<h2>PayMongo สตาร์ทอัพฟินเทคอายุ 3 ปีจากกรุงมะนิลา ระดมทุน 31 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในรอบ Series B นำโดย Peter Thiel ผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal, Stripe ยักษ์ใหญ่ด้านการชำระเงิน และ Y Combinator รวมเป็นเงินทุนทั้งสิ้น 46 ล้านเหรียญ </h2>
<img class="alignnone wp-image-59014" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/02/hires-paymongo-header.png-1024x676.jpg" alt="" width="720" height="475" />

“การลงทุนนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการเติบโตของเรา เช่นเดียวกับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของลูกค้าบนแพลตฟอร์ม” Francis Plaza ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ PayMongo หนึ่งในหนุ่มสาวดาวรุ่งแห่งทำเนียบ <a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/francis-plaza/?sh=4e8260236c36">Forbes 30 Under 30 Asia ประจำปี 2020</a> กล่าวในแถลงการณ์ “โดยเงินทุนในรอบ Series B นี้ จะมีส่วนช่วยในการพัฒนาระบบธุรกรรมออนไลน์ให้มีความราบรื่นมากยิ่งขึ้น”

ด้านนักลงทุนรายอื่นๆ ในรอบ Series B ที่ให้การสนับสนุน ได้แก่ กองทุน JAM Fund ของ Justin Mateen ผู้ร่วมก่อตั้ง Tinder, บริษัทร่วมทุนของฟิลิปปินส์ ICCP SBI Venture Partners และ Kaya Founders ของ Lisa Gokongwei จาก JG Summit ร่วมกับนักลงทุนเดิมอย่าง Global Founders Capital และ SOMA Capital ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในซานฟรานซิสโก

“ในฐานะหนึ่งในนักลงทุนรายแรกๆ ของ PayMongo ผมได้เห็นพัฒนาการของพวกเขาจากการลดความซับซ้อนด้านการชำระเงินสำหรับธุรกิจจำนวนหนึ่งมาสู่การเป็นบริษัทที่ลูกค้าหลายพันรายต้องพึ่งพาในการดำเนินงานในแต่ละวัน” Mateen กล่าวในแถลงการณ์ “ผมตื่นเต้นกับความก้าวหน้าของพวกเขา และยินดีที่จะให้การสนับสนุนทีมงานอีกครั้งในการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจดิจิทัลที่มากขึ้น”

สำหรับการระดมทุนในรอบล่าสุดนี้เกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปีหลังจากที่บริษัทกวาดเงินทุนไปกว่า 12 ล้านเหรียญในรอบ Series A  ขณะที่ในปี 2019 สามารถระดมทุนได้ 2.7 ล้านเหรียญในรอบ Seed เพื่อใช้ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ 

นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมา PayMongo ยังสามารถคว้ารางวัล Forbes Asia 100 to Watch ด้วยรูปแบบโมเดลธุรกิจที่นำเสนอตัวเลือกการชำระเงินบนระบบดิจิทัลอย่างครบครันตั้งแต่บัตรเครดิตไปจนถึงกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่ Plaza เปรียบเปรยว่าเป็น “Stripe (ฟินเทคที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก) สำหรับชาวฟิลิปปินส์”

โดยนับตั้งแต่การจัดหาเงินทุนในรอบ Series A ปี 2020 บริษัทมีฐานลูกค้าเติบโตขึ้น 3 เท่า ขณะที่ยอดการทำธุรกรรมรายเดือนเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า และจากนี้เป็นต้นไป PayMongo วางแผนจะขยายกลุ่มลูกค้าไปยังวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ควบคู่ไปกับวิสาหกิจขนาดเล็กที่คิดเป็นร้อยละ 99 ของธุรกิจในฟิลิปปินส์

“เป้าหมายของเรา คือ การให้บริการทางการเงินที่ครบจบในแพลตฟอร์มเดียวแก่ลูกค้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเริ่มจากฟิลิปปินส์เป็นที่แรก”

ทั้งนี้ จากการรายงานของ Google, Temasek และบริษัทที่ปรึกษา Bain &amp; Company ระบุว่า ฟิลิปปินส์ครองตำแหน่งตลาดดิจิทัลที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2021 ที่มูลค่า 1.7 หมื่นล้านเหรียญ และมีแนวโน้มว่าจะมีมูลค่าแตะ 4 หมื่นล้านเหรียญภายในปี 2025 โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้บริการดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงสถานการณ์โควิด-19 

แปลและเรียบเรียงโดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค จากบทความ Peter Thiel-Backed Philippine Fintech Startup Raises $31 Million, Aims To Be A One-Stop Shop For Southeast Asia’s Financial Needs เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: <a style="color: #003300;" href="https://forbesthailand.com/news/other/guillaume-pousaz-ผู้ก่อตั้ง-checkout-com-ขึ้นแท่น.html">Guillaume Pousaz ผู้ก่อตั้ง Checkout.com ขึ้นแท่น ‘มหาเศรษฐีเทคโนโลยีที่ร่ำรวยที่สุดในยุโรป’</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events