FORBES_MAY_ISSUE_2024

หนังสือ เพลง คอร์สเรียน ที่ Bill Gates แนะนำให้คุณเสพในช่วงวันหยุดนี้

<h2>เป็นไปได้หรือไม่ที่คนๆ หนึ่งจะมี Passive Income ปีละ 2-4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ? คำตอบคือได้ หากคุณเขียนเพลงคริสต์มาสที่โด่งดังและจับใจผู้คนทั่วโลกได้มากพอจะหยิบมาเล่นวนซ้ำทุกปี ดังเช่น Mariah Carey กับเพลง All I Want for Christmas Is You</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เกือบ 30 ปีมาแล้วนับตั้งแต่ Mariah Carey แต่งเพลง All I Want for Christmas Is You ร่วมกับโปรดิวเซอร์คู่ใจ Walter Afanasieff โดยไม่รู้เลยว่าผลงานชิ้นนี้จะกลับกลายเป็นตำนานที่สร้างรายได้มหาศาลแก่พวกเขาต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งยังเป็นที่มาของฉายา ราชินีแห่งคริสต์มาส ของเธออีกด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยนักร้องสาวเสียงดีผู้นี้จะได้รับของขวัญคริสต์มาสเป็นค่าลิขสิทธิ์เพลงนี้อย่างน้อย 600,000 เหรียญเป็นประจำทุกปี แล้วอย่างมากล่ะ? ทาง The Economist ประเมินว่าไว้ที่ปีละราว 2.5 ล้านเหรียญ ส่วน New York Time คาดการณ์ไว้ที่ 3 ล้านเหรียญ ยังมีแหล่งข่าวอื่นให้ตัวเลขสูงถึง 4 ล้านเหรียญเลยทีเดียว​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 50%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 50%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/iyoU2ZCoMHuPdbMw38ay.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="50%," data-align="center" data-file-name="iyoU2ZCoMHuPdbMw38ay.jpg" data-file-size="0" origin-size="1000,1000" data-origin="1000px,1000px" data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="50," style="width: 100%;" data-index="0"><figcaption><div style="text-align: center;">ปกอัลบั้ม Merry Christmas (1994)</div></figcaption></figure></div> ค่าลิขสิทธิ์ กุญแจสู่ Passive Income&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปกติแล้ว ค่าลิขสิทธิ์ที่นักร้องแต่ละคนจะได้รับจากผลงานของตัวเองสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลักด้วยกัน ได้แก่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1. สิทธิ์ในการทำซ้ำ (Mechanical License) หมายถึง การทำเป็นแผ่นซีดี เทป แผ่นเสียง รวมทั้งการให้ดาวน์โหลดทาง iTunes และดิจิทัลสตรีมมิ่งอื่นๆ สำหรับในสหรัฐฯ ผู้ประพันธ์เพลงจะได้รับเงิน 1.75 เซ็นต์ต่อการเล่นเพลงหนึ่งนาที และจะได้เงิน 2 เหรียญต่อการขายซีดีหนึ่งแผ่น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2. สิทธิ์ในการเผยแพร่ต่อสาธารณชน (Performing Rights) ทุกครั้งที่เพลงๆ หนึ่งถูกเล่นในที่สาธารณะ ไม่ว่าจะวิทยุ ไนท์คลับ ร้านอาหาร อีเวนต์ต่างๆ ตลอดจนการร้องคัฟเวอร์ ศิลปินเจ้าของเพลงจะได้รับเงินค่าลิขสิทธิ์ดังกล่าวโดยมีตั้งแต่ 600 ถึง 800,000 เหรียญ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;3. สิทธิ์ในการทำซ้ำประกอบภาพเคลื่อนไหว (Synchronization Rights) จะเรียกเก็บเมื่อมีการนำเพลงไปประกอบละคร ภาพยนตร์ และโฆษณาต่างๆ โดยมูลค่าอยู่ที่ราว 50,000 เหรียญสำหรับละครโทรทัศน์ และ 300,000 เหรียญสำหรับภาพยนตร์ แน่นอนว่ามีกรณีที่ตัวเลขสูงกว่านี้ด้วยเช่นกัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;4. สิทธิ์ในการขายพิมพ์เพลง (Print Right) ตรงตามชื่อ คือค่าลิขสิทธิ์ที่ศิลปินจะได้เมื่อมีการพิมพ์เนื้อและโน้ตเพลงขายนั่นเอง ซึ่งไม่ได้พบเห็นกันบ่อยนัก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ลองพิจารณาดูว่า All I Want for Christmas Is You ถูกเล่นซ้ำบ่อยแค่ไหนในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี มิหนำซ้ำยังไม่ใช่เพียงในอเมริกา แต่เป็นทั่วโลก ไม่ต้องบอกก็พอเดาได้เลยว่า Mariah Carey ได้รับ Passive Income มากมายเพียงใด กำเนิดเพลงอมตะในเวลา 15 นาที&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อีกหนึ่งข้อเท็จจริงสุดอัศจรรย์สำหรับ All I Want for Christmas Is You คือมันเกิดขึ้นเร็วมาก ใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ย้อนกลับไปในปี 1993 นักร้องสาวดาวรุ่งวัย 24 ปีกำลังดื่มด่ำกับความสำเร็จหลังปล่อยอัลบั้มที่สาม Music Box ซึ่งขายได้ถึง 38 ล้านก็อปปี้ทั่วโลก กลายเป็นหนึ่งในอัลบั้มเพลงขายดีสูงสุดตลอดกาล สามีของเธอ ณ ขณะนั้น หรือ Tommy Mottola ผู้บริหาร Sony Music เสนอให้เธอออกอัลบั้มเพลงคริสต์มาส&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Mariah ไม่ใคร่ชอบไอเดียนั้นเท่าใดนัก เธอรู้สึกว่าเพลงคริสต์มาสเป็นเพลงที่นักร้องมักทำช่วงบั้นปลายของอาชีพ ยังเร็วเกินไปสำหรับเธอที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“แต่ฉันก็แบบ รักคริสต์มาส” เธอเผยเรื่องราวในวัยเด็กของตนว่าไม่ได้มีคริสต์มาสที่แสนสุขนัก และมักวาดหวังถึงช่วงเวลาอันงดงามในเทศกาลนี้อยู่เสมอ กอปรกับการโน้มน้าวของ Mottola ทำให้เธอตัดสินใจลองดูสักตั้ง​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 50%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 50%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/rv8iaLWjqWCeEveKdKDd.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="rv8iaLWjqWCeEveKdKDd.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="50%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="50," style="width: 100%;" data-index="1"><figcaption style="margin-top: 0px;"><div>Walter Afanasieff ยอดโปรดิวเซอร์มือรางวัล</div></figcaption></figure></div> ​​&nbsp; &nbsp; Mariah ได้ Walter Afanasieff โปรดิวเซอร์มือดีที่เคยร่วมงานกันมาก่อนร่วมแต่งเพลง เพราะ Mottola ต้องการเพลงคริสต์มาสใหม่ๆ ไม่ใช่การคัฟเวอร์เพลงที่มีอยู่แล้ว จากนั้นทั้งสองก็ได้เพลงแรกคือ Miss You Most (At Christmas Time) ซึ่งเป็นเพลงแนวบัลลาดเศร้าๆ ตามด้วยเพลง Jesus Born on This Day ดูจากชื่อก็รู้ว่าเนื้อหาเกี่ยวข้องกับศาสนา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับเพลงที่สาม พวกเขาได้แรงบันดาลใจจาก Phil Spector เจ้าของอัลบั้ม A Christmas Gift for You from Phil Spector เพลงคริสต์มาสสไตล์ร็อคแอนด์โรลยุค 60 อันโด่งดัง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งสองคิดเนื้อเพลง คอร์ด และเมโลดีด้วยกันในเวลา 15 นาที เป็นเพลงง่ายๆ เริ่มจากที่ Mariah ร้องว่า “I don’t want a lot for Christmas” แล้วทุกอย่างก็ดำเนินต่อไป&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทีแรก Afanasieff ให้ความเห็นว่า “เหมือนกำลังไล่บันไดเสียงอย่างไรอย่างนั้น” และไม่ค่อยมั่นใจว่าเพลงดังกล่าวจะประสบความสำเร็จ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ผลงานชิ้นนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเรียบง่าย ราวกับสูตรสำเร็จ แต่เขาก็พยายามปรับแต่งใส่ความแตกต่างลงไปให้มันพิเศษยิ่งขึ้น กลายเป็น All I Want for Christmas Is You ในท้ายที่สุด&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปรากฏว่าเสียงตอบรับกลับดีเหลือเชื่อ ด้วยความเรียบง่ายจึงเข้าถึงผู้คนได้ไม่ยาก จนกลายเป็นเพลงฮิตติดหู ได้รับความนิยมถล่มทลายหลังปล่อยออกไปเพียงไม่นาน และยังคงครองใจผู้ฟังมาตลอด 30 ปี สร้างกระแส Passive Income มหาศาลแก่ผู้ร่วมประพันธ์ทั้งสอง ฤดูสุขสันต์ที่มาพร้อมปัญหา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับปีนี้ Mariah Carey ก็ไม่รอช้าที่จะพาทุกคนดื่มด่ำกับช่วงเวลาแสนพิเศษท้ายปี เพราะพอหมดฮาโลวีน เธอก็อัปโหลดคลิปวิดีโอในชุดซานตาคลอสบน X พร้อมข้อความ “ได้เวลาแล้ว! (IT’s TIME!)” เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยก่อนหน้านี้ตอนต้นเดือนตุลาคม เธอได้ประกาศทัวร์คอนเสิร์ต Merry Christmas One and All! ซึ่งมีกำหนดการเริ่มต้นในวันที่ 15 พฤศจิกายน และจบลงในวันที่ 17 ธันวาคม 2023​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ไม่ได้มีแค่ราชินีแห่งคริสต์มาสที่รีบร้อนแต่เพียงผู้เดียว ขณะนี้ตามห้างร้านต่างๆ ก็เริ่มตกแต่งรับเทศกาลกันแล้ว แบรนด์สินค้ามากมายทยอยเปิดตัวสินค้าพิเศษสำหรับช่วงเวลาล้ำค่าประจำปี​ ​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 50%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 50%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/BUiZEu3NCXUiuBB74wyT.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="BUiZEu3NCXUiuBB74wyT.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="50%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="50," origin-size="1080,1080" style="width: 100%;" data-index="2"><figcaption><div>กำหนดการทัวร์คอนเสิร์ต Merry Christmas One and All!</div></figcaption></figure></div> &nbsp; &nbsp; กระนั้นใช่ว่าทุกคนจะยินดีกับเทศกาลคริสต์มาส เมื่อนักดนตรีนาม Andy Stone กล่าวหาว่าเพลง All I Want for Christmas Is You ละเมิดลิขสิทธิ์เพลงที่เขาร่วมแต่งให้วง Vince Vance &amp; the Valiants ซึ่งมีชื่อเหมือนกัน โดยเพลงนั้นปล่อยออกมาก่อนในปี 1989 ทว่ามีเนื้อหาและทำนองเพลงแตกต่างกัน เขายังฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินถึง 20 ล้านเหรียญ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อันที่จริงนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Stone ออกมาฟ้องร้องในประเด็นนี้ เขาเคยทำมาแล้วในปี 2022 ที่ผ่านมา แต่ก็ถอนฟ้องในท้ายที่สุด สำหรับปีนี้คงต้องติดตามกันต่อไปว่าบทสรุปจะเป็นอย่างไร&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทนายของ Mariah Carey และ Afanasieff ยังไม่มีแถลงการณ์ใดๆ ออกมา เช่นเดียวกับทางค่ายเพลงที่นักร้องสาวสังกัดอยู่ คงต้องรอติดตามว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แต่ที่แน่ๆ ในตอนนี้ เพลงนี้ก็เริ่มกลับมาถูกสตรีมอีกครั้ง และทำเงินให้ Mariah Carey ได้อีกเหมือนเคย เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/world/global-world/5-warren-buffett-recommended-books-spotify" alt="5 หนังสือลงทุนที่ Warren Buffett แนะนำ พร้อมให้ฟังแล้วบน Spotify">5 หนังสือลงทุนที่ Warren Buffett แนะนำ พร้อมให้ฟังแล้วบน Spotify</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events