<h2>DiDi Global ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเรียกรถรายใหญ่ที่สุดในจีน เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และเพิ่มมูลค่าทรัพย์สุทธิให้กับ Will Wei Cheng ประธานและซีอีโอ และ Jean Qing Liu ประธานของบริษัท</h2>
<figure><img class="wp-image-47676" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/07/https-specials-images.forbesimg.com-imageserve-60dcd9641340daf22e691ffd-960x0.jpgfitscale.jpg" alt="DiDi Global" width="720" height="405" /><figcaption> ซีอีโอ Cheng Wei (ซ้าย) และประธาน Liu Qing (ขวา) ในรถยนต์ไฟฟ้า D1 ที่ได้รับการพัฒนาร่วมกันโดย Didi Chuxing และ BYD ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2020</figcaption></figure>

ปัจจุบัน <span style="color: #008000;">Cheng</span> มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 4.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่<span style="color: #008000;"> Liu</span> เพิ่งก้าวเข้าสู่ทำเนียบมหาเศรษฐีด้วยทรัพย์สินราว 1.1 พันล้านเหรียญ<span class="Apple-converted-space"> </span>

ในเอกสารที่<span style="color: #008000;"> D<a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/sites/isabellebousquette/2021/06/30/ipo-of-chinese-ride-hailing-firm-didi-makes-its-president-a-billionaire/?sh=2339e48126dd">idi Global</a></span> ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) ระบุว่า Cheng มีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทราวร้อยละ 6.5 และ Liu ถือหุ้นอยู่ที่ประมาณร้อยละ 1.6

หุ้นของ Didi<span class="Apple-converted-space">  </span>เริ่มซื้อขายในวันพุธที่ราคา 16.65 เหรียญ เพิ่มขึ้นจากข้อเสนอเริ่มต้นของบริษัทที่ 14 เหรียญ ก่อนที่จะปรับตัวลงมาในช่วงบ่ายที่ 14.10 เหรียญ และปิดตลาดอยู่ที่ 14.14 เหรียญ ส่งผลให้ DiDi มีมูลค่าตลาดประมาณ 6.7 หมื่นล้านเหรียญ

อย่างไรก็ดี แม้ว่ามูลค่าตามราคาตลาดจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 8 หมื่นล้านเหรียญในช่วงเช้าของวันเดียวกัน แต่ก็ยังเป็นหนึ่งในการเสนอขายหุ้น IPO ที่ใหญ่ที่สุดในปี 2021 โดยระดมทุนได้มากถึง 4 พันล้านเหรียญ

Cheng ก่อตั้ง DiDi Dache บริการเรียกรถแท็กซี่ในปี 2012 หลังลาออกจากตำแหน่งรองประธานของ Alipay แพลตฟอร์มธุรกรรมออนไลน์ในเครือ Alibaba<span class="Apple-converted-space"> </span>

โดยเขาจำได้ว่ามีความคิดในการก่อตั้งธุรกิจดังกล่าวขณะยืนรอเรียกรถแท็กซี่ในคืนที่อากาศหนาวเย็นในกรุงปักกิ่ง <span style="color: #993300;">“ผมไม่เหมือนคนอื่นๆ ในแถว ผมไม่หงุดหงิด เพราะผมมีแผนการบางอย่าง และในที่สุดเราก็ได้เปิดตัว DiDi ในปีนั้น”</span> Cheng เขียนในจดหมายของผู้ก่อตั้ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารที่ยื่นต่อ SEC

ด้าน Liu ผู้ซึ่งตัดสินลาออกจาก Goldman Sachs เพื่อร่วมก่อตั้ง DiDi กับ Cheng เขียนในจดหมายของผู้ก่อตั้งว่า แนวคิดนี้ดึงดูดใจเธอ เพราะเธอมีลูก 3 คนและกลัวว่าจะติดอยู่ที่ใดที่หนึ่งท่ามกลางสายฝนหรือหิมะโดยไม่มีทางกลับบ้าน

ทั้งนี้ ในช่วงแรก DiDi เผชิญกับการแข่งขันจาก Kuaidi Dache ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Alibaba และ Uber ซึ่งเริ่มเข้าสู่ตลาดในประเทศจีน แต่แล้วในปี 2015 Didi ได้ควบรวมกิจการกับ Kuaidi Dache และเปลี่ยนชื่อเป็น DiDi Chuxing จากนั้นในปี 2016 บริษัทได้ซื้อกิจการของ Uber ในจีนเพื่อแลกกับการถือหุ้นในบริษัท โดยปัจจุบัน Uber Technologies Inc. ยังคงถือหุ้นร้อยละ 12 อยู่

ล่าสุด ในเดือนมิถุนายน 2021 DiDi Chuxing ได้รีแบรนด์เป็น DiDi Global <span style="color: #993300;">“เราต้องการที่จะเป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก”</span> ผู้ก่อตั้งระบุในเอกสาร โดยตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา DiDi ได้ขยายธุรกิจโดยเริ่มจากบราซิลและเม็กซิโก กระทั่งในปัจจุบันมีการให้บริการใน 15 ประเทศ แต่การให้บริการในจีนยังคงสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้มากที่สุด เห็นได้จากในปี 2020 มีเพียงร้อยละ 2 ของรายได้เท่านั้นที่ได้รับจากการดำเนินงานในต่างประเทศ

<article id="post-47628" class="post-47628 post type-post status-publish format-standard has-post-thumbnail hentry category-asia category-world tag-adrian-cheng tag-c-ventures tag-casetify tag-new-world-development tag-95">
<div class="body-content post-content-wrap post-detail"><article id="post-47565" class="post-47565 post type-post status-publish format-standard has-post-thumbnail hentry category-asia category-world tag-apple-daily tag-jimmy-lai tag-11359 tag-12736 tag-506">
<div class="body-content post-content-wrap post-detail">

<em><span class="s3">แปลและเรียบเรียง</span>จากบทความ IPO Of Chinese Ride-Hailing Firm DiDi Makes Its President A Billionaire </em><em>โ</em><em>ดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค </em><em>เผยแพร่บน Forbes.com</em>

อ่านเพิ่มเติม:<span style="color: #003300;"><a style="color: #003300;" href="https://forbesthailand.com/world/asia/adrian-cheng-นำ-c-ventures-ผนึกกำลัง-casetify-ขยายเคร.html"> Adrian Cheng นำ C Ventures ผนึกกำลัง Casetify ขยายเครือข่ายทั่วโลก</a></span>

</div>
</article></div>
</article>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events