10 มหาเศรษฐีผู้มีผู้ติดตามมากที่สุดใน Twitter

ไม่เคยมีช่วงเวลาไหนของคนบันเทิงที่จะทำเงินได้ดีกว่านี้อีกแล้ว ศิลปินเพลงรายได้สูงที่สุดแห่งปี 2021 ทุกคนเข้าทำเนียบนี้มาได้ด้วยการขายแคตตาล็อกเพลงของตัวเองทั้งหมดหรือบางส่วน โดยส่วนใหญ่ขายได้ถึง 9 หลัก ส่วนคนบันเทิงรายได้ระดับแถวหน้าคนอื่นๆ ก็ขายโปรดักชั่นสตูดิโอ ทำเงินจากรายการทีวีรุ่นวินเทจ ขายแชมเปญ เตกิลา หรือรองเท้าผ้าใบ มีไม่ถึง 1 ใน 3 ที่มีรายได้ส่วนใหญ่มาจากคอนเทนต์ใหม่ๆ
<h2>พบกับ 15 อันดับ คนบันเทิงที่มีรายได้สูงสุดแห่งปี 2022 ดังต่อไปนี้</h2>
<img class="alignnone size-full wp-image-63751" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/1.-Peter-Jackson.jpg" alt="" width="300" height="300" />

1. Peter Jackson
<ul>
 	<li>580 ล้านเหรียญสหรัฐฯ</li>
</ul>
ผู้กำกับ The Lord of the Rings กลายเป็นเศรษฐีพันล้านในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังเขาขายบริษัทวิชวลเอฟเฟ็กต์ Weta Digital ของเขาให้ Unity Software ด้วยราคา 1.6 พันล้านเหรียญ ซึ่งประมาณ 40% จ่ายเป็นเงินสด

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-63752" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/2.-Bruce-Springsteen.jpg" alt="" width="300" height="300" />

2. Bruce Springsteen
<ul>
 	<li>435 ล้านเหรียญสหรัฐฯ</li>
</ul>
ในเดือนธันวาคม 2021 Bruce Springsteen ตัดสินใจขายสิทธิ์ในการเผยแพร่ผลงานเพลงทั้งหมดของเขา ที่มูลค่าราว 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้กับ Sony Music ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของค่ายเพลง Columbia Records ที่เขาเคยสังกัดอยู่

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-63753" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/3.Jay-Z.jpg" alt="" width="300" height="300" />

3. Jay-Z
<ul>
 	<li>340 ล้านเหรียญสหรัฐฯ</li>
</ul>
เจ้าพ่อฮิปฮอปกวาดเงินไปจากการขายหุ้น ในบริษัทสตรีมมิ่งเพลง Tidal และแบรนด์แชมเปญ Armand de Brignac

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-63754" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/4.-Dwayne-“The-Rock”-Johnson.jpg" alt="" width="300" height="300" />

4. Dwayne “The Rock” Johnson
<ul>
 	<li>270 ล้านเหรียญสหรัฐฯ</li>
</ul>
รายได้ของเขาประมาณ 25% มาจากการแสดงนำในภาพยนตร์ Jungle Cruise และ Red Notice ที่เหลือส่วนใหญ่มาจากแบรนด์เตกิลา Teremana ของเขาซึ่งกำลังเป็นที่สนใจ

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-63755" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/5.-Kanye-West.jpg" alt="" width="300" height="300" />

5. Kanye West
<ul>
 	<li>235 ล้านเหรียญสหรัฐฯ</li>
</ul>
เขามีรายได้ส่วนใหญ่มาจากสัญญาหลายปี เพื่อออกแบบรองเท้าผ้าใบ Yeezy ให้ Adidas ส่วนแจ็กเกตและเสื้อมีฮู้ดที่เขาดีไซน์ให้ Gap ออกมาเมื่อปีที่แล้วและขายหมดอย่างรวดเร็ว แต่แบรนด์อายุ 52 ปีรายนี้ก็ยังอยากได้สินค้าเพิ่มอีก และมีรายงานว่า Gap หงุดหงิดที่สินค้าออกช้า

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-63756" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/6.-Trey-Parker-และ-Matt-Stone.jpg" alt="" width="300" height="300" />

6. Trey Parker และ Matt Stone
<ul>
 	<li>210 ล้านเหรียญสหรัฐฯ</li>
</ul>
การ์ตูนปากร้ายชวนสะดุ้งที่ทั้งฮากลิ้งและมีต้นทุนการผลิตถูกอย่าง South Park บวกกับสินค้าอื่นๆ ที่ต่อยอดมาจากโชว์นี้ทำรายได้กว่าปีละ 80 ล้านเหรียญในช่วงปีหลังๆ และเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาผู้สร้างทั้งสองคนก็เซ็นสัญญาข้อตกลงธุรกิจ 6 ปีมูลค่า 900 ล้านเหรียญกับ Paramount+ ด้วย

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-63759" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/7.-Paul-Simon.jpg" alt="" width="300" height="300" />

7. Paul Simon
<ul>
 	<li>200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ</li>
</ul>
เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว Simon ขายเพลงหลายร้อยเพลง ซึ่งรวมถึง “The Sound of Silence” ให้ Sony Music Publishing ด้วยราคาประมาณ 250 ล้านเหรียญ

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-63757" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/8.-Tyler-Perry.jpg" alt="" width="300" height="300" />

8. Tyler Perry
<ul>
 	<li>165 ล้านเหรียญสหรัฐฯ</li>
</ul>
ตลกพันล้านคนนี้โกยเงินได้จากรายการโทรทัศน์ โปรดักชั่นสตูดิโอในรัฐ Georgia และแฟรนไชส์ภาพยนตร์ Madea ออกสู่ช่องทางต่างๆ

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-63760" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/9.-Ryan-Tedder.jpg" alt="" width="300" height="300" />

9. Ryan Tedder
<ul>
 	<li>160 ล้านเหรียญสหรัฐฯ</li>
</ul>
นอกจากเพลงกว่า 500 เพลงที่เขาเขียนไว้ใช้เองแล้ว นักร้องนำของ OneRepublic ก็ยังเขียนเพลงฮิตให้ Beyoncé, Adele และ Ed Sheeran ด้วย และเขาขายเพลงส่วนหนึ่งในแคตตาล็อกของเขาให้ KKR ไปเมื่อเดือนมกราคมในปีที่ผ่านมา

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-63761" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/10.-Bob-Dylan.jpg" alt="" width="300" height="300" />

10. Bob Dylan
<ul>
 	<li>130 ล้านเหรียญสหรัฐฯ</li>
</ul>
ศิลปินเจ้าของรางวัลโนเบลวัย 80 ปีโอนสิทธิในเพลงของเขาทั้งฉบับที่เคยบันทึกเสียงไว้และจะบันทึกในอนาคตอีกจำนวนหนึ่งให้ Sony ไปเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วด้วยราคา 150 ล้านเหรียญ หลังจากที่เขาทำข้อตกลงธุรกิจมูลค่า 400 ล้านเหรียญตามรายงานข่าวเมื่อปี 2020 เพื่อขายสิทธิเผยแพร่แคตตาล็อกเพลงของเขาให้ Universal

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-63762" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/11.-Red-Hot-Chili-Peppers.jpg" alt="" width="300" height="300" />

11. Red Hot Chili Peppers
<ul>
 	<li>116 ล้านเหรียญสหรัฐฯ</li>
</ul>
กองทุน Hipgnosis จาก London ที่เน้นการลงทุนด้านดนตรีโดดตะครุบแคตตาล็อกเพลงของวงร็อกจาก California วงนี้เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-63763" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/12.-Reese-Witherspoon.jpg" alt="" width="300" height="300" />

12. Reese Witherspoon
<ul>
 	<li>115 ล้านเหรียญสหรัฐฯ</li>
</ul>
เธอขายส่วนหนึ่งในบริษัทโปรดักชั่นที่เน้นผลงานของผู้หญิงชื่อ Hello Sunshine ซึ่งมีมูลค่าประเมิน 900 ล้านเหรียญ

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-63764" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/13.-Chuck-Lorre.jpg" alt="" width="300" height="300" />

13. Chuck Lorre
<ul>
 	<li>100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ</li>
</ul>
เขาเป็นผู้ที่มีทักษะการผลิตรายการสูงที่ Warner Bros. TV ซึ่งสามารถทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำจากซีรีส์ยอดนิยมอย่าง Two and a Half Men และ The Big Bang Theory

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-63765" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/14.-Sean-“Diddy”-Combs.jpg" alt="" width="300" height="300" />

14. Sean “Diddy” Combs
<ul>
 	<li>90 ล้านเหรียญสหรัฐฯ</li>
</ul>
รายได้ส่วนใหญ่ของเขาในปีที่แล้วมาจากแบรนด์วอดก้า Cîroc ของเขา

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-63766" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/15.-Bob-Dylan.jpg" alt="" width="300" height="300" />

15. Dick Wolf
<ul>
 	<li>86 ล้านเหรียญสหรัฐฯ</li>
</ul>
ถึงจะผ่านมา 32 ปีแล้วแต่แฟรนไชส์ Law &amp; Order ของ Wolf ก็ยังดึงดูดคนติดซีรีส์อาชญากรรมได้ด้วยภาคใหม่ (Organized Crime) และภาคเก่าที่ขายให้สถานีต่างๆ (Special Victims Unit)

&nbsp;

ภาพ: GETTY IMAGES (7); WITHERSPOON: NEWSCOM เรียบเรียง: ธรรดร โสตถิอำรุง

อ่านเพิ่มเติม:
<ul id="crumbs">
 	<li><a style="color: #008000;" href="https://forbesthailand.com/people/power-women/%e0%b8%94%e0%b8%a7%e0%b8%87%e0%b8%94%e0%b8%b2%e0%b8%a7-%e0%b8%a1%e0%b8%ab%e0%b8%b0%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b9%8c-sabina.html">ดวงดาว มหะนาวานนท์ พาแบรนด์ SABINA จรัสแสงตลาดภูมิภาค</a></li>
 	<li><a style="color: #008000;" href="https://forbesthailand.com/world/30-under-30-%e0%b8%9b%e0%b8%b5-2022-%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88-3-%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b9%81%e0%b8%ab%e0%b9%88.html">30 UNDER 30 ปี 2022 ตอนที่ 3: หนุ่มสาวแห่งโลกเทคโนโลยีและสุขภาพ</a></li>
</ul>

<hr />

<a href="https://bit.ly/3w8aG4Q">คลิกอ่านฉบับเต็ม และบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤษภาคม 2565 ในรูปแบบ e-magazine</a>

<a href="https://bit.ly/3w8aG4Q"><img class="alignnone wp-image-63769" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/06/280095568_3093860634162339_8058186738913722113_n.jpg" alt="" width="300" height="394" /></a>

15 อันดับ คนบันเทิงรายได้สูงสุดแห่งปี 2022

<h2 class="p1">Kanye West ว่าจ้าง Nur Abbas ดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายศิลป์คนใหม่ประจำแบรนด์รองเท้าผ้าใบ Yeezy มูลค่านับพันล้านของเขา เพื่อทำงานกับ "Ye" อย่างใกล้ชิดในโปรเจ็กต์ที่พัฒนาร่วมกับแบรนด์อื่นๆ โดยเริ่มจาก Adidas และ Gap</h2>
<figure><img class="wp-image-60653" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/03/nur_abbas_yeezy.jpeg" alt="Kanye West hires Nur Abbas" width="720" height="480" /><figcaption> Nur Abbas หัวหน้าฝ่ายศิลป์คนใหม่ประจำแบรนด์รองเท้าผ้าใบ Yeezy</figcaption></figure>
Kanye West เริ่มออกไลน์รองเท้าผ้าใบครั้งแรกของเขาภายใต้แบรนด์ Adidas ในปี 2015 และเปิดตัวไลน์ Yeezy Gap Perfect Hoodie ในปี 2020 ล่าสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้ประกาศความร่วมมือกับ Balenciaga  เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ไลน์ Yeezy Gap โดยคาดว่าคอลเลกชันแรกจะวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายนนี้
ทั้งนี้ นอกจากอาณารองเท้าผ้าใบแล้ว ปัจจุบันแหล่งรายได้ของแร็ปเปอร์มหาเศรษฐีชื่อดังของสหรัฐฯ ยังมาจากเสื้อผ้าแนวสตรีทภายใต้แบรนด์ Stemwear และอุปกรณ์เพลงพกพาอย่าง Stem Player เช่นกัน
Leslie Ghize รองประธานบริหารของ Tobe Doneger บริษัทวิจัยด้านแฟชั่นและผู้บริโภคมองว่า การจ้าง Abbas อาจเป็นสิ่งที่ West จำเป็นต้องทำเพื่อลบข้อครหาเชิงลบในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเกี่ยวข้อกับอดีตภรรยา Kim Kardashian บนช่องทางโซเชียลมีเดีย
"ภูมิหลังของ Nur Abbas ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างความรู้และความชำนาญในด้านความหรูหรา สตรีทแวร์ และการคอลแลประหว่างแบรนด์ ทำให้เขาเป็นบุคคลที่มีศักยภาพที่จะเข้ามาตอบโจทย์ให้กับธุรกิจ" Ghize กล่าว
ก่อนหน้านี้ Abbas เคยร่วมงานกับ Nike เป็นระยะเวลากว่า 5 ปี ในฐานะผู้กำกับดูแลโครงการต่างๆ สำหรับคอลเลกชัน Nike ACG และ Nikelab Apparel หลังจากที่ทำงานอยู่ที่<a style="color: #008000;" href="https://hypebae.com/tags/louis-vuitton"> Louis Vuitton </a>เป็นเวลาเกือบทศวรรษระหว่างปี 2006 ถึง 2015 ในตำแหน่งนักออกแบบอาวุโสแผนกเสื้อผ้าบุรุษ
ไม่เพียงเท่านี้ เขายังทำงานในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายออกแบบสำหรับเสื้อผ้าบุรุษที่<a href="https://hypebae.com/tags/gucci"> Gucci </a>และ<a style="color: #008000;" href="https://hypebae.com/tags/uniqlo"> Uniqlo </a>หลังเริ่มต้นเส้นทางอาชีพครั้งแรกในฐานะผู้ช่วยนักออกแบบที่ Maison Margiela ดังที่ระบุไว้บน LinkedIn ส่วนตัว
“ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกับ Ye เพราะเขามีความรู้ความเข้าใจในด้านการออกแบบเป็นอย่างดี และการพร้อมที่จะขับเคลื่อนวัฒนธรรมไปข้างหน้า” Abbas กล่าวกับ WWD “ที่ Yeezy และ Gap ผมได้พบกับผู้คนและทีมงานที่มีความสามารถมากที่สุดกลุ่มหนึ่ง และผมก็ตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับพวกเขาทั้งหมดเพื่อส่งต่อผลงานสร้างสรรค์ใหม่นี้ไปทั่วโลก”
<img class="alignnone wp-image-60667" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/03/0x0-1024x889.jpeg" alt="Kanye West Yeezy" width="543" height="471" />
ล่าสุด West ครองอันดับที่ 5 ในทำเนียบ “เอนเตอร์เทนเนอร์” รายได้สูงสุดในโลก ประจำปี 2022 ของ Forbes ขณะที่ในปีที่แล้ว<a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/sites/maddieberg/2021/03/18/no-kanye-west-is-not-the-richest-black-person-in-america---heres-why/?sh=58f7ae5514a2"> Forbes ประเมินว่า อาณาจักร Yeezy มีมูลค่า 1.5 พันล้านเหรียญและเป็นแหล่งสะสมความมั่งคั่งหลักของเขา</a> ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับที่ UBS คาดการณ์ว่า แบรนด์รองเท้าดังกล่าวจะมียอดขายเกิน 3 พันล้านเหรียญภายในปี 2026
ทว่าจากการประพฤติตนของ West ในช่วงที่ผ่านมาอาจส่งผลต่อคุณค่า ชื่อเสียง และความยั่งยืนของแบรนด์ก็เป็นได้ เพราะในสัปดาห์นี้ West ก็เพิ่งถูกถอดรายชื่อออกจากการแสดงในงาน 2022 Grammy Awards อันเป็นผลมาจากพฤติกรรมบนโลกออนไลน์ของเขาที่ได้ล้อเลียนเชื้อชาติของนักแสดงตลก Trevor Noah จนถูกแบนจาก Instagram เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
Ghize จึงเชื่อว่า การได้ Abbas มาร่วมงานด้วยจะมีส่วนทำให้ “จังหวะการทำงานของบริษัทและไลน์ผลิตภัณฑ์มีความไหลลื่น” ขณะที่การจัดจ้างหัวหน้าฝ่ายการจัดจำหน่ายและการตลาดคนใหม่ก็จะนำมาซึ่งโอกาสมากมาย
แต่เธอก็คาดหวังว่าสไตล์และจิตวิญญาณทางศิลปะของ West จะยังคงเป็นผู้นำแบรนด์ Yeezy ต่อไป “Kanye มีสายตาที่ล้ำหน้าในด้านการออกแบบและความสามารถในการมองเห็นแนวความคิดของผู้บริโภครอบด้าน”
แปลและเรียบเรียงโดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค จากบทความ Kanye West Hires Nike’s Nur Abbas As New Head Of Design At Yeezy เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: <a style="color: #003300;" href="https://forbesthailand.com/world/america/%e0%b9%80%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c-%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b9%84%e0%b8%94%e0%b9%89.html">10 อันดับ “เอนเตอร์เทนเนอร์” รายได้สูงสุดในโลก ประจำปี 2022</a>

Kanye West จ้าง Nur Abbas จาก Nike เป็นหัวหน้าฝ่ายศิลป์คนใหม่ที่ Yeezy

<h2>เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เชื่อกันว่า Kanye West มีหนี้สินถึง 53 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่จากรองเท้า YEEZY ทำให้สร้างตัวสู่มหาเศรษฐี Forbes</h2>
ปัจจุบันคนดังที่ขึ้นปกนิตยสาร Forbes ฉบับประจำวันที่ 31 สิงหาคมรายนี้บอกกับเราว่าเขามี “เลือดสีทองของฟาโรห์และสัตว์กินเนื้อไหลเวียนอยู่ในตัว” คำพูดดังกล่าวมีที่มาจากกระแสความคลั่งไคล้อย่างรุนแรงที่มีต่อรองเท้ารุ่น Yeezy ของ West

ซึ่งคาดว่าจะทำรายได้เกิน 1.5 พันล้านเหรียญในปี 2019 ตัว Kanye ก็ติดอันดับ 3 ในทำเนียบ Celebrity 100 ของเรา โดยมีรายได้คร่าวๆ เมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ 150 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นรายได้ที่มาจากทั้งผลงานเพลงและค่าลิขสิทธิ์แบบเหมา 15% ที่เรียกเก็บจากการจำหน่ายรองเท้ากีฬาของตน (บวกกับค่าการตลาด) ถือเป็นสัญญาที่ให้ผลตอบแทนอย่างงามที่ตัวเขาทำไว้กับ Adidas

ผู้สื่อข่าวของ CNBC นักเขียน และนักลงทุนอย่าง Josh Brown ตั้งข้อสงสัยว่า ท้ายที่สุดแล้วรองเท้าของ West จะทำยอดขายได้มากกว่ารองเท้าของ Michael Jordan ในปีนี้หรือไม่ โดยเขาได้ทวีตข้อความว่า “ในที่สุด คุณก็ระบุมูลค่าทรัพย์สินของ West ได้ถูกต้องเสียที”

ส่วน Kim Kardashian ภรรยาของ West ซึ่งโพสต์หน้าปกนิตยสาร Forbes ลงบน Instagram ก็ตั้งข้อสังเกตว่า ใครก็ตามที่ได้ร่วมงานกับ Kanye หรือได้ใกล้ชิดกับเขา จะไม่รู้สึกแปลกใจเลยที่ตัวเขาสามารถเปลี่ยนหนี้สินหลายล้านเหรียญให้กลายเป็นอาณาจักรแห่งความมั่งคั่งมูลค่านับพันล้านเหรียญได้ภายในเวลาเพียง 4 ปีเท่านั้น โดยที่เขาลงมือลงแรงเองแต่เพียงผู้เดียว ในขณะเดียวกันก็ยังครอบครองธุรกิจของตัวเองแต่เพียงผู้เดียวด้วยเช่นกัน

<hr />

<a href="https://bit.ly/2OSAe1p">คลิกอ่านบทความทางด้านธุรกิจเพิ่มเติมได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนธันวาคม 2562 ได้ในรูปแบบ e-Magazine</a>
<a href="https://bit.ly/2OSAe1p"><img class="alignnone wp-image-25590" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/cover-December-2019.jpg" alt="" width="300" height="394" /></a>

YEEZY ทำสำเร็จ

<h2>Kanye West ดาราฮิปฮอปคนดัง ออกผลงานที่ดังที่สุดในรอบทศวรรษ แต่มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับดนตรีแม้แต่น้อย อาณาจักรรองเท้าผ้าใบ Yeezy มูลค่านับพันล้านของเขาเป็นโอกาสที่ใกล้เคียงที่สุดของยุคนี้ที่จะคว่ำ Air Jordan</h2>
ภายในบ้านของดาราฮิปฮอปคนดัง Kanye West ผู้ดูแลบ้านบอกให้ ผมสวมบูทที่เป็นผ้าทับรองเท้า Air Jordan หุ้มข้อสีดำและเทาที่ผมใส่มาขณะที่ผมก้าวเข้าไปในห้องโถง โดยด้านซ้ายมือของผมเป็นห้องสมุดของ West บนชั้นหนังสือเรียงรายไปด้วยหนังสืออย่าง Savage Beauty ของ Alexander McQueen และ Lineage of Eccentrics ของ Takashi Murakami

เขาจัดตำแหน่งหนังสือ 2-3 เล่มที่ดูเหมือนจะเป็นหนังสือแปลกๆ หลังจากนั่งลงบน เก้าอี้เท้าแขนตรงข้ามผม เขาสำรวจตรวจตราคนสัมภาษณ์อย่างใกล้ชิด “รองเท้าคู่แรกที่ผมจำได้ว่าเคยวาดภาพร่างคือ Jordan One ที่คุณใส่อยู่” West ในวัย 42 ปีกล่าว “พระเจ้ามีวิธีในการจัดคิวอะไรต่ออะไร”

เช่นเดียวกับ Michael Jordan ในช่วงทศวรรษที่ 90 กุญแจสำคัญสู่ความมั่งคั่งของ West มาจากรองเท้าผ้าใบ ไลน์สินค้า Yeezy ซึ่งเขาออกภายใต้แบรนด์ Nike ในปี 2009 ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ Adidas ในปี 2013 นั้น มีรองเท้า Jordan ที่ออกขายมาแล้ว 34 ปีเป็นคู่ปรับทั้งในด้านอิทธิพลทางวัฒนธรรมและพลังในเชิงพาณิชย์

จะยังไงก็ช่าง มันได้ผล Forbes ระบุรายได้ก่อนหักภาษีของเขาในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาที่ 150 ล้านเหรียญซึ่งหลักๆ ก็เป็นเพราะรองเท้า ทีมงานของเขายืนยันว่าตัวเลขจริงๆ สูงกว่านี้ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากไลน์เสื้อผ้า Yeezy ของเขา จะอย่างไร นี่เป็นตัวเลขสูงสุดที่เขาทำได้ในชีวิตการทำงานและพาเขามายืนอยู่ในอันดับที่ 3 ในรายชื่อ The Celebrity 100 ของเรา

การเอาใจใส่ในรายละเอียดเป็นประโยชน์กับ West ในอาชีพด้านดนตรี ซึ่งเริ่มติดลมบนเมื่อเขาทำงานเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับค่ายเพลง Roc-A-Fella Records ของ Jay-Z หลังจากเลิกเรียนวิทยาลัยกลางคัน เขาเป็นฟันเฟืองสำคัญในการวางโครงสร้างด้านเสียงของ The Blueprint สุดยอดอัลบั้มปี 2001 ของ Jay-Z

ผ่านไป 2 ปีครึ่ง West ออกผลงานในฐานะศิลปินเดี่ยว เขาออกแบบบางสิ่งบางอย่างที่เป็นการนำเพลงหลายๆ แนวมาสร้างเป็นดนตรีแนวใหม่งานในยุคแรกของเขาเต็มไปด้วยท่อนเล็กท่อนน้อยจาก Marvin Gaye และ Daft Punk West อัดเสียงกับ Cold Play และออกทัวร์กับ U2 เพลงของเขานำาสนอตัวตนของผู้เล่าเรื่องที่มีความอ่อนแอเปราะบางกว่าแร็ปในยุคนั้น โดยที่ 3 อัลบั้มแรกเน้นธีมด้านการศึกษาขั้นสูง อันแตกต่างจากแนวคิดวัตถุนิยมที่แร็ปเปอร์ดังๆ ของยุคต่างพากันร้องปาวๆ

<img class="alignnone size-full wp-image-25760" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/FO083119_281.jpg" alt="" width="300" height="296" />

ชื่อเสียงได้มอบโอกาสให้ West หวนกลับไปสู่รักแรกของเขา นั่นคือ รองเท้าผ้าใบ ในปี 2007 เขาออกแบบรองเท้าให้กับ A Bathing Ape บริษัทเสื้อผ้าจากญี่ปุ่น และจบงานด้วยการติดโลโก้รูปหมี Teddy ที่เคยปรากฏอยู่บนปกอัลบั้มชุดแรกๆ ของเขา (ถ้าได้เจอรองเท้าพวกนั้นสักคู่ตอนนี้คุณจะทำเงินได้หลายพันเหรียญ)

นั่นเป็นการเริ่มต้นและเขาได้พัฒนามิตรภาพกับกลุ่มเพื่อนในอุตสาหกรรมแฟชั่น อาทิ Hedi Slimane ผู้ที่มีตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ที่ Dior Homme และ Yves Saint Laurent “คุณจะต้องได้จับงานรองเท้าเป็นเรื่องเป็นราวแน่นอน”

West จำได้ว่าเพื่อนดีไซเนอร์คนดังกล่าวบอกกับเขา หลังจากนั้นไม่นานแรงกระตุ้นเช่นนั้นได้สร้างความมั่นใจแก่ West ในการลงมือเขียนข้อความขณะอยู่บนเครื่องบินถึง Mark Parker ซีอีโอของ Nike West เผยว่า “ตอนที่เขาเห็นภาพสเก็ตช์ของผม เขาบอกว่า ‘คนๆ นี้น่าสนใจ ชวนเขามาทำรองเท้าดีกว่า’”

Yeezy จึงถือกำเนิดขึ้น (เป็นคำที่ย่นมาจาก “Kanyeeze” ชื่อเล่นที่ Jay-z ตั้งให้เขาในช่วงอินโทรของเพลงที่ออกในปี 2003) West กล่าวว่า Parker ให้เขาเข้าห้องไปคุยกับ Tinker Hatfield ผู้ออกแบบ Air Jordan และในกลางปี 2008 เขาก็ได้ต้นแบบรองเท้า Air Yeezy หุ้มข้อออกมาโชว์ โดยที่ตัวรองเท้าจริงผลิตเสร็จในปี 2009

ในขณะผลประโยชน์ทางธุรกิจของเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปเช่นกัน แม่ของเขาเสียชีวิตหลังเกิดความผิดพลาดจากศัลยกรรมด้านความงามในปี 2007 ปีถัดมาเขาเลิกรากับ Alexis Phifer คู่หมั้น ในอัลบั้มของเขา 808s the Heartbreak เขาไม่ร้องแร็ปและหันมาใช้การร้องผ่านโปรแกรมปรับเสียง Autotune

แล้วก็มาถึงพฤติกรรมที่ผิดแปลก เมื่อเขากระโดดขึ้นเวทีขัดจังหวะ Taylor Swift ที่กำลังกล่าวสุนทรพจน์ขณะรับรางวัล Best Female Video ที่งานประกาศรางวัล MTV VMA เขายืนกรานว่า รางวัลดังกล่าวควรจะเป็นของ Beyoncé

เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างกระแสตีกลับอย่างรุนแรงจนเขาต้องยกเลิกทัวร์คอนเสิร์ตใหญ่ที่จะแสดงร่วมกับ Lady Gaga และย้ายไปอิตาลีเพื่อใช้เวลาฝึกงานที่ Fendi

เมื่อเขากลับจากยุโรป ต้นปี 2016 West เปิดศักราชด้วยการทวีตข้อความจำนวนมากเกี่ยวกับภาระหนี้สิน 53 ล้านเหรียญของเขา ก่อนจะขอเงินพันล้านเหรียญจาก Mark Zuckerberg เพื่อเป็นทุนให้กับความคิดสร้างสรรค์ของเขา

<img class="alignnone size-full wp-image-25761" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/kanye-west-04.jpg" alt="" width="600" height="400" />

อย่างไรก็ตาม อาชีพการงานของเขาไม่เคยเป็นเรื่องเล่นๆ และเขาเองก็แปลงพลังงานของความจริงจังนั้นให้เป็นผลกำไรยิ่งเมื่อเป็นเรื่องของรองเท้าผ้าใบด้วยแล้ว ยอดขายที่ Nike เติบโตอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจาก Air Yeezy II ออกวางขายในปี 2012 แต่ West รู้สึกว่าบริษัทปฏิบัติกับเขาเป็นแค่คนดังอ่อนหัดที่ทำงานให้คนหนึ่ง

“รองเท้าของผมเป็นรองเท้ารุ่นแรกที่มีผลสะท้อนในระดับเดียวกับ Air Jordan และผมต้องการทำอะไรที่มากกว่านั้น” West กล่าว “ตอนนั้น Nike ไม่ยอมให้ค่าลิขสิทธิ์รองเท้าแก่คนดัง” (Nike ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น แหล่งข่าวอีก 2 รายที่ทราบเรื่องข้อตกลงธุรกิจเผยว่า เขาไม่ได้รับค่าลิขสิทธิ์)

แต่ West ยืนยันความต้องการเป็นเจ้าของแบรนด์ของตัวเองอยู่เสมอ และเมื่อความไม่พอใจดังกล่าวรู้ถึงหูผู้บริหารของ Adidas พวกเขาเชิญ West ไปเยอรมนี และด้วยความช่วยเหลือของ Scooter Braun ซึ่งในช่วงนั้นได้เริ่มทำงานเป็นผู้ร่วมจัดการของ West

ในปี 2015 West เปิดตัว “Yeezy Season” ซึ่งเป็นครั้งแรกแบรนด์เสื้อผ้าและรองเท้าของเขา ปีต่อมาเขาหาทางสร้างประโยชน์จากอัลบั้มใหม่ของเขาด้วยการจัดงานปาร์ตี้ที่มีทั้งรองเท้าและเพลงของเขาที่ Madison Square Garden และมีคนเข้าร่วมงานเต็มทุกที่นั่ง

<img class="alignnone size-full wp-image-25758" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/kanye-west-03.jpg" alt="" width="800" height="533" />

Yeezy 350 ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา จากการผสมผสานทักษะการออกแบบของเขาและเทคโนโลยี Boost ของ Adidas ซึ่งอ้างว่า สามารถส่งพลังงานกลับไปยังผู้สวมใส่ขณะวิ่ง West เปลี่ยนรองเท้ากีฬาให้กลายเป็นแฟชั่นชั้นสูง และทำให้รองเท้าผ้าใบแบบไม่หุ้มข้อกลับมาอยู่ในกระแสอีกครั้ง

Adidas ไม่เคยเปิดเผยยอดขายของ Yeezy แต่ในปี 2016 West หลุดปากว่ารองเท้าของเขา 40,000 คู่ที่ปล่อยออกมาได้ขายหมดเกลี้ยงเพียงไม่กี่นาที แบรนด์ของเขาสร้างผู้ติดตามผ่านการปล่อยสินค้ารุ่นที่ผลิตแบบจำกัดและปล่อยขายแบบไม่ให้ตั้งตัว แทบไม่ต่างกับ Air Jordan

บางทีสิ่งที่น่าประทับใจที่สุดอาจจะเป็นการที่ West ยังเป็นเจ้าของ Yeezy เต็มตัว นี่คือเหตุผลที่ว่า ทำาไมเขาถึงได้ชื่อว่าเป็นมหาเศรษฐีระดับร้อยล้านแล้วหลายต่อหลายครั้งและเป็นขณะที่อายุยังน้อยกว่า Jordan มาก เมื่อพิจารณาความสำเร็จของ Yeezy เชื่อว่าในที่สุดแล้ว West จะขึ้นแท่นมหาเศรษฐีระดับพันล้านเช่นเดียวกับนักกีฬา NBA ระดับตำนานอย่าง Jordan เทียบเคียง Kylie Jenner น้องสะใภ้ และ Jay-Z เพื่อนรุ่นพี่คู่คิด แม้ว่าบุคคลที่ไม่ถนัดถ่อมตัวอย่าง West จะอ้างว่าเขามีถึงพันล้านแล้วและมากกว่านั้นอีก

“เรายังต้องรอดูสิ่งดีๆ ทั้งหมดที่จะเป็นที่ประจักษ์ผ่านความเป็นหุ้นส่วนนี้” เขาบอก “สิ่งที่เราได้พบจนถึงตอนนี้ยังเป็นเพียงแค่แสงสลัวน้อยๆ เท่านั้น”

เรื่อง: Zack O’malley Greenburg เรียบเรียง: เอมวลี อัศวเปรม ภาพ: Jamel Toppin

<hr />

<a href="https://bit.ly/2OSAe1p">คลิกอ่านบทความทางด้านธุรกิจเพิ่มเติมได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนธันวาคม 2562 ได้ในรูปแบบ e-Magazine</a>
<a href="https://bit.ly/2OSAe1p"><img class="alignnone wp-image-25590" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/01/cover-December-2019.jpg" alt="" width="300" height="394" /></a>

KANYE WEST แจ้งเกิดอีกครั้งด้วย Yeezy รองเท้าผ้าใบทำเงิน

<h2>การทัวร์คอนเสิร์ตนานหลายเดือนและดีลโฆษณาสินค้าให้บริษัทต่างๆ อย่าง Sprite และ Hennessy ช่วยส่งให้กลุ่มศิลปินฮิปฮอปที่ทำรายได้สูงสุดเข้ามาในลิสต์ประจำปี 2561 ของเราด้วยรายได้เฉลี่ย 44 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีที่ผ่านมา และ แร็ปเปอร์ ส่วนหนึ่งก็ยังซื้อหุ้นกันเป็นล่ำเป็นสันด้วย รวมถึง Nas วัย 45 ปี ซึ่งเพิ่งเข้าลิสต์มาเป็นครั้งแรกนับจากวันที่เขาเปิดตัวอัลบั้มแรกเมื่อเกือบ 25 ปีก่อน</h2>
Nas เริ่มผูกมิตรกับนักร่วมลงทุน (VC) Ben Horowitz ในงานดินเนอร์ปาร์ตี้เมื่อ 2-3 ปีก่อน และเริ่มโกยหุ้นดาวเด่นใน Silicon Valley (Lyft และ Coinbase) และสื่อออนไลน์ (Genius และ Mass Appeal) มาตั้งแต่ตอนนั้น เขากล่าวว่าการที่เขาสนใจในสตาร์ทอัพเหล่านี้ถือเป็นเรื่องธรรมชาติ “(ศิลปินฮิปฮอป) พัฒนาเทคโนโลยีอยู่ตลอด ตั้งแต่เครื่องเล่นแผ่นเสียงแบบจานเดียวมาเป็นจานคู่และเฟดเดอร์ปรับระดับเสียงขึ้นลง” และเขาก็ได้เงินจากการที่ขายกิจการของสตาร์ทอัพบางตัว ซึ่งรวมถึงสตาร์ทอัพผลิตกริ่งหน้าประตูชื่อ Ring ที่ขายกิจการให้ Amazon ไป 1.1 พันล้านเหรียญเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ “ไม่มียุคไหนหรอกที่ (แร็ปเปอร์) จะไม่คิดเรื่องการลงทุน แต่โลกเพิ่งเปิดโอกาสให้เราเท่านั้นเอง”

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถอ่านได้ที่ forbes.com/hip-hop
<h2>10 อันดับแร็ปเปอร์ทำเงินประจำปี 2561</h2>
<img class="alignnone wp-image-3301 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/01/jay-z.jpg" alt="Jay-Z" width="350" height="245" />
ลำดับที่ 1  Jay-Z
รายได้รวม 76.5 ล้านเหรียญ
<ul>
 	<li>อ่านเพิ่มเติม <a href="http://forbesthailand.com/news-detail.php?did=1440">จากแร็ปเปอร์สู่นักธุรกิจ Jay-Z ลงทุนเทคสตาร์ทอัพ</a></li>
</ul>
<img class="alignnone wp-image-3289 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/01/Sean-John-Combs-01.jpg" alt="Diddy" width="250" height="296" />
ลำดับที่ 2 Diddy
รายได้รวม 64 ล้านเหรียญ

<img class="alignnone wp-image-3291 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/01/Kendrick-Lamar.jpg" alt="Kendrick Lamar" width="350" height="238" />
ลำดับที่ 3 Kendrick Lamar
รายได้รวม 58 ล้านเหรียญ
<ul>
 	<li>อ่านเรื่องราวของ Kendrick Lamar หนึ่งใน 3 <a href="http://forbesthailand.com/people-detail.php?did=2270">เซเลปรุ่นใหม่ผู้สร้างความเปลี่ยนแปลง บนทำเนียบ 30 under 30 2018</a></li>
</ul>
<img class="alignnone wp-image-3293 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/01/Drake.jpg" alt="Drake" width="350" height="345" />
ลำดับที่ 4 Drake
รายได้รวม 47 ล้านเหรียญ

<img class="alignnone wp-image-3294 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/01/cole.jpg" alt="cole" width="350" height="430" />
ลำดับที่ 5 cole
รายได้รวม 35.5 ล้านเหรียญ

<img class="alignnone wp-image-3295 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/01/Dr.-Dre.jpg" alt="Dr. Dre" width="350" height="391" />
ลำดับที่ 6 Dr. Dre
รายได้รวม 35 ล้านเหรียญ

<img class="alignnone wp-image-3299 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/01/Nas.jpg" alt="nas" width="250" height="365" />
ลำดับที่ 7 nas
รายได้รวม 35 ล้านเหรียญ

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-3290 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/01/pitbull-01.jpg" alt="Pitbull" width="250" height="197" />
ลำดับที่ 8 Pitbull
รายได้รวม 32 ล้านเหรียญ

<img class="alignnone wp-image-3296 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/01/Future.jpg" alt="Future" width="350" height="244" />
ลำดับที่ 9 Future
รายได้รวม 30 ล้านเหรียญ

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-3298 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/01/Kanye-West.jpg" alt="Kanye West" width="250" height="375" />
ลำดับที่ 10 Kanye West
รายได้รวม 27.5 ล้านเหรียญ

&nbsp;
<ul>
 	<li>อ่านลิสท์ของปีก่อนที่นี่<a href="http://forbesthailand.com/leaderboard-detail.php?did=1988"> แร็ปเปอร์ผู้มั่งคั่ง: พบ 5 นักร้องเพลงแร็ปที่รวยที่สุดในโลก ปี 2017</a></li>
</ul>

<hr />

<a href="http://bit.ly/2zv4aIX">คลิกอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2561</a>

<img class="alignnone size-full wp-image-2348" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2018/12/%E0%B8%9B%E0%B8%81-NOV-2018.jpg" sizes="(max-width: 250px) 100vw, 250px" srcset="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2018/12/ปก-NOV-2018.jpg 250w, http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2018/12/ปก-NOV-2018-229x300.jpg 229w" alt="" width="250" height="328" />

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events