้ยอดทะลุ 100 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมอบเงิน 27 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการฉายภาพยนตร์ในโครงการ “ก้าวคนละก้าว” ให้คนไทยได้ชมฟรีจำนวน 750,000 ที่นั่งทั่วประเทศ

"หากปราศจากซึ่งการสนับสนุนจากคุณวิชัยและกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ กิจกรรมหลายอย่างของก้าวคนละก้าว ก็คงไม่สามารถเกิดขึ้นและสำเร็จลงได้ ท่านคือผู้สนับสนุนและเป็นแรงบันดาลใจของการเป็นผู้ให้อย่างแท้จริง" ตูน บอดี้สแลม โพสต์อินสตาเเกรมไว้อาลัยต่อการจากไปของประธานวิชัย

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/72f5ab5efb99e08124b0c8c1dd3981a2.jpg" alt="" />
<h3>โครงการแจกลูกฟุตบอล 1 ล้านลูก แก่เยาวชนทั่วประเทศไทย </h3>
คิง เพาเวอร์ดำเนินโครงการล้านลูกล้านพลังสร้างฝันเด็กไทย โดยจะมอบลูกฟุตบอล 1 ล้านให้กับเด็กไทยเเละจะสร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียม จำนวน 100 สนามทั่วประเทศภายใน 5 ปี (ตั้งเเต่ปี 2561-2565) เพื่อให้เยาวชนให้มีพื้นที่ออกกำลังกาย ห่างไกลจากยาเสพติด เเละต้องการสานฝันให้เยาวชนที่รักกีฬาแต่ยังขาดโอกาสได้ทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง

โดยมีการขยายผลโครงการไปสู่กิจกรรมพัฒนาทักษะด้านกีฬา อย่างโครงการ "FOX HUNT ตามล่าจิ้งจอกสายพันธุ์สยาม” ที่จะมอบทุนการศึกษาและโอกาสสำคัญในชีวิตที่เงินไม่สามารถซื้อได้ ด้วยการไปฝึกทักษะกีฬาฟุตบอลที่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ และสโมสร OH Leuven ของเบลเยียม ซึ่งคิง เพาเวอร์เป็นเจ้าของ เพื่อต่อยอดอนาคตของนักเตะเยาวชนไทยได้มีช่องทางเข้าไปเล่นในลีกฟุตบอลระดับยุโรป

นอกจากนี้ยังสร้างรายได้ให้ท้องถิ่น โดยการนำสินค้าชุมชนอย่างคอลเลคชั่น INDIGO (อินดิโก้) ไปวางจำหน่ายเป็นของที่ระลึกสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ด้วย

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/0ba0fd8821fa43c346a6c31ccc1f6826.jpg" alt="" />
<h3>สร้างห้องน้ำให้กับ 10 ชุมชนท่องเที่ยว</h3>
โครงการ “พลังคนไทย สุขาสุขใจ” ออกแบบสุขาสุขใจในรูปแบบสากล สำหรับชาย หญิงและผู้พิการ เพื่อให้เป็นห้องน้ำของทุกคน ที่ไม่ใช่แค่สะอาด แต่ต้องสะดวก สบาย ปลอดภัย พร้อมดำเนินการจัดสร้างให้แล้วเสร็จเพื่อไปติดตั้งยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวไทยให้กับชาวไทยและต่างชาติ

โดยคิง เพาเวอร์ ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายการออกแบบและก่อสร้างห้องน้ำในปีแรกนี้ให้กับ 10 ชุมชนท่องเที่ยว มูลค่า 10 ล้านบาท รวม 70 ห้อง ซึ่งแห่งแรกที่จัดสร้างขึ้นคือที่สวนพฤกษศาสตร์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จังหวัดเชียงใหม่
<h3>ดันเด็กไทยไปเรียนเมืองนอก</h3>
ขณะที่ส่วนของการศึกษา 'มูลนิธิ คิง เพาเวอร์' ร่วมสร้างอนาคตเด็กไทยมา 13 ปี โดยการสนับสนุนอุปกรณ์การเรียน สื่อการเรียนการสอน ช่วยซ่อมแซมอาคารเรียนและสร้างห้องสมุด สร้างรากฐานที่ดีให้คนไทยมีโอกาสไปหาความรู้ในต่างประเทศ เพื่อกลับมาช่วยพัฒนาประเทศ ด้วยการร่วมกับมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ มอบทุนการศึกษาระดับปริญญาโทให้กับคนไทยเเละมอบทุนให้เด็กไทยไปเรียนต่อและฝึกฟุตบอลในอคาเดมีของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้
<ul>
 	<li><a href="http://forbesthailand.com/people-detail.php?did=626">อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประวัติศาสตร์บทใหม่ของ Leicester City</a></li>
</ul>
Forbes Facts
<ul>
 	<li>วิชัยเริ่มบริหารงานในธุรกิจของครอบครัวบริษัทศรีอักษร ในปี 2523 จากนั้นสร้างตัวเเละมีชื่อเสียงโด่งดังจากการก่อตั้งบริษัท King Power International ในปี 2532</li>
 	<li>เขาชื่นชอบกีฬาโปโลอย่างมาก จนในปี 2548 ได้จัดทีมร่วมกับราชวงศ์อังกฤษ เพื่อออกแข่งขันในรายการจักรวรรดิคัพ</li>
 	<li>เข้าซื้อกิจการสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2553 ในสมัยที่ทีมมีฉายาว่า "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" ต่อมาได้รับฉายาใหม่ว่า “จิ้งจอกสยาม”</li>
 	<li>หลังวิชัยนั่งเก้าอี้ประธานสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้คว้าแชมป์ลีกแชมเปี้ยนชิปได้ในฤดูกาล 2013-2014 ได้สิทธิกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ก่อนประสบความสำเร็จขั้นสุด ด้วยการคว้าแชมป์ฟรีเมียร์ได้ในฤดูกาล 2015-2016 ถือเป็นการเปิดประวัติศาสตร์ใหม่ให้สโมสรแห่งนี้</li>
</ul>
&nbsp;

ภาพ REUTERS/Andrew Boyers, AFP, king power

เปิดโครงการช่วยเหลือสังคม สานฝันเยาวชนไทยของมหาเศรษฐีใจบุญ 'วิชัย ศรีวัฒนประภา'

เราผิดหวังมากตอนแชมเปียนชิพ ฤดูกาล 2012-2013 เราแพ้วัตฟอร์ด แพ้เพลย์ออฟ ความฝันเราพังทลาย สิ่งที่หวังมาตลอดว่านี่แหละ...ปีนี้แหละ หายไปทันที แต่คุณพ่อก็บอกว่าดีแล้ว ถือว่าเป็นบทเรียน ให้รู้จักเสียบ้างว่าความผิดหวังเป็นอย่างไร ผมก็บอกโอเค..เข้าใจแล้ว เรากลับมาวางแผนใหม่ และขึ้นชั้นในปีถัดมา” อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา รองประธานสโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ซิตี้ และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เล่าให้ Forbes Thailand ฟัง เมื่อครั้งที่เราพบเขาหลังการแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015-2016 เริ่มต้นได้เพียง 6 นัด (อ่านบทสัมภาษณ์อัยยวัฒน์แบบเต็มได้ ใน Forbes Thailand ฉบับพฤศจิกายน ปี 2015)

แม้การคว้าถ้วยแชมป์มาครองจะเป็นความใฝ่ฝันของทุกทีมในลีกฟุตบอลอันดับหนึ่งของอังกฤษ แต่ เลสเตอร์ซิตี้ ซึ่งฤดูกาลที่แล้ว (2014-2015) รั้งอันดับ 14 ก็ไม่เคยคิดว่าความฝันนั้นจะกลายเป็นความจริงในระยะเวลาอันรวดเร็ว เรื่องราวดังเทพนิยายของทีม “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” ไม่เพียงสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการฟุตบอลอังกฤษ แต่ยังเป็นโอกาสสู่ความมั่งคั่งที่มากขึ้นของ วิชัย ศรีวัฒนประภา ผู้เป็นพ่อของ อัยยวัฒน์ ที่ขณะนี้มูลค่าทรัพย์สินรวมของ วิชัย จากการจัดโดย Forbes ไต่อันดับขึ้นไปสูงถึง 3.25 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1.16 แสนล้านบาท มากกว่าปี 2015 ซึ่งอยู่ที่ 2.5 พันล้านเหรียญ (อ่าน “วิชัย ศรีวัฒนประภา พา “เลสเตอร์ซิตี้” เขย่าอันดับมหาเศรษฐีไทย” ได้ใน Forbes Thailand ฉบับมิถุนายน ปี 2016)

Forbes Thailand พบอัยยวัฒน์อีกครั้ง ในวันที่พ่อของเขานำคณะผู้บริหาร ผู้จัดการทีม นักเตะ และคณะผู้ฝึกสอนของ เลสเตอร์ซิตี้ และแน่นอน...ถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก มาฉลองชัยในไทย ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา

&nbsp;

หลังได้แชมป์พรีเมียร์ลีกแล้วเคยประเมินไหมว่ามูลค่าของสโมสรเลสเตอร์ซิตี้อยู่ที่เท่าไร

“ผมไม่เคยประเมิน แต่ถ้าให้คิดเองเร็วๆ น่าจะสัก 400 ล้านปอนด์ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นตัวเลขที่ถูกต้องขนาดนั้น”

&nbsp;

รายได้ฤดูกาล 2015/16 เป็นอย่างไร

“ประมาณ 110 ล้านปอนด์ไม่เกินนี้ เป็นส่วนแบ่งจากพรีเมียร์ลีก 78-79 ล้านปอนด์ ค่าบัตรเข้าชมประมาณ 5 ล้านปอนด์ ของที่ระลึกไม่เยอะมาก น่าจะ 2-3 ล้านปอนด์ ที่เหลือเป็นสปอนเซอร์ ซึ่งก่อนจะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก มีสปอนเซอร์เสนอซื้อพื้นที่บนอกเสื้อเข้ามาเกือบ 10 ล้านปอนด์ ต้องไปถาม คิง เพาเวอร์ ก่อนว่าจะขายหรือไม่ เพราะเซ็นสัญญายาว

“เสื้อเป็นหนึ่งในของที่ระลึกที่ขายดีมาก ฤดูกาลล่าสุดเราขายเสื้อได้ประมาณ 6 หมื่นตัว ฤดูกาลหน้าเลยวางว่าจะขายที่เลสเตอร์ 1.2 แสนตัว และที่เมืองไทยอีก 2 หมื่นตัว ผมไม่กล้าเอามาขายเยอะ กลัวคนไม่ซื้อ เพราะคนไทยมีหลายทีมให้เลือกซื้อ พอสั่งมาเยอะๆ แล้วไม่มีคนซื้อ ผมก็รู้สึกไม่ดี (หัวเราะ) ปีแรกที่ทำทีม ผมสั่งมาขายที่ไทย 500 ตัว เชื่อมั้ยว่ายังเหลือเลยครับ”

&nbsp;

การได้แชมป์พรีเมียร์ลีกช่วยทำให้เมืองไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้นไหม

“มากครับ วันที่เราฉลองแชมป์กันที่เลสเตอร์ ชาวเมืองก็ชูธงไทยกันเยอะมาก และชาวเลสเตอร์ก็วางแผนมาเที่ยวเมืองไทยเยอะขึ้น”

&nbsp;

สื่อมักเรียกเลสเตอร์ซิตี้ว่าเป็นทีมรองบ่อน แล้วคุณมองตัวเองอย่างไร

“เราเป็นทีมรองบ่อนตั้งแต่แรกแล้วครับ และผมก็ชอบที่จะเป็นแบบนี้และจะเป็นต่อไป พอเราอยู่ในตำแหน่งที่เหนือกว่าทีมใหญ่ เขาจะเป็นฝ่ายกดดัน ไม่ใช่เราที่กดดัน นี่คือจุดที่เปลี่ยนให้เลสเตอร์ซิตี้มาถึงวันนี้ เวลาเป็นทีมรองบ่อนคนจะเชียร์มากกว่า เพราะคนดูอยากเห็นเซอร์ไพรส์

“ผมคิดว่าฤดูกาลหน้าก็คงเหมือนเดิม คือด้วยขนาดของสโมสรและนักเตะ เราไม่มีทางสู้ทีมใหญ่ได้ เขาใช้เงินซื้อ 1 ตัว เท่ากับเราซื้อ 4-5 ตัว งบมันต่างกัน แต่เราก็ยังจะใช้วิธีการซื้อตัวแบบนี้ ใช้วิธีการเล่นแบบนี้เหมือนเดิม แต่เราจะสร้างสปิริตของทีมให้แน่นมากขึ้น ผมว่าตรงนี้สำคัญกว่า”

&nbsp;

<hr />

<a href="http://goo.gl/fFO1hE">คลิกอ่าน "เลสเตอร์ ซิตี้ จัดให้ วิชัย ศรีวัฒนประภา มหาเศรษฐีแสนล้านคนใหม่" ฉบับเต็ม ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ June 2016</a>
<a href="http://goo.gl/fFO1hE"><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/45c118021313fc065b87a4f7e8e1b670.png" alt="" width="240" height="318" /></a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events