<h2>กสิกรไทยโดยบีคอน วีซี ร่วมกับ Google Cloud เผยความสำเร็จโครงการ Earth KATALYST หลักสูตร Accelerator ระยะเวลา 3 เดือน ที่ออกแบบมาเพื่อการพัฒนาศักยภาพด้านเทคโนโลยีและกลยุทธ์ธุรกิจให้กับสตาร์ทอัพในกลุ่มเทคโนโลยีสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีการเกษตรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสตาร์ทอัพ 5 ทีมที่มีผลงานโดดเด่นได้แสดงให้เห็นถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Google Earth Engine ในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจด้วยนวัตกรรมที่จะช่วยยกระดับการจัดการให้เกิดประสิทธิภาพและยั่งยืน</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นายธนพงษ์ ณ ระนอง Managing Partner บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (บีคอน วีซี) เปิดเผยว่าในฐานะบริษัทเงินร่วมทุนของธนาคารกสิกรไทย บีคอน วีซี มุ่งมั่นส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศสตาร์ทอัพไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยการสนับสนุนทั้งในมิติของเงินร่วมลงทุน องค์ความรู้ คำแนะนำ และเครื่องมือเทคโนโลยี โดยล่าสุดได้ขยายบทบาทมาสู่การสนับสนุนสตาร์ทอัพด้าน Climate Tech อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสอดรับกับพันธกิจของธนาคารกสิกรไทยในการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเดินหน้าสู่เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกอย่างยั่งยืน &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในปีนี้ บีคอน วีซี ได้ร่วมมือกับ Google Cloud จัดโครงการ Earth KATALYST ซึ่งเป็นโปรแกรมอบรมระยะเวลา 3 เดือน ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับศักยภาพด้านเทคโนโลยีและกลยุทธ์ธุรกิจสำหรับสตาร์ทอัพในกลุ่มเทคโนโลยีสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีการเกษตรให้สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม ตลอดระยะเวลาโครงการ สตาร์ทอัพที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการสนับสนุนอย่างรอบด้าน ทั้งด้านการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม สิทธิประโยชน์จาก Google for Startups Cloud Program และคำแนะนำเชิงกลยุทธ์จากพันธมิตรระดับสากล อาทิ&nbsp;&nbsp; &nbsp; - New Energy Nexus องค์กรระดับโลกที่มุ่งสนับสนุน ผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพด้านพลังงานสะอาด&nbsp;&nbsp; &nbsp; - Navagis บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ (Location Intelligence)&nbsp;&nbsp; &nbsp; - Third Derivative แพลตฟอร์มผู้เร่งพัฒนาสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีการแก้ไขปัญหาสภาพอากาศ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ยังได้เข้าร่วมเวิร์กชอปฝึกวางแผนการระดมทุนจากบีคอน วีซี และเตรียมความพร้อมในการขยายธุรกิจในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมทั้งทดลองใช้เทคโนโลยีล่าสุดจาก Google Cloud เช่น Vertex AI, BigQuery และ Google Earth Engine ที่มีฐานข้อมูลภูมิสารสนเทศย้อนหลังมากกว่า 50 ปี &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับ Earth KATALYST ในปีนี้ มีจำนวนทีมที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 40 ทีม โดยผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมหลักสูตร 12 ทีม และคัดเลือก 5 ทีมที่มีผลงานโดดเด่นเพื่อนำเสนอผลงานในงาน Earth Jump ทั้งยังได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 20,000 บาทต่อทีม พร้อมได้รับการสนับสนุน Cloud Credit จาก Google ได้แก่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;RIFFAI สตาร์ทอัพด้านดาวเทียมและปัญญาประดิษฐ์จากไทย ที่พัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมผ่านดาวเทียมสังเกตการณ์โลก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Aquawise สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี AI-ดาวเทียมจากไทย ที่ช่วยเกษตรกรป้องกันการระบาดของโรคร้ายแรงและเพิ่มผลผลิต 40-50% ผ่านการติดตามคุณภาพน้ำแบบต่อเนื่องโดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Muvmi แพลตฟอร์มไมโครทรานสิตที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อแก้ปัญหาการเดินทางในเมืองด้วยระบบการแชร์เส้นทาง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Pasar Mikro แพลตฟอร์มดิจิทัลจากอินโดนีเซีย สำหรับการซื้อขายและเข้าถึงแหล่งเงินทุนของเครือข่ายผู้ผลิตรายย่อยในห่วงโซ่อุปทานภาคเกษตรและประมง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Arkadiah สตาร์ทอัพด้าน Nature-Tech จากสิงคโปร์ที่ผสานเทคโนโลยี AI เทคโนโลยี&nbsp;LiDAR และดาวเทียม เพื่อแปลงข้อมูลทรัพยากรธรรมชาติให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล และเร่งการฟื้นฟูพื้นที่ธรรมชาติที่ถูกใช้งานให้กลับมามีคุณค่าทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมอีกครั้ง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นายอรรณพ ศิริติกุล Country Director, Google Cloud ประเทศไทย เปิดเผยว่า Google Cloud มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนสตาร์ทอัพในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ไขปัญหาจริงของโลก ด้วยเครื่องมือคลาวด์และ AI ที่ทันสมัย ยืดหยุ่น และใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเชื่อมั่นว่าสตาร์ทอัพกลุ่มนี้จะเป็นผู้นำในการยกระดับนวัตกรรมด้านความยั่งยืน และ Google Cloud จะเดินหน้าให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องในอนาคต&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ โครงการ Earth KATALYST ไม่เพียงเป็นพื้นที่บ่มเพาะนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน แต่ยังสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของระบบนิเวศสตาร์ทอัพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยความสำเร็จของรุ่นแรกนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระยะยาวเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู่โลกที่ดีขึ้น &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นายธนพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความสำเร็จของโครงการ Earth KATALYST ในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงพลังของการผสานความร่วมมือกับพันธมิตรที่ช่วยยกระดับศักยภาพของสตาร์ทอัพทั้งในด้านเทคโนโลยีและทักษะการดำเนินธุรกิจ ซึ่งนำไปสู่การนำเสนอโซลูชั่นที่เป็นรูปธรรมและถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ช่วยเตรียมความพร้อมให้สตาร์ทอัพก้าวสู่เวทีระดับโลกได้ในอนาคต โดยธนาคารกสิกรไทยมีเป้าหมายและแผนการที่จะส่งเสริม Startup Ecosystem ในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้แข็งแกร่งและเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะธนาคารกสิกรไทยเชื่อว่าสตาร์ทอัพเหล่านี้คือแนวหน้าด้านนวัตกรรมที่จะยกระดับและเป็นกำลังหลักสำคัญในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกอย่างยั่งยืน ภาพ: กสิกรไทย เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/news/finance-and-investment/citibank-recommends-6-business-trends-to-cope-with-us-tariffs" alt="'ซิตี้แบงก์' แนะภาคธุรกิจ 6 เทรนด์รับมือกำแพงภาษีสหรัฐฯ ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกผันผวน">'ซิตี้แบงก์' แนะภาคธุรกิจ 6 เทรนด์รับมือกำแพงภาษีสหรัฐฯ ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกผันผวน</a><a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>
<div style="display:none;"><a href="https://www.dv188indo.com/" rel="dofollow">dv188</a></div>

'กสิกรไทย - Google Cloud' เผยความสำเร็จโครงการ Earth KATALYST ผลักดัน Climate Tech Startup สู่ระดับโลก

<h2>ในยุคใหม่ของยักษ์ใหญ่แห่งวงการเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น Coinbase, Kuaishou หรือ Stripe ทำให้เราได้เห็นการเปลี่ยนถ่ายบรรดาธุรกิจเงินร่วมลงทุน หรือ Venture Captial (VC) ชั้นนำของโลกคนใหม่</h2>
การจัดอันดับ Midas List ของ Forbes เข้าสู่ปีที่ 20 พร้อมกับการต้อนรับสมาชิกใหม่ 24 คน ซึ่งรวมถึงบรรดานักลงทุนจากอเมริกาใต้ที่เข้ามาติดทำเนียบเป็นครั้งแรก ต่อไปนี้เป็นส่วนสำคัญจากการจัดอันดับประจำปี 2021 ไม่ว่าจะเป็นข้อตกลงธุรกิจที่ ใหญ่ที่สุด โดย VC ในกลุ่ม 20 อันดับสูงสุดและผู้ครองอันดับ 1 คนใหม่

ในเวลาเพียง 2 วันเมื่อปีที่ผ่านมา Alfred Lin ทำเงินจากตลาดหลักทรัพย์จาก 2 บริษัท ซึ่งติดอันดับกลุ่ม 10 บริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ ที่ทำเงินมากสุดจากตลาดที่เคยมีมา โดย เริ่มจากวันที่ 9 ธันวาคม DoorDash บริษัทผู้ให้บริการส่งอาหารจดทะเบียนเข้าซื้อขายในตลาด New York Stock Exchange ก่อนปิดการซื้อขายในวันนั้นด้วยมูลค่าตามราคาตลาด 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในวันต่อมา Airbnb ผู้นำธุรกิจปล่อยเช่าที่พัก ซึ่งจดทะเบียนในตลาด Nasdaq ทำมูลค่าตามราคาตลาดที่ 7.9 หมื่นล้านเหรียญ

เพียง 2 รายการนั้นก็เพียงพอที่จะทำให้ Lin และ Sequoia บริษัทเงินร่วมลงทุนของเขาทำกำไรในทางทฤษฎีไม่ต่ำกว่า 2.1 หมื่นล้านเหรียญ และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนจาก Bay Area รายนี้ (เขายังเป็นผู้สนับสนุนตลาดค้าส่งอย่าง Faire รวมถึงแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์อย่าง Reddit) ทะยานจากอันดับ 32 ขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ในการจัดอันดับ Midas List ประจำปีของเรา

<img class="wp-image-54247 size-full aligncenter" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/11/Screen-Shot-2564-11-19-at-11.00.47-AM.png" alt="VC" width="550" height="592" />

Lin มีความสามารถเฉพาะตัวคือ ช่วยสร้างองค์กรเหมือนกับผลงานที่เขาฝากไว้ที่ Zappos ซึ่งเขาเคยดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและซีโอโออยู่ช่วงหนึ่ง เขากับ Tony Hsieh เพื่อนร่วมชั้นเรียนที่ Harvard ผู้ล่วงลับขายธุรกิจสตาร์ทอัพแห่งแรกไปในราคา 265 ล้านเหรียญ ก่อนนำรายได้บางส่วนลงทุนในบริษัทบ่มเพาะที่เดิมพันไว้กับ Zappos ในยุคแรกๆ พอถึงปี 2009 พวกเขาขายร้านค้าปลีกรองเท้าแห่งนี้ไปให้กับ Amazon และเพียง 1 ปีให้หลัง Lin ก็ย้ายมาร่วมงานกับ Sequoia ซึ่งเป็นบริษัทที่เขียนเช็คใบแล้วใบเล่าให้กับกิจการวัยละอ่อนอย่าง Airbedandbreakfast.com ของ Brian Chesky ในยุคแรกเริ่ม หลังจากที่มีรายงานข่าวว่า เขาได้รับข้อเสนอตำแหน่งงานที่นั่น Lin ก็เข้าร่วมคณะกรรมการบริหาร Airbnb ในปี 2012 ไม่นานนักเขาเหลือเวลาทำงานเพียงสัปดาห์ละ 1 วันเมื่อโรคโควิด-19 ระบาดจนทำให้ธุรกิจของ

ปี 2020 Lin ก็ยื่นมือเข้ามา เขาทำงานร่วมกับ Chesky และสมาชิกบอร์ดบริหารคนอื่นๆ อย่างใกล้ชิดเพื่อลดต้นทุน ปลดพนักงาน กู้หนี้ยืมสินเพื่อนำมาจ่ายเงินคืนให้แก่ลูกค้า พร้อมกับเบนเข็มการดำเนินธุรกิจโดยหันไป เน้นกลุ่มลูกค้าที่เดินทางไปหาสถานที่เก็บตัวทำงานนอกบ้าน Lin เข้าช่วยเหลือ Tony Xu แห่ง DoorDash (ที่เขาเคยสนับสนุนในการระดมทุนรอบซีรีส์ A เมื่อปี 2014) ในลักษณะเดียวกันนี้ โดยช่วยให้บริษัทได้รับอุปกรณ์ความปลอดภัยมาไว้ให้กับบริษัทขนส่งคู่สัญญา ลดค่าคอมมิชชั่น และให้บริการอาหารฟรีสำหรับผู้ที่ตอบรับงานคนแรก

<img class="aligncenter wp-image-54248 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/11/Screen-Shot-2564-11-19-at-11.01.16-AM.png" alt="VC" width="560" height="460" />

“การมีพันธมิตรคอยให้การสนับสนุนในสถานการณ์ตึงเครียดมันช่วยได้จริงๆ” Xu กล่าว “จากนั้นพอสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย พวกเขาจะเป็นคนที่คอยตั้งโจทย์ขึ้นมาท้าทายคุณ Alfred รู้ว่าจะรักษาสมดุลของนิสัยทั้งสองด้านนี้ได้อย่างไร”

ขณะที่ Lin กล่าวเสริมว่า “ผมว่าช่วงเวลาลองผิดลองถูกแบบนี้สนุกดี ใช่ว่าผมเป็นพวกซาดิสม์เสียที่ไหน แต่ผมคิดว่า คุณไม่มีทางรู้ได้ชัดหรอกว่าคุณได้สร้างอะไรที่เป็นคุณค่าในระยะยาวแล้วหรือยังจนกว่าจะมีบททดสอบ”

สามารถติดตามอันดับอื่นๆ รวมถึงชีวประวัติ บทวิเคราะห์ ฯลฯ ได้ทาง Forbes.com/midas

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/world/superordinary-%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%9a%e0%b8%b8%e0%b8%81%e0%b8%95%e0%b8%a5%e0%b8%b2%e0%b8%94%e0%b9%80%e0%b8%ad%e0%b9%80%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%95%e0%b8%b0%e0%b8%a7.html">SuperOrdinary มุ่งบุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้</a>

<hr />

<a href="https://bit.ly/3kQ4qdp">คลิกอ่านฉบับเต็ม และบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกันยายน 2564 ในรูปแบบ e-magazine</a>

<img class="lazy alignnone wp-image-51728 lazy-loaded" src="https://i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/241075955_2915910085290729_2041653271010729516_n.jpg" sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/241075955_2915910085290729_2041653271010729516_n.jpg 750w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/241075955_2915910085290729_2041653271010729516_n-229x300.jpg 229w" alt="" width="300" height="394" data-lazy-type="image" data-lazy-src="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/241075955_2915910085290729_2041653271010729516_n.jpg" data-lazy-srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/241075955_2915910085290729_2041653271010729516_n.jpg 750w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/241075955_2915910085290729_2041653271010729516_n-229x300.jpg 229w" data-lazy-sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" />

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events