ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงอังกฤษ ก็สามารถสัมผัสประสบการณ์ร้านอาหารหรูกับมืออาหารในบรรยากาศสุดพิเศษ ได้แล้วกับ Cafe Wolseley Bangkok ที่มาเปิดตัวครั้งแรกในไทยที่โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ชิมราง 3 เดือนแรก (กลางเม.ย.-กลางก.ค.2566)

การมาของ Cafe Wolseley Bangkok (คาเฟ่ โวลส์ลีย์ แบงค็อก) ร้านอาหารสไตล์บริทิชคลาสสิกจากอังกฤษ ที่เปิดตัวครั้งแรกในเมืองไทย ณ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ครั้งนี้แม้จะเป็นช่วงชิมลางตลาดที่วางระยะเวลา 3 เดือนเป็นการทดสอบแรก (จะหมดในเดือนกรกฎาคม 2566)

ถึงกระนั้นที่ร้านอาหารหรูแห่งนี้ก็ตกแต่งสวยงามอลังการแบบฉบับร้านในอังกฤษ เครื่องเรือน และเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ บ่งบอกสไตล์อังกฤษให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสอย่างเต็มที่ และแน่นอนเมนูอาหารที่จัดมาก็เป็นแบบฉบับไสตล์อังกฤษแท้ที่ไม่จำเป็นต้องบินข้ามน้ำไปไกลถึงยุโรปก็สามารถสัมผัสได้

อังกฤษคลาสสิกสไตล์

ด้วยไสตล์ที่หรูหราคลาสสิก โทนสีดำขาวลายทางเป็นเอกลักษณ์เด่นที่คุณจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศความเป็นอังกฤษดั้งเดิม ที่คงทั้งความหรูหรา คลาสสิก และร่วมสมัย เมนูหลักรังสรรค์โดยเชฟชื่อดัง Devis Stevens ซึ่งเป็น Group Executive Chef ผู้คิดค้นเมนูให้กับ The Wolseley และ Cafe Wolseley ในประเทศอังกฤษตั้งแต่เริ่มต้น ได้บินตรงจากลอนดอนมาประจำการที่ คาเฟ่ โวลส์ลีย์ แบงค็อก ตลอดทั้ง 3 เดือนนี้ เพื่อรังสรรค์เมนูและรสชาติในสไตล์บริทิช พร้อมเสิร์ฟความอร่อยทั้งมื้อกลางวัน และมื้อค่ำ ในแบบจานเดี่ยว (A-la-Cart) หรือแบบคอร์สเมนู

Fergal Lee ผู้บริหารชาวไอริช Cafe Wolseley บอกว่าเขาเดินทางมาเตรียมตัวเปิดร้านในไทยตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม พร้อมกับ Head Chef จากลอนดอน Devis Stevens ร่วมกันเตรียมความพร้อมต่างๆ ของร้านไม่ว่าจะเป็นสไตล์การตกแตกและเมนูอาหารต่างๆ อบรมทีมงาน ที่แน่นอนต้องตรงตาแบบฉบับของ Cafe Wolseley มีเวลาในการเตรียมตัวก่อนเปิดราว 1 เดือน

เราทำสัญญากับเจ้าของโรงแรมมาทดลองเปิด 2-3 เดือน เพื่อทดลองว่าการตอบรับของตลาดเป็นอย่างไร เพราะไม่เคยเข้ามาในตลาดนี้มาก่อน และยอมรับว่าค่อนข้างตื่นเต้นกับที่นี่พอสมควร เรามีเอกลักษณ์แบรนด์ที่ชัดเจน และมีเมนูที่เป็นที่รู้จักชื่นชอบ แต่เราก็มีการออกแบบเมนูสำหรับกรุงเทพฯ โดยเฉพาะขึ้นมาด้วย ซึ่งเป็นเสน่ห์อีกอย่างสำหรับ Cafe Wolseley ในไทย ซึ่งถือเป็นสาขาต่างประเทศแห่งแรกของแบรนด์

หลังจากที่ The Wolseley ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2546 เพิ่งก้าวครบ 2 ทศวรรษในปีนี้ ส่วนแบรนด์ Cafe Wolseley เพิ่งเปิดมาได้ 5 ปี เปิดบริการที่อังกฤษเพิ่งขยายสาขาต่างประเทศมาไทยเป็นครั้งแรก

“ผมอยู่กับ Wolseley ตั้งแต่วันแรกที่เปิด และอยู่ด้วยกันมาตลอด ปีนี้เป็นปีที่เราเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปี” Fergal ย้ำด้วยรอยยิ้ม ทำให้คิดว่าตลอด 2 ทศวรรษที่เขาร่วมงานกับร้านอาหารหรูหราแห่งนี้มา คงเต็มไปด้วยประสบการณ์ดีๆ การเรียนรู้และสนุกกับการขยายโอกาสใหม่ๆ ไปยังประเทศต่างๆ

สำหรับประเทศไทยเนื่องจาก ต้องการปรับให้เหมาะกับตลาด และมีความเฉพาะตัวจึงเปิดเป็น Cafe Wolseley Bangkok มีกลิ่นอายความเป็น Cafe ผสมผสานกับร้านอาหาร แต่ถึงอย่างไรก็ยังคงคอนเซ็ปต์สไตล์ Wolseley ไว้อย่างเต็มรูปแบบ เป็นเอกลักษณ์สไตล์อังกฤษ

“ผมไม่เคยมาไทย นี่เป็นครั้งแรกและก็มาทำงาน ผมได้ประสบการณ์ใหม่ๆ มากมาย พอดีมาในช่วงสงกรานต์ด้วยเป็นเทศกาลที่สนุกน่าสนใจ” ผู้บริหาร Wolseley ย้ำและว่าประเทศไทยมีอะไรที่น่าสนใจหลายอย่าง

นับตั้งแต่วันเปิดตัวร้านเมื่อราวปลายเดือนเมษายน ได้รับความสนใจจากตลาดเป็นอย่างดี แขกหลากหลายเข้ามาใช้บริการและชื่นชมสไตล์ความเป็น Wolseley ในแบบฉบับอังกฤษที่โดดเด่น โดยมีทั้งแขกที่มารับประทานอาหารในมือปกติ และแขกที่มาพบปะในมือพิเศษช่วงบ่ายแบบทีไทม์

เจ้าของแบรนด์ร้านอาหารหรูแห่งนี้คือ The Wolseley Hospitality Group ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร เครื่องดื่มและการบริการชื่อดังของประเทศอังกฤษ มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในหมู่ลอนดอนเนอร์ เซเลบริตี้ แขกที่มีชื่อเสียง และนักเดินทางจากทั่วโลกมานานกว่า 20 ปี

นอกจากนี้กลุ่ม Wolseley ยังเป็นเจ้าของร้านอาหารชื่อดังมากมายในประเทศอังกฤษ อาทิ The Delaunay, Brasserie Zedel และ Colbert สำหรับประเทศไทย Cafe Wolseley Bangkok เปิดบริการตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2566 ให้นักชิมชาวไทยมีโอกาสได้สัมผัสกับ คาเฟ่ โวลส์ลีย์ แบงค็อก ร้านอาหารสไตล์บริทิช ในบรรยากาศโมเดิร์นคลาสสิค ผสมผสานกลิ่นอายยุโรปอย่างลงตัว ซึ่งพร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษส่งตรงจากลอนดอนมาประเทศไทยเป็นครั้งแรก

ความพิเศษของ คาเฟ่ โวลส์ลีย์ แบงค็อก ในรูปแบบป๊อปอัพ นอกเหนือจากการตกแต่งภายในร้านที่ถูกเนรมิตรบรรยากาศให้เสมือนนั่งรับประทานอยู่ที่ The Wolseley ในประเทศอังกฤษ ซึ่งโดดเด่นด้วยการตกแต่งร้านในโทนสีดำ ขาว เรียบหรู และแฝงกลิ่นอายของความคลาสสิกในสไตล์ยุโรปไว้อย่างลงตัวแล้ว ในโอกาสเปิดร้าน Cafe Wolseley Bangkok เชฟเดวิด ได้คัดเลือกเมนูพิเศษจากร้าน Wolseley ลอนดอน มาเสิร์ฟที่ไทยในครั้งนี้ด้วย

เมนูหลากหลาย

เริ่มจากอาหารเรียกน้ำย่อย อาทิ Petit Plateau de Fruit de Mer หอยนางรมสดนำเข้าจากฝรั่งเศสเสิร์ฟบนน้ำแข็ง พร้อมเลมอน, Steak Tartare สเต็กทาร์ทาร์เสิร์ฟแบบดิบ ปรุงรสด้วยซอสเผ็ด ทานคู่กับแตงกวาดอง, Escargots a la Bourguignonne เอสคาร์โก้อบเนย กระเทียมและพาสลีย์ หนึ่งในเมนูยอดนิยมของยุโรป

รวมถึงเมนูดั้งเดิมอย่าง Omelette Arnold Bennett ที่ถือกำเนิดที่ประเทศอังกฤษ และเมนู Souffle Suisse ซูเฟล่เนื้อนุ่ม อบชีสพาร์มีซาน และเพิ่มรสชาติด้วยซอสครีมเห็ด หนึ่งในอาหาร ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก จนกลายเป็นซิกเนเจอร์เมนูประจำของร้านตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน

สำหรับอาหารจานหลักที่เชฟเดวิดแนะนำ ได้แก่ Fillets of Lemon Sole Grenobloise ปลากระพงนึ่งสไตล์ Grenobloise แบบฝรั่งเศส ที่โดดเด่นด้วยรสเปรี้ยว ให้ความรู้สึกสดชื่น, Goulash and Spatzle สตูว์เนื้อกูลาซของชาวฮังการี ที่เคี่ยวจนเนื้อนุ่มละลายในปาก รสชาติเข้มข้น มีความเผ็ดร้อนนิดๆ ด้วยพริกแห้งปาปริก้า, มะเขือเทศและหอมใหญ่ ซึ่งเป็นเมนูที่เชฟเดวิดเคยได้รับประทานในวัยเด็กและรู้สึกประทับใจ จนได้นำเมนูแห่งความทรงจำนี้มารังสรรค์เป็นหนึ่งในเมนูพิเศษให้กับร้าน

ปิดท้ายด้วยของหวานสัญชาติอังกฤษ อาทิ Classic Apple Strudel, Mixed Berry Pavlova ขนมเค้กทำจากเมอแรงก์เนื้อเนียนนุ่ม ด้านนอกกรุบกรอบ ตกแต่งด้านบนด้วยผลไม้ตระกูลเบอร์รี่สีสันสวยงาม, Coupe Lucian ไอศกรีมรสพิตตาชิโอ, เฮเซลนัท เสิร์ฟพร้อมกับอัลมอนด์เคลือบคาราเมล (Almond Nougatine) ท็อปด้วยวิปครีมและราดบัตเตอร์สก็อต เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีเมนูเครื่องดื่มค็อกเทลที่ครีเอทขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อเพิ่มสีสันและรสชาติให้กับมื้ออาหารด้วยเช่นกัน อาทิ Mai O Mai Tai และ Whiskey Velvet ฯลฯ และเฉพาะที่ร้าน Cafe Wolseley Bangkok จะมีเมนูในรูปแบบของคอร์ส (Prix Fixe) ให้เลือกคือ 2 คอร์ส ราคา 750 บาท หรือ 3 คอร์ส ในราคา 1,100 บาท รวมถึงยังสามารถจองห้องส่วนตัว (Private Dining Room) เพื่อจัดเลี้ยง โดยสามารถรองรับได้สูงสุด 18 ท่านอีกด้วย

Cafe Wolseley Bangkok เปิดให้บริการ ณ บริเวณปาริชาติ คอร์ท โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ทุกวันจันทร์-เสาร์ มื้อกลางวัน ตั้งแต่เวลา 12:00-14:30 น. และมื้อค่ำ ตั้งแต่เวลา 18:00-22:30 น. (วันอาทิตย์เฉพาะมื้อค่ำ)

อ่านเพิ่มเติม: Franck Muller นำเสนอ Grand Central Tourbillon Flash CX 36

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine