<h2>CPAC ยกระดับความกรีน เปิดตัวรถโม่พลังงานไฟฟ้า “CPAC EV Mixer Truck” ในจังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นรายแรกของภาคเหนือ ต้นแบบการขนส่ง Green Logistics พร้อมเดินหน้าเตรียมความพร้อมการก่อสร้างที่ปลอดมลพิษ ช่วยลดวิกฤตฝุ่นควัน PM 2.5 เผยการใช้รถโม่พลังงานไฟฟ้า 1 คัน สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ลงได้ถึง 212,736 KgCO2e เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 22,400 ต้น</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ถิรวัฒน์ พูนกาญจนะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด หรือ CPAC เปิดเผยว่า CPAC ในฐานะผู้ผลิตคอนกรีตผสมเสร็จและคอนกรีตสำเร็จรูประดับแถวหน้าของประเทศ มุ่งมั่นพัฒนาสินค้าด้วยนวัตกรรมกรีนและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการก่อสร้างในภาคเหนือที่ต้องเผชิญกับมลพิษทางอากาศ เช่น วิกฤตฝุ่นควัน PM 2.5 อย่างต่อเนื่องในช่วงฤดูหนาว ล่าสุด CPAC ได้นำรถโม่พลังงานไฟฟ้า “CPAC EV Mixer Truck” ซึ่งนับเป็นต้นแบบการขนส่ง Green Logistics เข้ามาใช้ในการจัดส่งคอนกรีต​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/01/XoXaj6HtXdfDfQp9vqnL.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="XoXaj6HtXdfDfQp9vqnL.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="720,479"><figcaption><div>ถิรวัฒน์ พูนกาญจนะโรจน์</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“นับเป็นความท้าทายอย่างยิ่งในตลอดระยะเวลาการทำงานที่บริษัทฯ จะต้องหาวิธีการดำเนินงานที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุดโดยมุ่งเน้นการก่อสร้างสีเขียว ตามแนวทาง Inclusive Green Growth ซึ่งรถโม่พลังงานไฟฟ้า CPAC EV Mixer Truck ถือเป็นแรงกระตุ้นในการส่งเสริมอุตสาหกรรมก่อสร้างอย่างยั่งยืนอีกทางหนึ่ง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดต้นทุนเชื้อเพลิงได้ประมาณ 50% เมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันดีเซล หรือประมาณ 237,600 บาท/คัน/ปี (คำนวณจากฐานค่าน้ำมัน 33 บาท/ลิตร) ซึ่งรถโม่พลังงานไฟฟ้านี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการขนส่งคอนกรีตทั้งในเขตเมืองและภูมิประเทศที่มีเนินเขาของภาคเหนือ ด้วยระบบขับเคลื่อนที่เงียบช่วยลดผลกระทบต่อชุมชนที่หนาแน่น รวมถึงมีระบบจัดการพลังงานที่เหมาะสมสำหรับการขนส่งในระยะทางไกล”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ภายในปี 2025-2026 มีแผนขยายการใช้รถโม่พลังงานไฟฟ้า CPAC EV Mixer Truck ไปยังหัวเมืองใหญ่ๆ อย่างจังหวัดเชียงราย, ชลบุรี และภูเก็ต รวมถึงการเพิ่มสัดส่วนรถโม่พลังงานไฟฟ้าทดแทนรถโม่สันดาปที่มีสภาพเครื่องยนต์เก่า ขณะเดียวกันจะพัฒนารถโม่พลังงานไฟฟ้าขนาดเล็ก เพื่อสะดวกต่อการใช้งานในพื้นที่ชุมชนซึ่งนอกจากจะไม่มีมลภาวะทางอากาศแล้วยังลดมลภาวะทางเสียงได้อีกด้วย​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/01/TsfAhDmXbmdxX3Mtet5v.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="TsfAhDmXbmdxX3Mtet5v.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1" origin-size="720,479"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ถือเป็นความร่วมมือของหลายองค์กรที่มีเป้าหมายเดียวกันคือ การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมก่อสร้าง มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ไม่เพียงแค่การร่วมมือกันใช้การขนส่งสีเขียวเท่านั้น แต่การเลือกใช้สินค้าคาร์บอนต่ำหรือสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากจะช่วยโลกลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) แล้ว ยังช่วยสร้างโอกาสและความแตกต่างในเชิงการแข่งขันให้กับคู่ธุรกิจ ตั้งแต่เจ้าของโครงการ, ผู้รับเหมาก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นการได้รับสิทธิประโยชน์การกู้ยืมสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อทั่วไป มุ่งเน้นการสนับสนุนโครงการที่มีเป้าหมายในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ลดต้นทุนในการดำเนินงานของธุรกิจในระยะยาว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อีกทั้งในอนาคตประเทศไทยเตรียมเก็บภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) เพื่อบรรลุ Carbon Neutrality ภายในปี 2050 ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จากการใช้พลังงานฟอสซิลเป็นการกระตุ้นให้ภาคธุรกิจหันมาใช้พลังงานสะอาด สอดคล้องกับการที่ CPAC ไม่หยุดพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ที่สามารถพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวควบคู่ไปกับการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ซึ่งจะทำให้คู่ธุรกิจเติบโตสู่ความยั่งยืนไปพร้อมกัน เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/csr-sustainability/ajinomoto-green-logistics" alt="‘อายิโนะโมะโต๊ะ’ เดินหน้า Green Logistics ทุ่ม 40 ล้านบาท ใช้รถ EV ขนส่งสินค้า">‘อายิโนะโมะโต๊ะ’ เดินหน้า Green Logistics ทุ่ม 40 ล้านบาท ใช้รถ EV ขนส่งสินค้า</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

CPAC อัปเลเวลความกรีน เปิดตัวรถโม่พลังงานไฟฟ้าแห่งแรกในภาคเหนือ

<h2>CPAC ยกระดับงานสถาปัตยกรรมและงานก่อสร้างของเมืองไทย เผยโฉม CPAC 3D MODULAR SPACE อาคาร Iconic Landmark แห่งใหม่ที่จะมาสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ให้วงการก่อสร้าง</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการสำหรับ CPAC 3D MODULAR SPACE โดย CPAC Green Solution ผู้นำด้านนวัตกรรมก่อสร้างเพื่อสิ่งแวดล้อมครบวงจร ที่ก้าวข้ามทุกขีดจำกัดของงานก่อสร้างและงานดีไซน์ โดยดึงจุดเด่นของ 2 เทคโนโลยี ได้แก่ CPAC 3D Printing Solution ที่สามารถออกแบบได้อย่างฟรีฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นลวดลายที่สามารถสร้างสรรค์ได้อย่างพลิ้วไหว ลบภาพจำของอาคารซีเมนต์แบบเดิมๆ ยกระดับงานสถาปัตยกรรมให้เป็นไปได้ทุกความต้องการ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;และ Prefabricated Prefinished Volumetric Construction (PPVC) เทคโนโลยีการผลิตองค์ประกอบหลักของอาคารด้วยการพิมพ์ขึ้นรูปคอนกรีตแบบฟรีฟอร์มจากภายในโรงงาน (Offsite) และนำมาประกอบติดตั้งที่หน้างาน (Onsite) ได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลา ลดเศษวัสดุสิ้นเปลืองเหลือทิ้งและช่วยลดมลภาวะ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นพพร กีรติบรรหาร Deputy Chief Marketing Officer บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีการก่อสร้างเปลี่ยนแปลงไป สาเหตุหลักมาจากเทรนด์การก่อสร้างของโลกที่มีการปรับตัว เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ไลฟ์สไตล์ รวมถึงทำอย่างไรที่จะช่วยลดผลกระทบด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาแรงงาน ต้นทุน ระยะเวลา และที่สำคัญคือการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/12/S1G7nbA8Y8TYQ1BQJ6vF.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="S1G7nbA8Y8TYQ1BQJ6vF.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="900,599"><figcaption><div>นพพร กีรติบรรหาร Deputy Chief Marketing Officer บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;3D Printing เป็นอีกเทคโนโลยีหนึ่งที่จะเข้ามาตอบโจทย์การก่อสร้าง และไลฟ์สไตล์ของประเทศไทย ทั้งงานที่เป็น Residential, Commercial รวมถึงงานอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ เฟอร์นิเจอร์ หรือแม้กระทั่ง ปะการังเทียม และด้วยประสบการณ์ของบริษัทฯ ที่มีมาอย่างยาวนาน จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาช่วยผู้ประกอบการในการบริหารจัดการโครงการให้ดีขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การเปิดตัว CPAC 3D MODULAR SPACE จะเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะเข้ามาตอบโจทย์การก่อสร้างอาคารในรูปแบบ Free Form เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการออกแบบและก่อสร้างได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ด้วยรูปแบบ Green Construction ที่ช่วยลดเศษวัสดุเหลือใช้ ลดมลภาวะ อีกทั้งใช้เวลาที่หน้างานเพียงระยะเวลาสั้นๆ สามารถใช้พื้นที่หรือเปิดธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ภายใต้งบประมาณที่ไม่บานปลาย​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/12/8ymfd9deF8tCVs63zAeZ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="8ymfd9deF8tCVs63zAeZ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1" origin-size="900,599"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับ CPAC 3D MODULAR SPACE อาคารขนาด 2 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 58 ตารางเมตร ถูกรังสรรค์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ครบทุกพร้อม” โดยใช้เทคโนโลยี CPAC 3D Printing Solution ร่วมกับเทคโนโลยี Prefabricated Prefinished Volumetric Construction (PPVC) เป็นครั้งแรกของประเทศไทย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การออกแบบตัวอาคารได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงหกเหลี่ยมตราสัญลักษณ์ SCG ที่เป็นรากของปูนซีเมนต์มาต่อยอดด้วยการใช้เทคโนโลยี CPAC 3D Printing Solution มาตอบรับการออกแบบและขึ้นรูปผนังอาคารให้มีลักษณะเป็นริ้ว พลิ้วไหว แสดงให้เห็นถึงการปรับเปลี่ยนขององค์กร SCG ที่มีการปรับตัวโดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามา เพื่อสร้างสรรค์และยกระดับวงการวัสดุและการก่อสร้างไทย นับเป็นการออกแบบที่ผสมผสานกันระหว่างศาสตร์และศิลป์ได้อย่างลงตัว​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/12/1o1hWFnQduxoNhLm9Ki6.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="1o1hWFnQduxoNhLm9Ki6.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2" origin-size="900,599"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว ผนังของ CPAC 3D MODULAR SPACE ยังเป็น 2 ชั้นนั้น คือ มีช่องอากาศกั้น จึงทำให้มีคุณสมบัติกันความร้อน ทั้งนี้ จากการทดลองพบว่าอุณหภูมิระหว่างด้านในและด้านนอกมีความแตกต่างกันถึงประมาณ 5-10 องศาเซลเซียส รวมถึงยังมีคุณสมบัติซับเสียงจากภายนอกได้ดีอีกด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;และด้วยความล้ำสมัยของทั้ง 2 เทคโนโลยีดังกล่าว ยังสามารถช่วยลดระยะเวลาในการก่อสร้าง โดยใช้ระยะเวลาการดำเนินงาน คือ ผลิต 33 วัน และติดตั้งเพียง 1 วัน รวม 34 วัน ซึ่งเร็วกว่าเดิมเกือบ 2 เท่าเมื่อเทียบกับการก่อสร้างรูปแบบก่ออิฐ ฉาบปูน (Conventional) ที่ใช้เวลาก่อสร้างถึง 90 วัน ทำให้ใช้แรงงานน้อยลง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อีกทั้งด้วยการผลิตแบบ Off-site (ผลิตชิ้นส่วนอาคารในโรงงานและนำมาประกอบหน้างาน) จึงทำให้ช่วยลดมลพิษ ลดมลภาวะทางเสียง ลดวัสดุเหลือใช้ระหว่างการก่อสร้าง โดยสามารถลดขยะระหว่างการก่อสร้างได้ถึง 95% อีกด้วย เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/property/news/reignwood-park-mega-project-mixed-use" alt="เปิดตัว “เรนวูด ปาร์ค” มิกซ์ยูสมูลค่า 50,000 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ในปทุมธานี">เปิดตัว “เรนวูด ปาร์ค” มิกซ์ยูสมูลค่า 50,000 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ในปทุมธานี</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events