<h2>ภูเก็ตเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกาะสวรรค์เขตร้อนที่โอบล้อมด้วยทะเลอันดามันแห่งนี้ ได้พัฒนาจากจุดหมายปลายทางด้านรีสอร์ตริมชายหาดยอดนิยม กลายเป็นหนึ่งในตลาดที่อยู่อาศัยระดับหรูที่น่าดึงดูดที่สุดในโลก พร้อมด้วยแบรนด์สินค้าหรูระดับแนวหน้า ร้านอาหารดาวมิชลิน การศึกษา และการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพระดับนานาชาติ ซึ่งล้วนเป็นเชื้อเพลิงกระตุ้นความสนใจกลุ่มเศรษฐีทั่วโลก</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในงาน LivePhuket: A Global Luxury Lifestyle Destination ซึ่ง C9 Hotelworks บริษัทที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยว โรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ ร่วมจัดขึ้นกับ Property Guru International (ประเทศไทย) ได้มีการเผยรายงาน The Phuket Luxury Report ซึ่งเผยให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของภูเก็ต&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Bill Barnett กรรมการผู้จัดการของ C9 Hotelworks ได้เปิดเผยผลการวิจัยที่สำคัญจาก The Phuket Luxury Report โดยมีปัจจัยต่างๆ เช่น ราคาที่แข่งขันได้ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน และความต้องการด้านไลฟ์สไตล์ เป็นตัวสร้างอุปสงค์ที่พุ่งสูงขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Barnett กล่าวว่า “เกาะแห่งนี้เป็นแหล่งกำเนิดของแบรนด์โรงแรมหรูระดับโลกสองแบรนด์ ได้แก่ Aman Resorts และ Banyan Group ปัจจัยสนับสนุนอุปสงค์ด้านไลฟ์สไตล์หรูหราของที่นี่ ได้แก่ อาคารผู้โดยสารสำหรับเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว โรงแรมระดับอัลตร้าลักชัวรีที่ได้รับรางวัลห้าแห่ง ซึ่งมีราคาห้องพักเฉลี่ยเกิน 1,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อคืน ท่าจอดเรือระดับมาตรฐานสากลสี่แห่งที่รองรับเรือยอตช์สุดหรู โรงเรียนนานาชาติ 13 แห่ง และโรงพยาบาลระดับแนวหน้าที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ไฮไลต์สำคัญคือโครงการของ Banyan Group ผู้บุกเบิกผู้พัฒนา Laguna Phuket ซึ่งเป็นชุมชนปลายทางแบบบูรณาการขนาด 1,000 เอเคอร์ ที่ปัจจุบันดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ 1 ล้านคนต่อปี ประกอบด้วยโรงแรมและรีสอร์ตระดับโลก 8 แห่ง, สนามกอล์ฟที่ได้รับรางวัล, คลินิกสุขภาพ BDMS, โรงเรียนอนุบาลนานาชาติของตัวเอง และบ้านพักส่วนตัว 3,000 หลัง​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false" style=""><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/11/QHA2fYZNBPY2N6zdfdMo.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="QHA2fYZNBPY2N6zdfdMo.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="1600,1132" style="width: 720px; height: auto;" data-index="0"><figcaption><div>&nbsp;ปี 2024 นี้จำนวนนักเรียนในโรงเรียนนานาชาติ 13 แห่งในภูเก็ตเพิ่มขึ้น 17% เทียบกับปี 2023</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อีกหนึ่งโครงการสำคัญคือ Gardens of Eden พื้นที่อยู่อาศัยเพื่อสุขภาพที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติในบางเทา ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนรุ่นใหม่ ในภาคส่วนระดับบนที่มีมูลค่ามากกว่าหมื่นล้านเหรียญ (337 พันล้านบาท) ตามรายงาน&nbsp; &nbsp; นอกจากนี้ ภายในงานผู้เชี่ยวชาญชั้นนำได้มาร่วมกันวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของภาคส่วนหรูหราในภูเก็ต โดยมีการอภิปรายภายใต้การดำเนินรายการครอบคลุมหัวข้อต่างๆ เช่น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ข้อมูลเชิงลึกจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับหรูของภูเก็ต โดยมี Stuart Reading รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Laguna Resorts และ Ravi Chandran ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กรของ Gardens of Eden มาร่วมพูดคุย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หัวข้อเกี่ยวกับแบรนด์หรู โดยวิไลพร ปิติมานะอารี ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มงานปฏิบัติการสาขาเขต 8 ภูเก็ต เซ็นทรัลพัฒนา, ไปรยา ลาภาโรจน์กิจ กรรมการบริหารของ Mercedes-Benz ภูเก็ต และนายแพทย์ฐิฏิ&nbsp;สมุทรรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการบริหารโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การนำเสนอ Food for Thought เกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของร้านอาหารระดับมิชลินในภูเก็ต โดย Marco Turatti หัวหน้าพ่อครัวบริหารของ InterContinental Phuket Resort และแทน-ภากร&nbsp;โกสิยพงษ์ เชฟและเจ้าของร้าน&nbsp;The&nbsp;GOAT&nbsp;และ LAAD Phuket​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/11/WaBtK4n6CNSTXrak9KWh.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="WaBtK4n6CNSTXrak9KWh.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="720px,auto" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" origin-size="8100,10799" style="width: 720px; height: auto;" data-index="1"><figcaption><div> ราคาคอนโดมิเนียมลักชัวรีในภูเก็ตเฉลี่ยอยู่ที่ 231,579 บาทต่อตารางเมตร</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Barnett กล่าวเสริมว่า “ในยุคหลังการระบาด อสังหาริมทรัพย์ของภูเก็ตมีการเติบโตแบบทวีคูณในภาคที่อยู่อาศัยระดับหรูหลายล้านเหรียญ แนวโน้มนี้มีรากฐานมาจากการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต โดยเน้นที่พื้นที่ บริการระดับนานาชาติ และวิถีชีวิตที่หลากหลาย Live Phuket เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในคุณค่าของพลเมืองโลก”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Ravi Chandran ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กรของ Gardens of Eden กล่าวว่า “ภูเก็ตเป็นหนึ่งในตลาดหรูหราที่น่าตื่นเต้นที่สุดในโลก ดึงดูดครอบครัวและบุคคลที่ใส่ใจในไลฟ์สไตล์รุ่นใหม่ ที่แสวงหาการลงทุนที่เหมาะสมกับความต้องการของพวกเขา ที่ Gardens of Eden เรากำลังพัฒนาพื้นที่ใช้ชีวิตแบบใหม่ที่หน้าประตูบ้านของคุณ พร้อมสวนสาธารณะ ทะเลสาบ และกิจกรรมสันทนาการเพื่อสุขภาพ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 70% ของพื้นที่ของเรา ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากหาดบางเทาเพียงไม่กี่ก้าว”​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วิไลพร ปิติมานะอารี ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มงานปฏิบัติการสาขาเขต 8 ภูเก็ต เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “เราสังเกตเห็นความต้องการแบรนด์พรีเมียมที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก และเพิ่งเปิดตัวชั้นสำหรับสินค้าหรูหราโดยเฉพาะที่เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า ซึ่งจัดแสดงแบรนด์ชั้นนำมากมาย เช่น Prada, Louis Vuitton, Gucci, Rolex และอื่นๆ นี่เป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนของการเปลี่ยนแปลงสู่ตลาดบนของภูเก็ต ซึ่งตอนนี้กำลังเกิดขึ้นทั่วทั้งเกาะ” ภาพ:&nbsp;C9 Hotelworks และ Gardens of Eden​ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/marketing/travel/rs-group-invest-entertainment-complex" alt="RS ประกาศลงทุน Entertainment Complex ตั้งบริษัทย่อยผนึกพาร์ทเนอร์ ปักธงภูเก็ต-พังงา">RS ประกาศลงทุน Entertainment Complex ตั้งบริษัทย่อยผนึกพาร์ทเนอร์ ปักธงภูเก็ต-พังงา</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ภูเก็ตเนื้อหอม! โตรับดีมานด์ไลฟ์สไตล์หรูจากทั่วโลก ราคาคอนโดฯ ลักชัวรีเฉลี่ย 231,579 บาทต่อตร.ม.

<h2>C9 Hotelworks เผยผลสำรวจธุรกิจโรงแรมในภูเก็ตผุดโรงแรมรอการอนุญาตกว่า 1,295 แห่ง หวั่นกระทบการท่องเที่ยวภูเก็ตไม่ได้มาตรฐาน แนะภาครัฐเร่งออกใบอนุญาตแก้ไขปัญหา</h2>
จังหวัดภูเก็ตนับเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่สุดในเอเชียที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลเข้ามามากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกแต่นักท่องเที่ยวหลายล้านคนที่เดินทางมาเยือนภูเก็ตในแต่ละปีอาจเข้าพักในโรงแรมที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

สอดคล้องกับรายงานฉบับใหม่ของ C9 Hotelworks บริษัทที่ปรึกษาด้านการโรงแรม ระบุว่า โรงแรมในภูเก็ตที่มีใบอนุญาตอย่างถูกต้องมีเพียงหนึ่งในสี่ของจำนวนโรงแรมทั้งหมด (429 แห่งจาก 1,724 แห่ง) จากจำนวนโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาต 1,295 แห่งในภูเก็ต มีเพียง 6 แห่งเท่านั้นที่คำร้องได้รับใบอนุญาตแล้ว อีก 1,001 แห่งกำลังรอการอนุมัติ และอีก 288 แห่งยังไม่ได้ยื่นคำร้อง

<figure><img style="width: 300px; height: 253px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/d08b9f277846ae9f5f9984125b075744.png" alt="" width="680" height="574" /><figcaption> Bill Barnett กรรมการผู้จัดการ C9 Hotelworks</figcaption></figure>

Bill Barnett กรรมการผู้จัดการ C9 Hotelworks ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำระดับโลกด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยว เปิดเผยถึงประเด็นความล่าช้าหลังจากปลายปีที่ผ่านมา โชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในช่วงนั้น ได้ประกาศมาตรการจัดการกับโรงแรมที่ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบการ รณรงค์เรียกร้องให้นักเดินทางไม่เข้าพักในโรงแรมที่ไม่ได้จดทะเบียน โดยกำหนดเส้นตายในวันที่ 31 มกราคม 2560 ซึ่ง 6 เดือนที่ผ่านมาสถานการณ์ก็ยังคงไม่ดีขึ้น เนื่องจากกฎระเบียบที่เข้มงวด ซับซ้อน และล่าช้าเป็นอุปสรรคต่อกระบวนการออกใบอนุญาตนั่นเอง ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดกำลังเร่งพิจารณาทบทวนข้อกำหนดต่างๆ

“เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นมีความหนักใจกับปัญหานี้เนื่องจากความต้องการจากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่มีอยู่สูงส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงภูเก็ตเพิ่มขึ้นอย่างมาก” Bill Barnett กรรมการผู้จัดการ C9 Hotelworks กล่าว

ทั้งนี้เขาได้เปิดเผยตัวเลขนักท่องเที่ยวจากรัสเซียเดินทางมาที่สนามบินนานาชาติภูเก็ตเพิ่มขึ้น 17% ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2560 ในขณะที่ผู้โดยสารขาเข้าจากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ขยายตัวเพิ่มขึ้น 8% โดยขณะนี้มี
17 สายการบินตรงจากจีนมายังภูเก็ต มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 2 ใน 3 ของนักเดินทางที่เดินทางมายังสนามบินแห่งนี้

<figure><img style="width: 680px; height: 485px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/46902d7a7c2195964b01568df35377b2.png" alt="" width="680" height="485" /><figcaption> ภาพรวมโรงแรมและรีสอร์ทจังหวัดภูเก็ต</figcaption></figure>

จากบทวิเคราะห์ของ C9 Hotelworks ขณะนี้มีโรงแรม 33 แห่งทั่วเกาะที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา ซึ่งจะเพิ่มห้องพักให้กับภูเก็ตอีก 5,738 ห้อง ประกอบด้วยโรงแรมแบรนด์ระดับโลกที่สำคัญอาทิ Best Western, JW Marriott, Sheraton โดย บิล บาร์เน็ต ได้เปิดเผยอีกว่ามีโรงแรม1,295 แห่งในภูเก็ตได้ยื่นคำร้องเพื่อขอใบอนุญาต

นอกจากนั้น ปัจจัยที่ทำให้โรงแรมที่ให้บริการไม่ถูกต้องตามกฏหมายไม่ยอมจดทะเบียนให้ถูกต้อง ได้แก่ 1. การหลีกเลี่ยงภาษี 2. ข้อจำกัด สำหรับโรงแรมในแง่ของการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามกระบวนการ EIA และ IEE กล่าวคือไม่ผ่านการประเมินนั่นเอง และอีกประการหนึ่ง คือการเข้ามาของธุรกิจโรงแรมคอนโดมิเนียม (Condo Hotels)  ซึ่งนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กำลังพยายามขายห้องที่มีสัญญาเช่าที่พักอาศัย รวมไปถึงธุรกิจ AirBnb มีข้อตกลงด้านภาษีมากกว่า 200 ฉบับกับแต่ละเมืองทั่วโลก อาทิ ในกรุงปารีส AirBnB ต้องชำระภาษีโรงแรมในการจองและส่งเงินให้กับรัฐบาลท้องถิ่น เป็นต้น ดังนั้น รัฐบาลจึงควรนำตัวอย่างการแก้ปัญหาดังกล่าวมาปรับใช้กับไทย

<figure><img style="width: 680px; height: 483px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/4c7910b8d1f90560e5e3c42714d937ab.png" alt="" width="680" height="483" /><figcaption> ขั้นตอนการขอใบอนุญาตการประกอบกิจการโรงแรม</figcaption></figure>

ด้านภาพรวมตลาดโรงแรมและรีสอร์ทหลายแห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็กำลังเผชิญกับปัญหาที่คล้ายคลึงกันกับภูเก็ต หนึ่งในนั้นคือ บาหลี ซึ่งมีจำนวนโรงแรมที่จดทะเบียนอย่างเป็นทางการอยู่ 317 แห่ง รวมจำนวนห้องพัก 33,599 ห้อง ข้อมูลจาก Badan Pusat Statistik รัฐบาลอินโดนีเซีย

<img style="width: 680px; height: 297px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/35f25c38ce3e70495e95982af5c0f644.png" alt="" />

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events