ก้าวเข้าสู่ปีที่ 91 สายการบินแห่งชาติตุรกี 'เตอร์กิซ แอร์ไลน์' ให้บริการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เหล่านักเดินทางและท่องเที่ยวจากทั่วโลกในรูปแบบ 'ทัวร์ฟรี อิสตันบูล' ระหว่างรอต่อเครื่องสำหรับผู้โดยสารที่มีเวลาว่างนับตั้งแต่ 6 ชั่วโมงขึ้นไป

เนื่องในวาระครบรอบ 91 ปี ของ 'เตอร์กิซ แอร์ไลน์' ในปี 2024 สายการบินแห่งชาติตุรกี มีการตั้งเป้าที่จะให้บริการผู้โดยสารจากทั่วโลกได้มากกว่า 170 ล้านคน พร้อมมุ่งมั่นให้บริการสุดประทับใจแก่เหล่าผู้โดยสาร ด้วยการคัดสรรเปิดเส้นทางการบินใหม่ๆ ทั้งนี้ 'ท่าอากาศยานอิสตันบูล' ถือเป็น Hub หรือศูนย์กลางการเชื่อมต่อเที่ยวบินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกและยังมีความสำคัญในการเป็นศูนย์กลางการบินของสายการบินเตอร์กิซ แอร์ไลน์ ที่เชื่อมต่อกับจุดหมายปลายทางเป็นจำนวนมากถึง 349 แห่ง ใน 130 ประเทศ จากทั้งหมด 6 ทวีปทั่วโลก

ด้วยรางวัลการันตีในด้านต่างๆ ทั้งจาก Skytrax World Airline Awards: ที่ได้รับการประกาศให้เป็น "สายการบินที่ดีที่สุดในยุโรป" เป็นครั้งที่เก้าในปี 2024 , World Finance’s Sustainability Awards 2024 “สายการบินแห่งชาติที่ยั่งยืนที่สุด” ต่อเนื่องเป็นปีที่สาม, World Travel Awards 2024: "สายการบินชั้นนำในยุโรป" ที่ตอกย้ำถึงความเป็นเลิศในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระดับโลก รวมทั้ง APEX Passenger Choice Awards: รางวัลแห่งความโดดเด่นและความสะดวกสบายของที่นั่งสร้างความพึงพอใจให้กับผู้โดยสารในปี 2023 ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ถือเป็นตัวสะท้อนได้ดีในเรื่องคุณภาพการบริการของสายการบิน 'เตอร์กิซ แอร์ไลน์' และการให้บริการอันโดดเด่นของ Exclusive Lounge หรือ ห้องรับรองพิเศษที่ท่าอากาศยานอิสตันบูล ซึ่งนับเป็นมาตรฐานใหม่ในการเดินทางระดับพรีเมียม

นอกจากจะมีอาหารที่รังสรรค์โดยเชฟชั้นนำและเครื่องดื่มที่คอยให้บริการเหล่านักเดินทางได้อย่างหลากหลายแล้ว ยังมีการให้บริการสุดพิเศษที่น่าประทับใจ อาทิ ห้องพักส่วนตัว ห้องอาบน้ำ โรงภาพยนตร์ โซนเล่นเกมส์ ห้องสมุด และยังมีพื้นที่สำหรับห้องประชุมหรือห้องสำหรับนั่งทำงานแบบส่วนตัว พร้อมบริการ Wi-Fi ความเร็วสูง ขณะเดียวกันในส่วนของ Exclusive Lounge ที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ก็จะมีอาหารให้เลือกหลากหลายทั้ง ไทย ตุรกี และนานาชาติ รวมทั้งมีห้องอาบน้ำ ห้องสวดมนต์หรือห้องละหมาด และบริการนวดฟรี ภายใต้บรรยากาศอันหรูหรา ผ่อนคลาย เงียบสงบ เพื่อรองรับและตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้โดยสารจากทั่วโลกได้เป็นอย่างดี

Exclusive Lounge ของ เตอร์กิซ แอร์ไลน์ ณ ท่าอากาศยานอิสตันบูล ประเทศตุรกี

Exclusive Lounge ของ เตอร์กิซ แอร์ไลน์ ณ ท่าอากาศยานอิสตันบูล ประเทศตุรกี

Exclusive Lounge ของ เตอร์กิซ แอร์ไลน์ ณ ท่าอากาศยานอิสตันบูล ประเทศตุรกี

ทั้งนี้ สายการบิน 'เตอร์กิซ แอร์ไลน์' ยังเปิดให้บริการ 'ทัวร์ฟรี อิสตันบูล' แก่เหล่าผู้โดยสารในทุกระดับที่จะต้องเดินทางระยะไกลและมีเวลาว่างสำหรับรอต่อเครื่องนับตั้งแต่ 6 ชั่วโมงขึ้นไป สามารถเลือกโปรแกรมทัวร์ท่องเที่ยวที่มีให้เลือกมากถึงจำนวน 6 เส้นทางในแต่ละวันตามความเหมาะสมได้ในแต่ละช่วงเวลา เพื่อเยี่ยมชมสถานที่อันสวยงามและยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในเมืองอิสตันบูล อาทิ ฮาเกียโซเฟีย, มัสยิดสีฟ้า, ตลาดแกรนด์บาซาร์ หรือทัวร์ล่องเรือบอสฟอรัส โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

และจากความร่วมมือเป็นพันธมิตรกันระหว่างกันของ KTC บัตรเครดิตชั้นนำของไทย และสายการบินระดับโลก เตอร์กิซ แอร์ไลน์ จึงได้มีการนำคณะสื่อมวลชนรวมถึง Forbes Thailand บินลัดฟ้าไปสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับดังกล่าว ซึ่งนอกเหนือจากความสะดวกสบายของบริการอันน่าทึ่งจากโซนที่นั่งชั้นธุรกิจแล้ว 'ทัวร์ฟรี TourIstanbul' ที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ก็ยังสร้างความประทับใจได้อย่างมิรู้ลืมอีกเช่นกัน

Sultan Ahmet Camii มัสยิดสุลต่านอาเหม็ด

มีชื่อเรียกที่หลายๆ คนรู้จักกันดีว่า มัสยิดสีน้ำเงิน (Blue Mosque) สร้างขึ้นเพื่อแสดงความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิ์ออตโตมัน ในปี ค.ศ. 1609 ถึง 1616 ภายในตกแต่งด้วยกระเบื้องสีน้ำเงินจากเมืองอิซนิคของตุรกีที่มีชื่อเสียงในเรื่องฝีมือการทำกระเบื้องมากกว่า 20,000 ชิ้น อีกทั้งสถานที่แห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO ในปี 1985 ภายใต้ชื่อ พื้นที่ประวัติศาสตร์ของอิสตันบูล

Basilica Cistern อุโมงค์น้ำใต้ภิภพ

มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า อ่างเก็บน้ำเยเรบาตัน” (Yerebatan) หรือ อุโมงค์น้ำขนาดมหึมาอันแสดงถึงความล้ำเลิศด้านวิศวกรรมและการชลประทานของคนยุคโบราณ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 6 ยุคจักรพรรดิ จัสติเนียนัสที่ 1 แห่งอาณาจักรไบแซนไทน์

Galataport ท่าเทียบเรือสำราญ

ท่าเรือกาลาตา ถือเป็นแหล่ง Hang out ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในเมืองอิสตันบูล นอกเหนือจากการเป็นท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ให้แก่เหล่านักท่องเที่ยวจากยุโรปได้เดินทางมาเยี่ยมเยียนแล้ว ที่แห่งนี้ยังประกอบไปด้วย ร้านค้าและร้านอาหารมากกว่า 250 แห่ง ต่อเนื่องไปถึง โรงแรม สถานบันเทิง และพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ของอิสตันบูล

นี่เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งของสถานที่อันสวยงามที่ถูกจัดอยู่ในโปรแกรมการท่องเที่ยว Touristanbul เท่านั้น โดยที่ผ่านมาโปรแกรมดังกล่าวได้กระแสตอบรับที่ดีจากเหล่านักท่องเที่ยว/นักเดินทางที่เป็นผู้โดยสารของสายการบินเป็นอย่างมาก เห็นได้จากตัวเลขในเดือนกันยายน 2024 ที่ผ่านมา มีผู้โดยสารจากทั่วโลกมาใช้บริการมากถึง 12,260 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนสูงถึง 55% ถือเป็นแนวโน้มที่ดีจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงคาดการณ์ได้ว่าภายในสิ้นปี 2024 นี้ สายการบินเตอร์กิซ แอร์ไลน์จะสามารถให้บริการต้อนรับผู้โดยสารคนที่ 100,000 จากโปรแกรมดังกล่าวได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

สำหรับเหล่านักเดินทางท่องเที่ยวที่สนใจทัวร์ Touristanbul จากการเลือกใช้สายการบินเตอร์กิซ แอร์ไลน์ และมีเวลาเหลือในการรอต่อเครื่องตั้งแต่ 6 ชั่วโมงขึ้นไป สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ที่ Touristanbul desk ณ บริเวณอาคารผู้โดสารขาเข้า ของท่าอากาศยานอิสตันบูล ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับจุดนัดพบที่ 4 หรือ บริเวณ Transfer Desk การให้บริการดังกล่าวจะมีมัคคุเทศก์นำเที่ยว ตั๋วเข้าชมสถานที่ต่างๆ อาหารและของว่าง รวมทั้งรถรับ-ส่งสนามบินฟรีตลอดรายการ พร้อมนำพาไปเยี่ยมชมสถานที่ที่สำคัญอย่าง มัสยิดสีน้ำเงิน, ฮาเกียโซเฟีย, ตลาดแกรนด์บาซาร์ และอื่นๆ ในเมืองอิสตันบูลได้อย่างเพลิดเพลินใจ

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้โดยสารที่มีเวลาต่อเครื่องนาน 20 ชั่วโมงขึ้นไป ทางสายการบินยังมีโปรแกรม Stopover in Istanbul ที่มอบความพิเศษสุดๆ ให้แก่ผู้โดยสารสามารถเข้าพักในโรงแรมชั้นนำของอิสตันบูลได้ฟรีเช่นกัน (ผู้โดยสารชั้นประหยัด พักโรงแรม 4 ดาวได้ 1 คืน, ผู้โดยสารชั้นธุรกิจ พักโรงแรม 5 ดาว ได้ 2 คืน) ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถเลือกใช้บริการฟรีแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายได้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งต่อการแวะพักเท่านั้น ซึ่งทั้งสองตัวเลือกนี้ต่างรับประกันได้ว่าจะทำให้การแวะพักระหว่างเดินทางในเมืองเก่าแก่ที่มีเสน่ห์แห่งนี้กลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าจดจำประทับใจสุดตราตรึงได้อย่างแน่นอน

เครดิตภาพ : สายการบิน เตอร์กิซ แอร์ไลน์

สนับสนุนการเดินทางโดย : บัตรเครดิต KTC และ สายการบิน เตอร์กิซ แอร์ไลน์

เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : Marina Bay Sands ความหรูหราที่สะกดทุกสัมผัส ที่สุดแห่งการพักผ่อนในสิงคโปร์

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine