<h2>ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ปลื้ม ครึ่งแรกปี 2567 กวาดยอดขายบ้าน-คอนโด ทะลุ 18,331 ล้าน โดยยอดขายหลักราว 79% มาจากคอนโด หลังคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้และคอนโดตามหัวเมืองท่องเที่ยวได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี พร้อมวางแผนครึ่งปีหลังเน้นเปิดตัวใหม่ทำเลศักยภาพ เจาะตลาดลูกค้าซื้ออสังหาฯ เงินสด ระบายสต๊อกคงค้าง และพัฒนาช่องทางการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ </h2>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เผยว่า ช่วงครึ่งแรกของปี 2567 (ม.ค.-มิ.ย.2567) บริษัทมียอดขายจากโครงการที่อยู่อาศัยในเครือจำนวนทั้งสิ้น 18,331 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดขายจากกลุ่มโครงการบ้านจัดสรร ภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI ประมาณ 3,807 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 21% และยอดขายจากกลุ่มโครงการคอนโดมิเนียม ประมาณ 14,524 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 79% และหากแบ่งตามสถานะโครงการ จะเป็นยอดขายจากโครงการพร้อมอยู่ (Ready to Move) ประมาณ 49% และยอดขายจากโครงการที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ และโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง (Ongoing) ประมาณ 51%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับกลุ่มโครงการที่สร้างยอดขายโดดเด่นในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ คือกลุ่มโครงการคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ภายใต้แนวคิด Origin Pet Family นำโดยโครงการออริจิ้น เพลส แจ้งวัฒนะ (Origin Place Chaengwattana) และโครงการออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ (Origin Place Taopoon Interchange) โครงการเลี้ยงสัตว์ได้แห่งแรกของทำเลแจ้งวัฒนะและเตาปูน ที่เพิ่งเปิดตัวในไตรมาส 2/2567 ขณะเดียวกัน โครงการคอนโดมิเนียมในหัวเมืองท่องเที่ยวอย่าง โซ ออริจิ้น บางเทา บีช (SO Origin Bangtao Beach) ที่เพิ่งเปิดตัวในไตรมาส 1/2567 ก็ได้รับการตอบรับที่ยอดเยี่ยม กวาดยอดขายสะสมแล้วกว่า 80%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“สภาพตลาดรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ ชะลอตัวลงจากปีที่ผ่านมา แต่คาดว่าจะเริ่มค่อยๆ ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง จากนโยบายกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐ เช่น การลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง แต่นอกเหนือจากปัจจัยบวกจากภายนอกแล้ว ข้อสำคัญคือ เราต้องเลือกบุกไปยังตลาดที่มีความต้องการซื้อจริง และเลือกเซ็กเมนท์ที่มีคู่แข่งจำนวนไม่มากด้วย”&nbsp; <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/07/ENeZPHijqSAX4Pyw2bi9.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="ENeZPHijqSAX4Pyw2bi9.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ผู้บริหารของออริจิ้น ยังกล่าวอีกว่า สำหรับกลยุทธ์การสร้างยอดขายในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 นั้น บริษัทให้ความสำคัญกับ 3 ด้าน ได้แก่ 1.การระบายสินค้าคงค้าง (Inventory) เตรียมจัดโปรโมชั่นใหม่ๆ กับกลุ่มโครงการพร้อมอยู่ ทั้งโปรโมชั่นด้านการตลาด และโปรโมชั่นกับพันธมิตรทางการเงิน เพื่อให้ลูกค้ามีขีดความสามารถเข้าถึงโครงการที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น 2.การเลือกเปิดโครงการในทำเลที่เหมาะสม เลือกเปิดโครงการในทำเลที่มีความต้องการซื้อจากลูกค้าหลายกลุ่ม ทั้งผู้ซื้ออยู่เอง ผู้ซื้อเพื่อลงทุนระยะยาว ตลอดจนตลาดต่างชาติ และเป็นทำเลที่มั่นใจได้ว่าหากเปิดตัวแล้ว จะสามารถสร้างยอดขายกลับมาได้ทันที เช่น ทำเลหัวเมืองต่างจังหวัด ที่ยังมีกลุ่มลูกค้าเศรษฐีเงินสด และ 3.การเพิ่มโอกาสเข้าถึงลูกค้าใหม่ เดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มที่จะช่วยเปิดทางให้ลูกค้าเข้าถึงการซื้อขายโครงการของบริษัทได้ทุกที่ทุกเวลา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ตลาดปีนี้ไม่ง่าย เพราะกำลังซื้อยังหดตัวในภาพรวม แต่ออริจิ้น ยังคงให้ความสำคัญกับการมี Disruptor Mindset เราผ่านช่วง COVID-19 มาได้ เพราะเราปรับตัวเร็ว และปรับตัวตลอดเวลา เราเชื่อมั่นว่าทั้ง 3 กลยุทธ์ที่เราจะเดินหน้าต่อจากนี้ จะช่วยให้เราปรับตัวพร้อมส่งมอบสินค้าที่อยู่อาศัยคุณภาพให้ผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนได้” พีระพงศ์ กล่าว <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/07/6Bygu1QwVgzhddQB8vqc.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="6Bygu1QwVgzhddQB8vqc.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div>&nbsp; ​​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ&nbsp;:&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/property/sansiri-show-first-half-2024-sales-25-billion-baht-third-quarter-launching-13-projects" alt="แสนสิริ อวดครึ่งแรกปี 67 โกยยอดขาย 2.5 หมื่นล้าน รุกต่อไตรมาส 3 เตรียมเปิดตัวอีก 13 โครงการ">แสนสิริ อวดครึ่งแรกปี 67 โกยยอดขาย 2.5 หมื่นล้าน รุกต่อไตรมาส 3 เตรียมเปิดตัวอีก 13 โครงการ</a>​ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ออริจิ้น กวาดรายได้ครึ่งแรกปี 67 ราว 1.83 หมื่นล้าน คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้-หัวเมืองท่องเที่ยวดันยอดขายหลัก 79% 

ORIGIN  เปิดตัว Investment Property แบบ ‘‘เสือนอนกิน’’ ชูปันผลนาน 20 ปี ให้นักลงทุน เป็นเจ้าของ Serviced Apartment พร้อมบริการมาตรฐานโรงแรม

คุณสิริพงศ์ ศรีสว่างวงศ์ HEAD OF INVESTMENT PROPERTY PROGRAM  ผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุน เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัว Investment Property Program (IP) โปรแกรมอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ครั้งแรก เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำและได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอ อีกทั้งยังตอบโจทย์กลุ่มนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่นิยมซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อปล่อยเช่าอีกด้วย

“เราเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์บริษัทแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่เปิดตัวโปรแกรมอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้านักลงทุนที่ซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่า ซึ่งเป็นฐานลูกค้ากลุ่มหนึ่งของบริษัท จากการวิจัยของบริษัทพบว่า มีลูกค้านักลงทุนหลายรายที่สนใจลงทุนและต้องการการบริการจัดการด้านการเช่า บริษัทจึงพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมาอัพเกรดเป็นเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ที่มีการบริการระดับโรงแรม 5 ดาว เพื่อตอบโจทย์นักลงทุนกลุ่มนี้ ซึ่งเราจะมีกลุ่มผู้เช่าเป้าหมายชาวต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจ และเข้ามาทำงานในประเทศไทย รวมถึงบริษัทข้ามชาติ ที่เข้ามาทำงานและพักอาศัยอยู่บนสุขุมวิท” คุณสิริพงศ์กล่าว

<img class="alignnone size-full wp-image-49611" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/qqqq21.jpg" alt="" width="600" height="766" />

สำหรับ Investment Property Program (IP) ได้เตรียมเปิดตัว FLAGSHIP เรือธง อย่าง Hampton Residence Next To Emporium ที่ตั้งอยู่บนทำเลทองย่านพร้อมพงษ์ในซอยสุขุมวิท 24 ใกล้เอ็มโพเรียม ถือเป็นทำเล Super Prime ในใจกลางเมือง ที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอสังหาริมทรัพย์ ทำเลสุขุมวิท 24 ถือเป็นแหล่งพักอาศัยระดับพรีเมี่ยมยอดนิยมของชาวต่างชาติ

“จุดเด่นของ Investment Property ได้แก่ การได้รับผลตอบแทนที่มั่นคงเป็นรายเดือนจากการปล่อยเช่าในรูปแบบเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ที่บริหารจัดการโดยทีมงานมืออาชีพอย่าง Hampton Hotel &amp; Residence Management (HHR) โดยปัจจุบันดูแลธุรกิจโรงแรม 2 แห่ง ได้แก่ Staybridge Suites Bangkok Thonglor ที่ย่านทองหล่อ และ Holiday Inn Suites” คุณสิริพงศ์กล่าว

<figure><img class="wp-image-49549 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/noq1.jpg" alt="" width="421" height="480" /><figcaption> คุณจตุพร วิไลแก้ว CEO HAMPTON HOTEL &amp; RESIDENCE MANAGEMENT (HHR)</figcaption></figure>

คุณจตุพร วิไลแก้ว CEO HAMPTON HOTEL &amp; RESIDENCE MANAGEMENT (HHR) บริษัทในเครือ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นผู้บริหารหญิงที่คร่ำหวอดในวงการธุรกิจโรงแรมมากว่า 20 ปี กล่าวว่า บริษัทได้จัดตั้งบริษัท แฮมป์ตัน โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ เมเนจเมนท์ จำกัด เพื่อบุกธุรกิจใหม่ในด้านการบริหารโรงแรมและที่พักอาศัยภายใต้แบรนด์ Hampton Residence โดยจะให้บริการด้านการบริหารจัดการสินทรัพย์ (Asset Management) เพื่อช่วยบริหารจัดการผู้เช่าหรือผู้เข้าพัก และสร้างรายได้หรือผลตอบแทนให้เป็นไปตามเป้าหมาย

“เราจะเข้าไปช่วยตกแต่งห้องพักและจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในแต่ละห้องที่เราบริหารการเช่า และหาผู้เช่าให้แก่นักลงทุนที่ไม่มีเวลาหาผู้เช่า ตลอดจนให้บริการและอำนวยความสะดวกให้กับผู้เช่าตลอด 24 ชั่วโมงในรูปแบบเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ พร้อมบริการภายใต้มาตรฐานระดับโรงแรม 5 ดาว” จตุพรกล่าว

<img class="alignnone size-full wp-image-49610" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/picture2-1.png" alt="" width="601" height="875" />

สำหรับจุดแข็งของบริษัท ได้แก่ ประสบการณ์ของทีมงานที่คลุกคลีกับธุรกิจโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์มายาวนานกว่า 20 ปี มาตรฐานการให้บริการที่เน้นเรื่องความปลอดภัยของผู้พักอาศัย ฐานข้อมูลลูกค้าและเครือข่ายลูกค้ากลุ่ม Long-Stay ทั้งสถานฑูตต่างๆ ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งฐานลูกค้าที่เป็นบริษัทนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ ขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งบริษัทยังมีเครือข่ายและคอนเนคชั่นอันยาวนานกับเอเจนต์ต่างชาติ ที่จะช่วยส่งต่อกลุ่มลูกค้าองค์กรที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศในอนาคตอีกด้วย

<img class="alignnone size-full wp-image-49609" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/gggggk-1.jpg" alt="" width="600" height="874" />

“เราวางเป้าหมายที่จะนำบริษัท แฮมป์ตันฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใน 5 ปีข้างหน้านี้ และตั้งเป้าที่จะเป็น Top 5 โดยเราเตรียมรับบริหารโรงแรมใน Pipeline ของออริจิ้น กรุ๊ปอีก 11 โครงการ ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท” จตุพรกล่าว

ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่มีความไม่แน่นอน การลงทุนใน Investment Property ถือเป็นโอกาสและจังหวะที่ดี เพราะบริษัทปันผลตอบแทนแบบ ‘‘เสือนอนกิน’’ ยาวถึง 20 ปี โดยคาดว่าผลตอบแทนต่อปีน่าจะอยู่ที่ประมาณ 5-9% ซึ่งในช่วง 5 ปีแรก บริษัทมีการการันตีให้ 5% ต่อปี เพื่อสร้างความอุ่นใจและลดความกังวลของนักลงทุนที่มองหาสินทรัพย์เพื่อลงทุนในช่วงวิกฤติโควิด-19

โปรแกรมการลงทุน IP เป็นสินทรัพย์สุดคลาสิคที่น่าลงทุน ที่เหมาะสมที่สุดในช่วงเวลาที่เงินด้อยค่า ในสถานการณ์ COVID-19 นี้ เนื่องจากผู้ลงทุนได้ถือโฉนดเป็นทรัพย์สิน ที่เตรียมรอเก็บมูลค่าเพิ่ม (CAPITAL GAIN) ในอนาคต มีความเสี่ยงต่ำ เหมาะกับการกระจายพอร์ตความเสี่ยงของนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนที่ได้เงินมาจากสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ที่ค่อนข้างมีความผันผวนในช่วงสถานการณ์นี้ คุณสิริพงศ์กล่าวเสริม

<figure><img class="wp-image-49552 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/sfaaf.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> คุณสิริพงศ์ ศรีสว่างวงศ์ HEAD OF INVESTMENT PROPERTY PROGRAM</figcaption></figure>

Hampton Residence l Next To Emporium เปิดโอกาสให้นักลงทุนเป็นเจ้าของ Serviced Apartment เพียง 250 KEYS พื้นที่ยูนิตลงทุนมีขนาดตั้งแต่ 28-67 ตารางเมตร ในระดับราคา 8-18 ล้านบาท ให้จับจองเป็นเจ้าของเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ พร้อมถือโฉนดเป็นกรรมสิทธิ์บนทำเลทองสุขุมวิท พร้อมรอรับผลตอบแทนแบบ ‘‘เสือนอนกิน’’

โดยสามารถจองยูนิตลงทุนออนไลน์ ONLINE TRADING Hampton Residence l Next To Emporium บนทำเลทองคำใจกลางสุขุมวิท การลงทุนที่ดีที่สุดในช่วงเวลานี้..ผลตอบแทน 5-9% นานสูงสุด 20 ปี หน่วยลงทุน 8-18 ล้านบาท

จองยูนิตลงทุนออนไลน์ ได้ที่ <a href="https://evenprop.com/hampton">https://evenprop.com/hampton</a>
ลงทะเบียนรับคิวจองสิทธิ์ ได้ที่ <a href="https://bit.ly/3fUkcBb">https://bit.ly/3fUkcBb</a>

<img class="alignnone size-full wp-image-49608" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/1111.png" alt="" width="720" height="885" />

รับชมข้อมูลการลงทุน แบบ PRIVATE VISIT  ได้ทุกวัน เวลา 9.00-18.00 น. @ LOUNGE INVESTMENT PROPERTY (IP) สุขุมวิท 24 LOCATION <a href="https://goo.gl/maps/BWoZZTf9TtVnz1se9">https://goo.gl/maps/BWoZZTf9TtVnz1se9</a>
สอบถามยูนิตลงทุนพิเศษ โทร 098 249 9955

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เปิดตัว Investment Property ชูปันผลยาว 20 ปี เอาใจนักลงทุน ประเดิมโครงการแรก Hampton Residence Next To Emporium เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ระดับโรงแรม 5 ดาว บนทำเลทองย่านสุขุมวิท 24 ฮับพักอาศัยชาวต่างชาติ พร้อมการันตีผลตอบแทนปีละ 5% ยาว 5 ปี

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events